บันทึกเดือนที่ 9 ปุญญ์ปุญญ์ เข้ารับการผ่าตัดหัวใจ
ในที่สุดวันที่ปุญญ์ปุญญ์ต้องเข้าห้องผ่าตัดก็มาถึงเดือนนี้ปุญญ์ปุญญ์อายุครบ 9 เดือนแล้ว น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 4900-5000 กรัม (เด๋วบวก เด๋วลบอยู่นั่นละ)แต่ความซนนี่ไม่ต้องพูดถึงใจเกินร้อยเลย ถึงแม้จะตัวเล็กๆ ก็ตามจากความพยายามในการจับลูกนั่ง .. น้องก็สามารถนั่งได้บ้างเป็นบางครั้ง แต่มีเอนๆ เอียง ๆ อยู่เวลาให้ลูกนั่งในล้อวง ปุญญ์ปุญญ์สามารถถีบเท้าไปได้ เคลื่อนไหวไปได้ แต่... ถอยหลังได้อย่างเดียวจ้า อิอิ น้องยังไปข้างหน้าไม่เป็นเลยทานข้าว .. ปุญญ์ปุญญ์ทานข้าวเยอะมาก กินเก่ง ทั้งนม ทั้งอาหารเสริม แต่น้ำหนักก็ไม่ขึ้นสักกะทีนึง ในที่สุดวันที่เราสามคน พ่อ แม่ ลูก ต้องไปนอนในโรงพยาบาลอีกครั้ง หมอนัดผ่าตัด วันที่ 8 กค. 2553
วันที่ 5 กค. 2553
หมอนัดนอนโรงพยาบาล เราไปกันแต่เช้า เดินเรื่องเอกสาร กว่าจะได้เข้าไปที่วอร์ดก็สายมากแล้ว.. แถมห้องพิเศษที่จองไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ยังไม่ว่างอีกตะหาก .. เราเลยต้องไปนอนกันที่วอร์ดรวมก่อน ..
วันที่ 6 กค. 2553
หมอเริ่มสงสาร แม่มานที่ท้องใหญ่มากๆ แต่ต้องมานั่งๆ นอนๆ เฝ้าลูกอยู่ที่เตียง แถมปุญญ์ปุญญ์ก้อตัวเล็กมาก หมอเลย ให้คุณพยาบาลหาห้องพิเศษให ด้วยความสงสาร ประกอบกับ หมอเลื่อนวันผ่าตัดออกไปเป็นวันที่ 9 เราเลยตัดสินใจ ไปนอนห้องพิเศษดีกว่า เพราะก่อนผ่าก้อไม่มีอะไรมากเป็นพิเศษ
วันที่ 9 กค. 2553
ปุญญ์ปุญญ์ได้คิวผ่าตัดเป็นคิวแรก 8 โมงเช้า เลยต้องงดนมตั้งแต่ ตีสอง งดน้ำ ตอนหกโมงเช้า .. ตื่นมาปุญญ์ปุญญ์เลยอ่อนแรงพอสมควร ..
เกือบๆ 8 โมง บุรุษพยาบาลก้อนำรถเข็นมารับปุญญ์ปุญญ์กับแม่ ไปห้องผ่าตัด ที่ชั้น 3 อาคารศรีพัฒน์
หมอดมยาบอกว่า ให้แม่เป็นคนอุ้มลูกเข้าไปส่งในห้อง ตอนดมยาลูกจะได้ไม่ร้องไห้มาก ปรากฎว่า พอเข้าไปในห้อง แม่ก้อเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องแล้ว เริ่มหัวใจเต้นแรง จนหมอต้องหันมาถามว่าคุณแม่เป็นอะไรไป คุณแม่ไหวมั๊ย แม่บอก คุณแม่เกือบจะไม่ไหวแล้ว แต่ยังไหวอยู่ค่ะ .. คุณหมอ เลยให้เอาน้องไปวางบนที่นอน ต่อด้วยการแปะ ด้วยสายเต็มตัวไปหมด แล้วคุณพยาบาลก็รีบพาคุณแม่ออกมาทันที ทั้งๆ ที่น้องยังไม่หลับเลย .. ปุญญ์ปุญญ์ร้องไห้มากๆ
แม่เดินออกมาหา ป่ะป๊า ข้างนอก ด้วยน้ำตาเต็มหน้า ป๊าถามว่าแม่เป็นอะไร หมอทำยังไงกับลูกบ้าง "แม่บอกว่า หมอยังไม่ทำอะไรกับลูกเลย แต่ลูกร้องไห้มากๆ แม่สงสารปุญญ์ปุญญ์" ป๊าเลยรีบพาแม่ออกมา
ปุญญ์ปุญญ์เข้าห้องผ่าตัดตอน 8 โมงเช้า แม่ไปนั่งรอหน้าห้องผ่าตัด จนเวลา เกือบบ่าย 2 โมง ลูกแม่ถึงจะผ่าเสร็จ ได้ออกมาอยู่ในห้อง ไอซียู ...
แม่เข้าไปดูหน้าน้องปุญญ์ปุญญ์ แร้วสงสารลูกมาก ตัวซีดไปหมด ต้องให้เลือดให้น้ำเกลือ ให้ยา เต็มไปหมด .. แต่ถึงยังไง ก็ยังรู้สึกดีกว่าตอนที่ลูกหัวใจวาย อยู่ในห้องไอซียู ..
