รักเร่...รักแรกแรกรัก นึกรักรักลึกผนึกใจ รักเล่นรักร่อนระเรื่อยไป รักเจ็บรักแสบแปลบหทัย รักไฉน...

 

รักเร่ รักแรก แรกรัก  นึกรัก รักลึก ผนึกใจ

รักเล่น รักร่อน ระเรื่อยไป  รักเจ็บ รักแสบ แปลบหทัย

รัก..ไฉน รักเร่ เร่ร้างรัก...

นวนิยายเรื่องแรกของคุณโสภาค  สุวรรณ ที่ตัวเองอ่านแล้วไม่ต้องจดจำอะไรมาก เนื้อหา องค์ประกอบของบทประพันธ์ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่ายสุดๆ ก็ว่าได้ ชอบมากอ่านสนุกดี ปกตินวนิยายของคุณโสภาค  มักจะสอดแทรกประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การเมือง ศาสนา เข้าไปด้วย แต่เรื่อง "รักเร่" จะเป็นนวนิยายรักที่โรแมนติกมาก และมีเกร็ดความรู้  สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศออสเตรียแฝงอยู่ด้วย...

เป็นเรื่องราวความรักของนักศึกษาสาขาล่ามและแปลภาษากับท่านเลขาทูตฯ  ซึ่งคุณโสภาคเคยศึกษาสาขาวิชาล่ามแปลภาษาจากมหาวิทยาลัยเวียนนา  จึงเป็นแรงบันดาลใจและจุดประกายความคิดเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา...

ดร.รามิล (กามเทพ)  รณลักษมิ์

นางสาววายูน (เทพธิดา)

และ ด.ญ. รวินท์ (ดอกบัว) หรือ...ลีล่า (ดอกไลแล็กซ์ Lilacในภาษาเยอรมัน)

วายูนมองรูปเขาในเครื่องแบบข้าราชการเต็มยศสำหรับติดหนังสือเดินทาง แนบภาพนั้นข้างใบหน้าอวบยุ้ยของลูกน้อย

"คนอะไรหน้าเหมือนกัน...แม่เกลียดจริง...ทำไมไม่เหมือนแม่บ้าง"...

วายูนนักศึกษาสาขาล่ามและแปลภาษามหาวิทยาลัยเวียนนาปีสาม (เรียนยากมากสาขานี้ประเทศไทยยังไม่มีเปิดสอน) สามารถแปลได้สามภาษา อังกฤษ เยอรมัน และสเปน (น่าทึ่งมาก) สาวน้อยผู้อ่อนต่อโลก ต่อความรัก และว้าเหว่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว มาเจอกับ "เสือผู้หญิง" ดร.รามิล ท่านเลขาทูตฯ (เลขานุการโท) จบจากฝรั่งเศส นักการทูตผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ อายุสามสิบกว่าๆ หน้าตาเข้มคมคาย (หล่อม๊าก) ดวงตาดำคมกริบ คิ้วดกหนา จมูกโด่งเป็นสัน รูปร่างสูงใหญ่เหมือนฝรั่ง ภูมิฐาน สะอาดเอี่ยม เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วตั้งแต่เส้นผมจรดปลายรองเท้า ท่านเลขาฯ พอเจอวายูนครั้งแรกถึงกับ "จับจ้อง" อย่างจงใจ "สาวน้อย" หน้าตาสวยเก๋ ดวงตาดำกลมโต จมูกโด่งแหลมปลายรั้น รูปหน้ายาว ผมยาวปล่อยสยาย ร่างสูงโปร่งบางระหงติดผอม เอวเล็กขอดกิ่ว ปรีน่องเพรียวยาว

 

 

Cr...Justin & Jenna / Pantip.com กำลังถ่ายทำอยู่...รอชมว่าจะสนุกเหมือนในบทประพันธ์ไหม...ดูดีมากภาพนี้ คุณอ๋อม อรรคพันธ์, คุณแพนเค้ก เขมนิจ และน้องเจนน่า

"ไม่รู้ว่าท่านเลขาฯ...รามิลติดใจเข้าไปได้ยังไง...หุ่นออกสูงเพรียวกระโดกกระเดกยังกับนางแบบหุ่นขี้ผึ้ง"

