เมื่ออิฉ๊านไปเป็นขี้ข้าฝรั่ง
ถ้าจะพูดถึงเรื่องเก่าๆ ก็คงมีเรื่องให้เล่าเยอะ นึกย้อนอดีตเมื่อสมัยที่ตัวเองผิวพรรณยังเต่งตึง และขาวราวกับสำลีเม็ดใน พวกหนุ่มๆรึ เป็นได้แค่ มด ปลวก ที่มาไต่ขาพาให้เราจั๊กจี้เล่น การเรียนรึ มลเป็นเด็กอรรถวิทย์บางนา งานอดิเรกชอบตบตีแถวสี่แยก นี่แหละที่เค้าว่าเด็กพานิชย์มันแร่ด สงสัยจะจริง เพราะนังมลก็เข้าข่ายนั้นเหมือนกัน การงานรึ สามเดือนเปลี่ยนที นึกเสียว่าบริษัทพวกนี้ไม่เหมาะแก่เรา เอ....แล้วความดีตรูมีอะไรบ้างหว่าตอนนี้ยังนึกไม่ออก
แถวที่มลพักอยู่ จะมีศูนย์กระจายข่าวอยู่สองที่ คือ ร้านเสริมสวย กับ ร้านก๋วยเตี๋ยวส้มตำ ถ้าอยากจะรู้เรื่องของชาวบ้าน ต้องเข้าสองร้านนี้เลยค่ะ มลก็เข้าบ่อย เพราะเรื่องของชาวบ้านคืองานของเรา อูย...ไม่ช่าย เพราะมลชอบกินส้มตำร้านนี้ เค้าตำซั่ว ได้ถูกใจคนชั่วอย่างนังมล อร่อยมาก กินไปก็ฟังเรื่องของคนอื่นไป ถ้ามลผละตรูดออกจากร้าน เค้าก็คงหันมาเมาส์เรื่องของเราแทน อันนี้ไม่ว่ากันมันเป็นวัฐจักร เรื่องมันมีอยู่ว่าขณะที่มลกำลังโซ้ยตำซั่วอยู่นั้น หูก็ไปได้ยินเขากำลังพูดถึงฝรั่งคนหนึ่ง คือ ฝรั่งคนนี้เค้าป่วยเป็นโรคมะเร็งในลำใส้ใหญ่ ต้องการหาคนดูแลด่วน ถ้าเป็นนางพยาบาลเลยยิ่งดี ฝรั่งให้เงินเดือน หนึ่งหมื่น... อูย... สมัยนั้นมากโขอยู่...อยากไป แต่ทำไงดีวะ มลไม่ได้เป็นนางบาลซะด้วย พึ่งจะมาบานตอนได้สามีนี่เอง เลียบๆเคียงๆถามแม่ค้าส้มตำ ได้ใจความว่าหลานแกเคยทำงานบ้านให้กับฝรั่งคนนี้ แต่ตอนนี้หลานแกจะลาออกไปขายหมูสะเต๊ะ เมื่อก่อนเคยทำงานบ้านให้แบบเช้าไปเย็นกลับ ตอนนี้ฝรั่งป่วยต้องการให้พักอยู่บ้านเค้าเลย หลานของแกเลยจะลาออก แกบอกถ้านู๋สนใจเดี๋ยวโทรถามให้ ตอนเย็นแม่ค้าตำซั่วมาบอกว่า.....เตรียมตัวเลยนู๋เดี๋ยวพรุ่งนี้หลานป้าจะมารับไปพัทยา..... โอทำไมมันเร็วอย่างนี้นะ แม่ก็เฝ้าถามคิดดีแล้วรึ จะไปดูแลคนป่วย เอ็งจะไปทำให้คนป่วยตายเร็วซิไม่ว่า เอาเถอะแม่ลองดูถ้าไม่ไหวก็ลาออก และแล้วมลก็เดินทางไปพัทยา ฝรั่งคนนี้อยู่แถวจอมเทียน หมู่บ้านนี้ โอว หรูหรา อลางการ รถได้มาจอดตรงหน้าบ้านแบบชั้นครึ่ง มีสวนดอกไม้อยู่หน้าบ้าน