สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
2 สิงหาคม 2551

รีวิว มาเก๊า-ฮ่องกง 4 วัน (22-25 มี.ค.) @ YMCA Salisbury โหดหรรษากว่าที่คิด

กลับมาตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งจะว่างรีวิวค่ะ มัวแต่ไปขลุกอยู่ในห้องชายคาซะนาน ^ ^

ทริปนี้จองตั๋วโปร airasia ลงมาเก๊าข้ามไปฮ่องกง คนละประมาณ 2600 พักที่ YMCA Salisbury 3 คืน ประมาณ 11000 บาทค่ะ จองไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว รายละเอียดที่พักตามรีวิวนี้เลยค่ะ
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6468107/E6468107.html

ที่จั่วหัวว่า โหดหรรษา เพราะว่า

1. เรือ turbojet โหดกว่าที่คิดค่ะ 555 สำหรับตัวเรานะคะ เคยแต่นั่งเรือ speed boat ที่กระบี่ ถึงจะกระแทกกว่า แต่ก็มีรู้สึกโล่ง มีลมโกรก
แต่ turbojet ชั้นล่าง ถึงจะใหญ่แต่คนก็เยอะ ประมาณ 1 ชั่วโมงเกือบทนไม่ไหวค่ะ งานนี้โชคดีที่ผ่านมาได้แบบไม่ขายหน้า ...ดีนะ ที่พกยาหม่อง บ๊วย ใส่เสื้อบางๆ กินยาแก้เมาไปครึ่งเม็ด แล้วก็ได้ที่นั่งที่เห็นทีวี ทำให้ดึงดูดความสนใจไปได้ ....น่าอิจฉาคนฮ่องกง-มาเก๊าจริงๆ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ กินข้าวกันเฉยเลย - -!

2. ทริปนี้เจอทั้งฝน แดดเปรี้ยง ลมหนาว เล่นเอาไข้กินเกือบทุกวัน เอาพาราไป 1 แผงหมดเลยเกลี้ยงๆค่ะ ใครจะไป อย่าลืมติดยาไปด้วยนะคะ

...ส่วนเรื่องหรรษามีเยอะแยะค่ะ ค่อยๆ อ่านกันไปนะคะ


เครื่องออก 07.00 ที่สุวรรณภูมิ ไปถึงมาเก๊าประมาณ 10.00 ค่ะ บินผ่านทั้งผืนดินและแผ่นน้ำ วันนี้ท้องฟ้าสดใสแน่


รับกระเป๋าเสร็จ (เดินตามๆเขาไปค่ะ ไม่ยาก) แวะแลกเงินมาเก๊าไว้สักนิด เผื่อใช้จ่ายอะไรในมาเก๊าค่ะ เสร็จก็เดินตรงไปทางป้ายสีแดงนะคะ มองออกไป จะเห็น taxi จอดเรียงกันอยู่


บรรยากาศในรถ taxi ค่ะ รถคงค่อยๆขับไปท่าเรือมั้งคะ เพราะเราเสียค่า taxi ทั้งหมด 67 เหรียญอ่ะ ?? ทำไมเหมือนแพงกว่าคนอื่น (กระเป๋า 2 ใบท้ายรถ)

โอ้ว ฝนตกปรอยๆ แล้ว ...เดี๋ยวต้องนั่งเรือด้วย จะไหวไหมเนี่ย - -" (เริ่มเครียด)


รถ taxi มาจอดที่ชั้น 2 ของท่าเรือค่ะ ขึ้นบันไดไปถึงชั้นที่ขายตั๋ว เดินผ่านเคาน์เตอร์แรกไป ไปเคาน์เตอร์ช่วงกลางๆ ที่มีป้ายขายตั๋วที่เขียนว่า economy ไปฮ่องกง อะค่ะ

เขาจะติดป้ายเวลาของเรือ รอบที่กำลังจะออก ...สำหรับครั้งแรกอย่างเราๆ น่าจะเผื่อเวลาสัก 10 นาทีนะคะ...ถ้าคิดว่าไม่ทันรอบล่าสุด ตอนซื้อก็บอกเขาว่า ขอรอบ ... (บวกเวลาที่โชว์ไปอีก 15 นาที) ได้เลยค่ะ


ขณะนั่งรอเวลา ...น่าจะเป็นเรือลำขวาค่ะ แหม ฟ้าน่าจะสดใสกว่านี้หน่อย


ตั๋วค่ะ หน้าตาแบบที่เห็นในห้องนี้บ่อยๆ ^^


ผ่านตม.ฮ่องกง เดินลากกระเป๋าคนละใบ มาถึงจุดขายบัตรมหัศจรรย์ Octopus ค่ะ ใบละ 150 เหรียญ