รามิลคิดเสียดาย ความฉลาดและความสวย ถ้าหล่อนจะตกเป็นของคนต่างชาติ ต่างความคิด ไอ้หนุ่มรัสเซียนั้น "นิโคไล โวดิอาคิน" (ไม่ชอบหน้าอยากเตะตั้งแต่เห็นครั้งแรก...ขำมาก) เขาจีบวายูนแบบวิถีทางการทูต อยากจะเอาชนะ  อยากได้  และอยากจะแย่งมาจากไอ้หนุ่มซอมซ่อคนนั้น 

รามิลพิสูจน์ทุกข้อข่าวลือที่เกี่ยวกับวายูน...วายูนไม่ใช่เด็กสาวที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับเพื่อนชายคนนั้นอย่างที่คนอื่นๆ พูดกัน เขาได้ไปเห็นบ้านพักห้องแคบๆ ใต้หลังคาที่หล่อนเช่าอยู่กับเพื่อนสาว (หล่อนอายมากไม่อยากให้เขามาเห็น) มันทำให้เขาเกิดความรู้สึก เห็นใจ สงสาร เวทนา รัก...แต่เขายังไม่ยอมรับกับตัวเอง ว่ารู้สึก "รัก...ไม่ใช่ ไม่ใช่ความรักแน่นอน" เขาคิด...หล่อนต้องอยู่อย่างประหยัดทั้งเรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่ม ใช้ห้องน้ำรวมกับคนอื่น...ลำบากลำบนขนาดนี้เทียวหรือ (เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของวายูนจะมีน้อยชุดมากที่ใหม่...ส่วนใหญ่จะเก่าไปถึงเก่ามาก...แต่รามิลไม่เคยดูถูกดูแคลนเรื่องนี้เลย...วายูนซะอีกกลับรู้สึกอาย ไม่อยากใส่ซ้ำๆ กันกลัวเขาจะจำได้...หล่อนต้องแต่งสวยตลอด เวลาไปไหนมาไหนกับท่าน...)

มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ รามิลชวนวายูนทำงานพิเศษให้กับทางสถานทูต และช่วยเป็นมัคคุเทศน์พาเขาเที่ยวชมเมืองในออสเตรีย วายูนคิดเสมอว่านี้คืองานที่ต้องทำเพราะมันทำให้หล่อนมีรายได้ แต่ความรู้สึกส่วนลึกในใจ ที่หล่อนไม่เคยรู้จักมาก่อน...มันคืออะไร วายูนมีความสุข แจ่มใส ร่าเริง (ตาเป็นประกายระยิบระยับเหมือนมีดาวสักร้อยดวง) รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยน อบอุ่น นุ่มนวล มั่นคง ปลอดภัย (เหมือนพ่อ) เมื่อมีเขาอยู่ใกล้ๆ  ร้อนวูบวาบ หวาบหวาม ซาบซ่าน เก้อกระดาก อึดอัด ใจเต้นไม่ปรกติ เมื่อเขาแตะเนื้อต้องตัวและถูกมองจากสายตาคมกริบคู่นั้น...ความรู้สึกนี้คือความรักใช่ไหม?...หล่อนรักเขาใช่ไหม? (อ่านตอนนี้จะรู้สึกว่าโลกของวายูนเป็นสีชมพู)

กับนิโคไลหล่อนไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยกิน เที่ยวเล่นด้วยกัน สามปีที่ผ่านมาไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเหมือนเงาตามตัว...ถึงแม้นิโคไลจะแสดงออกทั้งสีหน้า แววตา คำพูด กริยาท่าทาง แต่หล่อนกลับไม่รู้สึกอะไร...ไม่เหมือนตอนอยู่กับ "ท่าน..."  

