วันที่เฝ้าคอย
วันใดที่เด็กๆโตขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็คงจะเปลี่ยนไป โรงรถจะไม่เต็มไปด้วยรถจักรยาน ของเล่น ตะปู เลื่อย ของเล่นที่ยังต่อไม่เสร็จ และกรงกระต่าย ผมคงจะได้ใช้โรงรถเป็นที่จอดรถได้สบายๆและไม่ต้องเผลอเหยียบไปบนเสก็ตบอร์ดและสิ่งของต่างๆที่วางเกลื่อนไปทั่ว
วันใดที่เด็กๆโตขึ้น ห้องครัวคงจะสะอาด ที่ล้างจานไม่ต้องเต็มไปด้วยจานที่ยังไม่ได้ล้าง ถังขยะก็คงจะว่างเปล่า ตู้เย็นไม่ต้องเต็มไปด้วยนมและต้องค้นหาฝาปิดขวดแยม น้ำคงจะมีเต็มตู้เย็น ที่ทำน้ำแข็งจะไม่ว่างปล่าว และเครื่องซักผ้าคงจะได้พักการใช้งานบ้าง
วันใดที่เด็กโตขึ้นภรรยาที่น่ารักของผมคงจะมีเวลาได้แต่งตัวสวยๆ ได้แช่ตัวในน้ำอุ่นนานๆ มีเวลาแต่งเล็บโดยไม่ต้องนั่งตอบคำถามหรือสอนการบ้านให้เด็กๆ เธอจะได้มีเวลาไปทำผมแทนที่จะต้องมาอาบน้ำให้หมาของลูกๆจนตัวเปียกปอน
วันใดที่เด็กโตขึ้น สายโทรศัพท์คงจะว่าง มันจะได้พักหลังจากถูกใช้ทุกๆวัน คงน่าประหลาดถ้ามันถูกปล่อยเงียบอยู่ที่เดิมมันจะได้ไม่ต้องเปื้อนลิปสติก น้ำลาย มายองเนส เศษอาหาร หรือไม้จิ้มฟันที่เสียบคารูโทรศัพท์
วันใดที่เด็กๆโตขึ้น ผมคงจะมองออกไปนอกหน้าต่างรถโดยไม่ต้องมองผ่าน รอยนิ้วมือ คราบน้ำลาย รอยเท้าหมา(ผมก็ไม่รู้ว่ามันมีได้อย่างไร) และรอยนิ้วเท้าเด็กๆที่ติดอยู่ตามหน้าต่างรถ ที่นั่งหลังรถคงจะสะอาดไม่เต็มไปด้วยดินสอเทียนและขนหมา
วันใดที่เด็กๆโตขึ้น เราสองคนคงจะไม่มีเรื่องทะเลาะกัน ไม่ต้องมีคำด่า ไม่ต้องมีเสียงตะโกนว่า "เร็วๆเข้า...พ่อต้องรีบไป" เราคงไม่ต้องได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำโครมครามเพื่อแย่งกันเข้า เราจะได้อ่านหนังสือเต็มคราบโดยไม่ต้องมีใครกวนใจ เราจะได้คุยกันได้เต็มที่โดยไม่ต้องหยุดเพื่อไปห้ามทัพเวลาลูกทะเลาะกัน
วันใดที่เด็กๆโตขึ้น เราจะได้ไม่ต้องวิ่งไปซื้อทิชชูเวลามันหมด ภรรยาผมคงเลิกทำกุญแจบ้านหาย เราคงจะไม่ลืมปิดตู้เย็น เราคงไม่ต้องหาทางลัดเพื่อไปส่งเด็กให้ทัน หรือไม่ต้องทนฟังเสียง "พ่อคะ พ่อกำลังขับรถเกินกว่าอัตราที่เขากำหนดเอาไว้นะคะ" หรือไม่ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับลูกว่าจะจูบ กระต่ายก่อนนอน หรือไม่ต้องนั่งคอยลูกกลับจากเดทกับแฟน
ใช่..วันใดที่เด็กๆโตขึ้น สิ่งต่างๆก็คงจะเปลี่ยนไป ลูกแต่ละคนต่างต้องเดินไปตามทางของเขาเอง ทุกๆแห่งในบ้านคงจะเข้าที่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เราจะได้ยินกระทั่งเสียงไฟที่แตกอยู่ในเตาผิง ไร้กระทั่งเสียงโทรศัพท์ บ้านจะเงียบ สะอาดอยู่เสมอ ไม่เกะกะและเราจะได้มีเวลาที่เป็นของเราสองคน เวลาที่เราสองคนไม่ต้องคิดไปถึงวันพรุ่งนี้ แต่เป็นเวลาที่เราได้คิดถึงอดีตที่ผ่านมาและมันคงจะทำให้เราคิดว่า " บางที... เราน่าจะเลี้ยงหลาน เพื่อคืนความมีชีวิตชีวาแบบเดิมๆอย่างที่มันเคยเป็น"
แปลจากเรื่อง Someday
คนที่ยังไม่มีลูกอ่านเรื่องนี้คงจะมองเห็นภาพคนที่เป็นพ่อแม่ได้
แต่คนที่เป็นพ่อแม่แล้ว คงคุ้นเคยกับเรื่องที่อ่านเป็นอย่างดี
อย่างน้อยๆเรื่องนี้ได้ชี้ให้เห็นสัจธรรมของชีวิต( และกลัวว่าตัวเองจะเป็นอย่างเรื่องนี้แหละ)
Create Date : 28 มิถุนายน 2549 |
|
10 comments |
Last Update : 28 มิถุนายน 2549 6:54:33 น. |
Counter : 557 Pageviews. |
|
|
|
ถึงบางครั้งบางทีเปิ้นอาจจะโหยหาความรัก ความอาทรบ้าง
แต่มันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว...เป็น ๆ หาย ๆ เหมือนไข้หวัด
เปิ้นหวาดกลัวความผิดหวังซ้ำซากเสียแล้ว
และชีวิตการแต่งงานยิ่งไปใหญ่ เลิกฝันถึงมันมานานแล้ว
ไม่ใช่คนแก่แร่ดมาจากไหนหรอกเจ้า แค่มันหลาบ เท่าอั้นเองน่ะ
เฮาก่อบ่าใจดีเด่นมาจากไหน ไผจะมาทนผีเข้าผีออกกับเฮาได้ล่ะ แม่นก่อ??
ใช้ชีวิตในรูปแบบที่มันควรจะเป็นดีกว่าเนาะอิแม่ฯเนาะ
ท่าจะม่วนกว่าโล่นโตยก้นคนอื่นแหมจ้าดนัก
ลึก ๆ แล้วขอยอิแม่บ่ะเห้ยยย ใจดี น่าฮัก ลูกๆก็น่าฮัก สามีก็ดี
จะมีกี่คนเหียที่จะโชคดีอย่างอี้ แม่นก่อ?
ถ้าร้อยคนมีสิบคน น้องก็คงจะเป็น 1 ใน 90 แน่ ๆ
** ป.ล. บีจีอิแม่ฯนวลต๋าดีต้ะ ผ่ออย่างผ้าอ้อมละอ่อนหน้อย
งามแล้วอิแม่ ๆ ก้อย ๆ ทำไป เน้อเจ้า.....จะมาผ่อบ่อย ๆ
ตะคืนเข้าบล็อกบ่าได้เลย หว่างนี้บล็อกเข้ายากเข้าเย็น
เมืองนอกเป๋นพ่องก่ออิแม่ฯ??