เติมเงินอีกใบละ 200 เหรียญ ใช้แบงค์เติม อ่านตามวิธีบนเครื่องได้เลยค่ะ


เดินลากกระเป๋าเข้าห้าง ลงบันไดไปชั้นล่างสุด 3-4 ชั้นได้ เหมือนชั้นใต้ดินค่ะ จะเจอสถานที่ MTR ละ

ข้ามเหตุการณ์ไปถึงที่พักเลยนะคะ เพราะเคยรีวิวแล้ว ^^


ที่พักอีกสักรูปค่ะ


ตอนนี้น่าจะสัก 13.00 - 14.00 ได้ ฝนตกพรำๆตลอด ตอนออกจาก MTR เพื่อเดินมาโรงแรมก็โดนฝนตลอด บรรยากาศวันแรกคิดว่าคงต้องพับโครงการ นอนดูฝนตกพรำๆ ซะแล้ว


สักพักก็ตกลงกันไว้ จะลงไปหาอะไรกิน ทั้งที่ฝนตกนี่แหละ


เอ เหมือนหาอะไรกินยากจัง สงสัยไม่พ้น Mc แน่ๆ แล้วก็เป็นตามนั้นค่ะ กิน Mcเสร็จก็กลับโรงแรม เก็บแรงไว้ลุ้น วันฟ้าเปิดพรุ่งนี้ดีกว่า

หลังจากนอนกลิ้งเล่นที่โรงแรม ยังไม่ 18.00 เลย ฝนก็ตกพรำๆ ....แต่เสียดายเวลา เลยบังคับแฟนออกไปหาอะไรกินกัน (อีก) แถว harbour city และ Ocean Terminal บรรยากาศ shopping ช่วงฝนตกและไม่มีอะไรลดราคาเท่าไหร นี่ให้บรรยากาศเซ็งๆเหมือนกันนะคะ ...

เลยชวนกันหาอะไรกินที่ Sweet Dynasty โจ๊กและชาอร่อยดีค่ะ แล้วก็พยายามมองหาป้ายร้าน Happy Garden ที่เขาว่าปิดกิจการเหมือนกัน แต่ก็หาไม่เจอค่ะ ...

อิ่มแล้วก็เดินเข้าห้าง harbour city ทะลุออกห้าง ไปถึงจุดที่ดู SOL วัยรุ่นเยอะมากๆ แล้วก็เดินย้อนกลับเข้าโรงแรมแบบมือเปล่าค่ะ shopping วันแรกไม่ได้อะไรเลย


ดีค่ะ คุณ tonkao , คุณถนนสายนี้เปรี้ยว ไม่ไปเที่ยวไหนเหรอคะ ^^

เมื่อกี้แวะไปเติมพลังมาค่ะ ช่วงนี้ใช้เยอะ อิอิ

มาต่อกันด้วยวันที่สองค่ะ แผนเดิมคือไหว้เจ้าแม่กวนอิม ต่อด้วย OceanPark

ออกจากโรงแรมประมาณ 08.00 เดินไปนั่งเรือข้ามไปเกาะฮ่องกง...เมื่อวานเห็นจากหน้าต่างในโรงแรม ดูเรือมันกระแทกคลื่นแรงจัง - -" จะเริ่มเครียดอีกแล้ว

เดินแป๊บเดียวก็ถึงท่าเรือแล้วค่ะ บริเวณท่าเรือ อากาศดีจริงๆ วันนี้ ...แต่เหม็นบุหรี่ไปหน่อย ... ไปที่ไหน ก็มีแต่คนสูบบุหรี่


บรรยากาศภายในเรือค่ะ มีลมเย็นๆ ให้พอหายใจคล่องๆ นั่งประมาณ 5 นาที ไม่เท่าไหรค่ะ ได้บรรยากาศฮ่องกงๆ ดีค่ะ


ออกจากท่าเรือ ให้เดินขึ้นบันไดที่คนขึ้นเยอะๆอะค่ะ จะเชื่อมกับสะพานข้ามแยกต่างๆ เดินตรงไปทางยาวๆ เพื่อไปใต้ตึก Exchange เพื่อขึ้นรถเมล์สาย 6A, 6X, 260 ไป Repulse bay กัน

ขณะอยู่หน้าตึก Exchange ก็นึกออกว่า ควรจะหาข้าวเช้ากินกันก่อน มองไปเจอป้ายร้าน cafe de coral ก็บอกแฟนว่า ร้านนี้แหละๆๆ หาอะไรกินง่าย เคยเห็นใน pantip 555 อยู่คนละฝั่งกับอู่รถเมล์นะคะ ไม่ไกลกันเท่าไหร


