|
|||
มหัศจรรย์ขุนเขาอวตาร จางเจี่ยเจี้ย 5 วัน วันที่ 21-25 ตุลาคม 58 มหัศจรรย์ขุนเขาอวตาร จางเจี่ยเจี้ย 5 วัน วันที่ 21-25 ตุลาคม 58 วันแรก เดินทางโดย Air asia ไกด์นัด ตี 4.30เครื่องออก 7.35 น. ณ สนามบินดอนเมืองที่เพิ่มความเข้มงวดมาก มีความล่าช้า checkin และ ตม. ขาออก ต้องเผื่อเวลามาก ใช้บริการของ Meetaweetour ราคา 19,900 บาท ไกด์ประจำ Trip คุณมาโนชมืออาชีพมาก ๆ ส่วนไกด์ท้องถิ่น ยอดแย่ ถึงสนาม บินเมืองฉางซาก็หม่ำอาหารกลางวันอันดับแรก เดินทาง 3-4ชั่วโมงไป เมืองจางเจียเจี้ย อาหารทุกมื้อ ประมาณนี้ เกือบ 10อย่าง ผัดผัก ปลา เป็ด ไก่ แกงจืดข้าวโพด(อร่อยดี) ที่ขาดไม่ได้ไข่เจียว รสชาติออกเค็ม และก็มันมาก หลังอาหารเย็นมาดูโชว์อลังการหวานหยด THELOVE STORY OF A WOODENMAN AND A FAIRY FOX ฟังเพลงรักไพเราะเพราะจับใจ นักแสดงกว่า 500ชีวิต โลดแล่นอยู่บนเวทีกลางแจ้งแบบอลังการตระการตามีฉากหลังเป็นภูเขาทอดยาวแบบพาโนราม่า ทึ่ง อึ้ง กับเทคนิคการเปลี่ยนร่างเป็น มนุษย์ของนางจิ้งจอกขาว ซาบซึ้งตรึงดวงใจในความรักของนางจิ้งจอกขาวสาวสวยและชายหนุ่มตัดฟืนอุปสรรค์ต่อสู้เพื่อความรักจนท้ายที่สุดก็สมหวังในความรักและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจบแบบHAPPY DENING
วันที่สอง พิชิต เขาเทียนเหมินซาน หรือเขาประตูสวรรค์ มาต่อคิว ขึ้นกระเช้ามีความยาวถึง 7.5 กิโลเมตรใช้เวลาเพียง40 นาที แต่กว่าจะได้ขึ้นกระเช้าคิวยาวมาก แล้วต้องกันไม่ให้ใครมาแซงคิวด้วย รอคิวประมาณ 45นาที มาเที่ยวรอบนี้ 5-6-7ตลอด ไม่งั้นต้องเสียเวลาต่อคิวนาน อุทธยานอากาศเย็น ประมาณ 17 องศา จากที่เช็คอากาศมาจากเมืองไทย30 องศา ดังนั้นอย่าชะล่าใจเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วยค่ะและที่ เขาเทียนเหมินซาน ขึ้นไปดูประตูสวรรค์ อากาศน่าจะประมาณ 10-12องศา ถ้าเจอฝนก็น่าจะหนาวขึ้นไปอีก แค่นั่งกระเช้า ดูวิวแล้วชื่นใจ สวยงามอลังการ
ภาพวิวงาม ๆ ฝีมือ ตากล้องนุชคนสวย
ภาพถนน ที่ขากลับเราต้องนั่งรถกลับ 99โค้ง ดูแล้วคงจะเมารถแน่เลยเรา แต่พอนั่งจริง ๆ แล้ว ชิว ชิว เนื่องจากทางโค้งถนนกว้าง ไม่ได้เหมือนแม่ฮ่องสอนที่โค้งหักศอก เห็นใบไม้เปลี่ยนสีด้วยถึงจะนิดหน่อยก็ยังดี ได้บรรยากาศ ลงจากกระเช้าก็เดินไปทดสอบความกล้ากัน สะพานลอยพื้นกระจกใสจางเจียเจี้ย ที่สร้างอยู่บนหน้าผาสูงชัน จุดนี้ได้ชื่อว่าเป็นจุดที่หวาดเสียวที่สุดจุดหนึ่งบนเขาเทียนเหมินซานจางเจียเจี้ย ค่าเช่าถุงเท้า 5 หยวน สาว ๆ แก๊งนี้ กลัวที่ไหน ไปดู โพรงประตูสวรรค์ โดยบันไดเลื่อนที่สร้างขึ้นโดยการเจาะทะลุภูเขามีความสูงถึง 7 ขั้น ซึ่งนับเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุดของเทียนเหมินซานเพิ่งเปิด ซึ่งหาดูได้ยากตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆทั่วโลก สรุปว่าเวียนหัวเพราะมัวแต่ถ่ายรูป และเม้ามอย เยอะไปหน่อย
