หลายเรื่องราว...เล่าเรื่องลูก...ที่คงไม่มีวันเลือนหาย..ในความรู้สึกของแม่
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
28 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 

วันที่เฝ้าคอย



วันใดที่เด็กๆโตขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็คงจะเปลี่ยนไป โรงรถจะไม่เต็มไปด้วยรถจักรยาน ของเล่น ตะปู เลื่อย ของเล่นที่ยังต่อไม่เสร็จ และกรงกระต่าย ผมคงจะได้ใช้โรงรถเป็นที่จอดรถได้สบายๆและไม่ต้องเผลอเหยียบไปบนเสก็ตบอร์ดและสิ่งของต่างๆที่วางเกลื่อนไปทั่ว

วันใดที่เด็กๆโตขึ้น ห้องครัวคงจะสะอาด ที่ล้างจานไม่ต้องเต็มไปด้วยจานที่ยังไม่ได้ล้าง ถังขยะก็คงจะว่างเปล่า ตู้เย็นไม่ต้องเต็มไปด้วยนมและต้องค้นหาฝาปิดขวดแยม น้ำคงจะมีเต็มตู้เย็น ที่ทำน้ำแข็งจะไม่ว่างปล่าว และเครื่องซักผ้าคงจะได้พักการใช้งานบ้าง

วันใดที่เด็กโตขึ้นภรรยาที่น่ารักของผมคงจะมีเวลาได้แต่งตัวสวยๆ ได้แช่ตัวในน้ำอุ่นนานๆ มีเวลาแต่งเล็บโดยไม่ต้องนั่งตอบคำถามหรือสอนการบ้านให้เด็กๆ เธอจะได้มีเวลาไปทำผมแทนที่จะต้องมาอาบน้ำให้หมาของลูกๆจนตัวเปียกปอน

วันใดที่เด็กโตขึ้น สายโทรศัพท์คงจะว่าง มันจะได้พักหลังจากถูกใช้ทุกๆวัน คงน่าประหลาดถ้ามันถูกปล่อยเงียบอยู่ที่เดิมมันจะได้ไม่ต้องเปื้อนลิปสติก น้ำลาย มายองเนส เศษอาหาร หรือไม้จิ้มฟันที่เสียบคารูโทรศัพท์

วันใดที่เด็กๆโตขึ้น ผมคงจะมองออกไปนอกหน้าต่างรถโดยไม่ต้องมองผ่าน รอยนิ้วมือ คราบน้ำลาย รอยเท้าหมา(ผมก็ไม่รู้ว่ามันมีได้อย่างไร) และรอยนิ้วเท้าเด็กๆที่ติดอยู่ตามหน้าต่างรถ ที่นั่งหลังรถคงจะสะอาดไม่เต็มไปด้วยดินสอเทียนและขนหมา

วันใดที่เด็กๆโตขึ้น เราสองคนคงจะไม่มีเรื่องทะเลาะกัน ไม่ต้องมีคำด่า ไม่ต้องมีเสียงตะโกนว่า "เร็วๆเข้า...พ่อต้องรีบไป" เราคงไม่ต้องได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำโครมครามเพื่อแย่งกันเข้า เราจะได้อ่านหนังสือเต็มคราบโดยไม่ต้องมีใครกวนใจ เราจะได้คุยกันได้เต็มที่โดยไม่ต้องหยุดเพื่อไปห้ามทัพเวลาลูกทะเลาะกัน

วันใดที่เด็กๆโตขึ้น เราจะได้ไม่ต้องวิ่งไปซื้อทิชชูเวลามันหมด ภรรยาผมคงเลิกทำกุญแจบ้านหาย เราคงจะไม่ลืมปิดตู้เย็น เราคงไม่ต้องหาทางลัดเพื่อไปส่งเด็กให้ทัน หรือไม่ต้องทนฟังเสียง "พ่อคะ พ่อกำลังขับรถเกินกว่าอัตราที่เขากำหนดเอาไว้นะคะ" หรือไม่ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับลูกว่าจะจูบ กระต่ายก่อนนอน หรือไม่ต้องนั่งคอยลูกกลับจากเดทกับแฟน

