This is a cat
 
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
16 ธันวาคม 2553

เที่ยวขำๆ มาเก๊า - ฮ่องกง ภาคจบ



จากมาเก๊าถึงฮ่องกง

 

เมื่อนั่งรถเมล์สาย 3A จากหน้าโรงแรม รถเข้ามาจอดถึงในท่าเรือเฟอร์รี่เลย ทีแรกห่วงกลัวลงไม่ถูก เพราะรู้แค่ว่านั่งรถสายนี้ แต่ไม่รู้ลงตรงไหน ไปอ่านรีวิวทริปของคนอื่นเค้าก็บอกว่าพอถึงแล้วจะเห็น เราก็เลยใจเย็นนั่งไปเรื่อยๆ แต่ก็ได้ถามคนที่อยู่บนรถไว้บ้างแล้ว เค้าก็บอกว่าอีกกี่ bus stop จะถึง จำได้ว่าเลยเจ้าแม่กวนอิมมาสักสามสี่ป้ารถนะคะ ไม่ต้องห่วงว่าจะหลง จะเลย เพราะมันจะเป็นท่าเรือใหญ่มาก พอเห็นจะทราบทันที

 

มาถึงท่าเรือ จัดการวิ่งหาซื้อตั๋วที่จะข้ามไปเกาะฮ่องกงชื่อว่า Turbo jet  ใครอยากจองล่วงหน้าไปดูรายละเอียดที่นี่นะคะ //www.turbojet.com.hk/eng/ticketing/index.html แต่การจองล่วงหน้าเราว่าไม่จำเป็นถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล หรือถ้าเป็นช่วงเทศกาลก็ควรไปถึงท่าเรือและเผื่อเวลาคนเยอะไว้มากหน่อย ช่วงที่เราไปไม่ใช่ช่วงเทศกาลเผื่อเวลาที่ท่าเรือไว้ 1 ชั่วโมง และเดินทางข้ามไปอีก 1 ชั่วโมง รวมเป็นสองชั่วโมงค่ะ เวลาได้ตั๋วมาแล้ว ถ้ามาด้วยกันก็รวมตั๋วของทุกคนแล้วให้คนแรกยื่นไปให้ทีเดียว เค้าจะได้รันที่นั่งให้ติดๆ กันค่ะ

 


 

ฝนตกพรำๆ ที่ท่าเรือเฟอร์รี่ บนเรือเฟอร์รี่ ข้ามไปฮ่องกง ฝนตกตลอดทางมองไม่เห็นอะไรเลย

 

พอเราถึงท่าเรือฝั่งฮ่องกงก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าเข้าไปยังที่พักได้ ส่วนมากคนที่มาฮ่องกงจะเลือกที่พักใกล้รถไฟฟ้าอยู่แล้ว ก็ดูว่าที่พักที่จองไว้อยู่ใกล้สถานีอะไร รถไฟฟ้าที่นี่ไปมาสะดวก ยิ่งซื้อแพ็คเกจไม่จำกัดเที่ยวด้วยแล้ว นั่งกันเพลินทีเดียว ส่วนเราจองที่พักไว้ย่าน จิมซาจุ่ย ก็ดูทางรางรถแล้วไปลงจิมซาจุ่ย จากนั้นค่อยไปหาที่พักอีกที

สำหรับแพ็คเกจตั๋วรถไฟฟ้าบางคนจะซื้อบัตรแล้วใส่เงินไปต่อเที่ยวหากเป็นคนที่เดินทางไม่มาก แต่สำหรับเราเราซื้อแบบไม่จำกัดเที่ยว สามวันและมี Airportexpress ให้ 1 เที่ยวไว้สำหรับขากลับ ซึ่งเราใช้จนคุ้มค่ามาก

 

มาครั้งแรก จองเกสเฮาส์ชื่อ Taisan ไว้ค่ะ ดูรีวิวแล้วชอบตรงที่มีคอมให้ด้วย ที่พักก็สะอาด เจ้าของก็ตอบอิเมล์กลับค่อนข้างรวดเร็ว ไปดูรีวิวที่พักอย่างละเอียด >> ที่นี่นะคะ

