<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 พฤษภาคม 2558
 

รักเร่ : โสภาค สุวรรณ

      นิยายที่นำมารีวิววันนี้ บอกเลยว่า proudly present มากๆ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจขบ.ไปเที่ยวต่างจังหวัด เลยหาหนังสือติดไม้ติดมือไปด้วย เลือกอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจหยิบ 'รักเร่' ของโสภาค สุวรรณ ลงกระเป๋าไปด้วย เพราะเห็นว่าหนังสือเล่มนี้ไม่หนามาก ไปเที่ยวก็คงจะได้อ่านเฉพาะตอนอยู่บนเครื่องบินกับตอนนอนเล่นอยู่โรงแรมเท่านั้น ไม่คิดว่าจะอ่านจบด้วยซ้ำเพราะไปแค่สองวัน แต่ที่ไหนได้ อ่านแล้ววางไม่ลง! ผลสุดท้ายคืออ่านรวดเดียวจบ สรุปวันนั้นทั้งวัน จขบ.ไม่ได้ออกไปชมวิวอะไรเลย ถ่างตาอ่านหนังสือถึงตีหนึ่ง ข้อคิดประจำวันนี้ อย่าได้หยิบนิยายไปเที่ยวด้วยนะคะ 55555555





     คำโปรยจากปกหลังค่ะ
     ...เพิ่งจะรู้ใจตัว เองก็ครั้งนี้...อยากจะบอกเธอว่าสามปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยมีความสุขที่แท้จริงกับผู้หญิงคนไหน นอกจากหล่อนเท่านั้น อยากจะกอดหล่อนไว้ข้างและกอดลูกไว้อีกข้าง แล้วบอกหล่อนว่าขอให้เขาได้มีโอกาสแก้ตัวอีกสักครั้งเถิด บางทีถ้าโชคดี เขาอยากจะได้ลูกชายอีกสักคน จะทะนุถนอมหล่อนและลูก จะเป็นพ่อ เป็นสามีที่ดี ขอให้หล่อนให้โอกาสอีกสักครั้งเท่านั้นเอง...

---------------------------------------------------------------------------------------

     สปอยล์ค่า สปอยล์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เรื่องย่อไม่มี ฟีลลิ่งหลังอ่านล้วนๆ ค่า 5555555

จขบ.รู้จักหนังสือเล่มนี้ยังไงก็จำไม่ได้ แต่สนใจมานานแล้ว ไปค้นรีวิวจากบล็อกต่างๆ แล้วก็ชอบพล็อต ดราม่าจริงไรจริง แต่พอซื้อมาก็ดองไว้ในตู้หนังสือซะงั้น รู้งี้น่าจะหยิบมาอ่านเป็นแล่มแรกๆ เลยทีเดียว

ถ้าใครได้อ่านรีวิว 'บ้านเจ้าพระยา' ผลงานเล่มล่าสุดของนามปากกาโสภาค สุวรรณที่จขบ.ได้เขียนลงบล็อก ก็จะเห็นว่าจขบ.ไม่เอนจอยกับหนังสือเรื่องนั้นเลย เบื่อกับบทบรรยายซ้ำๆ พูดวกไปวนมาแต่เรื่องเดิมๆ แต่สำหรับ 'รักเร่' บอกเลยว่า ไม่ผิดหวังค่ะ

เรื่องนี้นางเอกเป็นนักเรียนทุนที่ศึกษาวิชาล่ามและการแปลที่มหาวิทยาลัยเวียนนา ออสเตรีย พระเอกของเราก็เป็นเลขานุการโทประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียนนา การบรรยายสภาพภูมิประเทศ วิวทิวทัศน์ของเทือกเขา แม่น้ำดานู้ป ไปจนถึงกระท่อมในชนบท บรรยายได้สละสวยและเห็นภาพ อ่านแล้วอยากจะหอบข้าวของไปเที่ยวออสเตรียเดี๋ยวนั้นเลย แล้วยังเกร็ดประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ที่ผู้เขียนสอดแทรกเข้ามาในเนื้อเรื่องได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ อ่านเพลินๆ ได้ความรู้ ไม่เบื่อเลยค่ะ