ใช่..วันใดที่เด็กๆโตขึ้น สิ่งต่างๆก็คงจะเปลี่ยนไป ลูกแต่ละคนต่างต้องเดินไปตามทางของเขาเอง ทุกๆแห่งในบ้านคงจะเข้าที่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เราจะได้ยินกระทั่งเสียงไฟที่แตกอยู่ในเตาผิง ไร้กระทั่งเสียงโทรศัพท์ บ้านจะเงียบ สะอาดอยู่เสมอ ไม่เกะกะและเราจะได้มีเวลาที่เป็นของเราสองคน เวลาที่เราสองคนไม่ต้องคิดไปถึงวันพรุ่งนี้ แต่เป็นเวลาที่เราได้คิดถึงอดีตที่ผ่านมาและมันคงจะทำให้เราคิดว่า " บางที... เราน่าจะเลี้ยงหลาน เพื่อคืนความมีชีวิตชีวาแบบเดิมๆอย่างที่มันเคยเป็น"




แปลจากเรื่อง Someday

คนที่ยังไม่มีลูกอ่านเรื่องนี้คงจะมองเห็นภาพคนที่เป็นพ่อแม่ได้

แต่คนที่เป็นพ่อแม่แล้ว คงคุ้นเคยกับเรื่องที่อ่านเป็นอย่างดี

อย่างน้อยๆเรื่องนี้ได้ชี้ให้เห็นสัจธรรมของชีวิต( และกลัวว่าตัวเองจะเป็นอย่างเรื่องนี้แหละ)




 

Create Date : 28 มิถุนายน 2549
10 comments
Last Update : 28 มิถุนายน 2549 6:54:33 น.
Counter : 557 Pageviews.

 

ตรงกันข้ามกับเปิ้นเลยอิแม่ฯจ๋า
ถึงบางครั้งบางทีเปิ้นอาจจะโหยหาความรัก ความอาทรบ้าง
แต่มันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว...เป็น ๆ หาย ๆ เหมือนไข้หวัด
เปิ้นหวาดกลัวความผิดหวังซ้ำซากเสียแล้ว
และชีวิตการแต่งงานยิ่งไปใหญ่ เลิกฝันถึงมันมานานแล้ว
ไม่ใช่คนแก่แร่ดมาจากไหนหรอกเจ้า แค่มันหลาบ เท่าอั้นเองน่ะ

เฮาก่อบ่าใจดีเด่นมาจากไหน ไผจะมาทนผีเข้าผีออกกับเฮาได้ล่ะ แม่นก่อ??

ใช้ชีวิตในรูปแบบที่มันควรจะเป็นดีกว่าเนาะอิแม่ฯเนาะ
ท่าจะม่วนกว่าโล่นโตยก้นคนอื่นแหมจ้าดนัก

ลึก ๆ แล้วขอยอิแม่บ่ะเห้ยยย ใจดี น่าฮัก ลูกๆก็น่าฮัก สามีก็ดี
จะมีกี่คนเหียที่จะโชคดีอย่างอี้ แม่นก่อ?
ถ้าร้อยคนมีสิบคน น้องก็คงจะเป็น 1 ใน 90 แน่ ๆ

** ป.ล. บีจีอิแม่ฯนวลต๋าดีต้ะ ผ่ออย่างผ้าอ้อมละอ่อนหน้อย
งามแล้วอิแม่ ๆ ก้อย ๆ ทำไป เน้อเจ้า.....จะมาผ่อบ่อย ๆ
ตะคืนเข้าบล็อกบ่าได้เลย หว่างนี้บล็อกเข้ายากเข้าเย็น
เมืองนอกเป๋นพ่องก่ออิแม่ฯ??

 

โดย: กกซ. IP: 124.157.236.149 28 มิถุนายน 2549 7:43:38 น.  

 

มันคงจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ ตอนนี้ลูกลิงของแม่ปุ๊เพิ่งจะ 8 เดือนแต่แม่ปุ๊เริ่มคิดแล้วว่าพอถึงวันที่ลูกเข้าโรงเรียนแล้วตอนกลางวันแม่ปุ๊จะเล่นกับใครกัน

 

โดย: Lauderdale By The Sea 28 มิถุนายน 2549 8:09:06 น.  

 

ถ้ายังไม่เจอกับตัวเอง คงยังไม่รู้ซึ้งหรอกค่ะ

ลองนึก ๆ ดูแล้ว อยู่คนเดียวน่าจะสบายกว่านะคะ แต่ก็ได้ความเหงามาพร้อมกับความเป็นอิสระ

ปล. บล็อกหน้าตาแปลกใหม่ สีหวานดีจังค่ะ ~*

 

โดย: น้องเอ้ IP: 221.128.96.12 28 มิถุนายน 2549 9:17:25 น.  

