บันทึกเดือนที่ 1 ต้อง Admit นอนโรงพยาบาล ภาคแรก (ก่อนเข้าห้อง ICU)
ย่างเข้าเดือนที่สอง ปุญญ์ปุญญ์น้ำหนัก 3,600 กรัม เลี้ยงง่ายในตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืน หนูไม่หลับไม่นอนเลย ปุญญ์ปุญญ์ติดเต้าแม่ นมขวดไม่ค่อยจะดูด แต่ดูดเต้าแม่ทีไร หนูชอบทะเลาะกะเต้าทุกที ปุญญ์ได้อยู่บ้านมาได้เพียง 26 วัน แม่ก็พาหนูไปหาหมอจู วันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 ไปหาหมอจู ที่ รพ.เกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ ด้วยความเป็นกังวล ห่วงว่าทำไมลูกดูเหนื่อยจัง เวลาดูดนมก็เหมือนจะหอบ จนหัวผงก ตลอด ผ่านมาเป็นอาทิตย์แร้วก็ยังไม่หาย แถมตัวก็ยังเริ่มเหลืองขึ้นมาอีก ทั้งๆ ที่น่าจะหายไปได้แล้ว เลยถามคุณหมอ ว่าลูกเป็นอะไรรึป่าว เป็นโรคหอบมั๊ย ทำไมดูเหมือนจะเหนื่อยๆ เวลาดูดนม คุณหมอเลยตรวจฟังเสียงหัวใจ ปรากฎว่า หมอฟังเสียงไม่รู้เรื่อง เสียงหัวใจผิดปกติ หมอเลยส่งไปเอ็กซ์เรย์ ผลปรากฎว่า ปุญญ์ปุญญ์หัวใจโต หมอเลยตัดสินใจส่งตัวไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ต่อ เพราะที่นั่นมีหมอหัวใจเด็กโดยเฉพาะ และมีเครื่องมือที่พร้อมกว่าที่นี่ (สำหรับจังหวัดเชียงราย) วันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 แม่และป่ะป๊า พาปุญญ์ปุญญ์ไปหาหมอตั้งแต่เช้า กว่าจะได้เจอหมอเกือบเที่ยงแร้ว คนไข้หัวใจเยอะมากๆๆ คุณหมอทำ EKG ตรวจพบว่า ผนังหัวใจรั่ว และกล้ามเนื้อหัวใจบีตัวช้า เลยส่งตัวมาที่ รพ.สวนดอก จ.เชียงใหม่ มาถึงที่โรงพยาบาลปุ๊บอาจารย์หมอรีบทำ ECHO หัวใจให้ทันที ตรวจพบว่า ผนังหัวใจรั่ว ทั้งบนและล่าง (ซึ่งสามารถผ่าตัดให้หายได้โดยปิดรูรั่ว) แต่ปัญหาคือ พบว่ากล้ามเนื้อหัวใจเหมือนจะอักเสบด้วย ทำให้เค้าเหนื่อยได้ง่าย หมอบอกให้ Admit ที่โรงพยาบาล อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์นะ แม่ก็จำเป็นต้องโอเคละ สงสารก็แต่ปุญญ์ปุญญ์ต้องเจอกับอะไรเยอะแยะไปหมด สงสารพี่ยูจีนด้วย ต้องอยู่บ้านคนเดียว จะรู้เรื่องกับเขาบ้างมั๊ยนะ... พ่อ แม่ และน้องไม่ได้อยู่ด้วยนะ .. หือ 20.45 น. ตอนนี้แม่นั่งอยู่ข้างเตียงนอนของลูกปุญญ์ปุญญ์ เป็นห้องรวม มีเก้าอี้ให้แม่ตัวนึง ให้ป่าป๊าตัวนึง 22.00 น. แล้วนะ ป่ะป๊าก้อกลับบ้านไปแล้วด้วย .. (ต้องกลับไปเอาของใช้เพราะไม่คิดว่าจะได้Admit เลย) แม่ต้องอยู่คนเดียว ปุญญ์ปุญญ์ไม่งอแงเลย สงสัยวันนี้จะร้องไห้เยอะไปนะสิ หลับปุ๋ยเลย.. ปลุกขึ้นมากินนมก็ยังมะยอมกินเลย... แล้วอย่างงี้หนูจะเอาพลังที่ไหนไปสู้กะโรคหัวใจละลูก