นางเอกของเราหรือวายูน เป็นนักเรียนทุนที่ไม่มีกำลังทรัพย์จะใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายเหมือนนักเรียนนอกคนอื่นๆ เธอกินอยู่อย่างประหยัด นอนอยู่ในหอพักราคาถูกย่านคนจน จขบ.เห็นชีวิตของวายูนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ทั้งยังนับถือความสู้ชีวิตของเธอด้วย แต่แล้ววันนึง ชีวิตที่แสนจะลำบากของเธอก็เปลี่ยนไป เมื่อเธอได้ทำความรู้จักกับ ดร.รามิล นักการทูตอนาคตไกล ทายาทเศรษฐินีคนดังของเมืองไทย หน้าตาดี มีเสน่ห์ สรุปโดยรวมคือมีความเป็น พระเอก-material ทุกประการ ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกยันนิสัยใจคอ

ตอนแรกอ่านไปก็ขัดใจ พระเอกไม่ได้รักนางเอกนี่หว่า แค่จะจีบนางเอกเพื่อเอาชนะนิโคไล (เพื่อนชายที่รักวายูนมาตลอด) แต่พออ่านไปอ่านมา ระทวยกับเสน่ห์นักการทูตหนุ่่มใหญ่คนนี้จริงๆ ผู้หญิงถ้ามาเจอผู้ชายคารมดี เจนจัดเรื่องผู้หญิงแบบนี้ ก็ต้องมีหวั่นไหวเป็นธรรมดา พูดไงดี คือคุณรามิลเสน่ห์แพรวพราวทะลุแผ่นกระดาษมากค่ะ แล้วยังนางเอกก็ยังใสซื่อ มองโลกในแง่ดี คิดแต่เพียงว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะอารมณ์ธรรมชาตินั้นก็เป็นเพราะความรัก ไม่คิดว่าจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง จนสุดท้ายวายูนก็มอบทั้งร่างกายและจิตใจให้กับรามิล

พอวายูนตั้งท้อง ตอนแรกก็ยังวาดฝันว่าจะได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับรามิลได้ แต่รามิลกลับบอกให้วายูนไปเอาเด็กออก โดยที่น้าของรามิลนั่นเอง ที่คอยสนับสนุน(หรือล้างสมอง)ให้รามิลตัดวายูนออกจากชีวิต ฉากนี้เป็นอะไรที่พีคมากกกกก ปังมากกกกกก อ่านแล้วแบบ นี่แหละ นางเอกของจริงต้องอย่างนี้

'ดิฉันทำแท้งแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง เกมสนุกๆ ของเราจบแล้ว เราไม่มีพันธะผูกพันกันอย่างที่คุณน้าของคุณกลัว ดิฉันไม่เคยคิดจะจับ ผูกมัด หรือหวังอยากจะเป็นนั่นนี่อย่างผู้หญิงที่คุณเคยผ่านมาหรอก ดิฉันไม่ได้สนใจคุณเพราะความเป็นนักการทูตผู้มีชื่อ หรือตำแหน่ง หรือปริญญาเอกหรูๆ นั่น ดิฉันเป็นคน ถ้าจะรัก ดิฉันรักคน ไม่ใช่ตำแหน่ง เงินทอง หรือเกียรติยศบ้าบอคอแตก เพราะมันเป็นวัตถุ ... แล้วดิฉันก็ไม่ได้รักคุณอีกแล้ว'


ตอนที่วายูนตัดสินใจไปคลินิคทำแท้ง เป็นตอนที่สะเทือนใจจขบ.มาก สุดท้ายวายูนตัดสินใจจะเก็บลูกไว้ ร้องไห้ทุรนทุรายวิ่งออกมาจากคลินิค ถึงเด็กที่เกิดมาจะเป็นประจักษ์พยานถึงความผิดพลาดของวายูนและรามิล แต่วายูนให้สัญญากับตัวเองว่าต่อไปไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน เธอจะไม่มีวันทอดทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขไว้ไกลตัวเป็นอันขาด นางเอกของเราใจเด็ดมากจริงๆ

ชีวิตของวายูนขณะอุ้มท้องไปจนถึงคลอดลูก เป็นช่วงเวลาที่น่าสงสารมากๆ วายูนจะบอกทางบ้านเรื่องนี้ไม่ได้ เธอต้องทำงานหาเงินเพื่อเอามาใช้จ่ายเป็นค่าคลอดบุตรแล้วยังค่าเลี้ยงดู เธอตัดสินใจดร็อปเรียนเพื่อจัดการเรื่องลูก ถึงแม้ว่าจะรับปริญญาล่าช้าไปหลายเดือน แต่วายูนก็ได้รับตำแหน่งเกียรตินิยมมาครอง เธอนำลูกมาเป็นแรงผลักดันให้ชีวิตก้าวหน้า และไม่ง้อขอความช่วยเหลือจากใคร แม้แต่พ่อของเด็กก็ตาม

ตลอดระยะเวลานี้ นิโคไล เพื่อนชายชาวรัสเซียของวายูนนี่เอง ที่คอยดูแลช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ทั้งๆ ที่รู้ว่าวายูนมีลูกกับรามิล เขาก็ยังรักและปรารถนาวายูนเช่นเดิม หลายๆ คนอาจจะชอบความรักที่ไม่หวังผลตอบแทนของนิโคไล จนถึงคิดว่าทำไมผู้ชายดีๆ อย่างนิโคไลไม่ได้เป็นพระเอกนะ รามิลนี่สิ เลวตัวพ่อ แต่สำหรับจขบ. ออกตัวเลยว่าอยู่ #ทีมรามิล ค่ะ(ออกตัวแรงไปมั้ย อ่านรีวิวจากบล็อกอื่นๆ 99% ของผู้อ่านเกลียดพระเอกกันหมดเลย555555) จขบ.ว่านิโคไลยังเอาวายูนไม่อยู่หมัด ยังคงตามวายูนต้อยๆ ผิดกับรามิล ที่ทั้งเก๋าเกมส์กว่า ประสบการณ์โชกโชน ปากว่ามือถึง (เอ๊ะ นี่ถือเป็นข้อดีด้วยเหรอ 55555)

จนเวลาผ่านไป รามิลก็มารู้ทีหลังว่าวายูนไม่ได้ทำแท้ง ตอนนั้นแหละ สงสารรามิลจับใจ สำนึกว่าความผิดที่ผ่านมาของเขามันเกินกว่าจะให้อภัย ซ้ำวายูนเองก็ไม่ใช่หญิงสาวใสซื่อคนเดิมแล้ว เธอพลาดครั้งที่หนึ่งและจะไม่ยอมปล่อยให้มันมีครั้งที่สอง ทิฐิของวายูนเป็นสิ่งที่จขบ. เห็นใจมาก ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะมีลูกกับคนรัก แต่กลับถูกทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี แม้แต่ตอนคลอดก็ยังไม่มีร่างของพ่อเด็กอยู่เคียงข้าง ถ้าจะกลับมาขอคืนดี ก็ยากหน่อยละ

เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการชิงสุกก่อนห่าม เห็นภาพชัดเจนเหลือเกิน โชคดีที่วายูนยังมีครอบครัวที่รักและเข้าใจ ในความเป็นจริง ก็คงมีผู้หญิงที่ประสบปัญหาแบบเดียวกับวายูน แล้วที่พึ่งสุดท้ายที่พร้อมจะอ้าแขนรับ ไม่ว่าเราจะทำผิดพลาดสักเพียงไหน ก็ไม่พ้นครอบครัว ความสนุกชั่วครู่ชั่วยามนั้นแหละ ที่สร้างปัญหายาวนานตลอดชีวิตมานักต่อนักแล้ว