ด้านขวาที่คนมองๆกันคือเมนูนะคะ ... เราก็เลือกเมนูกัน จะเป็นจานหลัก ++กับอาหารเสริมค่ะ ไปถึงเราก็สั่งเป็นภาษาอังกฤษ ... คนขายก็ตอบมาเป็นภาษาจีน .. เหมือนจะคุยรู้เรื่อง

....แต่คุยไปสัก 2 นาที แถวเริ่มยาว --" (ร้านนี้ สั่งแล้วจ่ายเงินหน้าร้าน รับบิลไปเข้าแถวรับอาหารด้านในค่ะ)

... คนขายเริ่มส่ายหน้า เราก็ว่าภาษาอังกฤษเราพอฟังรู้เรื่องนะ ..แหะๆ สุดท้าย ก็เลยใช้วิธีชี้ที่เมนูเอาค่ะ อะไรก็เอาแล้วตอนนี้ อาเจ่แถวข้างหลังเริ่มมองๆแล้ว

... ตอนนั่งกิน เราก็นึกในใจว่าภาษาอังกฤษเราไม่ดี หรือ พนักงานไม่รับภาษาอังกฤษหว่า แล้วจะเขียนบนเมนูไว้ทำไม ??

ได้มาละค่ะ อาหารเช้าที่ hk มื้อแรก อร่อยดีค่ะ โจ๊กเนียนดี ซุปก็ข้าวโพดก็หอมนม แต่ .. เยอะมากกกกกกกกกกกกก สุดท้าย กินกันไม่หมดค่ะ มื้อเช้าด้วย บอกแฟนว่า อย่าทานเยอะ เดี๋ยวต้องนั่งรถเมล์ 2 ชั้นนะ



กินเสร็จ ก็ข้ามสะพานมาอู่รถเมล์ เพื่อไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมกันค่ะ รถเมล์ที่นี้ก็ขึ้นไม่ยากค่ะ มีบอกปลายทางว่า repulse bay เหมือนของเรา ขึ้นแล้วก็แตะบัตรมหัศจรรย์ได้เลย สะดวกดีจริงๆ


นั่งไปจนผ่าน OceanPark ก็คิดว่าคงใกล้ถึงแล้ว บอกแฟนว่า บอกคนขับเถอะค่ะว่าถ้าถึง repulse bay ให้บอกด้วย แฟนก็บอก แต่คนขับตอบมาประมาณว่าไม่รู้จัก ...จ๋อยเลย

นั่งมองหาตึกรูปโดนัทตามคำแนะนำใน pantip ต่อไป

นั่งมาจนเจอหาดทรายและทะเลเป็นเวิ้งๆ ทางด้านขวา ก็คิดว่าใช่แน่ๆ ... เอ บางคนบอกว่าถ้าเจอตึกโดนัทแล้วกดกริ๊งอาจจะเลย เราก็เลยกดเลย ปรากฎว่าไม่ใช่ค่ะ ยังไม่ถึง... จ๋อยครั้งที่ 2

เดินลงหาด มองหาเจ้าแม่กวนอิม ไม่ยักกะเจอ เราก็เปิดหนังสือเพื่อหาชื่อภาษาจีนของเจ้าแม่เพื่อถามคนที่เล่นน้ำแถวนั้น เจออากงคนหนึ่งกำลังออกกำลัง เหมือนจะรู้ เขาก็ทำท่าพนมมือเหมือนไหว้ ^^ เราก็บอกว่า yes ๆ อากงก็บอกให้เดินตามทางเลียบทะเลไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอ ...

ถ้าใครเจอแบบเรา แนะนำว่า อย่าเดินเลยนะคะ เลียบทะเลเป็นกิโลๆ ไม่ถึงซะที ให้เดินกลับไปที่ป้าย แล้วรอรถต่อไปดีกว่า

จากจุดที่เจออากง เดินเลียบทะเล ฝนตกพรำๆ เกือบชม. จนเจอตึกโดนัท .... นี่ไงๆๆ ตึกโดนัท --"

สรุปให้อีกทีค่ะ นั่งรถเมล์ จะเป็นทางขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จนผ่าน OceanPark ผ่านทะเลเป็นเวิ้งๆ อาจจะมีคนเล่นน้ำทางด้านขวา ให้นั่งต่อขึ้นไปอีกไม่ไกลจนเจอตึกโดนัท ค่อยกดกริ๊งค่ะ

...ยังงี้แหละค่ะ จะมาไหว้เจ้าแม่ ก็ต้องมีอุปสรรค์มาขวางกั้น ... (บอกกับแฟนเบาๆ)



ทำทุกอย่างที่เขาต่อแถวทำกันค่ะ ตั้งแต่ไหว้เจ้าแม่ ลูบรูปปั้นเทพเจ้าแล้วก็เดินข้ามสะพานเพื่อต่ออายุ