บ้านฝรั่งคนนี้คล้ายๆบ้านพักตากอากาศ โปร่งโล่ง เย็นสบาย หลานป้าตำซั่วเล่าว่า ฝรั่งเป็นคนใจดี พูดไทยได้นิดหน่อย อยู่เมืองไทยมาแล้ว 15 ปี แกพึ่งผ่าตัดไม่นานนี้เอง ลำใส้ยังโผล่ออกมาข้างนอกอยู่เลย โอ้ยฟังพี่แกเล่า แทบจะคว้ากระเป๋ากลับบ้าน นึกถึงลำใส้ออกมากองหน้าท้อง จินตนาการซะน่ากลัวเลยเรา เข้าไปในบ้านเจอเจ้าของบ้านวัย 50 เศษ นอนอยู่บนเตียง ร่างกายผอม แกตื่นมามองหน้าพวกเรา แล้วหันไปพูดกับหลานของป้าส้มตำ ได้ใจความว่าคนนี้รึ ที่จะมาดูแลฉัน แล้วแกก็สะแกนหน้านังมล แกบอกฉันมีกฏอยู่ในบ้านให้เธอ 3 ข้อ ไม่นำผู้ชายเข้ามาในบ้านฉัน ไม่จับเพื่อนของฉันกินแทนอาหาร ประตูบ้านฉันปิด สองทุ่มพอดี ข้อแรกน่ะพอใหว แต่ข้อสอง ไม่รู้จะทำได้หรือปล่าว ส่วนข้อสาม ว๊า ประตูเมืองปิดตอนสองทุ่ม
สรุปไม่มีปัญหา ห้องนอนของนังมลเป็นห้องไต้หลังคา โอววร้อนตับแลบ หน้าที่ของนังขี้ข้า หลักๆๆก็มีทำความสะอาดบ้าน ซักผ้าขี้ ผ้าเยี่ยว คนเป็นมะเร็งลำใส้อึจะเหม็นออกเน่าๆๆ ลำใส้ที่ว่ามันอยู่ข้างนอกน่ะ คือปลายใส้โผล่ออกมาด้านข้างเพื่อไว้ขับถ่าย เวลาปวดถ่ายแกบอกว่าไม่รู้สึกตัวหรอก มันใหลออกมาเลย มลก็สงสัยทำไมหมอเค้าให้คนไข้กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ล่ะ ขณะที่ปลายใส้ยังโผล่ออกมา แกบอก แกขอหมอออกมาอยู่บ้านเอง อยากมาตายที่บ้าน โอ้ย..กลัวอะจิ ถ้าเกิดแกตายต่อหน้าเราจะทำยังไงดี
แต่ดูแล้วแกคงไม่ตายง่ายๆหรอก ดูเหมือนแกกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอยู่ ดูไม่เหมือนคนป่วยนอนรอความตาย ช่วงเวลาบ่าย แกจะหลับพักผ่อน มลก็จะออกมาเดินเล่นในหมู่บ้าน สังเกตุได้อีกอย่างหมู่บ้านนี้มีแต่กระเทยอยู่แทบทุกหลัง เพื่อนบ้านรอบบ้านของเจ้านายก็เป็นลูกครึ่งทั้งนั้น(ครึ่งหญิงครึ่งชาย) บางครั้งจะได้ยินพวกเธอเล่นรักกัน ร้องเหมือนควายถูกเชือด ตอนเช้าๆๆจะเห็นพวกกิ๊กเดินหน้าเหลืองออกจากบ้านไป ก่อนออกก็จะทำการล่ำลา โอววว ไม่นานเจ้านายกลับไปนอนโรงพยาบาลให้หมอผ่าตัดแล้วยัดใส้กลับไปต่อเหมือนเดิม
