คิดแล้วรวยบทที่สามตอนที่2
คิดแล้วรวยบทที่สามตอนที่สอง ศรัทธาเป็นภาระจิตซึ่งอาจจะชักจูงโดยความเห็นชอบของตัวเอง จากดึกดำบรรพ์เป็นต้นมานักศาสนาทั้งหลายเตือนมนุษยชาติซึ่งต่างดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดให้ มีศรัทธาในหลักเกณฑ์ที่ไม่มีข้อพิสูจน์ หรือหลักความเชื่ออย่างนี้อย่างนั้น แต่เขาเหล่านี้มิได้บอกว่า ทำอย่างไร จึงจะมีศรัทธา ต่างไม่ได้อธิบายว่า ศรัทธาเป็นภาวะจิตซึ่งอาจจะชักจูงให้เกิดได้โดยความเห็นชอบของตัวเอง ข้าพเจ้าขอกล่าวด้วยถ้อยคำง่ายๆซึ่งคนพื้นๆ ก็สามารถเข้าใจได้เกี่ยวกับความรู้ทุกประการในเรื่องหลักการเพาะศรัทธาขึ้นสำหรับผู้ที่ยังไม่มีเลย จงมีศรัทธาในตัวท่านเองศรัทธาในอำนาจเร้นลับเบื้องบน ก่อนเราจะเริ่มต้นขอเตือนท่านอีกครั้งหนึ่งว่า ศรัทธาเป็น ยาวิเศษชั่วกัลปาวสาน โดยให้ความมีชีวิต ชีวา อำนาจ และการกระทำแก่แรงกระตุ้นแห่งความคิด ประโยคที่กล่าวมาแล้วนี้มีคุณค่าที่จะอ่านครั้งที่สอง สาม สี่ มันมีคุณค่าที่จะอ่านดังๆ อีกด้วย ศรัทธาเป็นจุดเริ่มต้น แห่งการสร้างความร่ำรวย ทุกชนิด ศรัทธาเป็นรากฐานของ ความมหัศจรรย์ ทุกชนิดและความลึกลับทุกอย่างซึ่งกฏทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ ศรัทธาเป็นยาขนานเดียว เท่านั้นที่รู้กันดีว่า สำหรับรักษาโรคความล้มเหลว ศรัทธาเป็นธาตุอย่างหนึ่ง เป็น เคมี ซึ่งเมือผสมกับคำสวดวิงวอนทำให้มีการติดต่อโดยตรงกับอำนาจเร้นลับเบื้องบน ศรัทธาเป็นธาตุอย่างหนึ่ง ซึ่งเปลี่ยนรูปความสั่นสะเทือนปกติธรรมดาของความคิดสร้างขึ้นโดยเฉพาะด้วยจิตใจของมนุษย์ ให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางอารมณ์ ศรัทธาเป็นสื่อแต่อย่างเดียวเท่านั้นที่สามารถนำเอาพลังมหาศาลแห่งอำนาจเร้นลับเบื้องบนมาให้มนุษย์ควบคุมและใช้ประโยชน์ ความอัศจรรย์แห่งความเห็นชอบของตนเอง พิสูจน์ไม่ยากเลยและแสดงให้เห็นง่ายมาก ทั้งนี้อยู่ในหลักการความเห็นชอบของตัวเองเราจงเพ่งความสนใจในเรื่อง ความเห็นชอบของตนเอง กันดีกว่า แล้วค้นหาว่ามันคืออะไร และมันสามารถช่วยให้บรรลุสิ่งใดบ้าง นี่ข้อเท็จจริงที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่า เมื่อคนเราพูดซ้ำๆถ้อยคำใดก็ตามแก่ตัวเองลงท้ายเราก็เชื่อว่า มันเป็นความจริง แม้ว่า ถ้อยคำนั้นจะจริงหรือโกหกถ้าชายคนหนึ่ง กล่าวคำเท็จครั้งแล้วครั้งเล่า ในทีสุ่ด เขาจะเชื่อว่ามันเป็นความจริง มนุษย์ทุกคน เป็นตัวของเขาเอง เพราะเขายอมให้ความคิดมาครอบงำจิตใจว่าเขาอยู่ในฐานะอะไร ความคิดซึ่งคนเราจงใจให้สิงสู่อยู่ในจิตใจของตัวเขาเองและสนับสนุนโดยความเห็นดีเห็นชอบของเขา และผสมกับอารมณ์อย่างหนึ่งหรือมากกว่าทำให้เกิดแรงผลักดันซึ่งบัญชาและควบคุมการเคลื่อนไหว และการกระทำทุกอย่างของเขา ต่อไปนี้เป็นความจริงที่สำคัญอย่างยิ่ง ความคิดซึ่งผสมกับความรู้สึกแห่งอารมณ์ใดๆก็ตามจะสร้างพลัง แม่เหล็ก อย่างหนึ่งขึ้น ซึ่งดึงดูดความคิดอื่นๆที่คล้ายคลึงหรือเกี่ยวข้องกัน