รามิลผู้มีพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และหน้าที่การงาน ที่มีเกียรติ สง่างามโก้หรู ผู้หญิงทุกคนที่เขาผ่านมา และก็ผ่านไป ไม่มีใครสามารถมัดใจได้ เขาคิดว่าผู้หญิงทุกคนอยากจับเขาเป็น "สามี" ทั้งนั้นเขาถูกฝังหัวมาอย่างนี้ และต้อง "ได้ทุกอย่างที่อยากได้...รามิลอยากได้อะไรล่ะ...มีอะไรบ้างที่รามิลไม่เคยได้" 

เลยทำให้เขาไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองอย่าง "ถ่องแท้" ว่า "รักวายูน" และ วายูนก็ "รักเขา รักในตัวตนเขาไม่ใช่ หน้าตา ฐานะ หรือตำแหน่งหน้าที่การงาน"

สำหรับ "วายูน" ...หล่อนเป็นหญิงสาวที่มีวัฒธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยเต็มร้อย  ขนาดนิโคไลสนิทมากแค่ไหน  จะจับมือหรือจะโอบตามธรรมเนียมฝรั่ง ยังทำได้แค่ตามมารยาทจะมากไปกว่านั้นไม่ได้...นิโคไลรู้ตัวดี...ว่าเขารักวายูนมากแต่วายูนไว้ตัวเหลือเกิน  คิดจะหักหาญน้ำใจแต่ไม่กล้า ต้องเก็บความสึกต่างๆ ไว้ในใจ

แต่วายูนกลับใจอ่อนกับ "ท่านเลขานุการโท" จะด้วยชั้นเชิงในเกมรักที่เขาช่ำชองยิ่งนัก หรืออะไรก็แล้วแต่  วายูนยอม "เสียสาว" (ขอใช้คำนี้เพราะอ่านถึงตอนนี้มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) เพราะ "รัก" รักผู้ชายคนนี้ รักตั้งแต่แรกเห็น เป็นรักแรก รักเดียว และเขาเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตสาวของวายูน หล่อนตั้งท้องแต่รามิลกลับให้เงินไปทำแท้ง ไม่ยอมรับผิดชอบ  และจำต้องเลิกรากันไปโดยปริยาย เจ็บปวดทุกขเวทนา ทรมานใจและกายแสนสาหัส  ต้องทนอุ้มท้องและเลี้ยงลูกเอง  และต้องเรียนหนังสือปีสุดท้ายให้จบด้วย แต่มีนิโคไลเพื่อนรักแสนดีคอยช่วยเหลือทุกอย่าง...ชีวิตในต่างแดนลำบากมากแค่ไหน  หล่อนเข้าใจซาบซึ้งเลยทีเดียว...ด้วยหล่อนมีเงินเพียงน้อยนิด และไม่กล้าขอเงินจากทางบ้านเพิ่ม กลัวคุณตาและคุณอาพร้อมจิตจะทราบเรื่องและเสียใจ...

วายูนเรียนจนจบได้เกียรตินิยมดีเยี่ยมในภาษาเยอรมัน (มิต เอ๊าส ไซซนุง อับโซลเวียร์ท ในภาษาเยอรมัน) มีลูกสาวตัวน้อยอยู่ในอ้อมกอดในวันรับปริญญาและน่าภูมิใจและเป็นความโชคดีอีกอย่าง วายูนได้เข้าทำงานเป็นนักแปลและล่ามการประชุมระดับชาติของ U.N. (เขาว่าหินสุดๆ) วายูนได้ประจำอยู่ที่ New York  U.S.A. หล่อนคิดว่าตั้งแต่มี "ลีล่า" ลูกสาวตัวน้อยเกิดมา  ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตการงานมั่นคง มีกินมีใช้ไม่ขัดสนเหมือนแต่ก่อน

สามปี...ท่านเลขาทูตฯ รามิลได้รับตำแหน่งใหม่ เป็นผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ หรือ U.N. และได้มาประจำที่ New York เช่นเดียวกัน...มาเจอลูกสาวตัวน้อย ตัวอ้วนกลม ผิวขาวอมชมพู แก้มยุ้ย ผมดำหยักศกยาวเป็นหลอดกล้วย ช่างจ้อ และวายูน สาวสะพรั่งเต็มตัว สมสง่า ภูมิฐาน อีกครั้ง...