มีนิดนึง ตอนที่ลูบรูปปั้นเพื่อเสริมเรื่องเงินๆทองๆ อันนี้มีหลายวิธีแล้วแต่ไกด์จะแนะนำค่ะ ได้ยินไกด์คนไทยคนหนึ่งบอกว่า ไกด์แต่ละคนก็มีวิธีลูบต่างกัน

แอบได้ยิน ไกด์คนไทยบอกว่า เอาแบงค์ลูบตั้งแต่บนสุด แล้วสุดท้ายก็เอาเงินยัดใส่กระเป๋าตัวเอง บ้างก็บอกว่ามือขวามือเดียว บ้างก็บอกว่าลูบที่ดาบ ^^ เราก็ทำทุกวิธีเลย

แล้วก็แอบได้ยิน กรุ๊ปทัวร์คนไทยคุยกันว่า มาแก้บน เพราะบนเจ้าแม่ขอลูกไว้ เขาลูบสองมือ เลยได้ลูกแฝด ... เล่าให้ฟังเฉยๆ ค่ะ


ตอนนี้เกือบ 11.00 ละคะ ฝนก็ปรอยๆ พอให้เป็นหวัด แผนเดิมที่จะไป OceanPark คงต้องเปลี่ยน เพราะไม่น่าจะเล่นอะไรมาก บรรยากาศแบบนี้ เปลี่ยนไป shopping ที่ Stanley Market ดีกว่า

จากเจ้าแม่ เราก็ไปต่อไม่ถูก เพราะเดินเลียบทะเลมา ไม่ได้มาจากป้ายรถเมล์ปกติ 555 แต่คิดว่าไม่น่าไกล เลยเรียก taxi แถวนั้นค่ะ ประมาณ 30-40 เหรียญมั้งคะ

แต่ถ้าใครจะนั่งรถเมล์ไป ก็เดินกลับไปที่ป้ายก็ได้นะคะ จุดที่ลง taxi คืออู่ของป้าย 260 น่าจะรวมถึง 6x ด้วยค่ะ


สินค้าแรกที่หมายตาไว้ นอกจากเสื้อ i'm lost in hongkong หน้าตลาด ก็คือป้ายชื่อของเรากับแฟนค่ะ เล็งแบบเขียนด้วยกันสองชื่อในกรอบเดียวกันไว้ ถามๆ หน้าตลาด ประมาณ 320-350 เหรียญค่ะ แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ ได้ร้านข้างในๆ แบบเดียวกันเลย แต่ได้ในราคา 180 เหรียญ

อันนี้ ร้านอื่นนะคะ ให้ดูแบบป้ายชื่อ ประมาณนี้


เพิ่มนิดนึงค่ะว่าวันรุ่งขึ้น ก็คุยกันเรื่องนี้ว่าได้ป้ายชื่อสวยและราคาถูกเกือบครึ่งจากหน้าตลาด แฟนก็นึกถึงตอนที่จ่ายค่าป้ายค่ะ แฟนรูดบัตรไป ไม่ได้เช็คว่าเป็น HKD หรือ US เพราะมันถูกมากผิดปกติ เราจะเสียค่าโง่เปล่าเนี่ย ก็ลุ้นจนกลับถึงโรงแรม ปรากฎว่าเป็น HKD ถูกแล้วค่ะ ^ ^

ยังไง ถ้าใคร shopping ร้านข้างนอก อย่าลืมตรวจสอบ slip และสกุลเงินด้วยนะคะ

ส่วนเสื้อ l'm lost in hongkong ตัวละ 35 เหรียญ (ต่อแล้ว) ที่ Stanley ...แบบเดียวกันเป๊ะที่ Lady Market ตัวละ 30 เหรียญ (ยังไม่ได้ต่อ) .. เล่าให้ฟังเฉยๆค่ะ

ฝนปรอยๆ แต่อากาศเริ่มร้อน แดดเริ่มเปรี้ยง

เลยแวะกินอาหารมื้อเที่ยงที่ Stanley ค่ะ ชื่อประมาณ Stanley Resturant อะไรสักอย่าง เป็นร้านติดแอร์ค่ะ เมื่อเช้าจำได้ว่าอาหารจานใหญ่มาก เลยสั่งจานเดียวค่ะ 2 คนอยู่เลย อร่อยดีค่ะ อยากกินอีกจัง หมี่กรอบคล้ายๆราดหน้า จิ้มจากเมนูเลยค่ะ



เย็นนี้เราจะไปดู the peak กันค่ะ

นัดกันตั้งแต่เช้าแล้วว่า จะกลับไปเอาขาตั้งกล้องที่โรงแรมก่อน ถึงจะดูวกไปวนมา ...แต่ถึงวินาทีนี้ ก็คิดว่า คิดไม่ผิดที่ไม่เอามาด้วย ตั้งแต่เดินเลียบทะเลที่ Repulse bay จนถึงเดิน shopping ที่นี้