นั่นก็คือความคิดซึ่งผสมกับอารมณ์ จะเปลี่ยนเป็นแม่เหล็กมีกำลังดึงดูดทั้งนี้เปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์ เมื่อเอามาเพาะในดินปุ๋ยอุดม มันจะงอก เติบโตและมีเมล็ดงอกกว่าที่ใช้ปลูกหลายเท่าทวีคูณ ในที่สุด เมล็ดเล็กๆ เพียงเมล็ดเดียวกลายเป็นจำนวนนับล้านๆ ตลอดเวลาจิตใจมนุษย์ดึงดูดความสั่นสะเทือน ซึ่งสมัครสมานกับสิ่งครอบงำในจิตใจ ความคิดไอเดีย แผนการ หรือจุดประสงค์ใดก็ตามที่เรายึดเอาไว้ในจิตใจดึงดูดกับสิ่งที่เกี่ยวดองกับมันอีกมากมาย เพิ่ม สิ่งเกี่ยวดอง เหล่านี้ แก่พลังของมัน และงอกงานตราบจนมันกลายเป็นผู้ทรงอำนาจหรือเป็นนายสั่งให้สิ่งเกี่ยวดองแต่ละอย่างที่อาศัยอยู่ในจิตใจเคลื่อนไหวตามที่มันต้องการ เรากลับมายังจุดเริ่มต้นกันดีกว่าคราวนี้จะอธิบายให้รู้ว่า เมล็ดพันธ์เดิมแห่งไอเดีย แผน หรือจุดประสงค์ อาจจะปลูกในจิตใจได้อย่างไรการอธิบายให้เข้าใจ ทำได้อย่างง่ายๆ ความคิดไอเดีย หรือจุดประสงค์ใดๆ ก็ตาม อาจจะใส่ในจิตใจได้ โดยอาศัยคิดซ้ำๆ นี่คือเหตุผลทีว่าทำไม่ข้าพเจ้าจึงขอร้องให้ท่านเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับจุดประสงค์สำคัญของท่านหรือจุดหมายใหญ่อันแน่นอน แล้วท่องจนจำได้ และกล่าวซ้ำด้วยคำพูดดังๆวันแล้ววันเล่า ตราบจนความสั่นสะเทือนของเสียงไปถึงจิตนอกสำนึกของท่าน จงตกลงใจขว้างทิ้งเครื่องจูงใจในทางที่ทำให้ท่านตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมแห่งโชคร้ายเสียให้หมดและสร้างชีวิตของท่านให้มีระเบียบ จงทำรายการทรัพย์สิน และลูกหนี้ทางจิตใจท่านจะพบว่า ความอ่อนแอยิ่งใหญ่ที่สุดของท่านก็คือ ขาดความเชื่อมันในตัวเองความบกพร่องนี้สามารถทำลายได้ และเปลี่ยนความขี้ขลาดเป็นความกล้าหาญทั้งนี้โดยอาศัยความช่วยเหลือของหลักการ ความเห็นชอบของตนเอง การปฏิบัติตามหลักการนี้ทำได้ง่ายๆโดยการใช้แรงกระตุ้นแห่ง ความคิดในทางก่อ โดยเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ท่องจดจำได้และกล่าวซ้ำๆ ตราบจนมันกลายเป็นอุปกรณ์การปฏิบัติงานแห่งจิตนอกสำนึกของท่าน สูตรสำหรับเกิดความเชื่อมั่นในตนเอง หนึ่ง: ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้ามีความาสามารถที่จะบรรลุต่อสิ่งที่ข้าพเจ้าวางจุดประสงค์ของชีวิตไว้อย่างแน่วแน่ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าขอเรียกร้อง ตัวเองที่จะมุ่งมั่น ที่จะปฏิบัติต่อเนื่องจนได้รับความสำเร็จ และในที่นี้ และบัดนี้ ข้าพเจ้า ขอสัญญาว่าจะกระทำดังกล่าว สอง: ข้าพเจ้าตระหนักดีว่าความคิดที่ครอบงำ จิตใจข้าพเจ้า จะผลดอกออกผลของมันในภายหลังเป็นการกระทำนอกร่างกาย และแปรตัวของมันทีละน้อย เป็นรูปร่างที่แท้จริงเพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจะสำรวม ความคิดของข้าพเจ้า เป็นเวลาสามสิบนาทีทุกวันโดยจะตั้งหน้าบากบั่นคิดถึงบุคคลที่ข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็น