ออกจากลิฟท์ก็มาถึงด้านบนเลย เดินอ้อมเขานิดหน่อยเห็นวิวงาม ๆ
บันได 999 ขั้น ถ่ายจากด้านบน ขาก็ลงใช้บันไดเลื่อน เพื่อไปถ่ายรูปด้านล่างกัน แต่ถ้าใครอยากลองเดินลงก็ได้ดูแล้วก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ แต่พวกเราต้อง ประหยัดพลังงานไว้เที่ยววันต่อไปก็ใช้บันไดเลื่อน 555เขาเทียนเหมินซาน หรือเขาประตูสวรรค์ อยู่ห่างจากเขตเมืองจางเจียเจี้ยเพียง6 กิโลเมตรอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,518.6 เมตรเป็นภูเขาลือชื่อแห่งแรกของจางเจียเจี้ยที่ได้บันทึกไว้ในจดหมายเหตุประวัติศาสตร์ของเมืองจางเจียเจี้ยเนื่องจากมีหน้าผาสูงชัน มีช่องโพรงทรงวงรีลักษณะคล้ายประตูอยู่บนยอดเขา จนได้ชื่อว่าเทียนเหมิน(ประตูสวรรค์)จางเจียเจี้ยมีทัศนียภาพแปลกและงดงามอย่างมหัศจรรย์และพบเห็นได้น้อยมากในโลกปัจจุบัน
บันได999 ขั้น จากด้านล่าง ดูแล้วชิว ชิว อากาศเย็น บันไดกว้าง ขึ้นบันไดเลื่อน 7 ขั้นกว่าจะถึง ก็เวียนหัวเหมือนกัน วิวงาม ๆ ขากลับไม่ได้นั่งกระเช้ากลับรถของอุทยานจางเจียเจี้ยโดยคนขับผู้ชำนาญทางเป็นพิเศษขับรถผ่านเส้นทาง 99 โค้ง ที่บรรยายได้คำเดียวว่าทั้งสวยและทั้งเสียวเพื่อลงมาสู่ลานจอดรถใหญ่บริเวณต้นทาง พิพิธภัณฑ์ภาพหินทราย “จวินเซิงฮว่าเยี่ยน” ภายในพิพิธภัณฑ์ได้และจัดแสดงผลงานที่มีคุณค่าทางศิลปะของศิลปินแห่งชาตินามว่า ลี่จวินเซิง ซึ่งผลงานของเขาทุกชิ้นเป็นภาพเขียนด้วยมือที่ใช้หินทราย และสีธรรมชาติที่สกัดจากเปลือกไม้ ใบไม้เป็นวัตถุดิบในการเขียน หมอดูแม่นๆ ค่ะ คนละ 5 หยวน วันที่สาม ภูเขาจักรพรรดิ หรือ เขาเทียนจื่อซาน ไปทิวทัศน์ที่ถ่ายทำ อวตาร กัน
ลิฟท์แก้วไป่หลง เป็นลิฟท์แก้วแห่งแรกขอเอเชียที่ตั้งอยู่ที่จางเจียเจี้ยมีความสูง 326 เมตร ขณะโดยสารในลิฟท์แก้ว ท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับยอดเขาฮาลีลูย่ามีความสูงถึง 1,250 เมตร เข้าอุทยานต้องใช้ Passport ด้วยค่ะ คนเยอะแต่ต่อคิวขึ้นลิฟท์ไม่นาน แล้วลิฟท์แก้วขึ้นใช้เวลาแป๊ปเดียวจริง ๆ ป้ายนี้ก็ต้องแย่งชิงกว่าจะได้รูปสวย ๆ
เข้าคิวเพื่อขึ้นรถบัสของอุทยานเพื่อไปชมวิวอวตาร คนล้านเจ็ด แถมยังต้องเกาะเพื่อน ๆ ไว้แน่น ๆ ไม่งั้นโดนแซงคิว
