" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
001. เรื่องไร้สาระคดี ของ Moonfleet
002. ว่าด้วย ชีวิต ความคิด ผลงาน ของ นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ตลอดกาล
003. ว่าด้วย การท่องเที่ยวไปสู่ความสำเร็จ (ROVERING TO SUCCESS)
004. ว่าด้วย หนังสือของ ปีเตอร์ ดรักเกอร์
005. ว่าด้วย วาทะ ของ คนแถวหน้า : (TOP DOG)
006. Law of Success :ว่าด้วย ศาสตร์แห่งความสำเร็จ ของนโปเลียน ฮิลล์
007. The Prince by Niccolo Machiavilli : เจ้าผู้ปกครอง
008. Power of Life : พลังแห่งชีวิต
009. ว่าด้วย พิชัยสงคราม พงศาวดาร เต๋า และ จีนศึกษา
010. รายการ สนทนาประสา นายกฯ สมัคร สุนทรเวช
011. คิดแล้วรวย ด้วยแนวทางธุรกิจของ นโปเลียน ฮิลล์
012. เส้นทางสู่เสรีภาพ ของ เบอร์ทรันด์ รัสเซลล์
013. เรื่อง สัญญาประชาคม (Contract Social) ของ จัง จ๊ากส์ รุสโซ่ แปลและเรียบเรียงโดย จินดา จินตนเสรี
014 Moonfleet @CCC: เชียงใหม่ นครแห่งชีวิต และ ความมั่งคั่ง ชุดที่ 1. พ.ศ.2552
015. ร้านอาหาร และ การรับประทาน @จ.เชียงใหม่ & จ.ลำพูน
016. ตลาด : ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ และ ลำพูน
017. ON LIBERTY by John Mill
018. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่ Volume I.
019. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัด ลำพูน Volume 1
020. เรื่อง "สาระ DD" เศรษฐกิจ สังคม การเมือง & การบริหารการจัดการธุรกิจ # 001
021. การเดินทาง คือ สหายของฉัน ส่วนการผจญภัยคือแรงบันดาลใจ
022. ว่าด้วยเรื่อง สโมสรไลออนส์เชียงใหม่ภูพิงค์ ภาค 310 A1
023. หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 17 ประจำปี 2552 - 2553
024. ว่าด้วย อำเภอ.บ้านโฮ่ง จังหวัด.ลำพูน
025. ว่าด้วย Power : The Story of อำนาจ
026. เรียนรู้ " ......... " จาการอ่าน หนังสือ.
027. Sovereignty : การปกครองอยู่ที่กฏหมายมากกว่าตัวบุคคล
028. ประมวลสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ.ศ. 2544
029. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่ Volume II
030. CRI online : China Radir Online และ CCTV .
031. หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 18 ประจำปี 2554
032. เชียงใหม่นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง Volume II
033. Chiang Mai City 2554
034. Moonfleet 2011 : The Odyssey พ.ศ. 2554 ( Part 1 )
035. Moonfleet 2012 : The Odyssey พ.ศ. 2555
036. นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง พ.ศ.2555
037. ว่าด้วย ASEAN Comunity หรือ ประชาคมอาเซียน
038. ว่าด้วย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (Republic of the Union of Myanmar)
039. ว่าด้วย จังหวัด กว๋างบิ่ญ (Quảng Bình) และ กลุ่มจังหวัดภาคกลาง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม.
040. ว่าด้วย ประเทศเวียดนาม
041. ว่าด้วย ประเทศสิงคโปร์
042. Moonfleet 2011 : THE ODYSSEY พ.ศ. 2554 ( Part 2 )
043. ว่าด้วย กรุงเทพมหานคร อรรัตนโกสินทร์.
044. China : ว่าด้วย ประเทศจีน
045. The Greater Mekong Subregion (GMS) : แม่น้ำโขง
046. Thai Chamber of Commerce : หอการค้าทั่วประเทศไทย
047. Star of Asian.
048. ว่าด้วย ภาคประชาสังคมจังหวัดเชียงใหม่
049. ว่าด้วย คณะกรรมการส่งเสริมกิจการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วาระ 2557-2560
050. Japan : ว่าด้วย ประเทศญี่ปุ่น
051. Marketing : การตลาด
052. Tvdmcnews Worldnews
053. ว่าด้วย เกษียร เตชะพีระ
054. ว่าด้วย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
055. ว่าด้วย ประเทศ Korea : เกาหลีใต้
056. ว่าด้วย Kittiratt Na-Ranong (กิตติรัตน์ ณ ระนอง)
057. Arabia Night : อาหรับราตรี กลุ่มประเทศอารเบีย
059. ว่าด้วย จังหวัดลำปาง พ.ศ.2556
060. Lao People's Democratic Republic.(ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນລາວ)
061. ลำนำหลวงพระบาง สปป.ลาว The rhythm of Luang Prabang.