จาก Stanley นั่งรถเมล์ 260 ไปลงตึก Exchage แทนที่จะไปต่อด้วยเรือเหมือนขามา เราเกิดเปลี่ยนใจ อยากกลับด้วย MTR บ้าง ปรากฎว่า คิดผิดค่ะ เดินไกลมากๆ เดินเลี้ยวไปมาใต้ดินอยู่ตั้งนาน กว่าจะถึงสถานี ... รู้งี้ นั่งเรือแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว

ถึงโรงแรมก็นั่งพัก ล้างหน้าล้างตา หยิบผ้าพันคอ ถุงมือเผื่อหนาว แล้วก็ขาตั้งกล้อง นั่งเรือข้ามไปเกาะฮ่องกงถึงประมาณ 17.00 น.

จากท่าเรือ ป้าย 15C จะอยู่ทางขวามือค่ะ ไม่ต้องขึ้นบันไดเพื่อขึ้นสะพานอีก


โชคดีได้นั่งชั้น 2 ด้วย ลมเย็น วิวดีมากๆ แป๊บเดียวก็ถึง Peak Tram Terminal แล้วค่ะ

ที่หน้า Peak Tram Terminal จะมี 2 แถวค่ะ แถวแรกต่อเพื่อซื้อบัตรผ่าน ถึงมีบัตรมหัศจรรย์ ก็ต้องต่อแถวนะคะ ถามมาแล้ว แหะๆ พอถึงเจ้าหน้าที่ก็ยื่นบัตรให้ดู แล้วแต๊ะบัตรผ่าน เข้าไปต่อแถวเพื่อขึ้นรถรางอีกที


ถึงแล้วววว แถวคนรอถ่ายรูปกับดารา ยาวมากๆ ไปก่อนดีกว่า

จ่ายเงินเพิ่มเพื่อขึ้นไปจุดที่สูงสุดของ Peak Tower อีก 20 เหรียญ


ตอน 18.00 ค่ะ ก็สวยไปอีกแบบ ลมพัดหนาวและเย็นมากๆ ผ้าพันคอกับถุงมือได้ใช้ประโยชน์ดีจริงๆเลย


สงสัยจะรอถึง 20.00 ไม่ไหวแล้วค่ะ ขอแค่ทุ่มเดียวให้เห็นแสงไฟก็พอ ไว้ไปดูฝั่งข้างล่างแทนละกัน


ขากลับ ขอบคุณคำแนะนำจาก bp ค่ะ เพราะคนต่อแถวรถรางยาวมากๆ เลยเดินเข้า Peak Galleria เหมือนเป็นห้างเล็กๆ เดินไปด้านหลัง ลงบันไดไป 1 ชั้น เลี้ยวไปทางขวา จะเจอป้ายของรถ 15 หรือ 15C ก็จะกลับมาที่ป้ายที่ท่าเรือ ถ้าต้องยืนต่อแถว ต้องนานเป็นชม.แน่ๆ

กลับลงมาถึงท่าเรือแล้วค่ะ ตึก IFC (น่าจะใช่) สวยดีค่ะ ยังกับเรื่องไอ้แมงมุมแน่ะ



2 ทุ่มนิดๆแล้ว บริเวณท่าเรือ มองไปที่ฝั่งเกาลูนย่านที่พักของเรา ยังกับหุ่นยนต์ยิงลำแสงข้ามฝั่งกันเฟี้ยวฟ้าวเชียว บรรยากาศฮ่องกงตอนกลางคืน ดูมีชีวิตชีวาดีค่ะ



กลับโรงแรม เก็บอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะในการเดิน shopping แล้วออกไป shopping ที่ Lady Market กันค่ะ

หาข้าวเย็นกินกันก่อน ร้านอาหารแถวนั้นละคะ 2 คนกินข้าวผัดจานเดียวเหมือนเดิม อิ่มกำลังดีนะคะเราว่า อิ่มมากๆ เที่ยวไม่สนุกแน่


ลูกชิ้นแบบนี้ไงที่เห็นใน bp บ่อยๆ สงสัยเราจะยังอิ่มอยู่ เลยยังไม่อยากทานตอนนี้ ผ่านไปก่อน ... หรือเพราะก่อนกินข้าว ซื้อกุ้ยช่ายลองกินไปคนละชิ้น ...ไม่ค่อยชอบน้ำจิ้มแบบนี้เท่าไหร เค็มมากๆ เลยไม่อยากลองอะไรแล้ว


