016. วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง) อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงใหม่
วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง)
อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงใหม่
7099. วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง)
วัดแสนเมืองมาหลวง หรือ วัดหัวข่วง
ตั้งอยู่ที่ 175 ถนน พระปกเกล้า ตำบล ศรีภูมิ อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงใหม่
7100. ถนนทางเข้า วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง) อยู่ติดกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา เชียงใหม่ ถนนกว้างประมาณ 2.5 เมตร รถยนต์วิ่งสวนกันไม่ได้ โปรดขับด้วยความระมัดระวัง
7092. ธกส. สาขาเชียงใหม่ :เคียงคู่ รู่ค่า ประชาชน
7097. วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง) ถ.พระปกเกล้า ต. ศรีภูมิ อ. เมือง จ.เชียงใหม่
:อยู่ติดด้านหลังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส)
7098. หรือ ทางเข้าวัดแสนเมืองมาหลวง(หัวข่วง) อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคุ้มแก้วพาเลช
:คุ้มแก้วพาเลช มี ขันโตกดินเนอร์:อาหารพื้นเมืองบนขันโตก พร้อมการแสดงพื้นเมืองที่สวยงาม ถ้าท่านได้มาเที่ยวหรือทำงานที่เชียงใหม่ ขอให้ได้พาเพื่อน ครอบครัว หรือ คนที่ท่านรักได้มารับประทานอาหารขันโตกที่คุ้มแก้วพาเลช เป็นประสพการณ์และความประทับใจในชีวิต
7101. วิหารวัดแสนเมืองมาหลวง(วัดหัวข่วง) ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
7102. พระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) ด้านทิศใต้
7103. ศาลาปฏิบัติธรรม วงศ์สืบชาติ แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7104.ช้างเบื้องขวาข้างบันไดพระวิหารแห่งวัดแสนเมืองมาหลวง(วัดหัวข่วง)
7105. บันไดมรกนาค แห่ง พระวิหารวัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
:ขอกราบอนุโมทนา คุณพ่อไพโรจน์ คุณแม่เชื้อสาย และ ด.ร. พรชัย เปี่ยมสมบูรณ์
7106. พระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7107.พระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) อ.เมือง จ.เชียงใหม่
7108.ประตูพระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7109.บานประตูพระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7110. มกรคายนาคเบื้องซ้าย บันไดพระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง
7111.มกรคายนาคเบื้องขวา บันไดพระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง
7112.พระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) อ.เมือง จ.เชียงใหม่
7113. หอกลองและระฆัง ตะวันออก ฝั่งทิศใต้ วัดแสนเมืองมาหลวง
7115. หอกลอง แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง
7116. หอกลองและระฆัง ตะวันตก ฝั่งทิศใต้
7135. หอกลองและระฆัง ตะวันตกเฉียงใต้ ของพระวิหารวัดแสนเมืองมา
7137. หอกลองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของพระวิหารวัดแสนเมืองมา
7139. หอกลอง แห่ง วัดแสนเมืองมา ที่สวยงาม
7140. พระพุทธรูป ไม่ทราบนาม ประดิษฐานอยู่ด้านหลังพระวิหารด้านทิศตะวันตก
7142.พระพุทธรูป ไม่ทราบนาม อยู่ด้านหลังพระวิหารด้านทิศตะวันตก
7143. เทวดาเบื้องซ้ายพระพุทธรูป อยู่ด้านหลังพระวิหารด้านทิศตะวันตก
7144.เทวดาเบื้องขวาพระพุทธรูป อยู่ด้านหลังพระวิหารด้านทิศตะวันตก
7145. พระเจดีย์ แห่ง วัดแสนเมืองมา (วัดหัวข่วง)
7117. ประตูโขง แห่ง กุฏิเจ้าอาวาส วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7119.กุฏิเจ้าอาวาส วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7118. ตระกูล ทรัพย์สาคร สร้างถวาย 3พฤษภาคม 2542 ขอกราบอนุโมทนาบุญ ด้วยครับ
7120. พระเจดีย์ แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
: ลักษณะเป็นเจดีย์สิบสองเหลี่ยมองค์ระฆังกลม ซึ่งเป็นศิลปกรรมผสมระหว่างศิลปะเชียงแสนกับสุโขทัย
7121. พระเจดีย์วัดแสนเมืองมาหลวง ( วัดหัวข่วง )
7123.พระเจดีย์วัดแสนเมืองมาหลวง (วัด หัวข่วง )
พระเจดีย์วัดแสนเมืองมาหลวง ( วัดหัวข่วง )
พระเจดีย์นี้นับได้ว่าเป็นเจดีย์ก่ออิฐขนาดใหญ่ และมีทรวดทรงที่งดงามมากองค์หนึ่งในเมืองเชียงใหม่
ลักษณะเป็นเจดีย์สิบสองเหลี่ยมองค์ระฆังกลม เป็นแบบแผนของเจดีย์ที่นิยมสร้างกันมากในเมืองเชียงใหม่ นับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมา
เช่น เจดีย์พระธาตุดอยสุเทพ เจดีย์วัดอุโมงค์ เจดีย์วัดชมพู เจดีย์ร้างวัดแสนตาห้อย เจดีย์วัดพระธาตุเสด็จ เจดีย์พระธาตุลำปางหลวง เป็นต้น
ซึ่งเป็นศิลปกรรมผสมระหว่างศิลปะเชียงแสนกับสุโขทัย ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราชต่อพระเจ้าเมืองแก้ว ในยุคนี้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก ทั้งทางสุโขทัยและอยุธยา
แต่เนื่องจากการที่พม่าตีเมืองเชียงใหม่จึงทำให้เจดีย์ได้รับความเสียหายบางส่วน เมื่อได้รับการซ่อมแซมแล้ว ทำให้ส่วนฐานนับตั้งแต่ฐานหน้ากระดานสามชั้นขึ้นไปจนถึงฐานบัวลูกแก้ว เป็นลักษณะพิเศษที่ไม่เคยพบเห็นในเจดีย์ทรงกลมทั้งแบบพื้นเมืองล้านนาและแบบเชียงใหม่
คัดลอกข้อมูลมาจาก://www.lannatalkkhongdee.com/templeDetail.php?id=Temp0800012
7124.ยักษ์แห่งซุ้มประตูโขงกุฏิเจ้าอาวาสวัดแสนเมืองมาหลวง
7125. ประกาศ: ห้ามแนะนำ จำหน่าย และ โฆษณาสินค้าทุกชนิด สินค้าทุกชนิดในบริเวณวัด
7126. เทวดาแห่งซุ้มประตูโขงกุฏิเจ้าอาวาสวัดแสนเมืองมาหลวง
7127.เทวดาแห่งซุ้มประตูโขงกุฏิเจ้าอาวาสวัดแสนเมืองมาหลวง
7128.
7130.
7131.
7132. พระวิหาร และ พระเจดีย์ แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7133.
7134. ยักษ์ แห่ง หอมณเฑียรธรรม วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7146. หอมณเฑียรธรรม แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) จ.เชียงใหม่
7147.หอมณเฑียรธรรม แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) จ.เชียงใหม่
7148.หอมณเฑียรธรรม แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) จ.เชียงใหม่
7149.หอมณเฑียรธรรม แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) จ.เชียงใหม่
7150.หอมณเฑียรธรรม แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) จ.เชียงใหม่
7151.หอกลองและพระเจดีย์ แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7152. สวนหย่อม ที่สวยงาม
7153. บริเวณภายใน วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7156. พระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7157. พระอุโบสถ และ พระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7159.พระอุโบสถ และ พระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7155.พระวิหาร แห่ง วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง)
7162. ประตู วัดแสนเมืองมาหลวง (วัดหัวข่วง) ด้านทิศตะวันออก
7154. สิงห์คู่แห่งประตูทิศตะวันออก วัดแสนเมืองมาหลวง
: ตึกฝั่งขวาทางเข้าออกของวัดแสนเมืองมาหลวง(หัวข่วง) คือ อาคารของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาเชียงใหม่
7160.ทางเข้าประตูวัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง) ด้านทิศตะวันออก
:เมื่อเดินเข้ามา ก็เรียกว่า "ทางเข้า" วัดแสนเมืองมาหลวง เมื่อเดินกลับออกไป ก็เรียกว่า "ทางออก"จากวัดแสนเมืองมาหลวง
เมื่อเรา จุติ ลงมา ก็เรียกว่า การเกิด และ เมื่อเราต้อง เคลื่อนย้ายเปลี่ยนภพ ก็เรียกว่า การตาย
ทางเข้าและทางออกคือทางเดียวกัน การเกิดและการตายก็คือเส้นทางเดียวกัน
เพียงแต่ว่า เราปราถนาจะเลี้ยวไปทางซ้าย หรือ ทางขวา ทางซ้ายและทางขวา คือ ทางไปยังสุคติภูมิ (สวรรค์) หรือ อคติภูมิ (นรก)
เลี้ยวซ้าย หรือ เลี้ยวขวา ท่านเป็นคนที่จะเลือก ซึ่งก็จะเป็นไป ตามกฏแห่งกรรม หรือ การกระทำ เพราะ พวกเราแต่ละคนต่างก็เป็นผู้ออกแบบชีวิตของตนเอง
Moonfleet ได้มาเยือน วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง) :วันอาทิตย์ ที่ 2 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2552
เชียงใหม่ นครแห่งชีวิต และ ความมั่งคั่ง
"เที่ยวเชียงใหม่ ท่านสามารถ มาเที่ยวได้ทุกวัน"
พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน รีบบวชตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ มหาอุปสมบทครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อแผ่นดินไทยร่มเย็น โครงการอุปสมบทหมู่พระสงฆ์ 100,000 รูป (หนึ่งแสนรูป) ทั่วไทย
Create Date : 03 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2552 10:25:04 น. |
|
9 comments
|
Counter : 7551 Pageviews. |
|
|
|
จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยาวนานมากว่า ๗๐๐ ปี และเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีโบราณสถานเก่าแก่มากมาย ซึ่งในอดีตเมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา จ.เชียงใหม่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญทางด้านพุทธศาสนาของชาวล้านนา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
วัดแสนเมืองมาหลวง หรือวัดหัวข่วง ตั้งอยู่เลขที่ ๑๗๕ ถนนพระปกเกล้า อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แต่เดิมมีชื่อว่าวัดลักขปุราคมาราม ถือได้ว่าเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสำคัญและได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนใน จ.เชียงใหม่ มานานร่วม ๖๐๐ ปี ในอดีตวัดหัวข่วงจัดเป็นวัดที่มีความสำคัญในฐานะวัดประจำเมืองวัดหนึ่งเพราะเป็นที่ประกอบพิธีกรรมสำคัญทางศาสนาหรือการประชุมทัพ