062. ว่าด้วย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
063. ว่าด้วย CAMBODIA
064. ว่าด้วย "บันทึก ความทรงจำ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ" ในเรื่องต่างๆ
065. บันทึกการเดินทาง
066. An Inquiry into the Nature and Causes of the Wealth of Nations. ว่าด้วย ประเทศไทย
067. ว่าด้วย ทุน เงินตรา ความมั่งคั่ง.
068. ว่าด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
069. โลกนี้มีเพียงหนึ่ง การดูแลและบำรุงรักษาดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ โดย บาร์บารา วอร์ด
070. ปีแห่งความรุ่งโรจน์ : A YEAR OF GROWING RICH
071. เรียนภาษาอังกฤษ จาก เพลง เนื้อเพลง และ ภาพยนต์
072. reba : Property and Real Estate
073. Productivity Corner หรือ จดหมายข่าวรายเดือน สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
074. BUREAUCRAY มหาชนรัฐ ประชาธิปไตย เศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง.
075. พคบ.301: ผู้บริหารยุคใหม่ใส่ใจความมั่นคงของประเทศไทย
076. CEQC สมัยที่ 4 : คณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ สมัยที่ 4 ประจำปี 2555 - 2559
077. ว่าด้วย ตำนานและเรื่องราวเหตุการณ์ ล้านนาไทย ( The Story of Lanna Thai )
078. Economics : เศรษฐศาสตร์
079. Spaceship Earth : ยานอวกาศชื่อว่า โลก เรื่อง สภาวะแวดล้อมของมนุษย์
080. แกงโฮะ : การบริหารและจัดการ
081. Thailand เรื่องราวของสองนคร.
082. ร่วมด้วยช่วยให้ "กำลังใจ" แด่ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปฏิบัติการ Thailand Vision "สร้างความสุข สลายความทุกข์ ให้ประชาชนไทย"
083. ว่าด้วย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แห่ง ประเทศไทย: บันทึกไว้เป็นตำนาน
084. ว่าด้วย เมืองเชียงตุง(Kyaing Tong) หรือเก็งตุ๋ง (Keng tung) และ รัฐฉาน (Shan)แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์.
085. Moonfleet Thailand : รายงาน ประเทศไทย
086. Moonfleet Asia
087. ถนน.สายบุญ สายวัฒนธรรม No.1 วัดศรีโสดา - ถ.ศรีวิชัย - ถ.ห้วยแก้ว - สวนรุกขชาติห้วยแก้ว
088. ถนน.สายบุญ สายวัฒนธรรม No.2 วัดพระสิงห์ฯ - ถ.ราชดำเนิน
089.ถนน.สายบุญสายวัฒนธรรม NO.3 วัดเชตุพน - ถ.รัตนโกสินทร์
090. ว่าด้วย ธรรมาภิบาล จังหวัดเชียงใหม่ : Good Governance Committee.
091. ว่าด้วย พระพุทธศาสนา
092.เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง.
093. ว่าด้วย ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย
094. 6 Cities 3 Countries : ความร่วมมือ 6 ฝ่าย เขตชายแดนระหว่าง จีน ลาว ไทย
095. ว่าด้วย ผู้ว่าฯ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง 2556
096. Sunset of Life : ชีวิตช่วงสนธยา.
097. รวมบทความของ อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์
098. Moonfleet : ว่าด้วย Upper Northern Provincial Cluster 1 Chamber of Commerce : หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1.
099. ว่าด้วย คณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดเชียงใหม่
100. การเดินทาง คือ สหายของฉัน ส่วนการผจญภัย คือ แรงบันดาลใจ
101.ว่าด้วย ประเทศแถบยุโรปตะวันออก
<<
มกราคม 2559
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
25 มกราคม 2559
28.12.2558 อีกเมื่อไร (1) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
04.01.2559 อีกเมื่อไร (2) นิธิ เอียวศรีวงศ์
12.01.2559 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อีกเมื่อไร (3)
18.01.2559 อีกเมื่อไร (4) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
25.01.2559 อีกเมื่อไร (5) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
All Blogs
28.12.2558 อีกเมื่อไร (1) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
04.01.2559 อีกเมื่อไร (2) นิธิ เอียวศรีวงศ์
12.01.2559 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อีกเมื่อไร (3)
18.01.2559 อีกเมื่อไร (4) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
25.01.2559 อีกเมื่อไร (5) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
13.01.2559 ทหารมีไว้ทำไม โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
17.02.2558 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ′พวก′ของคนใต้กับปชป.