แกบอกถ้าแผลหายแกจะกลับไปเยี่ยมแม่แกที่อังกฤษ ถ้าแกไม่ได้กลับมา นั่นหมายถึงแกไป ที่ชอบ ที่ชอบ แผลผ่าตัดหายแล้ว ดูแกแข็งแรงขึ้น ถามหมอว่ามีโอกาสหายมั้ย หมอบอกแกเป็นมะเร็งขั้นที่สอง ต้องให้คนป่วยทำใจให้สบาย ตอนที่มลมาดูแลแกใหม่ๆๆไม่เคยเห็นเพื่อนมาเยี่ยมเลย พอแกอาการป่วยดีขึ้นเพื่อนฝูงค่อยทยอยกันมาหา
เวลาเพื่อนฝูงของเจ้านายมาหา ก็จะหนีบเอามาดามติดมาด้วย พากันมาหลายคู่แล้วมาสู้กันเอง เรื่องที่มาดามนิยมคุยกันนั้น ผัวตรูรวยกว่า ผัวเมิงให้เงินเดือนน้อย วันนี้พากันไปถอยโซ่ โอ้ย ไม่ใช่ ถอยทองมา คุยกันไปคุยกันมาเกิดไม่เข้าหูกันซะงั้น ด่าทอกัน โอ้ย มันพะย่ะค่ะ
ถ้ามาคู่เดียวหรือสองคู่มันจะสามัคคีกันแล้วหันมาข่มอีนังขี้ข้าแทน อินังขี้ข้าต้องคอยวิ่งรับใช้พวกคุณหญิงคุณนาย มันแดกส้มตำกันจานให้เกลื่อนเชียว ดูๆๆไปอิเจ้านายฝรั่งแกชอบทะเลาะกับเพื่อนบ้าน เอ...แกเป็นมะเร็งบวกกับประสาทด้วยหรือเปล่าหว่า ใครมาจอดรถบ้านแกก็ไม่ได้ แกจะหงุดหงิดและจะคอยด่า มีอยู่ครั้งหนึ่งบ้านฝั่งตรงข้ามเขาจัดงานปาตี้กลางคืนกันเขาเปิดเพลงเสียงดังแกนอนไม่หลับ ออกไปด่าเขา เขาก็ไม่ใส่ใจ แกมาเคาะประตูเรียกให้เราออกไปฟังแกด่ากระเทยบ้านตรงข้ามที่มันเปิดเพลงเสียงดัง เรียกว่าถ้าตรูไม่หลับคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์หลับ กว่าแกจะหลับเล่นเอาง่วงตาแทบกลับ พอตอนเช้าทุกอย่างเงียบเป็นเป่าสาก มลตื่นนอนมาเห็นแกนั่งดื่มชาอยู่ แกถามว่าหลับสบายดีมั้ย แหม๊ถามได้ แกบอกให้มลช่วยยกโฮมเทียเตอร์ออกไปไว้หน้าบ้านให้หน่อย เอ... แกจะทำอะไรของแกว่ะ เดี๋ยวเราออกไปข้างนอกกัน วันนี้ฉันจะไปบางสะเหร่ ไปหาเพื่อน แกให้มลหยุดงานหนึ่งวัน แล้วค่อยกลับมาตอนเย็น ก่อนออกจากบ้านแกขยับหาทิศทางของลำโพง ก่อนไปแกเอาเพลงแนวอิสานมาเปิด แบบจังหวะมันส์ๆๆ ความดังไม่ต้องพูดถึงดังไปถึงหน้าปากซอยเลยล่ะ มลล่ะยืนงง มองดูฝรั่งเขาแก้เผ็ดกัน แล้วแกก็เปิดทิ้งไว้อย่างนั้นแล้วออกไปข้างนอก แกพูดว่า เมื่อคืนฉันไม่ได้นอน ตอนนี้พวกกระเทยมันได้เวลานอน มันต้องการความเงียบ มรึงเจอเพลงของกรูมั่ง มันจะได้สำนึกขึ้นมาบ้าง กลับมาบ้านตอนเย็น อ้าวทำไมเครื่องเสียงถึงได้เงียบไปสงสัยมันพังไปแล้วมั้ง รีบไขกุญแจเข้าบ้าน เครื่องเสียงมันอันตธานหายไป พวกคงโมโหแล้วเข้ามาอุ้ม อ้ายเจ้านายบ้าหงุดหงุดใหญ่เลย จะแก้เผ็ดเค้า สมน้ำหน้า ดีน่ะที่โขมยมันไม่ขี้ไว้ให้ดูต่างหน้า