 





 

เกสเฮาส์ ดูประตูห้องน้ำ ใส่ซะ

 






แสงกำลังดีในห้องพัก แต่นางแบบแก้มย้อยจังเรา เฮ้อ

 

เอาของเก็บเรียบร้อยออกมาหาอะไรหม่ำ แล้วก็ไปเดินช้อปิ้งย่านจิมซาจุ่ย
ได้น้ำหอมของตัวเองและเอามาฝากคุณแฟนหลายขวดทีเดียว

 






อาหารมื้อแรกที่ฮ่องกง เกี๊ยวใหญ่มาก อร่อย แต่เป็ดแก่หนังเหนียว

 






หน้าร้านของหวาน


 







ไข่กะทุเรียน แพงแต่อร่อยดี 20 เหรียญ

 





 

จบวันแรกด้วยการไม่ได้ออกไปท่องราตรีดูสีสันยามค่ำคืนเลย อย่างเซ็ง แต่ก็คิดในใจว่าเก็บแรงไว้ไปขึ้นอองปิงกับดิสนีย์แลนด์พรุ่งนี้แล้วกัน

 

ตื่นมาตอนเช้าฝนตกพร่ำๆ อีก วันนี้เลยไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งรถไฟเล่นและแยกย้ายกันช้อปปิ้งตามอะธยาศัย เราเห็นรถรางก็อยากขึ้น แต่รองเท้าเจ้ากรรมทำพิษ เกินพังขึ้นมาเดือดร้อนต้องซื้อรองเท้าใหม่ อย่างเซ็งเลยทีเดียววันนั้น ช้อปไม่ค่อยได้อะไรของตัวเองเท่าไหร่ ได้แต่ของที่คนอื่นฝากซื้อ

 

จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นคราวนี้ตื่นมาฝนตกอีกแล้ว แต่ก็ตั้งใจว่ายังไงชั้นก็จะขึ้นไปอองปิงให้ได้ แล้วคนที่ฮ่องกงนี่เค้าก็ดูไม่ค่อยกลัวฝนกันเลย เค้าจะใช้ชีวิตตามปกติ มีรองเท้าบู้ทกันน้ำกับร่มติดมือกันทุกคน เลยรู้สึกว่าคนไทยนี่ขี้สำออยจังเนอะ ฝนตก รถติดก็ไม่เอาแล้ว ไม่อยากไปไหน ประเทศเรานี่สบายกันจนเคย ไร้ระเบียบวินัยด้วย อย่างเวลาขึ้นบรรไดเลื่อน บ้านเราจะยืนกันเกะกะ คือถ้าคุณรีบ คุณไม่มีสิทธิแซงคนเวลาขึ้นบบรไดเลื่อนเลย ผิดกับคนสิงคโปร์ กับฮ่องกง คือเวลายืนเค้าจะยืนชิดไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อเว้นช่องไว้ให้คนที่รีบเดินไปอีกทาง แล้วการใช้บรรไดเลื่อนอย่างที่เมืองไทย ถ้าใครเดินบนบรรไดเลื่อนบางทีจะมีสายตาหันมามองยังกับตัวประหลาด ตั้งๆ ที่จริงๆ มีบรรไดเลื่อนมันช่วยให้เราเดินไปเร็วขึ้น แล้วก็ไม่มีกฏห้ามเดินเวลาใช้บรรไดเลื่อนสักหน่อย

 

บ่น บ่น บ่น อีกแล้ว อิอิ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ มาดูรูปดีกว่าค่ะ

 






เปลี่ยนไปนั่งรถสายที่จะไปอองปิง






วิวจากเคเบิ้ล






ลมแรงมาก ตอนมันสวิง เสียวดี ชอบ ฮ่าๆ






บนเคเบิ้ล สวยไปอีกแบบ (คนนะ ฮ่าๆ)