บ่นอะไรไม่รู้ตั้งเยอะแยะ ถ้าอ่านมาถึงบรรทัดนี้ก็ขอบคุณมากค่ะ พิมพ์เองยังงงเอง ไม่เรียงลำดับความคิดก่อนหลังเลย สรุปว่านิยายเรื่องนี้สนุก อ่านแล้ววางไม่ลง ถ้าชอบแนว โรแมนติก ดราม่า ขอแนะนำให้อ่านเลยค่ะ อ่านแล้วถ้าไม่เกลียดพระเอกไปเลย ก็อาจจะรักพระเอกไปเลย 555555555 เห็นว่ามีภาคต่อของลูกด้วย ชื่อเรื่อง รักเร่สีแดง เห็นทีจะต้องไปหามาอ่านซะแล้วค่ะ



Create Date : 06 พฤษภาคม 2558
Last Update : 21 มิถุนายน 2558 23:23:51 น. 5 comments
Counter : 2622 Pageviews.  
 
 
 
 
เรื่องนี้คงได้แต่อ่านสปอย์ค่ะ ไม่ใช่แนวที่พี่อ่านเลยค่ะ
 
 

โดย: กรุงอินทร์ วันที่: 6 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:08:41 น.  

 
 
 
เป็นอีกเรื่องในยุคแรกๆของโสภาคที่ชอบมากค่ะ ตอนอ่านก็ชื่นชมนางเอกที่เข้มแข็ง และสงสารนิโคไลมากที่ได้เป็นแค่เพื่อนที่แสนดี ส่วนพระเอกไม่น่าสงสารเลย สมน้ำหน้ามากกว่าค่ะ เชียร์ให้นางเอกใจแข็งนานๆ 555 ตอนนั้นรัสเซียยังมีความอึมครึมอยู่เลยไม่เชียร์เท่าไหร่
 
 

โดย: ชามินต์ IP: 1.10.201.140 วันที่: 7 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:45:36 น.  

 
 
 
หูย เรื่องนี้อ่านมานานหลายสิบปีแล้ว ชอบมากกกค่ะ
เป็นเรื่องที่เขียนได้อารมณ์มากเลย สะใจพระเอกสุด ๆ ยังอยากให้นางเอกเธอเล่นตัวกว่านี้อีก ( มันทั้งรักทั้งแค้นนี่นะ )

งานในยุคนี้ของคุณโสภาค น่าอ่านหลายเรื่องเลยนะคะ สนุก ได้ความรู้ทั้งนั้นเลย
 
 

โดย: Serverlus วันที่: 7 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:01:42 น.  

 
 
 
คุณกรุงอินทร์
อยากเข้าไปอ่านบล็อกพี่กรุงอินทร์เหมือนกันค่า ว่าพี่กรุงอินทร์ถนัดแนวไหน แต่เข้าไม่ได้ซะนี่

คุณชามินต์
ตอนพระเอกไล่นางเอกไปทำแท้งนี่ก็แค้นแทนนางเอกเหมือนกันค่ะ นึกในใจคนเขียนช่างแต่งให้พระเอกเลวบริสุทธิ์เหลือเกิน 5555555

คุณServerlus
กำลังค้นๆ หนังสือยุคแรกๆ ของคุณโสภาคมาอ่านค่ะ ชอบเรื่องปุลากงมาก อ่านตั้งแต่ประถมเลย แต่พอมาอ่านผลงานยุคหลังๆ กลายเป็นไม่ชอบซะงั้น บรรยายซ้ำๆ สนุกไม่เท่ายุคแรกๆ เลย
 
 

โดย: Moonshiner วันที่: 8 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:24:47 น.  

 
 
 
หนูเข้าดูโพสต์ในส่วนของหน้าหลัก หนังสือนิยาย พี่จะมารีวิวหนังสืออยู่นะคะ แต่เป็นช่วง ๆ ไม่บ่อยมากค่ะ ให้อ่านอย่างเดียว ไม่มีเม้นต์นะคะ ( เผด็จการมาก อิอิ)
 
 

โดย: กรุงอินทร์ วันที่: 9 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:43:13 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Moonshiner
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Reading is what shapes me to be who I am today
New Comments
[Add Moonshiner's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com