ด้วยวิธีนี้เป็นการสร้างภาพอย่างแจ่มกระจ่างขึ้นในจิตใจของข้าพเจ้า สาม: ข้าพเจ้าเรียนรู้จากหลักการความเห็นชอบของตัวเองว่า ความปรารถนาทุกอย่างที่ข้าพเจ้ามุ่งมั่นยึดเอาไว้ ในจิตใจของข้าพเจ้าจะค่อยๆแสดงออกมา ทางวิธีการได้ผล เพื่อสนับสนุนให้บรรลุจุดประสงค์ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจะสละเวลาสิบนาทีทุกวัน เรียกร้องตัวข้าพเจ้าให้เพาะ ความเชื่อมั่นในตนเอง สี่ : ข้าพเจ้าได้เขียนรายละเอียดอย่างแจ่มแจ้งเกี่ยวกับ เป้าหมายใหญ่อันแน่วแน่ในชีวิตข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะไม่เลิกความพยายามจนกว่า ข้าพเจ้าได้เพาะความเชื่อมันในตอนเอง มากพอสำหรับบรรลุความสำเร็จของเป้าหมายนั้น ห้า: ข้าพเจ้าตระหนักเต็มที่ว่า ความรำรวย หรือตำแหน่งหน้าที่ จะไม่ดำรงอยู่ยืนนาน เว้นแต่สร้างขึ้นด้วย สัจจะและความยุติธรรม เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้า จะไม่ทำธุรกิจการงานที่ไม่ได้นำประโยชน์การงานสู่ทุกคน ที่มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ด้วยข้าพเจ้าบรรลุความสำเร็จด้วยการกระทำตัวให้พิสมัย ในพลังจิตซึ่งข้าพเจ้าประสงค์จะนำมาใช้และความร่วมมือ ของบุคคลอื่น ข้าพเจ้าจะชักจูงผู้อื่นให้มารับใช้ข้าพเจ้าเนื่องจากข้าพเจ้า เต็มใจที่จะรับใช้ผู้อื่น ข้าพเจ้าจะกำจัดความเกลียดชังความอิจฉา ความริษยา ความเห็นแก่ตัว และการเยอะเย้ยถากถางด้วยการเพาะความรักแก่มวลมนุษย์ เพราะข้าพเจ้ารู้ดีว่าการแสดงท่าทีในทางร้ายแก่ผู้อื่น จะไม่นำความสำเร็จมาให้ข้าพเจ้าจะทำให้ผู้อื่นมีศรัทธาในตัวข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้ามีศัทธาในตัวผู้อื่นและในตัวข้าพเจ้าเองข้าพเจ้าจะเซ็นต์ชื่อรับรองสูตรนี้ ท่องจำไว้ตลอด และกล่าวซ้ำๆดังๆวันละสองครั้งด้วยศรัทธาเต็มเปี่ยมซึ่งทีละน้อยที่ละน้อยจะมีอิทธิพลเหนือความคิดและการกระทำของข้าพเจ้า ทั้งนี้เพื่อข้าพเจ้าจะได้กลายเป็น บุคคลที่ไว้วางใจตนเองและได้รับความสำเร็จ เบื้องหลังสูตรนี้มีกฏธรรมชาติ ซึ่งไม่มีใครสามารถอธิบายถูกต้อง ชื่อที่เรียกกฏนี้มีความสำคัญเพียงเล็กน้อย ข้อเท็จที่สำคัญในเรื่องนี้คือ มันเกิดผล เพื่อความรุ่งโรจน์และความสำเร็จของมนุษย์ถ้าใช้มันในทางก่อ โดยตรงกันข้าม ถ้าใช้มันทางทำลาย มันพร้อมที่จะทำลายในข้อความนี้ ท่านจะพบความจริง ที่มีความสำคัญยิ่งประการหนึ่ง กล่าวคือผู้ที่ตกต่ำ เพระความพ่ายแพ้ และลงท้ายดำรงชีวิตอยู่ด้วยความแร้นแค้น ทุกข์ยากและเดือดร้อน ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากละเลย ที่จะใช้หลักการความเห็นชอบของตนเอง สาเหตุจะพบในข้อเท็จจริงที่ว่า แรงกระตุ้นทุกอย่างแห่งความคิดชอบโน้มเอียงที่จะแต่งตัวของมัน ให้กลายเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา
Create Date : 16 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2557 5:53:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1446 Pageviews. |
|
|
|