บรรยากาศตอน 4 ทุ่มค่ะ


แต่ที่ต้องลองให้ได้ คือ Krispy ๆ บังเอิ๊ญมีแถว Lady Market ด้วย เพิ่งจะรู้ ตอนนั้นสี่ทุ่มกว่าๆแล้ว สงสัย sale กระหน่ำ ซื้อ 4 แถม 2 ด้วยความงก เลยซื้อมา ... 6 ชิ้น ลองดูกันสักตั้ง

เขาว่านุ่มมากๆ ก็นุ่มจริง แต่หวานมากกกกกก แนะนำเหมือนท่านอื่นๆคือ Original ค่ะ หวานกำลังดี นอกนั้น สตรอเบอรี่ ชอกโกแลต และอื่น หวานมากๆ

คืนนั้น เลยจัดการไป 4 ชิ้น เก็บใส่ตู้เย็น เป็นมื้อเช้าอีก 2 ชิ้น


เคยมีคนในนี้แนะนำว่า หลังการเดินมากๆ ให้เอาเท้าแช่น้ำอุ่นสักพัก จะดีขึ้น เราก็ว่าได้ผลนะ หลังจากอาบน้าเสร็จ ก็ทาเคาน์เตอร์เพนเพิ่ม

วันรุ่งขึ้นก็เดินเหมือนเป็นนักกีฬาเดินทนเลย แต่พอกลับไปทำงานนี่ซิค่ะ ปวดน่องทั้งสองข้างไปอีก 1-2 วันเลย แหะๆ

ต่อกันที่ วันที่ 3 วันสุดท้ายในฮ่องกงค่ะ เป็นจุดมุ่งหมายที่ทำให้เรามาที่ฮ่องกง เพราะเราจะมาหาเพื่อนของเราค่ะ

ตอนเช้าไปไหว้พระใหญ่ก่อน กระเช้านองปิงค่ะ เสียวก็เสียว อยากก็อยาก มี "ยินดีต้อนรับ" ด้วย


เราไปแต่เช้า เพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันจันทร์หยุดพิเศษ (อีสเตอร์) เขาเปิดเร็วเป็น 09.30 ค่ะ ขอบคุณ BP อีกเช่นกัน ...คนน้อยดี แต่ ...


แต่กระเช้าเราได้นั่ง 6 คนแน่ะ ฝั่งเรา 4 ฝั่งตรงข้าม 2 ... ปัญหาอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม ผู้ชายตัวใหญ่มาก ชอบขยับตัวเพื่อถ่ายรูปกับแฟนหลายหน จนเรารู้สึกว่ากระเช้ามันไหว ... รู้ว่ามันไม่น่ามีอะไร แต่ก็อดกลัวไม่ได้ อยากจะบอกว่า "นั่งเฉยๆหน่อยซิค่ะ ตัวก็ใหญ่ ยิ่งเสียวๆอยู่" เฮ้ออ... จะเป็นลม

มีช่วงที่ข้ามทะเลอยู่ 3-4 ช่วงค่ะ ขากลับโชคดีได้นั่ง 2 คน ก็มีไหวๆตามแรงลมเหมือนกันค่ะ ... ก็ดีค่ะ แหะๆ


แดดเปรี้ยงเลยค่ะ เดินชมของที่ระลึกสองข้างทางซะเพลิน กว่าจะถึงพระใหญ่


มองเหมือนไม่เท่าไหรนะคะ แต่กว่าจะถึง เล่นเอาพักหอบหลายจุดทีเดียว ไม่ค่อยได้ออกกำลังก็ยังงี้แหละค่ะ ต้องมาหาวิธีออกกำลังแบบนี้แทน อิอิ


เออ หมายถึงรู้สึกดีที่เจอเพื่อน Bp นะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด ...

ขากลับแวะกินข้าวเที่ยงที่ CityGate ค่ะ ประมาณบ่ายโมงละ...ลงมา เห็นคนต่อแถวเพื่อขึ้นรถ กับขึ้นกระเช้ายาวมากๆ ยาวจนน่าตกใจ คิดว่ายืนกันทนจัง น่าจะมีอย่างต่ำเป็นชม.นะคะ พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะหิวข้าวแล้ว

ข้าวเที่ยงที่ชั้น 3 Food Court ของ CityGate ค่ะ


กินเสร็จ ก็ออกเดินไปหาเพื่อนเรากัน ด้วยรถ MTR คันนี้ค่ะ


Disney Land นี่เอง หน้าป้าย ...นี่ยังฟรีอยู่ค่ะ จนถึงน้ำพุเลย


พอถึงหน้าปราสาท ต้องซื้อตั๋วละ คิดหนักแล้วค่ะ ตอนนี้ 14.30 แล้ว มีเวลาเที่ยวอีกแป๊บเดียวเอง บัตรก็แพงด้วย เป็นวันหยุดพิเศษ อุตสาห์เลือกมาวันจันทร์แล้วเชียว ... อ้อนไปอ้อนมา จนได้มาค่ะ