จากประวัติในพงศาวดารโยนกระบุว่า วัดแสนเมืองมาหลวง เป็นวัดที่พญาเมืองแก้ว กษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย ลำดับที่ ๑๑ ทรงสร้างขึ้นเพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศลถวายแด่พญาแสนเมืองมาหรือพระอัยกาธิราช สร้างเมื่อวันศุกร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ พ.ศ.๒๐๖๔ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงสร้างเจดีย์กว้าง ๘ วา สูง ๑๔ วา ๒ ศอก และทรงสร้างวิหาร อุโบสถ กุฏิ หอมณเทียรธรรม ถวายเพื่อเป็นอารามหลวง
ส่วนสาเหตุที่มีชื่อเรียกว่า หัวข่วง เป็นเพราะที่ดินในละแวกนี้แต่เดิมเป็นที่ของเจ้านาย เชื้อพระวงศ์ เป็นที่ราบกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่สร้างวัดนั้นแต่เดิมใช้เป็นที่ชุมนุมไพร่พลยามศึกสงคราม และเป็นที่ประกอบพิธีตามวันนักขัตฤกษ์ต่างๆ จึงทำให้วัดมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหัวข่วง ปัจจุบันวัดนี้มีเนื้อที่ทั้งหมด ๔ ไร่ ๒ งาน ๑๐ ตารางวา มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่มีที่กัลปนาหรือที่ธรณีสงฆ์
ในสมัยที่พระเจ้าเมืองแก้ว ทรงปกครองเมืองเชียงใหม่ พระองค์ทรงเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจนทำให้ได้รับคำกล่าวถึงว่าเป็นยุคทองของพระพุทธศาสนาในล้านนา แต่เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นไปมีการทำศึกสงครามเพื่อแย่งชิงอาณาเขตเกิดขึ้น ส่งผลทำให้วัดวาอารามที่มีความสำคัญในการประกอบพิธีกรรมหลายแห่งได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก จนต้องมีการรื้อถอนและบูรณะขึ้นมาใหม่ทดแทนของเดิมที่พังเสียหายไป
วัดแสนเมืองมาหลวง หรือวัดหัวข่วงได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งใน พ.ศ.๒๕๓๖ โดยการนำของพระครูปลัดทรงสวัสดิ์ ปัญญาวชิโร (ครูบาแอ) โดยสร้างกุฏิสงฆ์ บูรณะพระเจดีย์ อุโบสถ พระวิหารหลวงรวมทั้งพระประธานในวิหารหลวงซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่และงดงามมากองค์หนึ่งของเมืองเชียงใหม่ นอกจากนี้ขณะนี้ยังจัดสร้างหอมณเฑียรธรรมหลังใหม่ขึ้นทดแทนหลังเก่าที่พังเสียหายลงไปจากการขุดหาวัตถุโบราณของประชาชนบริเวณใต้หอมณเฑียรธรรมหลังเก่า
ภายในวัดแสนเมืองมาจะประกอบไปด้วยวิหารหลวงที่สร้างขึ้นมาใหม่ทดแทนวิหารหลังเดิมที่ถูกไฟไหม้ โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๔๔ ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๕ ปีมะโรง และเสร็จสิ้นใน พ.ศ.๒๕๔๗ ตัววิหารเป็นศิลปกรรมแบบพื้นเมืองของล้านนา ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรัตนบุรีสลีแสนเมืองมาซึ่งเป็นพระประธานขนาดใหญ่ปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง ๖ เมตร สูง ๙ เมตร
บริเวณด้านข้างวิหารหลวงเป็นอุโบสถซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่ใน พ.ศ.๒๕๓๗ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าศรีเมืองมาซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดเท่าพระองค์จริงของพระเจ้าแสนเมืองมาในอดีตซึ่งมีอายุในการก่อสร้างกว่า ๕๐๐ ปีมาแล้ว นอกจากนี้บริเวณด้านหลังวิหารหลวงยังเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์หัวข่วงซึ่งเป็นเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่แบบเชียงใหม่ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมาเช่นเดียวกับรูปหล่อพระเจ้าศรีเมืองมา
ทั้งนี้ภายในบริเวณวัดยังสร้างกุฏิสงฆ์ใหม่ในลักษณะศิลปะล้านนาประยุกต์ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นที่วิจิตรงดงาม นอกจากนี้วัดยังจัดสร้างหอมณเฑียรธรรมหลังใหม่ขึ้นมาทดแทนหลังเก่าที่พัง ขณะก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ ๘๐ พร้อมกันนี้ยังสร้างหอระฆังใหม่ด้านข้างเจดีย์หัวข่วง
เรื่อง/ภาพ พิชัยยง มาเยอะภู่
Resource: //www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538685307&Ntype=40