23.02.2558 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ปฏิรูปกองทัพ คือสถาปนาอำนาจสูงสุดของพลเรือน
30.10.2557 นิธิ-ผาสุก-สมเกียรติ-บรรยง ถก รัฐไทยกับการแก้ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ
02.12.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : "กรอบ" ของการศึกษาไทย
07.04.2557 เงาและเครื่องมือ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
08.05.2557 ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
05.05.2557 ก่อการร้ายโดยรัฐเผด็จการ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
07.07.2557 สื่อในรัฐประหาร โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
18.08.2557 การเมืองของคอร์รัปชั่น โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
31.12.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์: ของขวัญปีใหม่ .
28.12.2555 จารีตนิยมกับเหตุผลนิยมในพุทธศาสนา โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
17.12.2555 นิธิ: อีกมุมหนึ่งของ แก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ
14.12.2555 นักธุรกิจหัวเมืองกับวัฒนธรรมไทย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
07.12.2555 ตบะในวัฒนธรรมไทย(ต่อ) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
03.12.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์: เปลี่ยนประเทศไทยด้วยการรับจำนำข้าว (อีกที)
30.11.2555 ตบะในวัฒนธรรมไทย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
10.12.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์: ชะตากรรมของคู่แฝด
16.07.2555 ในสนามรบทางกฎหมาย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
21.03.2554 .36 ในการเมืองท้องถิ่น โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
08.08.2554 วงศาคณาญาติ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
19.09.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐที่ไร้สังคม
18.11.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : จุดอ่อนของเผด็จการ
09.03.2536 ปาฐกถาป๋วย อึ๊งภากรณ์ โดย ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ หัวข้อ วีรบุรุษในวัฒนธรรมไทย
18.09.2557 เปิดปาฐกถาครึ่งเดียวของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ ในห้องเรียนประชาธิปไตยที่ถูกยกเลิก
27.09.2553 นิธิ เอียวศรีวงศ์: รัฐประหาร = อัตวินิบาตกรรม
08.09.2557 "นิธิ" ชี้เผด็จการเท่านั้นที่กลัวคน
22.07.2556 ฮิตเลอร์ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
30.09.2557 บนยุทธภูมิทางวัฒนธรรม โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
27.10.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ไม่ได้เป็นนายกฯ เสียที
22.07.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ปัญญาชนไทยกับความทันสมัย
01.09.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : งานศพผิดวัดครั้งใหม่ (2)
11.08.2557 รัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรมไทย 2557 โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
01.07.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ ตั้งกระทู้ ขาดทุนจำนำข้าวด้วยเหตุใดแน่ ?
11.11.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : เปลี่ยนประเทศไทย ด้วยการรับจำนำข้าว
26.05.2543 อันตรายของคุณชวน หลีกภัย
01.09.2543 คนจน ในสังคมไทย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
28.07.254 คนไทยกับ ๓ คำเจ้าปัญหา:เชื้อชาติ-กลุ่มชาติพันธุ์-อัตลักษณ์ จากปาฐกถา อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์
12.02.2552 ปาฐกถา เรื่อง ชาตินิยม ของ ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์
11.04.2557 ชาตินิยมสองกระแส โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์.
27.05.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ ถามปรองดองทำไม ?
01.08.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ประชาธิปไตยนิยาม
17.12.2556 มวลมหาประชาชน โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
25.08.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : งานศพผิดวัดครั้งใหม่ (1)
04.06.2014 นิธิ เอียวศรีวงศ์: ประชาธิปไตยแบบตู่
10 -16.08.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐนาฏกรรมอีกที
02.06.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐนาฏกรรม
01.07.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อำนาจที่ไร้ฝัน
04.02.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ทุจริตเชิงนโยบาย
03.11.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ถึงคุณสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ด้วยความนับถือ
22.09.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อวสานของนักวิชาการ
17.06.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : สังคมอณู
11.11.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ประชาธิปไตยแบบไทย
004. หนังสือ จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ จาก The Turning Point ของ ฟริตจ๊อฟ คาปร้า
003. เดอะเฟเดอรัลลิสต์เปเปอร์ : เอกสารความคิดทางการเมืองอเมริกัน
002. Das Kapital หรือ Capital "ว่าด้วยทุน" ของ คาร์ลมาร์กซ์ แปลโดย เมธี เอี่ยมวรา
001. หนังสือ ประวัติศาสตร์จีน เขียน/เรียบเรียงโดย ทวีป วรดิลก พิมพ์ครั้งแรก : กรกฏาคม 2538
000. จงทำลายศัตรูของท่านด้วยการทำให้เขาเป็นมิตร
04.01.2559 อีกเมื่อไร (2) นิธิ เอียวศรีวงศ์
อีกเมื่อไร (2) นิธิ เอียวศรีวงศ์
อีกเมื่อไร (2)
นิธิ เอียวศรีวงศ์
Cr. matichononline
ความชอบธรรมอีกอย่างหนึ่งที่เผด็จการสฤษดิ์ใช้เพื่อผดุงระบอบทหารของตนก็คือ การสร้างความเป็นไทย
ความเป็นไทยถูกชนชั้นนำในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นิยามขึ้น เพื่อกีดกันคนที่ตนไม่ไว้วางใจให้เข้าไม่ถึงอำนาจทางการเมือง การปฏิวัติ 2475 ทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งสามารถเข้ามาช่วงชิงการนิยามความเป็นไทย แต่ก็เพื่อกีดกันคนที่ตนไม่ไว้วางใจให้เข้าไม่ถึงอำนาจทางการเมืองเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจในนิยามใหม่ของนักปฏิวัติเหล่านี้ก็คือ ความเป็นไทยไม่เป็นอริกับความทันสมัยทางการเมืองและสังคม แม้แต่นักปฏิวัติที่โน้มเอียงไปทางเผด็จการเบ็ดเสร็จเช่นจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ส่งเสริมความเสมอภาคเท่าเทียมของพลเมือง เขาส่งเสริมภาษาไทยที่แสดงความห่างทางช่วงชั้นน้อยลง เครื่องแต่งกายที่เขาส่งเสริม คือเครื่องแต่งกายไทยที่เหมาะกับคนทุกชั้น ไม่ว่าจะเป็นหญิงชาววังอย่างแม่พลอย หรือยายเมี้ยน แม่ค้าปากปลาร้าในตลาด
จะพูดว่าความเป็นไทยของนักปฏิวัติ 2475 มีนัยยะเป็นอริกับความเป็นไทยของระบอบเก่าอยู่อย่างสำคัญก็ได้
และความเป็นไทยอย่างนี้แหละที่สฤษดิ์โฆษณาว่าเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะระบอบประชาธิปไตยที่เผด็จการทหารเห็นว่า ไม่ไทย ที่สุด ระบอบของเขานิยามความเป็นไทยให้กลับไปใกล้เคียงกับนิยามของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นั่นคือยืนยันอำนาจทางวัฒนธรรมตามประเพณี นับตั้งแต่พระมหากษัตริย์, ผู้ใหญ่ ทั้งหลายซึ่งมีผู้ปกครองอยู่สูงสุด ไล่ลงมาจนถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้สูงวัย
และด้วยเหตุดังนั้น ความสัมพันธ์เชิงช่วงชั้นจึงเป็นความสัมพันธ์ในอุดมคติของความเป็นไทย (ที่เรียกว่ามารยาทไทย คือกิริยาวาจาที่เคารพสถานภาพของช่วงชั้นอย่างเคร่งครัด) โดยมีพระมหากษัตริย์อยู่จุดสุดยอดของพีระมิด เรียงลำดับลงมาจนถึงฐานล่าง ประเพณีการหมอบคลานถูกฟื้นฟูกลับมาใหม่ ไม่ใช่กิริยามารยาทต่อพระมหากษัตริย์แต่อย่างเดียว หากรวม ผู้ใหญ่ ทั้งหมดด้วย เพราะเป็นภาษากายที่แสดงการยอมรับช่วงชั้นของความเป็นไทยได้ชัดเจนที่สุด
ความสำเร็จของสฤษดิ์ในด้านนี้มีสูงมาก ความเป็นไทยตามนิยามของระบอบเก่าดูเหมือนจะช่วงชิงนิยามอื่นๆ ไปได้หมด แม้แต่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหลังจากนั้น ก็ไม่กล้าท้าทายนิยามความเป็นไทยของระบอบเก่าเช่นนี้อีกเลย แต่ความสำเร็จของสฤษดิ์เกิดขึ้นในช่วงที่สังคมไทยยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากระบอบเก่ามากนัก ส่วนใหญ่ของประชากรยังอยู่ในภาคเกษตร ซ้ำเป็นเกษตรเลี้ยงตนเองเป็นหลัก (คือทำไว้กินก่อนขาย) นโยบายพัฒนาของสฤษดิ์เริ่มเปลี่ยนสังคมไทยในอัตราที่เร่งขึ้นทุกขณะ แต่ก็เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ระบบการผลิตในทางเศรษฐกิจเท่านั้น ในขณะที่รัฐบาลเผด็จการพยายามควบคุมให้ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจไม่กระทบต่อมิติอื่นๆ เลย ความมุ่งหมายเช่นนี้ไม่ประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516
ตกมาถึง 2557 ความเป็นไทยตามนิยามเช่นนี้ คือเน้นความสัมพันธ์เชิงช่วงชั้น (ดังค่านิยม 12 ประการ) จะเหลือความหมายอะไรในสังคมไทย ที่ได้ประสบความเปลี่ยนแปลงทั้งกว้างและลึกในครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา สถาบันอาญาสิทธิ์ตามประเพณีถูกตั้งคำถามไปหมด ไม่ใช่เพราะลูกสมัยนี้ไม่กตัญญูรู้คุณบิดามารดา แต่ต่างฝ่ายต่างมีจินตนาการถึงความมั่นคงในชีวิตคนละชุดกันโดยสิ้นเชิง ลูกจึงไม่อยากเรียนสิ่งที่พ่อแม่อยากให้เรียน ไม่อยากทำงานอย่างที่พ่อแม่อยากให้ทำ ไม่อยากแต่งงานกับคู่ที่พ่อแม่คิดว่าเหมาะสม อยากและไม่อยากขัดกันอีกมากตลอดชีวิต ความเคารพเชื่อฟังพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในสังคมไทยสมัยปัจจุบันต้องมีความหมายใหม่ที่แตกต่างจากความเป็นไทยแบบเดิมเสียแล้ว
ผมจึงไม่คิดว่าอุดมการณ์ความเป็นไทยที่ คสช.รับต่อมาจากเผด็จการทหารในอดีต จะสร้างความชอบธรรมให้แก่ คสช.ได้เท่ากับสฤษดิ์ หรือแม้แต่ธานินทร์, เปรม หรือสุจินดา ด้วยซ้ำ แม้แต่ผู้นำ กปปส.ยังต้องเปลี่ยนนามสกุล ความเป็นไทยแบบสฤษดิ์หรือค่านิยม 12 ประการ จะมีนัยสำคัญอะไรแก่คนรุ่นปัจจุบัน
นายทุนไทยในต้นพุทธศตวรรษที่ 26 ได้รับความพอใจจากสฤษดิ์ไม่ยากนัก พวกเขาผลักดันการเปิดเสรีด้านการลงทุนในหมู่พวกเขามาก่อนการยึดอำนาจของสฤษดิ์แล้ว พวกเขาไม่รังเกียจที่จะแบ่งผลกำไรให้แก่นายทหารและตำรวจซึ่งให้ความคุ้มครองแก่ธุรกิจของเขา ในช่วงนั้นนายทุนไทยยังเล็ก ทั้งสินทรัพย์ที่เป็นทุนของเขาและเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับสังคม
ดังนั้นนโยบายพัฒนาของสฤษดิ์ซึ่งเปิดเสรีการลงทุน ร่วมทุนกับต่างชาติ และขายบริการให้ความคุ้มครองไปพร้อมกัน จึงทำความพอใจแก่นายทุนไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่ใน 2557 ทุนไทยได้พัฒนาไปมากแล้ว มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นพนักงานหรือคู่ค้าของตน สิ่งที่นายทุนต้องการจากนโยบายของรัฐมีความหลากหลาย และหลายกรณีก็ขัดแย้งกันเอง เพราะผลประโยชน์ของทุนมิได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างที่เคยเสียแล้ว คณะรัฐประหารจะหาความนิยมจากกลุ่มทุนไม่ได้ง่ายอย่างสมัยสฤษดิ์ เราจึงไม่ได้เห็นความพร้อมเพรียงของกลุ่มทุนในการลุกขึ้นมาสนับสนุน คสช.
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ความสงบเรียบร้อยที่คสช.นำมาให้ ไม่เป็นแรงจูงใจให้พวกเขาหันมาลงทุนอย่างคึกคัก เพื่อดึงเศรษฐกิจที่ชะงักงันให้ขยับขับเคลื่อนบ้าง เศรษฐกิจไทยผูกติดกับเศรษฐกิจโลกเสียจนกระทั่ง บรรยากาศภายในประเทศเพียงอย่างเดียวไม่เป็นปัจจัยให้นายทุนขยายการลงทุนของตนเอง
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ความสงบเรียบร้อยที่ คสช.สถาปนาขึ้นก็เปราะบางอย่างเห็นได้ชัด มาตรการเข้มงวดและเฉียบขาดที่หัวหน้า คสช.ใช้ในการปราบและปรามผู้กระด้างกระเดื่อง ไม่บังเกิดผล เพราะการต่อต้านรัฐประหารของคนชั้นกลางก็ยังดำเนินต่อไป คึกคักขึ้นเรื่อยๆ เสียด้วย ในที่สุดจะนำไปสู่อะไรก็ไม่มีใครคาดเดาได้ แต่ไม่ใช่ความสงบเรียบร้อยอย่างแน่นอน เปรียบเทียบสมัยสฤษดิ์แล้วห่างกันไกล แต่ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะสฤษดิ์ใช้การปราบปรามอย่างเด็ดขาดเหี้ยมโหดกว่า คสช. แต่เพราะหัวหอกการต่อต้านสฤษดิ์คือเครือข่ายของศัตรูสฤษดิ์เอง ได้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ และเครือข่ายของเผ่า ศรียานนท์ แต่กลุ่มคนที่เป็นปัญหาแก่ คสช.ในครั้งนี้ไม่ใช่เสื้อแดง เป็นคนที่ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างทักษิณและชนชั้นนำ เป็นคนชั้นกลางที่มีการศึกษาระดับหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ต่อต้าน คสช.เพราะเป็นศัตรูทางการเมือง แต่เพราะไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร เหตุการณ์ละม้ายกับความเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาวชนชั้นกลางตั้งแต่ทศวรรษ 2510 เป็นต้นมา ก็ลองคิดดูว่าหากสฤษดิ์ยึดอำนาจใน 2501 ได้แล้ว ก็ต้องมาเผชิญกับความเคลื่อนไหวแบบหลัง 2510 เป็นต้นมาทันที สฤษดิ์จะครองอำนาจได้ยั่งยืนอย่างนั้นหรือ
ใน 2501 เมืองไทยยังไม่มี นักวิชาการ อีกทั้งจำนวนเทคโนแครตในระบบราชการก็ยังน้อย สฤษดิ์เปิดพื้นที่ให้คนกลุ่มนี้กว้างกว่าคนกลุ่มอื่น ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ถึงกับรวบรวมสมัครพรรคพวกออกมาต่อต้านระบอบสฤษดิ์ บางครั้งก็ดึงนักวิชาการเข้าสู่ระบบราชการฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะในหน่วยงานที่ตั้งขึ้นใหม่ ทำให้คนเหล่านี้ได้สัมผัสอำนาจและงบประมาณจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมาก่อน และกลายเป็นพันธมิตรของเผด็จการทหารสืบต่อมาอีกนาน
ในเวลาเพียงปีสองปี สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็สร้างพันธมิตรรายล้อมระบอบของตนจากคนหลายจำพวกภายในประเทศ ในส่วนต่างประเทศ สฤษดิ์เป็นสมุนชั้นดีของสหรัฐซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในค่ายที่เรียกกันว่าเสรีประชาธิปไตยในสงครามเย็น ดังนั้นจึงทำให้ไทยได้ประเทศในค่ายนี้ไว้เป็นพันธมิตรทั้งหมด ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศมากขึ้น
และที่สำคัญคือ ในระยะยาวเงินลงทุนก็ตามมาร่วมทุนกับนายทุนไทย ซึ่งต้องการทั้งเงินทุนและเทคโนโลยีจากตะวันตก โดยเฉพาะเมื่อสฤษดิ์สามารถพิสูจน์ได้ว่า ระบอบเผด็จการทหารของตนนำมาซึ่งเสถียรภาพทางการเมืองได้อย่างมั่นคงแน่นอน