ใกล้เวลาขบวนพาเหรดมาแล้ว ดูของที่ระลึกด้านหน้าไปพลางๆก่อนดีกว่า


วันก่อนก็ฝนตก วันนี้ก็แดดเปรี้ยงทั้งวัน ยังไงก็สู้ไม่ถอย ยังเหลือยาพาราอีกหลายเม็ด

อยากไปต่อแถวถ่ายอ่ะ (อีกหลายสิบคน) ... แฟนบอกว่า ...ให้ยืนตรงนี้ เดี๋ยวถ่ายมุมนี้ให้ ... อะนะ ไว้ก่อนก็ได้ ...


ไปนั่งรอขบวนพาเหรด เกือบครึ่งชม. มุมที่ขบวนพาเหรดเดินมา ย้อนแสงอะ ถ่ายยากมาก แถมร้อนด้วย ใครจะไปอย่าลืมติดร่มหรือหมวกไปด้วยนะคะ


เจ้าหญิงแสนสวย โดยรวม ขบวนพาเหรดอลังการและตื่นตาตื่นใจกว่าที่คิดค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นแบบนี้ปกติ หรือ เพราะวันนี้วันหยุดพิเศษนะคะ เด็กๆ งี้ ตื่นเต้น บายบายกันใหญ่เชียว


ขบวนเกือบสุดท้าย ในที่สุด ... เราก็ได้เจอเพื่อนของเราค่ะ ได้เจอตัวเป็นๆซะที เหมือนมากๆ ท่าทางและหน้าตานี่ถอดในหนังมาเลยค่ะ


ปิดท้ายด้วยมิคกี้เม้าส์

แล้วเราก็เริ่มเดินตามแผนที่เลยค่ะ จะเดินเป็นวงกลม วนขวาก่อน

ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา เราจะตามไปดูค่ะ


"To Infinity and Beyond ..." พลาดได้ไงคะ อิอิ ดูหน้าตาเขาซิ ได้อารมณ์มากๆ


อันนี้ก็ไม่พลาด ได้เจอตัวจริงซะที ... เดินตามเพื่อรอเข้าแถวถ่าย พร้อมกับเด็กๆ --" รู้สึกแปลกๆ ดีค่ะ


อาหารมื้อเย็นที่ disney ค่ะ น่ารัก อยากเก็บกลับบ้านชะมัด


หลังจากนั้นก็เดินไปดูหนัง 4 มิติก่อนถึงบ้านทาร์ซานค่ะ ดูตั้ง 2 รอบแน่ะ ชอบมากๆ แล้วก็นั่งแพเล็กๆ ข้ามไปบ้านทาร์ซาน

ประมาณ 1 ทุ่ม มาจับจองที่นั่งหน้าปราสาท รอดูพลุค่ะ
พลุสวยสมการรอคอย


รับรองถูกใจเด็กๆ และผู้ใหญ่อย่างเราๆ แน่ๆ ค่ะ


อลังการงานสร้าง


เฮ้อออออ มาถึงวันสุดท้ายซะทีค่ะ ขอบคุณที่ตามอ่านกันนะ วันนี้บ้าพลังจริงๆ

วันนี้ ว่าจะไปหาโจ๊กฮ่องกงกิน ก่อน check out กลับมาเก๊าค่ะ

ออก 08.00 เหมือนเดิมลง Mongkok ขึ้นมาจากสถานีเจอสะพานลอย จะเจอร้านที่หลายๆคนแนะนำ ร้านนี้ คุณป้าพนักงานอารมณ์ดีค่ะ พูดอังกฤษไม่ได้ ก็พยายามสื่อสารกับเรา จนเราได้กินโจ๊กกระดูกหมู กับ ปาท่องโก๋ตัวโตๆ

ตอนนั่งรออาหาร ก็นึกออกว่า เอ๊ะ เรา print เมนูอาหารภาษาจีน แปลไทยมานี่น่า แฟนถามว่าเอ้า ทำไมไม่เอาออกมาใช้ ... เราก็บอกว่า ลืม ไว้ที่โรงแรม ... แหะๆ print มาเกือบ 10 แผ่นไม่ได้ใช้เลย ...


