Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

รักเองช้ำเอง

วันนั้นเข้าไปที่ออฟฟิค พยายามหลีกเลี่ยง  ไม่อยากเจอ (ทั้งที่แท้จริงแล้วอยากเจอ อยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง) พยายามหลีกเลี่ยงทุกอย่างไม่เข้าไปไหว้ทักทาย มันเริ่มอาการแบบนี้เมื่อไหร่นะ  จำไม่ได้ว่าอาการไม่อยากเจอ  อึดอัดเวลาเจอหน้า ไม่รู้มันเริ่มเมื่อไหร่ อาจจะเพราะว่ารู้ว่าเรากับเขามันเป็นไปไม่ได้ เจอไปก็ไร้ประโยชน์ โอเคนะ เจอแล้วมีความสุข แต่ความเจ็บปวดมันมากกว่า มากจนเหนื่อยแล้วที่จะทน  จำไม่ได้ว่ามันเริ่มยังไง แต่วันนั้นวันแรก


วันที่หนึ่ง  เจ้โทรมาบอกให้เราเข้าออฟฟิคไปประชุมตอนเย็น  และมีพี่อีกคนเขาอยากคุยงานกับเราให้เราเข้าไปคุยกับพี่อีกคนนั้น  เย็นเลิกงานประจำก็เข้าไปที่ออฟฟิค งานparttime เราเข้าไปถึงเจ้มีประชุมอยู่ เขาคนนั้นแหละที่เป็นคนประชุม ก็เขาเป็นหัวหน้าใหญ่นี่  เราก็เลยเข้าไปคุยกับพี่อีกคน ที่อยากคุยเรื่องงาน  พอคุยเสร็จก็ขึ้นไปรอประชุมที่ห้องประชุม ตอนนี้ไม่เกิดอาการงี่เง่าที่ไม่อยากเจอหรอกนะ  ปกติ  จนกระทั้งนั่งกินกาแฟอยู่กับเลขาพี่อีกคนอยู่  อยู่ก็ได้ยินเสียงเขาคนนั้นคุยกับใครไม่รู้อยู่ข้างหลังเรา กึ้ย.. ทำไงดีวะ  คิดในใจ แต่แล้วน้องเลขาฯ ก็ถามเราว่า


"พี่ ใช่เขาคนนั้นหรือเปล่า" น้องเลขาเพิ่มมาใหม่ไม่รู้จักเขาคนนั้น  เราก็คิดว่าใช่นะ แต่  หันไปมองดูหน่อยเพื่อความมั่นใจ  เอี่ยวตัวไปมองเห็นแต่ช่วงคางลงมา  เฮ้ย! ไช่นี่หว่า รู้สึกเขาจะเห็นแล้วว่าเป็นเรา 


"เออ ใช่" 


"ถ้างั้นพี่ไหว้ก่อนนะ " อ่าว ไอ้นี่แก่หันหน้าไปทางเขาแก่ก็ไหว้เขาก่อนสิฉันหันหลังให้เขาอยู่นะ  ก็ทำตัวงี่เง่าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเขา  แล้ว  แล้วเขาก็เดินเข้ามา  "ตึก ตึก ตึก" เสียงหัวใจเต็น  แล้วเขาก็เดินผ่านไป 


และตอนเข้าประชุมเขาคนนั้นอีกนั่นแหละเป็นวิทยากรผู้ดำเนินรายการ และด้วยความงี่เง่าของเราอีกแหละคิดเข้าข้างตัวเองว่าขณะที่เขาพูดอยู่นั้นเขามองเราอยู่  พอประชุมเสร็จออกจากห้องประชุม เจอพี่ที่เป็นหลานเขาเราก็ไหว้


"อ้าว พี่สวัสดีคะ" 


"สวัสดีจ๊ะ"


ทำหน้าเครียดเดินออกมาเลยไม่มองใคร มองหาเจ้ไม่เจอก็เลยโทรศัพท์หา  ขณะที่โทรและเดินไปลิฟ์ม เจอเขาคนนั้นกำลังคุยกับใครไม่รู้ (อีกคน) อยู่เขาก็หันมามองเราแบบว่า  สายตาแบบว่า  ทำไม ทำไมมันไม่ทักเราวะ (ตำหนิ)  มั้ง  เราก็ทำตัวงี่เง่าเดินผ่านมาเลยคิดหาเหตุผลที่ว่าเขาติดคุยอยู่ไม่ควรเข้าไปขัดจังหวะเขา (ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนจะยังไงก็ยิ้มสวย และไหว้สวัสดีคะ  ก็จะได้ยินเสียง  "สวัสดีจ๊ะ..."  และยกมือรับไหว้เรา) พร้อมกับสายตาที่ดูเหมือนจะสงสัยเราตลอดเวลา (ไม่รู้ว่าคิดเข้าข้างตัวเองเปล่า  ก็เขาบอกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ)


มาหยุดรอลิฟ์มอยู่ ขณะเดียวกันก็โทรหาเจ้ใหญ่เลย  'ไม' ไม่รับสักทีวะ '  ลิฟ์มเปิดคนก็แห่เข้าไปเยอะแล้วเราก็ยืนโทรฯ (เหมือนเดิม  พยายามตั้งสติอยู่กับการโทรศัพท์ ไม่รู้ทำใม) และแล้วคราวนี้หนีไม่ได้  งี่เง่าก็ไม่ได้ก็เขาคนนั้นดันเดินเข้าลิฟ์มมา  มายืนข้างเราด้วย แฮะ แฮะ


"สวัสดีคะ"  ยกมือไหว้ แต่ไม่มองหน้า มองแค่อกเขาเท่านั้น


"อื่อ หวัดดีจ๊ะ"  รับไหว้ แล้วก็มองดูเราอยู่ และเดินมายืนอยู่ข้างเรา  เราก็ยังโทรฯ อยู่


เฮ่อ ! ทำไมไม่รับนะ เงยหน้าขึ้น อ่าว ! เจ้ เข้ามาเมื่อไหร่ยืนอยู่หน้าเราเลย


"อ่าวเจ้ เรากำลังโทรหาเจ้อยู่เลย"


"อ่าว นี่เราไม่เห็นเจ้เหรอ  เจ้ก็งงอยู่เจ้ยืนอยุ่กับพี่หลานเขาคนนั้น แต่เราไม่ทักเจ้เลย"


"อ้อ เหรอ  หึ หึ ไม่เห็นเลย" ยิ้มแหย ๆ 


เฮ้อ  มันจะเห็นได้ไง้ ก็ดันไม่เงยหน้ามองใครทั้งนั้นเพราะกลัวสบตากับเขาคนนั้น  ก้มหน้าก้มตาอย่างเดียว  จะไปมองเห็นใครได้ละ  นี่แหละความงี่เง้าของเราSmiley






Free TextEditor




 

Create Date : 26 มีนาคม 2552
0 comments
Last Update : 26 มีนาคม 2552 13:26:50 น.
Counter : 488 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กลางเขา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add กลางเขา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.