ใน 2557 เมืองไทยเต็มไปด้วยนักวิชาการและเทคโนแครต ในแง่หนึ่งก็นับว่าง่ายแก่คณะรัฐประหารในการสร้างพันธมิตรกับนักวิชาการ อย่างน้อยส่วนหนึ่งของนักวิชาการก็เข้าร่วมกับ คสช.มาแต่ต้นแต่ในอีกแง่หนึ่ง นักวิชาการใน พ.ศ.นี้ไม่มีบารมีเหมือนในต้นทศวรรษ 2500 แล้ว การมีนักวิชาการจำนวนหนึ่งสนับสนุนการรัฐประหาร จึงไม่ได้ทำให้ คสช.มีความชอบธรรมมากขึ้นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับสฤษดิ์ คสช.ไม่สามารถควบคุมพื้นที่สาธารณะซึ่งนักวิชาการฝ่ายที่ต่อต้านการรัฐประหารแย่งชิงมาได้ เพราะการสื่อสารออนไลน์เปิดพื้นที่สาธารณะให้กว้างขวางขึ้น จนรัฐไม่อาจตามไปคุมได้หมด ในขณะเดียวกันสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศก็เปลี่ยนไปแล้ว คสช.จึงไม่ประสบความสำเร็จในการรักษาและเพิ่มพูนพันธมิตรของตนทั้งในและต่างประเทศได้เหมือนสฤษดิ์ แม้ไม่มีพรรคการเมืองที่ต่อสู้กับ คสช.ด้วยกำลังอาวุธอย่าง พคท. แต่ทุกคนก็มองออกว่าประเทศไทยภายใต้ คสช.ขาเสถียรภาพทางการเมืองอย่างยิ่ง ความเป็นมิตรกับ คสช. จึงไม่ใช่ความจำเป็นเร่งด่วนแต่อย่างใด รอดูอนาคตไปก่อนก็ได้
สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือในการคุมอำนาจเหมือนกัน แต่ความกลัวนั้นเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง ซึ่งหากใช้อย่างพร่ำเพรื่อและสืบเนื่องยาวนาน ผู้คนก็จะเคยชินกับความกลัวจนความรู้สึกกลัวหายไป สฤษดิ์จึงใช้เครื่องมือทำให้เกิดความกลัวอย่างจำกัด ใช้เมื่อตนจะได้รับความสนับสนุนอย่างแน่นอน เช่น ประหารชีวิตผู้วางเพลิงซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้คนมานาน ส่วนผู้วางเพลิงจะเป็นผู้วางเพลิงจริงหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ ผู้คนยอมรับมาตรการจนไม่สนใจกระบวนการ หากจำเป็นต้องใช้ความกลัวที่ไม่แน่ใจว่าจะได้รับการยอมรับจากสังคม สฤษดิ์เลือกมาตรการจำกัด คือกระทำโดยไม่แพร่งพรายให้รู้กว้างขวาง แต่รู้กันอยู่ในพื้นที่เท่านั้น
ทั้งหมดนี้แตกต่างจากที่ คสช.ใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือในการคุมอำนาจ เพราะ คสช.ใช้พร่ำเพรื่อ ใช้บ่อย ใช้มานาน จนผู้คนเคยชินกับความรู้สึกกลัวจนเฉยๆ กันไป สักวันหนึ่งจะมีคน ก้าวพ้นความกลัว เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ สถานการณ์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศบังคับให้ คสช.ไม่อาจยกระดับความกลัวให้รุนแรง สะเทือนขวัญได้มากไปกว่านี้อีกมากนัก จะมีเครื่องมืออะไรในการกำราบให้กลัวเหลืออยู่อีกแก่ คสช.
โดยไม่ได้รู้สึกชื่นชมยกย่องสฤษดิ์ ธนะรัชต์แต่อย่างใด ผมต้องยอมรับว่าสฤษดิ์สามารถสร้างรัฐที่เข้มแข็งขึ้นมาได้ ความเปลี่ยนแปลงในหลายต่อหลายด้านที่รัฐทหารของสฤษดิ์นำมาสู่ประเทศไทย เกิดขึ้นไม่ได้หากมีรัฐที่อ่อนแอ หลังรัฐประหาร 2490 อำนาจรัฐแตกออกเป็นหลายขั้ว จนกระทั่งตลอดหนึ่งทศวรรษต่อมารัฐไทยภายใต้จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นรัฐที่อ่อนแอ นำความเปลี่ยนแปลงจริงจังอะไรมาสู่ประเทศไม่ได้ ลองเปรียบเทียบกับประเทศไทยภายใต้รัฐบาลจอมพลคนเดียวกันนี้ระหว่าง 2481-2487 เราจะชอบหรือไม่ชอบจอมพล ป.ก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้ท่ามกลางข้อจำกัดของการเมืองระหว่างประเทศ (สงครามมหาเอเชียบูรพา) จอมพล ป.ได้นำความเปลี่ยนแปลงที่กว้างใหญ่ไพศาลมาสู่ประเทศไทย แต่นั่นไม่ใช่จอมพล ป.คนเดียวที่กลับมาดำรงตำแหน่งนายกฯอีกครั้งหนึ่งหลังรัฐประหาร 2490