พวกเราร่วมแรงร่วมใจไทยแลนด์ วิ่ง ๆ พยายามขึ้นรถบัสคันเดียวกันให้ได้ทั้ง 33 ชีวิต สนุกมากมีเกาหลี หลุดขึ้นมา มองแบบ งง ว่าตูขึ้นผิดคันหรือเปล่า 555 มีแต่คนแน่นไปหมด วิว อวตาร ในฝัน หมดกัน เดินไปตามทางเรื่อย ๆ จะมีจุดชมวิว ให้ไปถ่ายรูปเป็นระยะๆ
สะพานเหล็กข้ามไปอีกฝั่งนึงและจุดชมวิว ที่สวยที่สุด
คนเยอะมากและโดนเบียด ก็หลงกับเพื่อน ๆ ก็ตรงสะพานนี่แหละ แต่ไม่เป็นไร เดินไปตามทางเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอกัน
เลยแวะพักกินไอติม รอเพื่อน ที่นี่ซะเลย ได้เวลาไกด์นัดแล้วพวกเราเลยรีบ เลี้ยวขวาไปทางออก ไม่ได้เดินเลยไปอีกหน่อย เลยพลาดที่จะไปดูสะพานหนึ่งในใต้หล้า
สะพานเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว หรือว่าสะพานหนึ่งในใต้หล้าบ้างก็แปลว่าสะพานใต้ฟ้าอันดับ1 สะพานหนึ่งในใต้หล้านี่อยู่ภายในอุทยานเอี๋ยนเจียเจี้ยมีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องบนสะพานจะมีลูกกุญแจอยู่เต็มไปหมดเป็นความเชื่อของคนหนุ่มคนสาวที่ว่าหากคู่ไหนเอากุญแจไปคล้องไว้ที่สูงๆจะได้ไม่มีใครสามารถพรากคู่รักให้จากกันได้บางคนก็ทิ้งสู่หุบเหวเบื้องล่างก็ให้ความหมายเดียวกันว่าเราจะไม่พรากจากกันตราบชั่วนิรันดร์โฉมหน้าสะพานเป็นสะพานหินเชื่อมระหว่างเขา 2 ลูกซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และเป็นจุดชมวิวที่สวยมากอีกที่หนึ่งทีเดียว ลำธารแส้ม้าทอง(จินเปียนซี) จางเจียเจี้ย ซึ่งเป็นลำธารที่ไหลวนตามช่องเขาและชะง่อนผาในระยะทาง 5,700 เมตร น้ำในลำธารมีสีเขียวใสปราศจากมลพิษสองฟากฝั่งจะมีหินแปลกประหลาดตั้งตะหง่านเรียงรายกันอยู่เป็นจำนวนมาก เช่นหินแม่อุ้มลูก,หินแส้ม้าทอง ฯลฯเสมือนหนึ่งกำลังท่องเที่ยวอยู่ในวิมานแห่งเทพนิยาย รูปนี้สวยมาก จากฝืมือตากล้องนุช กล้องเค้าดีจริง เห็นป้ายเป็นไม่ได้ขอถ่ายเป็นที่ระลึกซะหน่อย อ่านไม่ออกสักกะอัน
เจ่เจ้ แกจะเอาป้ายกลับบ้าน สงสัยถ้าเข็นได้ พุงคงยุบเลย รักนะ จุ๊บ จุ๊บ
ปาเป้าค่าคนละ 5 หยวน เจ้จะเป็นของรางวัลเอง ไปส่งถึงบ้านค่ะ มาต่อคิวนั่งรถราง ชมภาพเขียนสิบลี้ คนเกาหลีแซงคิวเก่งมากเผลอแป๊บเดียว โดนแซงไปเกือบสิบคน