จะเอาแรงที่ไหนไปร้องไห้พรุ่งนี้อีกละลูก 22.05 น. ตั้งแต่คุณหมอให้ยากระตุ้นหัวใจมา ตั้งแต่ 18.30 น. รู้สึกว่าหัวใจลูกจะเต้นแรงขึ้น และเร็วมากขึ้น คุณพยาบาลบอกว่า เพื่อให้หัวใจของน้องได้บีบตัวดีขึ้น ปุญญ์ปุญญ์เหงื่อออกเยอะมาก มีไข้ต่ำๆ 37.5 ตัวเย็นๆ ปกติอยู่บ้านอากาศร้อนแค่ไหนก็แค่หัวเปียก พยาบาลบอกว่าเป็นเพราะอากาศร้อน... อืม... ร้อนก็ร้อนเนอะ เพราะที่บ้านเราอากาศหนาวกว่านี้เยอะเลย แม่คิด "มาถึงลูกก็โดนสายออกซิเจนจ่อที่จมูกทันที" แต่ลูกยังยิ้มได้อยู่ 14 พฤศจิกายน 2552 06.30 น. ปุญญ์ปุญญ์น้ำหนักลดลง 50 กรัม มีน้ำมูกนิดหน่อย 16 พฤศจิกายน 2552 วันนี้หมอให้ยาต้านไวรัส ในช่วงรอผล LAB แล้วหมอขอเลือดปุญญ์ปุญญ์ 10 CC เพื่อส่งไปตรวจหาเชื้อไวรัส ตัวการที่ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจน้องอักเสบด้วย 17 พฤศจิกายน 2552 วันนี้น้ำหนักลูกลดลงมา เหลือ 3,150 กรัม หมอให้ทานยาขับปัสสาวะ และยาลดความดัน สงสารก็แต่เจ้าปุญญ์ โดนเจาะเลือดจนมะรุจะเจาะที่ตรงไหนแล้ว ทั้งหลังมือ ซ้าย- ขวา ข้อมือ ซ้าย-ขวา,ท้องแขน ซ้าย-ขวา,หลังเท้า ซ้าย-ขวา, ข้างฝ่าเท้า... ก็ลูกแม่ตัวเล็ก เส้นเลือดก้อเล็ก พยาบาลก็หาไม่เจอ ต้องสุ่มไปเรื่อย เดี๋ยวเส้นก็แตก ต้องเจาะใหม่อีก.. 18 พฤศจิกายน 2552 หมอบอกต้องรอดูอาการไปเรื่อยๆ เพราะต้องรอผล LAB ปุญญ์ปุญญ์ก็ดูท่าทางเหนื่อยเป็นช่วงๆ เวลาร้องไห้ และดูดนม ปุญญ์ปุญญ์ดูจะไอมากขึ้น .. เพราะอากาศเปลี่ยนรึป่าว... แขนโดนเจาะให้ยากระตุ้นหัวใจ 19 พฤศจิกายน 2552 ปุญญ์ปุญญ์นอนหลับเยอะขึ้น บ่อยมากขึ้น ดูดนมแป๊บ ๆ 1-2-3- นาที ก็หยุดแล้วก็หลับไป อาจารย์หมอบอกว่าดูลูกจะเหนื่อยมากขึ้น เพราะว่าปกติอาจารย์หมอจะเข้ามาตรงกับเวลาที่น้องหลับตลอด แต่วันนี้ปุญญ์ปุญญ์ตื่นอยู่และดูดนมเพิ่งเสร็จ เลยดูเหนื่อยนิดหน่อย ปุญญ์ปุญญ์น้ำหนัก 3,150 กรัม มา 3 วัน แล้วนะ อาจารย์หมอให้เจาะเลือดไปตรวจ + เอ็กซ์เรย์ ด้วย ...ลูกแม่ต้องเจ็บตัวอีกแล้ว 12:00 น. คุณหมอเข้ามาดูอีกรอบนึง หลังจากเจาะเลือดไปตรวจเมื่อเช้า 3 CC ผลเลือดปรากฎว่า ปริมาณเกลือแร่ในร่างกายมีน้อย ประกอบกับลูกทานนมแม่เลยทำให้ไม่สามารถจำกัดปริมาณน้ำได้ จึงจำเป็นต้องให้งดนมแม่ไปก่อน และต้องให้น้ำเกลือด้วย เพราะลูกแม่ดูซึมๆ เหนือ่ยๆ และดูเหมือนจะง่วงนอนตลอดเวลา ไม่ยอมกินเลย ปุญญ์ปุญญ์คงจะได้ทานนมแม่แค่ 1 เดือนแน่นอนเลย เพราะถ้างดนมแม่นี่ นมแม่หายแน่นอน (แถมแม่ไม่มีเวลา + สถานที่สะอาดๆ ที่จะปั๊มให้ลูกด้วย) มะเป็นไรนะลูกรัก เอาสุขภาพตอนนี้ของลูกไว้ก่อน 19 พฤศจิกายน 2552 