ตลอดระยะเวลาสามปี รามิลไม่เคยลืมวายูนเลย หล่อนอยู่ในความฝันและในมโนสำนึกตลอดเวลา และมันทำให้เขาหมดความสุข ความอยากในสตรีอื่น

"ผิวกายของหล่อนหอมละมุน นุ่มเนียนไปเสียทุกสัดส่วน หอมหวานไปทุกซอกทุกมุม หล่อนทำให้เขาเกิดความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ...คนแรก"

"...โธ่เอ๋ย...เด็กน้อย...เทพธิดาวายูนของเขา...ช่างหวาดผวา ระแวงระไวเช่นนี้ แต่ระยะหลังๆ ไม่เป็นแล้ว แต่ก็ยังเก้อเขินเขาอยู่มิวาย" เป็นเสน่ห์ของหล่อนที่ทำให้เขารัก

"ดิฉันรักคุณคะ" หล่อนกระซิบบอกเขาแนบอกกว้าง ประโยคนี้ยังก้องอยู่ในห้วงคำนึงเขาตลอด

มันทุกข์ทรมานใจเขายิ่งนัก หล่อนไม่เหมือนสตรีอื่นที่เขาเคย "ผ่าน"... "ไม่ตามตื้อไม่ตอแยและไม่ติดต่อ" ไม่รับเงินที่ให้ คืนของขวัญทุกชิ้นที่เขาซื้อให้ (ซื้อให้ด้วยความสิเน่หา) มันทำให้เขารู้สึกกับหล่อนแตกต่างไปจากหญิงอื่น "เขา รัก อาวรณ์ ถวิลหาหล่อน" แต่หล่อนอาจจะแต่งงานกับไอ้หนุ่มรัสเซียไปแล้วก็ได้

เมื่อเขามาเจอวายูนอีกครั้ง หล่อนก็มีหนุ่มรัสเซียผู้นั้นอยู่เคียงข้าง พร้อมลูกของเขา ซึ่งมันเป็นภาพที่บาดตาบาดจิตยิ่งนัก นั้นมัน "เมียและลูก" ของเขา

รามิลไม่เคยทราบมาก่อนว่าวายูนไม่ได้ทำแท้ง ยังเก็บลูกไว้ เพื่อเป็นเพื่อน เป็นตัวแทนของเขา ซึ่งลีล่าก็เหมือนพ่ออย่างกับโขลกออกมาจากพิมพ์เดียวกัน...ถ้าเขารู้ว่าหล่อนไม่ได้ทำแท้ง เขาจะขอรับผิดชอบ จะเลี้ยงดูหล่อน...เขายอมรับเขาผิดมาตั้งแต่ต้นจนจบ เขารู้สึกผิดมาตลอดเพราะเขารักหล่อน (หญิงอื่นรามิลคั่วสามครั้งเลิก แต่กับวายูนคั่วมาสามเดือนกว่าไม่ยอมเลิก ทำให้น้านิตยาเต้นมาจากกรุงเทพจัดการแยกรามิลไปประจำที่มอสโคว์ทันที...ยายแม่มด) เหตุนี้ทำให้...เขาไม่รู้ เขาทำผิด เขามันชั่ว โง่ เป็นไอ้เลวระยำหมา มากตอนนั้น...รามิลด่าตัวเอง

จริงๆ แล้วรามิลมี "สันดาน" ที่มีความรับผิดชอบอยู่ในตัว แต่ถูกน้านิตยา น้าสาวแก่ของตัวเอง อบรม เลี้ยงดู สั่งสอน กรอกหูทุกวัน ว่าผู้หญิงทุกคนต้องการ เงิน เกียรติยศ และเกาะยึดเขา มันทำให้เขารักเร่ รักร่อน ไปเรื่อยๆ เปะปะไม่จริงใจและลงเอยกับผู้หญิงคนไหน...