< ไอ้เรื่องชอบมีปัญหากับเพื่อนบ้านแน๊ะ เจ้านายแกถนัด บ้านติดกันเขาปลูกใผ่ ที่นี้ใบใผ่มันหล่นมาลงที่บ้านแก แกใช้ให้มลขึ้นไปตัดยอดไผ่ที่ทิ่มลงมาในรั้วของแกออกให้หน่อย อ้าวใช้ตรูอีกเดี๋ยวตรูก็โดนเพื่อนบ้านด่าดิ แกบอกไม่เป็นไรตกลงกันแล้วว่าถ้ากิ่งใผ่ยื่นเข้ามาบ้านแก แกมีสิทธิ์ตัดทิ้งได้ อ้าวมลก็ปัญญาอ่อนใช้ก็ทำ เอากระไดมาปืนตัดต้นไผ่เห็นแม่บ้านเขากำลังกวาดใบอยู่ มลก็ยิ้มให้ แม่บ้านก็ยิ้มตอบ ตัดเสร็จมัวแต่เอากระไดไปเก็บ กลับมาอีกที อ้าวกิ่งใผ่ไปใหนหมด อ้ายเจ้านายบ้า แกบอกว่าโยนเข้าไปในบ้านของเจ้าของใผ่โน่น เวรกรรม เขาจะมาด่ามั้ยเนี่ย ทำไมทำแบบนี้แล้วแม่บ้านมันเห็นหน้าตรูเป็นคนตัดซะด้วย ป่านนี้มันไปฟ้องเจ้านายกระเทยมันแน่เลยว่ามลเป็นคนทำ จริงๆๆอย่างที่คิด สักพักได้ยินกระเทยควายมันมาตะกายรั้วด่า กิ่งใผ่ของกรูมันไปทิ่มรูมรึงหรือไง มรึงถึงมาตัดไผ่ของกรู โอย..ประสาทจะเสีย มลไปบอกอิเจ้านาย เห็นมั้ยเขามาด่าเลย แกถามว่าเขาด่าว่าอย่างไง มลรีบตอบเลยว่า กิ่งใผ่ของฉัน มันไปดีดใข่มรึงหรือไงถึงมาตัดใผ่ของกรู เฮ้อ..ก็คงต้องร้องเพลงนี้แล้วล่ะ อย่างนี้ต้องลาออก จะขอลาออก แกขอให้มลอยู่จนกว่าแกจะกลับอังกฤษ และแล้วแกก็เดินทางไปอังกฤษ ไม่กลับมาอีกเลยไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไง นี่แหละชีวิตข้าทาสของนางมล
Free TextEditor
Create Date : 29 กันยายน 2552 |
|
46 comments |
Last Update : 29 กันยายน 2552 19:06:30 น. |
Counter : 931 Pageviews. |
|
|
|
แหม อ่านเอามันนี่ก็เพลินดีนะ แต่พี่ว่าตอนนั้นนู๋คงไม่หนุกหนานกะมันเท่าตอนนี้ใช่มะ แล้วสรุปว่าต้องไปล้างแผลที่ลำไส้ให้เค้าด้วยป่ะ เหมือนที่พี่ลงบล็อคที่แล้วงัย ถ้าขืนมัวร่ำไร ขี้ไหล เช็ดกันทั้งวัน พี่เคยช่วยนศ.ทำแผลให้เด็กน้อย ความที่เป็นมือใหม่หัดขับของนางบาลน้อย วันนั้นพี่ต้องยืนดมขี้กะเธอเกือบ 3 ชม. ตรูจะบ้า เรียกว่าตั้งแต่ข้าวมื้อเช้ายังไม่ทันได้เข้าแถวจนถึงเวลาข้าวมื้อเที่ยง กินไปก็นึกถึงมันไป โอ๊ยหร่อยเรือหายว่ะ