วันนี้วันพฤหัส เราสามคน พ่อ -แม่-ลูก มานอนโรงพยาบาลครบ 1 อาทิตย์ แล้ว ตั้งแต่ตอนเช้าปุญญ์ปุญญ์โดนเจาะเลือดไป 1 รอบ โดนเอ็กซ์เรย์ 1 ครั้ง โดยเจ้าหน้าที่เข็นรถมาในห้องเลย และไม่รู้จะโดน ECHO ด้วยรึป่าว แต่ที่แน่ๆ วันจันทร์ที่ 23 น้องปุญญ์ปุญญ์มีคิว เจาะเลือดส่งลานนาแล็ป อีกรอบแน่นอน 14:00 น. คุณพยาบาลเอาน้ำเกลือมาเติมให้ลูกของแม่แล้วนะ ได้โปรดกลับมาสดชื่น สดใสเหมือนเดิมได้แล้วลูก วันนี้ปุญญ์ปุญญ์ดูเหนื่อยๆ เพลียๆ หายใจ มีเสียง เฮ่อ เฮ่อ ตลอด ให้ทานนมก็ดูด นิดๆ หน่อยๆ แล้วน้องปุญญ์ชอบทำหน้าตาเหยเก แบบเจ็บปวด แล้วหันมามองทางแม่ เหมือนขอตัวช่วย อยากให้แม่ช่วย แต่แม่จะช่วยอะไรน้องได้ละลูก แม่ได้แต่สงสารลูก แม่ได้แต่นั่งร้องไห้ ข้างๆ ปุญญ์ปุญญ์ละลูก 15:00 น. 1 ชั่วโมงผ่านไปแล้ว แม่รู้สึกได้เลย ว่าน้องปุญญ์ปุญญ์ดูมีเรี่ยวมีแรงมากกว่าก่อนหน้านี้ มือไม้ขยับจะคว้ามือแม่ หน้าตาก็ดูสดชื่นขึ้น ไม่ใช่มีแต่แววตาที่น่าสงสร และหน้าตาเหยเก อีกแร้ว และที่สำคัญ เจ้าเด็กดื้อที่ไม่ยอมดูดนมแม่เมื่อกี๊ หิวมากๆๆ จนแม่ต้องไปทำจุกนมหลอกมาให้ลูกดูด (เพราะโดนสั่งงดทานนมไปแล้วนะลูก หมดเวลาแร้ว) และแล้วเจ้าลูกวัวตัวน้อยก็หลับไปพร้อมกับเสียงบ่นเป็นเพลงของป่าป๊า ที่ข้างหูลูก 20:00 น. เวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน...ป่าป๊ากับแม่นั่งอยู่ข้างๆ เตียงของลูกด้วยความรู้สึกที่ต้องคอยดูให้น้องปุญญ์ปุญญ์หลับอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าหนูตื่นขึ้นมา ก็จะทรมานด้วยความรู้สึกหิว .... แม่สงสารหนู คุณหมอสั่งให้น้ำเกลือไปเรื่อยๆ ให้งดน้ำและนมตลอด เพราะฉะนั้น หนูหลับไปนะดีแล้วนะลูก เมื่อตอนค่ำ คุณพยาบาลมาเจาะเลือดไปดูอีกรอบ ว่าผลจากการให้น้ำเกลือจะมีผลมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ตอนเจาะน้องปุญญ์ปุญญ์ร้องห้นิดเดียวเอง มะรุว่าเพราะเหนื่อย หรือว่าเพราะชินแล้วกันแน่นะ น้องปุญญ์ปุญญ์ขี้ร้อน ผมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ หมอนเปียก ตัวอุ่นๆ หลังอุ่นๆ แต่มือ-เท้าเย็น วัดอุณหภูมิแล้วได้ 36.4-36-6 ตลอด 20 พฤศจิกายน 2552 คุณหมอมาดูลูกปุญญ์ปุญญ์แล้ว 8 โมงเช้า คงจะเช้ามากสำหรับคุณหมอ แต่มันดูช้ามากสำหรับแม่ เพราะแม่รออยู่ทั้งคืน ว่าเมื่อไหร่ลูกของแม่จะได้รับอนุญาติให้ทานนมได้ หมอบอกว่าระดับเกลือแร่ในร่างกายเพิ่มขึ้นมานิดเดียว ยังคงต้องให้น้ำเกลือต่อไป 12:50 น. อาจารย์หมอมาดูน้องปุญญ์ปุญญ์เมื่อเช้า ปรากฎว่า ตอนนี้น้องปุญญ์ได้ทานนมแล้ว แต่เป็นการทานทางสายยาง