หุบเขาภาพเขียน10 ลี้ จางเจียเจี้ยนำท่านนั่งรถไฟรางเล็กที่แล่นไปตามแนวร่องเขาเพื่อให้ท่านชมและถ่ายภาพของทัศนียภาพของหุบเขาภาพเขียน 10 ลี้ แทนการเดินชมที่มาของชื่อภาพเขียนสิบลี้นี้ เนื่องจากทัศนียภาพบริเวณนี้งดงามราวภาพเขียนที่ทอดยาวนับสิบลี้จุดชมวิวนี้อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของซั่วเซี่ยวี่เป็นหุบเขาแคบที่มีทัศนียภาพงดงามแห่งหนึ่ง มียอดเขาหินที่ดูแปลกพิสดารและหินยักษ์ที่มีรูปร่างลักษณะต่างๆ มากกว่า 200 ลูก เช่นภูเขาห้านิ้ว, ชายชราหาสมุนไพร, นกยูงรำแพน,พยัคฆ์คำราม ให้ท่านได้จินตนาการตามคำร่ำลือ ชื่นชมความงาม ถ้าไม่นั่งรถรางก็เดินตามทางนี้ค่ะ
พยายามจินตนาการตามที่ไกด์คุณมาโนช บรรยาย แต่บางอันก็ไม่ getเลย แต่อากาศดีมาก แค่นี้ก็คุ้มแล้ว มาถึงสุดทางรถรางก็มาซื้อของฝาก ข้าวพอง เหมาจนไม่พอขายต้องไปส่งถึง
ไกด์เสนอให้พวกเราทำเวลาในการเที่ยวเพื่อเที่ยวที่อุทธยานให้จบภายในวันเดียว ปกติ ชมภาพเขียนสิบลี้ ต้องมาอีกวันนึงก็ต้องมาต่อคิวใหม่ เสียเวลามาก Tripนี้ เพื่อน ๆ ร่วม Trip น่ารักมาก ทำภารกิจสำเร็จ เหนื่อยแต่สนุกมาก มาเที่ยวถนนคนเดินนั่ง taxi จากโรงแรม 10หยวน ต้อง Taxi เก่า ๆ ถึงยอม ปกติ 15 หยวน ให้ไกด์ เขียนภาษาจีนให้ แล้วขากลับก็ส่งนามบัตรโรงแรมให้ Taxi ต้องนำpassport ไปด้วยเจ้าหน้าที่ถึงให้เข้าถนนคนเดินได้ ทุกอย่างสิบหยวน ร้านนี้เราไม่พลาด ได้ ไม้ selfie มาเล่นละ ถ้าของคุณภาพดีหน่อย ราคาก็มากกว่า 10 หยวน วันที่สี่เดินทางกลับเมืองฉางซาใช้เวลา 3 ชั่วโมง แวะเที่ยวเมืองฉางเต๋อ ล่องเรือชมทะเลสาบต้นหลิวประมาณ 20 นาที เกาะแห่งนี้ มีนิยายรักอมตะเรื่องดังของจีนนั่นก็คือ นางพญาจิ้งจอกขาวโดยเป็นเรื่องราวความรักระหว่างคนหาฟืนชื่อนายหลิวไห่กับนางพญาจิ้งจอกขาวที่ได้มาพบรักกันบนเกาะแห่งนี้ ซึ่งทั้งคู่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานาจนท้ายที่สุดสวรรค์ก็เห็นใจในความรักของทั้งสองคนจนทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันและมีลูกด้วยกันสองคน... Amazing ห้องน้ำแสนสะอาดของเมืองฉางเต๋อ ที่สนามบินยังสู้ไม่ได้เลย
สำหรับTrip จางเจี่ยเจี้ยห้องน้ำสภาพดี แต่กลิ่นและความสะอาด สุดๆ ถนนคนเดินหวงซิงลู่ แหล่งรวมสินค้าหลากหลายใจกลางเมืองฉางซามีสินค้าหลากหลาย สินค้าแบรนด์เนมของจีนมากมาย
ไกด์ซื้อเต้าหู้เหม็น ให้แบ่ง ๆ กันชิม ร้อนๆ อร่อยแบบมีกลิ่นนิด ๆ
ไกด์แนะนำไส้กรอก รสชาติเหมือน กุนเชียง กับไส้กรอก ร้อน ๆ อร่อยดี
วันที่ห้า เดินทางกลับ พักโรงแรมแถวสนามบินไม่ต้องรีบ ตอนเช้าก็เดินเล่น shopping แถวโรงแรม มีsupermarket แล้วร้านขาย |
Meanangtatalim
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] บันทึกการเดินทางจาก ตะลอนทัวร์ไปเรื่อย Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |