การประชุมโลกร้อนครั้ง 17 เริ่มขึ้นแล้ว
การประชุม COP17/CMP7 หรือที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "การประชุมโลกร้อนครั้งที่ 17" ของสหประชาชาติได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ เมือง Durban ประเทศแอฟริกาใต้
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 9 ธันวาคม 2011 มีตัวแทนประเทศจาก 194 ประเทศเข้าร่วม
ประเด็นสำคัญของการประชุมรอบนี้เน้นไปที่การตัดสินใจของประเทศพัฒนาแล้วว่าจะยอมลงชื่อต่อระยะเวลา Kyoto Protocol หรือไม่ ตอนนี้ทุกชาติก็ยึกยักต่อรองกันอยู่ กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วก็แบะเงื่อนไขว่าจะยอมลงชื่อหากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมใหม่อย่างจีน, บราซิล, อินเดีย, แอฟริกาใต้ ดำเนินมาตรการในการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีเป้าหมายให้เห็นเป็นรูปธรรม จีนเองซึ่งตอนนี้กลายเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากสุดในโลกไปแล้วก็เร่งเร้าให้ประเทศพัฒนาแล้วรีบๆ ลงนาม
ที่น่าแปลกคือประเทศกำลังพัฒนาเกือบทุกประเทศโดยเฉพาะประเทศในทวีปแอฟริกามีท่าทีกระตือรือร้นกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกหรือภาวะโลกร้อนมาก มากกว่าประเทศพัฒนาแล้วด้วยซ้ำ เนื่องจากประเทศเหล่านี้ขาดต้นทุนทางเศรษฐกิจในการรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง ฯลฯ ซึ่งทุกวันนี้ก็โดนกันอ่วมเกือบทุกประเทศทั่วโลก
คนที่ติดตามข่าวคงทราบกันดีว่าการประชุมสองครั้งก่อนหน้านี้ที่ Copenhagen และ Cancun จบลงด้วยการคว้าน้ำเหลว ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันออกมาเลย แรงกดดันจากสาธารณะจึงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตัว Kyoto Protocol ก็จะหมดอายุในปี 2012 แล้ว การประชุมครั้งที่ 17 นี้ถูกคาดหวังไว้มากเห็นได้จากกระแสการเรียกร้องและการเดินขบวนที่มีให้เห็นตั้งแต่ในวันแรกของการเปิดประชุมเลยทีเดียว
แต่แค่พิธีเปิดก็เริ่มส่อเค้าลางที่ไม่ค่อยดีเสียแล้ว ประธานาธิบดี Jacob Zuma ของแอฟริกาใต้ประเทศเจ้าภาพกล่าวเปิดประชุมสายไปถึง 40 นาที สร้างความไม่พอใจให้กับตัวแทนของหลายประเทศ
อย่างไรก็ดี การประชุมยังไม่จบ ความหวังยังมี รอบนี้อาจจะมีผลสัมฤทธิ์พลิกโลกเกิดขึ้นก็ได้ Christiana Figueres จาก UN climate ยกคำพูดของ เนลสัน แมนเดลลา รัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของแอฟริกาใต้ ขึ้นมาปลุกกำลังใจว่า "ทุกอย่างจะดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้เสมอจนกระทั่งเราทำมันสำเร็จ"
ที่มา: JuSci.net