ไม่ต้องดูดเอง หมอบอกว่า เดี๋ยวจะเหนื่อย นั่งๆ ไปก็น้ำตาไหลออกมา สงสารนะ ทั้งตัวมีแต่สายเต็มไปหมด เค้าว่าถ้าน้องหัวใจเต้นดี ไม่เหนื่อย ก็ถือว่าดี จมูกใส่อ็อกซิเจน : ปากไว้ใส่นม ใส่ยา หนูไม่สบายตัว ไม่ชอบใจเลย 21 พฤศจิกายน 2552 11:30 น. หลังจากที่เมื่อวานน้องปุญญ์ได้ลองชิมการทานนมด้วยสายยางมาหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน ผลปรากฎว่าน้องปุญญ์ปุญญ์ร้องไห้เยอะมากๆๆ คุณหมอถามว่า น้องเหนื่อยมั๊ย แม่ก็ตอบไม่ได้ว่าเหนื่อยรึป่าว เพราะน้องปุญญ์ปุญญ์ได้แต่ร้องไห้ตลอด เป็นเพราะหิวนะสิ เพราะถ้าแม่อุ้มเมื่อไหร่ลูกจะมุดหน้าเข้าหาเต้าแม่ตลอดเวลา น่าสงสารมาก แม่ถึงกับน้ำตาซึมตลอดเลยทีเดียว ลูกไอ ลูกก็เลยโดนดูดเสมหะด้วย แต่ก็ดีขึ้นนะ ลูกไม่ค่อยไอแล้ว จะมีบ้างเวลาที่สายยางขยับ ลูกก็จะระคายคอ แต่หลังจากดูดไป 2-3 ครั้ง คุณพยาบาลบอกว่าลูกไม่ค่อยจะมีเสมหะสักเท่าไหร่ อาจจะไม่ต้องดูดแล้ว ดีแล้ว เพราะ ตอนลูกโดนดูดครั้งแรกแม่ถึงกับ อ้วกแตก ลูกโดนดูดครั้งสอง สาม แม่ได้แต่นั่งร้องไห้ จนทุกคนบอกว่า ถ้าแม่ดูไม่ได้ก็ไปนั่งซะ แต่แม่ก็ต้องทำใจ เพราะ แม่อยากดูลูกแม่ เช้านี้คุณหมอเข้ามาดู มาเอาฉี่ลูกไปตรวจ มาเอาเลือดไปตรวจด้วย ปุญญ์ปุญญ์ดูไม่ค่อยเหนื่อยแล้ว หมอเลยให้ถอดสายยางออกได้ แต่ถ้าน้องดูดนมเองแล้วเหนื่อยอีก ก็คงต้องกลับมาใส่สายเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น พยายามเข้าลูก เข้มแข็งเข้าไว้ ดูดนมเยอะๆ จะได้มีแรง "แอบบอกนิดนึงว่า พอถอดสายยางออก ให้ลองดูดนมแม่ น้องปุญญ์ปุญญ์ดูเหนื่อยนิดหหน่อย แต่เคลิ้มๆ จะหลับท่าเดียว แต่พอเอาวางบนที่นอนก็ไม่ยอมหลับ" "แสดงว่าแค่อยากดูดนมแม่ ให้รู้สึกอบอุ่นใช่ม๊า" 22 พฤศจิกายน 2552 12:00 น. เช้านี้ คุณหมอเข้ามาบอกว่า จะลองให้ลดปริมาณออกซิเจนลงทีละนิด เพื่อจะดูว่าเค้าสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองรึป่าว วันนี้แม่เป็นหวัด ก็เลยไม่ได้ให้นมน้องปุญ์ปุญญ์ นมแม่ก็เหลือน้อยลงแล้วด้วย ก็เลยหย่านมไปโดยปริยาย เพราะนมแม่ แม่กะปริมาณไม่ถูกว่าจริงๆ แล้วลูกได้กินนมมากน้อยแค่ไหนเท่าไหร่กันแน่นะ น้องปุญญ์ปุญญ์ของแม่เริ่มอ่อนแรง ไม่มีใครคาดคิดว่าต่อไปนี้ หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าลูกแม่จะเกิดอาการหัวใจวายได้อย่างไร แม่ก็ได้แต่กอดลูกไว้ ได้แต่ปลอบลูกไปวันๆ แม่รักลูกจ๊ะ
Free TextEditor
Create Date : 19 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2553 21:25:54 น. |
|
19 comments
|
Counter : 2685 Pageviews. |
|
|