10 ปีของการเป็นรัฐอ่อนแอ ทำให้สฤษดิ์ ธนะรัชต์ได้รับการต้อนรับจากผู้คนอย่างกว้างขวาง อย่างน้อยไทยกลับมาเป็นรัฐเข้มแข็งที่สามารถทำโน่นทำนี่ (ซึ่งบางครั้งเราไม่ชอบ) ได้อีกครั้ง
รัฐเข้มแข็งไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตยและไม่จำเป็นต้องเป็นเผด็จการ แต่เป็นรัฐที่ริเริ่มทำสิ่งโน้นสิ่งนี้ได้จริง (แม้อาจมีเสียงก่นด่ากันให้ขรมก็ตาม) ทักษิณ ชินวัตร ทำอะไรถูกหรือผิดก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือผู้นำไทยอีกคนหนึ่งที่ทำให้รัฐไทยเข้มแข็งขึ้น หลังจากตกอยู่ในสภาพอ่อนแอสืบเนื่องมาหลายรัฐบาล ต้องไม่ลืมว่าผลอย่างหนึ่งของรัฐเข้มแข็งคือ อำนาจที่กระจัดกระจายของรัฐถูกทำให้อ่อนลง เพราะถูกผนวกเข้ามาไว้กับรัฐมากขึ้น ผู้นำที่ทำให้รัฐเข้มแข็งจึงมีแนวโน้มจะเพาะศัตรูกับคนที่เคยถือส่วนแบ่งของอำนาจรัฐมาก่อน สฤษดิ์เลือกสร้างพันธมิตรกับอำนาจเดิมหรือกลุ่มที่มีศักยภาพจะมีอำนาจ ในขณะที่ทักษิณเลือกสร้างพันธมิตรกับกลุ่มที่ไม่เคยมีอำนาจมาก่อนเลย เพราะไปเชื่อว่าคะแนนเสียงคืออำนาจ แต่คะแนนเสียงไม่เคยเป็นอำนาจในสังคมไทย
คสช.ประกาศตนเป็นศัตรูกับคนที่เคยสร้างรัฐเข้มแข็ง แปลว่า คสช.ต้องการสร้างพันธมิตรกับกลุ่มอำนาจเดิม ซึ่งพอใจจะให้อำนาจรัฐกระจัดกระจาย แบ่งกันถือส่วนต่างๆ ที่มักไม่ค่อยประสานเข้าหากัน สฤษดิ์สถาปนาตนเองขึ้นเป็นศูนย์กลางของอำนาจกระจัดกระจายนี้ได้สำเร็จ บังคับควบคุมให้เกิดการประสานกันจนทำงานบรรลุภารกิจที่สฤษดิ์มอบหมายได้ คสช.สถาปนาตนเองขึ้นเป็นศูนย์กลางของอำนาจรัฐที่กระจัดกระจายได้หรือไม่
ผมคิดว่าคำตอบดูได้ที่หน่วยต่างๆ ซึ่งแบ่งกันถืออำนาจรัฐนั้น ประสานกันได้ลงตัวดีหรือไม่ ดูใน ครม., ในกองทัพ, ในการทำงานของกระทรวงทบวงกรม, ในสื่อ, ในมหาวิทยาลัย, ในวงการตุลาการ, ในองค์กรมหาชนด้านสาธารณสุข, ในกลุ่มเอนจีโอซึ่งสนับสนุนการรัฐประหารมาแต่ต้น ฯลฯ ไม่มีเนื้อที่สำหรับยกความไม่ประสานกันขององค์กรเหล่านี้ และทุกท่านก็ทราบข่าวความไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว
ผมจึงสรุปได้ว่า คสช.ไม่อาจทำให้อำนาจรัฐที่กระจัดกระจายกันอยู่ประสานกันได้ลงตัว และด้วยเหตุดังนั้น รัฐภายใต้ คสช.จึงไม่ใช่รัฐที่เข้มแข็ง เกือบไม่ต่างอะไรจากรัฐไทยภายใต้พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งในสมัยคุณชวน หลีกภัย และคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
(ยังมีต่อ)
Create Date : 25 มกราคม 2559
Last Update : 25 มกราคม 2559 18:48:02 น.
0 comments
Counter : 515 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [
?
]
ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
Opey
hellojaae
tuk-tuk@korat
อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที
ขามเรียง
แฟนEOD
me-o
เจียวต้าย
SevenDaffodils
วายุอัคคี
Webmaster - BlogGang
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
CSRi สถาบันธุรกิจเพื่อสังคม
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.