อองปิง






ดีใจมาถึงซะที






 


มาท่องยุทธจักรคราวนี้ มีเซเว่นในหมู่บ้านด้วย ฮ่าๆ

 






อาหมวยน้อยส่งยิ้มให้เราอยู่นั่นอ่ะ เลยถ่ายไว้ซะเลย






มีเลนของยัยแพนด้าหลินปิงด้วยอ่า






พระใหญ่






พระใหญ่ หมอกลง มองไม่เห็นข้างบนเลย








หายเข้าไปในสายมอก โรแมนติกมาก

 

เดินเล่นตะลุยฝนที่อองปิงประมาณสองชั่วโมงก็ลงมาหาอะไรกินที่ศูนย์อาหารในห้าง City gate ไหนๆ มาต่างบ้านต่างเมืองทั้งที ก็ต้องกินอาหารอะไรที่มันแปลกๆ หน่อย แต่ขอบอกรถชาติไม่ได้เรื่อง 5555+


เมนูชื่อว่าอะไรก็ไม่รู้เป็นอาหารโปรตุเกต กะอาหารเวียดนาม

พอหม่ำเสร็จก็ไปช้อปปิ้งต่อเพราะฝนลงอีกคงไม่ได้ไปดิสนีย์แหงมๆ เอาเงินไปช้อปปิ้งดีฟ่า


ทริปนี้ไม่ค่อยได้ไปในที่ๆ อยากไปเท่าไหร่เพราะติดฝน ครั้นจะหิ้วกล้องตะลุยฝนอีกก็ใช่ที เดี๋ยวกล้องจะพัง แล้วฮ่องกงก็อยู่แค่นี้คิดว่าไว้ค่อยมาใหม่ทีหลังก็ยังได้


ตื่นมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้นมีเวลาแค่ไปหาโจ๊กอร่อยๆ กิน ขนาดเป็นร้านที่เค้าว่ากันว่าอร่อยแล้ว เรากินก็รู้สึกเฉยๆ นะ แต่ปาท่องโก๋อะ โดน รสชาติอร่อยมาก และตัวใหญ่มากกกก





โจ๊กฮ่องกงของแท้ ปาท่องโก๋อร่อยมาก แต่โจ๊กงั้นๆ อ่ะ

กลับมาเอากระเป๋าถ่ายรูปภายนอกห้องสักเล้กน้อย ก่อนกลับ






เกสเฮาส์ที่พัก

 

การเดินทางไปสนามบินขากลับก็นั่ง shuttle bus ไปต่อ Airport express ค่ะ พอไปถึงที่สนามบินแล้ว เช็คอินแล้วอย่าลืมถามเจ้าหน้าที่นะคะว่าเอาบัตรรถไฟฟ้าไปคืนตรงไหน จะได้เงินคินมา 50 เหรียญ + เงินในบัตรที่เหลืออยู่ ค่ะ ของเราไม่ได้ใช้บัตรเติมเงินเพิ่มก็เลยได้คืนมาแค่ 50 เหรียญเ เน็ตๆ ค่ะ




รถยอดนิยม






บนรถไฟไปสนามบิน ด้วยAirport express




รอขึ้นเครื่องกลับ ณ สนามบินฮ่องกง

 

จบทริปฮ่องกงค่ะ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหน่ที่ฮ่องกง ส่วนมากจะเป็นช้อปปิ้ง แล้วก็เดินดูของ
สำหรับเราชอบการช้อปปิ้งที่สิงคโปร์มากกว่ามากกก ค่ะ




 

Create Date : 16 ธันวาคม 2553
0 comments
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2554 1:06:41 น.
Counter : 1879 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สไปเดอร์แมว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




It seems easy for someone to get the cats photography but if you seriously touch them, you will find that they never act just the way you want at all the things that you can do is watching silently behind the lens and waiting for the right moment which if they are in a good mood, you may get a nice shot to decorate your gallery and I proudly present my Gangster
[Add สไปเดอร์แมว's blog to your web]