แต่ความรู้สึกที่มีต่อวายูน "เขารักตั้งแต่แรกที่ได้รู้จักกัน"...ถ้าไม่รักหล่อนคงไม่ตามง้อตามตื้อขอคืนดี และเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง...แต่คงเป็นไปไม่ได้เมื่อ...วายูนบอกว่าจะแต่งงานกับหนุ่มรัสเซียคนนั้น...เขาเพิ่งรู้...ความรู้สึก "เสียของรัก" เป็นเช่นไร เป็นเช่นนี้เอง...เจ็บปวด รวดร้าวในใจสิ้นดี

รามิลต้องการเพียง...พบลูก ให้ลูกมาเล่นและมาพักที่บ้านบ้าง...ได้ทำหน้าที่ "พ่อ" ที่ดี ถึงจะไม่ได้ทำหน้าที่ "สามี" ที่ดีก็ตาม...เมื่อหล่อนได้เลือกเส้นทางรักสายใหม่แล้ว

วายูนรับหมั้นนิโคไลเพราะหล่อนกลัวใจตัวเอง กลัวใจอ่อน อยากมีคนอื่นและไปให้พ้นๆ ไปให้ไกลจะได้ลืม ถ้าไม่เจอเขาหล่อนอาจจะลืมเขาได้แล้ว แต่ความจริงหล่อนรู้อยู่แก่ใจตัวเองดี...ว่าหล่อนไม่เคยลืมเขา อีกกี่วันกี่เดือนกี่ปี ผู้ชายที่ชื่อ "รามิล" ที่หล่อนแสนจะเกลียดชัง ไม่อยากได้ยินเสียง ไม่อยากพบหน้า ยังตามมาหลอกหลอนตลอดเวลา

"เจ็บแค้น อาวรณ์ ถวิลหา ชอกช้ำ มันคละเคล้ากันไปหมด ภาพความหลัง ความหวานชื่นของเขากับหล่อน...สัมผัสทุกตารางนิ้วในเรือนกายของหล่อน...วายูนไม่เคยลืม  แม้วันเวลานั้นจะผ่านมาแล้วกว่าสามปี  หล่อนยังรู้สึกราวกับว่าเหมือนได้สัมผัสมันเมื่อวานนี้...สัมผัสนั้นอ่อนหวาน อ่อนโยน ลึกซึ้ง"

แม้ถูกนิโคโล กอดจูบ หรือจะทำมากกว่านั้น วายูนก็ยอม (แต่นิโคไลไม่ทำ) ในฐานะคู่หมั้น หล่อนไม่รู้สึก ลึกซึ้ง อ่อนหวาน อ่อนโยน เหมือนรู้สึกกับรามิล...นิโคไลทราบดี  หล่อนรับหมั้นเขาเพราะต้องการตอบแทนพระคุณที่ล้นเหลือ ผู้ชายสุภาพบุรุษแสนดีที่สุดในชีวิตหล่อน หรืออยากจะแกล้งและแก้แค้น "พ่อของลีล่า" เขาก็รู้อยู่แก่ใจอีกเช่นกัน  เขาจะได้แต่เพียงร่างกายซึ่งไร้หัวใจรักของหล่อน  หล่อนยังรัก "พ่อของลีล่า" (เจ็บปวดใจทั้งขึ้นทั้งล่องพ่อ K.G.B...น่าสงสารจริงพ่อคุณ...ถ้าเป็นชายอื่นวายูนมีสามีคนที่สองไปนานแล้ว)

เขาต้องการหล่อนทั้งร่างกายและจิตใจ  ไม่ใช่แค่ความใคร่ความปราถนาทางธรรมชาติของร่างกายเท่านั้น...แสนดีจริง..เขาถามวายูน "คุณยังรักพ่อของลีล่าใช่ไหม?" แม้จะทราบคำตอบดีว่ามันจะทำให้เจ็บปวดใจแค่ไหน แต่ก็อยากได้ยินจากปากหล่อน หล่อนตอบ "จะลืม...และจะพยายาม..." แค่นี้...มันเป็นคำตอบที่นิโคไลสามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้แล้ว...กลับไปประเทศหลังม่านเหล็ก และอาจจะเจอใครสักคน และรักเธอผู้นั้นเท่าๆกับรักวายูน...ได้สักวัน

ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของวายูนคนเดียว ว่าหล่อนสามารถตัดใจจากรามิล และบอกว่า "ฉันรักคุณนิโคไล" ก็หมดเรื่องเรียบร้อยโรงเรียนรัสเซียไปแล้ว...แต่วายูนยังรักรามิลรัก "พ่อของลีล่า" เต็มหัวใจ รักมาก เจ็บมาก แค้นมาก

(สรุป...วายูนรักรามิลและตัดใจไม่ได้เพราะรามิลมีบุคลิกเป็นได้ทั้งพ่อและสามี (Father Figure-ผู้ชายที่แข็งแกร่งมั่นคงและนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน) วายูนต้องการผู้ชายแบบนี้มาเป็นคู่ชีวิต นิโคไลชนะใจวายูนไม่ได้ข้อนี้แหละ)

รามิลคงต้องพึ่งกามเทพตัวน้อย "ลีล่า" ช่วยให้"มุตตี้" (Mutter ในภาษาเยอรมันแปลว่าแม่ ภาษาเด็กเรียก Mutty) ใจอ่อน ให้อภัย และให้โอกาส "พ่อ" พ่ออยากมีน้องชายให้ลีล่าอีกสักคน (แต่วายูนอยากมีลูกสามคน) ซึ่งมันอาจจะต้องใช้เวลาสักพัก ที่หล่อนจะฝังความหลังอันแสนเจ็บปวดให้สิ้นซาก...เขารอได้

เขาอาจใช้ความเชี่ยวชาญด้านการทูต พูดแบบนักการทูตกับหล่อนก็ได้ ใจเย็น อดทน ค่อยเป็นค่อยไป ประนีประนอม ผ่อนปรน หลอกล่อ บ้างบางครั้ง ตามแบบเอกอัครราชทูตในอนาคต แต่คงจะใช้เวลาไม่นานนัก...สงสารลูก...

"คุณจะบอกพวกข้าราชการว่าอย่างไรคะ?"

ประโยคนี้ที่ทำให้เขาหัวเราะออกมาได้...หล่อนห่วงเขา...กลัวเขาอายและเสียภาพพจน์เสียชื่อเสียงในหน้าที่การงานหรือ...โธ่เอ๋ย..."Madam Ambassador"

SmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmiley...Timeline ในนวนิยาย...

Vienna Opera Ball Festival จัดช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคมของปีถัดไป...ช่วงนี้ท่านเลขาฯ เจอวายูนครั้งแรก และเชิญวายูนไปร่วมงานที่แสนจะหรูหรานั้น

//www.4shared.com/mp3/BF0NRE3A/Johann_Strauss_II_-_Blue_Danub.html

เชิญรับความสุนทรี ในบทเพลงบรรเลงของท่าน Johann Strauss  - Blue Danube Waltz - Grand,Romantic & Classical

//youtu.be/_CTYymbbEL4

Wachau...เมืองที่รามิลพาวายูนไปเที่ยวด้วยกัน และเป็นเมืองที่วายูนหลบไปพักตอนตั้งท้อง

 

Salzburg & Mondsee รามิลชวนวายูนไปเที่ยวด้วยกันช่วง Summer June-Aug "สามเดือนไม่คลาด พา "เด็กคนนั้น" ไปเที่ยว ไปนอนค้างคืนพรอดรักกัน เสาร์อาทิตย์ไม่มีใครเห็นหน้า" สิงหาคมวายูนตั้งท้อง และคลอด "ลีล่า" เดือนพฤษภาคมฤดูใบไม้ผลิของปีถัดไป ดอก Lilac บานเต็มกรุงเวียนนาพอดี

 

Innsbruck เมืองสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้เที่ยวด้วยกัน...คืนสุดท้ายในกระท่อมไม้ซุงแบบ Swiss Chalet กลางป่าสนเงียบสงบ และหน้าเตาผิงที่มีไฟลุกโชติช่วง...

แผนที่ประเทศออสเตรีย...

Cr. ขอบคุณ Website ภาษาต่างประเทศ การท่องเที่ยวประเทศ Austria




Create Date : 29 ตุลาคม 2556
Last Update : 24 ธันวาคม 2557 11:08:06 น.
Counter : 4752 Pageviews.

0 comments

กุหลาบภูพิงค์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]



ตุลาคม 2556

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31