|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
เลือกคลอดแบบไหนดี
เลือกคลอดแบบไหนดี
จะเลือกคลอดแบบไหนดี? เป็นเรื่องที่ว่าที่คุณแม่ทุกคนเป็นกังวล โดยเฉพาะยิ่งใกล้ถึงวันคลอด ก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น แม้จะรู้กันดีว่า การคลอดธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่สำหรับคุณแม่บางคนก็มีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถคลอดเองได้ตามธรรมชาติ เช่น รกเกาะต่ำ หรือทารกไม่ได้เอาศีรษะลง วันนี้เรามีทางเลือกในการคลอดแบบต่างๆ มาฝากว่าที่คุณแม่กันค่ะ
การคลอดบุตรทางช่องคลอด
เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ขณะฝากครรภ์ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ และทารกต้องอยู่ในท่าเอาศีรษะลงเข้าสู่เชิงกราน ซึ่งการคลอดแบบธรรมชาตินี้ จะส่งผลดีกับคุณแม่และคุณลูกมากกว่าการผ่าตัดคลอด
ขณะรอคลอด สิ่งที่คุณแม่ทุกท่านกังวลมากที่สุด คือการเจ็บครรภ์คลอด ซึ่งทางแพทย์อาจจะมีวิธีบรรเทาความเจ็บปวดด้วยการใช้ยาฉีดแก้ปวดเข้าทางเส้นเลือดคุณแม่ ซึ่งยาอาจจะมีผลกับทารกในครรภ์เล็กน้อย แต่วิธีที่นิยมมากกว่าและไม่มีผลต่อทารกในครรภ์คือ การฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง หรือการบล็อกหลัง ซึ่งการบล็อกหลังต้องดูความเหมาะสมและความสมัครใจของคุณแม่เป็นรายๆไป และจะมีการปรับระดับยาที่จะลดความเจ็บปวดให้เหมาะสมกับคุณแม่ จนกระทั่งปากมดลูกเปิดหมด 10 ซม. คุณแม่ก็ยังสามารถมีแรงเบ่งคลอดบุตรได้
ถ้าเป็นการคลอดครั้งแรก ทารกมีขนาดตัวใหญ่ คุณแม่มีขนาดตัวเล็ก ก็อาจทำให้คุณแม่เจ็บครรภ์คลอดค่อนข้างมาก อีกทั้งการที่ไม่ตัดแผลฝีเย็บเพื่อขยายช่องทางคลอด อาจจะทำให้เกิดแผลฉีกขาด และเป็นอันตรายต่ออวัยวะใกล้เคียงได
การผ่าตัดคลอด
ปัจจุบันอัตราการผ่าตัดคลอดมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้น เนื่องจากคุณแม่ส่วนใหญ่มีบุตรเมื่ออายุมากขึ้น จึงทำให้ค่อนข้างกังวลต่อการตั้งครรภ์ หรือคุณแม่บางคนมีโรคประจำตัว เช่น ความดัน หรือเบาหวาน คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้มักจะได้รับการแนะนำให้ผ่าตัดคลอด นอกจากนั้นการผ่าตัดคลอดยังมีปัจจัยเรื่องฤกษ์คลอดเข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยความเชื่อว่าเวลาเกิดที่ดี จะช่วยส่งเสริมความเจริญให้กับชีวิตลูก
การผ่าตัดคลอดในปัจจุบัน มีวิธีที่จะทำให้คุณแม่ไม่มีความรู้สึกในขณะการทำการผ่าตัด นั่นคือการดมยาสลบ และการฉีดยาเข้าที่ไขสันหลัง (การบล็อกหลัง)
การผ่าตัดคลอดแบบดมยาสลบ คุณแม่จะไม่ได้มีส่วนร่วมในการคลอด ไม่ได้เห็นลูก ไม่ได้สัมผัสลูกในทันที ต้องรอให้ฟื้นก่อน ที่สำคัญยาสลบอาจมีผลกับลูกได้ ลูกคลอดมาแล้วไม่ค่อยร้อง ไม่ค่อยหายใจ เพราะระหว่างอยู่ในท้องจะรับยาสลบเข้าไปด้วย