ร้านป้ายสีม่วงๆนั่นแหละค่ะ

อร่อยดีค่ะ โจ๊กที่ฮ่องกงเละดี


กินเสร็จก็กลับโรงแรมได้ ภารกิจเสร็จสิ้น

ก่อน Check Out แวะไป Avenue of Star ก่อน อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมค่ะ เดี๋ยวจะว่ามาไม่ถึง ตรงนี้แหละค่ะ ที่ทำให้เป็นไข้ตัวร้อน เพราะลมพัดหนาวมาก เสื้อกันหนาวตัวเดียวเอาไม่อยู่ ...กลับมากินยาที่โรงแรม หมดพอดี


อากาศดี วิวสวยมากค่ะ ไม่มาเสียดายเหมือนกันนะเนี่ย

ภาพสุดท้ายของฮ่องกงแล้วค่ะ ไว้เจอกันใหม่คราวหน้าถ้ามีโอกาส



ข้ามฝั่งมาถึงมาเก๊าประมาณ 14.00 ค่ะ ไม่แน่ใจว่าถ้าแวะเซนาโด้จะเที่ยวได้เยอะไหม แถมฝนก็ตกด้วย เลยตัดใจไปเวเนเชี่ยนดีกว่า เห็นว่าใกล้สนามบิน

ออกจากท่าเรือมาเก๊า รถของเวเนเชี่ยนจะอยู่คนละฝั่งกับประตูทางออกนะคะ ต้องลง subway ข้ามฝั่งไป รถสีน้ำเงินเข้มๆนะค่ะ


นั่งรถไปประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ จะฝากกระเป๋าหรือลากไปก็ได้ ของเราลากไปเองค่ะ มีแค่คนละใบเอง

หลังจากเข้าเวเนเชี่ยนแล้ว จะเป็นทางตรงไปเรื่อยๆ มีร้านอยู่สองข้างทาง สุดทางจะเป็นที่สำหรับเล่นคาสิโนแล้ว ถ้าอยากดูคลองและเรือกอนโดล่าจำลอง จากจุดนี้ก็ขึ้นบันไดไปอีกชั้น ก็เจอแล้วค่ะ เดินไปทางขวาไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ Food Court


เขาร้องสด เพราะเหมือนกันนะเนีย คนดูปรบมือกันเยอะเลย


อาหารที่ Food Court แพงกว่าในห้างนิดหน่อย


17.00 ต้องกลับละคะ ไม่รู้ว่าที่นี้ไกลจากสนามบินแค่ไหน ไม่อยากวิ่งหน้าตาตื่นเหมือนตอนไปสิงคโปร์ เกือบตกเครื่อง แหะๆ ...มันมีประสบการณ์ ..

...ออกมารอรถไปสนามบิน พนักงานบอกว่ารอนานหน่อยนะ จะนั่ง taxi ไปก่อนก็ได้ ไม่ไกลเท่าไหร่ ตกลงก็นั่ง taxi ค่ะ

หลังคาสิโนค่ะ


10 นาที...เท่านั้นค่ะ ...ก็ถึงสนามบินแล้ว ทำไมมันใกล้ขนาดนี้ เหลือเวลาอีกนานกว่าจะเปิด CheckIn เลยนอนรอที่สนามบินนั่นแหละค่ะ

อย่างที่หลายๆคนบอก สนามบินมาเก๊า ไม่มีอะไรเลย ... ดีหน่อย หลัง Checkin เสร็จ พอได้ shopping 3-4 ร้าน ซื้อของฝากจากมาเก๊า

ปิดท้ายกระทู้นี้ด้วยรูปสนามบินมาเก๊าค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ


เดิมทีเดียว โปรแกรมเป็นแบบนี้ค่ะ
วันที่ 1 CheckIn - วัดหวังต้าเซียน - Avene of star - Harbour City - SOL - Lady Market
วันที่ 2 Repulse Bay - Ocean Park - The Peak - Soho
วันที่ 3 Polin - Disney Land - Langham - Mongkok
วันที่ 4 Macau

ทำไปทำมา หายไปหลายจุดเลย เอาสบายๆ ตามกำลังและสภาพอากาศตอนนั้นอะค่ะ




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2551
1 comments
Last Update : 3 สิงหาคม 2551 17:50:56 น.
Counter : 4900 Pageviews.

 

เราก้อกะว่าจะไปฮ่องกงเหมือนกัน แต่หาเวลาว่างพร้อมกับแฟนไม่ได้ซักที ดูภาพและข้อความบรรยายประกอบแล้วน่าอิจฉาจัง ว่าง ๆ ไปเที่ยวที่ไหนเอาภาพและข้อความประกอบมาลงให้ดูอีกนะ

 

โดย: golf IP: 203.146.75.112 15 ธันวาคม 2554 11:58:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หมูหวานซ้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...หากจะหาเหตุผลสักคำ ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรักเธอ นั่นเป็นเพราะตัวฉันมาเจอ เจอสิ่งดีงาม @*0*@ ตั้งแต่วันฉันพบเธอ ก็เจอแต่สิ่งดีงาม
[Add หมูหวานซ้า's blog to your web]