(อาจารย์หมอบอกว่าลูกแม่มีความเสี่ยงในการผ่าตัดหัวใจมากกว่าเด็กคนอื่น 3 เท่าตัว เพราะ หัวใจของปุญญ์ปุญญ์ได้รับการบอบช้ำมาแล้ว .. ยิ่งตอนนี้มาโดนการผ่าตัด โดนการดึง ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจที่อักเสบบอบช้ำยิ่งขึ้นไปอีก เล่นเอาทุกคนใจหายกันทีเดียว
วันที่ 10 กค. 2553
ปุญญ์ปุญญ์ยังนอนหลับอยู่ สภาพร่างกาย สภาพความดัน ยังไม่คงที่ หมอยังคงให้ยานอนหลับอยู่ เพื่อที่ลูกแม่จะได้พักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องตื่นขึ้นมาพบกับความเจ็บปวด (แต่ถ้าเป็นเด็กคนอื่น นอนไอซียูแค่คืนเดียวก็ได้ออกไปอยู่ที่วอร์ดเด็ก แล้วละ
วันที่ 11 กค. 2553
วันนี้ปุญญ์ปุญญ์ยังต้องให้ยานอนหลับอยู่ เพราะเวลาที่ปุญญ์ปุญญ์ฟื้นขึ้นมา ปุญญ์ปุญญ์ยังไม่ยอมหายใจ ทำให้ตัวเขียว ไปหมด ความดันก็ขึ้นๆ ลง ๆ หมอเลยต้องให้ยานอนหลับลูกแม่อีกแล้ว
วันที่ 12 กค. 2553
เช้านี้ปุญญ์ปุญญ์ตื่นมา อาการดีขึ้น แผลไม่อักเสบ แต่ความดันยังไม่คงที่ ยังคงต้องใช้ยาช่วยหลายตัวมาก หมอ ให้ยานอนหลับเป็นระยะ
วันที่ 13 กค. 2553
วันนี้แม่เข้ามาหาน้องปุญญ์ปุญญ์ตกใจมาก เห็นปุญญ์ปุญญ์ตาบวมเป่ง ถามพยาบาลก็ได้ความว่า ปุญญ์ปุญญ์อาการดีขึ้นมาก หายใจได้เต็มที่ ความดันคงที่ ทำให้หมอไม่ต้องให้ยานอนหลับอีก น้องปุญญ์ปุญญ์เลยตื่นเต็มที่ ไม่เจอพ่อ ไม่เจอแม่ ไม่มีจุกนม เลยนอนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา พอแม่เข้ามาสภาพเลยเป็นอย่างที่เห็น
วันที่ 14 กค. 2553
น้องปุญญ์ปุญญ์ได้ย้ายออกจากห้องไอซียู ไปที่วอร์ดเด็ก 2 อาคารสุจิณโณแล้ว แม่กับพ่อและพี่ยูจีน รีบไปรับน้องปุญญ์ปุญญ์ทันที
น้องอาการดีขึ้นมาก แต่คงมีอาการเจ็บแผลอยู่บ้าง แต่แปลก มากๆ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นเจ็บแผล จะร้องไห้ ดิ้น โวยวาย แต่ปุญญ์ปุญญ์ นอนนิ่งๆ อย่างเดียว ไม่ร้อง ไม่งอแง ไม่โวยวาย สักอย่าง นอนนิ่ง มองดูเฉย จนทุกคนใจหาย
วันต่อๆ มา
ปุญญ์ปุญญ์เริ่มมีปฏิกิริยามากขึ้น แต่แม่ยังไม่เห็นรอยยิ้มของน้องเลยสักนิดเดียวไม่ว่าแม่จะเล่นกับน้องยังไงก็ตาม จนแม่กับพ่อกลัวเหลือเกิน ว่าสมองของน้องยังปกติดีอยู่รึป่าว
ปุญญ์ปุญญ์เริ่มยิ้มบ้าง ถึงแม้จะเป็นการยิ้มแบบ แหยๆ น้องคงเจ็บแผลอยู่มาก เลยยิ้มไม่เต็มที่
ปุญญ์ปุญญ์เริ่มพลิกคว่ำ เริ่มหายดีมากขึ้น แม่กลัวว่าแผลน้องจะอักเสบ จะฉีก แต่หมอศัลยกรรมบอกว่าไม่เป็นไร เพราะ เย็บติดดกันสนิทดีแล้ว เหลือแค่กระดูกหน้าอก ที่ต้องรอเวลา 3-4 เดือนในการเชื่อมต่อติดกัน
นึกว่าจะได้กลับบ้านเร็วขึ้น แต่ปุญญ์ปุญญ์เริ่มมีไข้ หมอเลยต้องเจาะเลือดไปเพาะเชื้อ และเริ่มฉีดยาฆ่าเชื้อกันใหม่ เลยต้องอยู่โรงพยาบาลกันอีกต่อไป
วันที่ 23 กค. 2553
ในที่สุดน้องปุญญ์ปุญญ์ก็ได้กลับบ้าน .. เหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง ด้วยน้ำหนักที่เริ่มกระเตื้องขึ้นมาแล้ว .. 5300 กรัม ครับ
Create Date : 25 สิงหาคม 2553 |
|
22 comments |
Last Update : 25 สิงหาคม 2553 17:15:32 น. |
Counter : 1018 Pageviews. |
|
|
|