ส่วนการผ่าตัดแบบบล็อกหลัง ต้องให้คุณแม่นอนตะแคงให้ตัวงอเหมือนกุ้ง แล้วฉีดยาเข้าไขสันหลัง โดยจะต้องฉีดยาชาก่อน หลังจากนั้นร่างกายส่วนล่างก็จะชา ไม่มีความรู้สึก ซึ่งจะชาเต็มที่ประมาณ 5-10 นาที การบล็อกหลังคุณแม่จะมีสติและมีส่วนร่วมในการคลอด ได้ยินเสียง ได้เห็นหน้าลูก ได้สัมผัสความรู้สึกถึงความเป็นแม่อย่างเต็มที่ หลังผ่าตัดคุณแม่จะยังชาต่อไปอีก 2-3 ชั่วโมง ถ้าหากแพทย์ใส่ยาแก้ปวดกับยาชาไปด้วย ก็จะไม่เจ็บแผลไปอีก 1 วันเต็ม ที่สำคัญลูกไม่ได้ผลกระทบจากยาชาที่ฉีด เพราะยาจะเข้าไปที่โพรงประสาทไขสันหลังเท่านั้น ไม่ได้ดูดซึมเข้ากระแสเลือด
แต่ข้อเสียของการผ่าตัดคลอดคือ คุณแม่จะเสียเลือดมากกว่าการคลอดทางช่องคลอดถึง 2 เท่า และจะมีอาการเจ็บแผลนาน และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการคลอดเอง
การคลอดในน้ำ
การคลอดในน้ำเริ่มมาจากต่างประเทศ เพื่อลดความทรมานของคุณแม่ขณะเจ็บท้องด้วยการให้คุณแม่ลงไปแช่อยู่ในอ่างน้ำอุ่นขนาดใหญ่ คุณแม่จะรู้สึกสบายขึ้น คลอดได้ดีขึ้น ไม่ต้องให้ยาแก้ปวดหรือสารละลายทางเส้นเลือด จุดเด่นอีกอย่างของการคลอดในน้ำคือ หลังจากหัวเด็กโผล่พ้นช่องคลอดของแม่ ก็จะลอยอยู่ในน้ำ ซึ่งน้ำจะช่วยรับแรงกระแทกที่อาจทำอันตรายแก่ทารก
คุณแม่ที่จะคลอดในน้ำจะต้องเป็นคุณแม่ที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ เพราะการคลอดในน้ำจะไม่มีการใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจลูก ดังนั้นถ้าคุณแม่สงสัยว่าจะมีน้ำคร่ำน้อย รกเสื่อม สายสะดือพันคอเด็ก หรืออาจจะมีการขาดออกซิเจนได้ ก็ไม่ควรทำการคลอดในน้ำ
ไม่ว่าคุณแม่จะคลอดวิธีไหนก็ตาม ที่สำคัญควรฟังคำแนะนำจากสูติแพทย์ที่คุณแม่ฝากท้องไว้ดีกว่า เพราะสิ่งที่แพทย์จะคำนึงอย่างแรกในการทำคลอดคือ ทำอย่างไรให้เด็กที่เกิดมารอด และแม่ต้องปลอดภัย
Create Date : 23 มีนาคม 2550 |
|
14 comments |
Last Update : 23 มีนาคม 2550 16:05:50 น. |
Counter : 1037 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ไอ่~วี่ IP: 61.90.168.102 23 มีนาคม 2550 17:55:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมูแอม IP: 203.146.63.182 24 มีนาคม 2550 18:03:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องอุ้ม IP: 202.57.139.98 25 มีนาคม 2550 4:12:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลาทองน้อย (sugarhut ) 30 มีนาคม 2550 13:19:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ใบหม่อน IP: 117.47.50.150 23 พฤษภาคม 2551 10:15:35 น. |
|
|
|
|
|
|
|