 

ตอนนี้มีลูกแล้วรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวหายไปเกือบหมดเลยค่ะ บางทีก็มีแว่บๆ บ้างว่ารู้งี้ไม่มีก็ดี แต่อีกใจก็คิดว่ามีก็ดีเหมือนกันคอยเป็นเพื่อนเราเหงา แต่ก็มีบางครั้งค่ะทีรู้สึกโมโหลูกเวลาลูกซนหรือว่าไม่ยอมกินข้าว ฝนทำโทษนะบางทีน่ะถ้าเห็นว่าเค้ารื้อของที่ไม่สมควรจะรื้อก็จะตีมือและก็คอยบอกว่าอันนี้เล่นไม่ได้ แต่บางครั้งทำโทษไปเค้าก็ไม่ฟังตีไปก็เลยจะตายเปล่าเลยไม่ตีปล่อยๆ บ้างก็มีค่ะ

ตอนนี้เวลาจะเป็นส่วนตัวกับพ่อบ้านก็น้อยลง จะทำอะไรก็ห่วงว่าลูกจะตื่น เมื่อก่อนตอนไม่มีลูกจะไปกินข้าวนอก ไปดูหนังกันบ่อยๆ เดี๋ยวเรื่องดูหนังไม่ได้ไปดูมาจะสองปีแล้วค่ะ เรื่องกินข้าวนอกบ้านก็นานๆ ที พูดๆ ไปแล้วมันก็เหมือนกับได้อย่างเสียอย่างอ่ะค่ะ

บทความที่คุณเอามาให้อ่านเป็นบทความที่มองเห็นสัจธรรมในชีวิตอย่างที่คุณบอกจริงๆ ค่ะ

 

โดย: Malee30 28 มิถุนายน 2549 19:47:27 น.  

 

คิดถึงวันข้างหน้าบางครั้งก็ยิ้ม บางคราวก็น่าใจหายเนอะ

 

โดย: ดำรงเฮฮา 28 มิถุนายน 2549 22:54:07 น.  

 

กกซ.

ฟั่งว่าเน้อว่าจะบ่มี อิแม่มีป้อเจ้านิกต๋อนอายุซาวหกน่ะ นึกว่าจะขึ้นคานแล้วเน่อ ดันมี
คนมาชิงดำไปได้

แม่ปุ๊

ก็ถ้าลูกไปโรงเรียน ก็ทำคนใหม่ซะเลยจ่ะ
แม่น้องนิกก็เป็นอย่างนี้เลย

น้องเอ้

ใช่จ่ะ ได้ความเหงาพร้อมกับความเป็นอิสระ
ที่พี่อยากจะกลับไปเป็นอย่างเอ้

Malee30

แม่น้องนิกไม่ตีลูกค่ะ แต่จะใจเย็นสอน
ว่าอันไหนควรเล่น หรือไม่ควรเล่น บอกทุก
วันแกจะเข้าใจ บอกเหตุผลด้วยค่ะว่าทำไม
ถึงเล่นไม่ได้ เด็กฉลาดกว่าที่เราคิดเยอะ

แม่น้องนิกก็คิดอย่างคุณเหมือนกัน แว๊บๆ
คิดว่าไม่น่าหาเหาใส่หัวเล๊ย บางแว๊บก็มี
ความสุขดี แม่น้องนิกไม่เคยดูหนังกับพ่อ
เจ้านิกตั้งแต่นิกเกิดมา แปดปีเข้าแล้วค่ะ
ได้แค่ดูดีวีดีอยู่ที่บ้าน ความที่ชอบหนังไม่
เหมือนกัน ก็ต่างคนต่างดู

การมีลูกก็ทำให้เราได้รู้จักที่จะใครโดยไม่มี
ข้อแม้นะ

ดำรงเฮฮา

ชีวิตก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ สุขๆทุกข์ปน
กันไป เขาถึงเรียกว่าชีวิต

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.198 29 มิถุนายน 2549 0:20:09 น.  

 

ว๊ายยยย อิแม่ฯจ๋า บ่าเด่วนี่กำลังซาวหกเลยหนาเนี่ย
จะได้บ่าได้หาอิแม่ฯ ?????

ลุ้นแมะฮากกกกก

 

โดย: กากีซ่าส์ 29 มิถุนายน 2549 8:34:31 น.  

 

อ่านแล้ว เป็นสัจธรรมจริงๆ......
วันก่อนไป บิ๊กซี เจอป้าเหลียวและพี่หง่าด้วยนะ คุยกันนานทีเดียว เขาเล่าว่าไอ้ต่ายมันมีลูกแล้วนะ....ได้ 2 เดือน ได้คนทำงานรถไฟ ได้ยินว่าแกจะเอามาเลี้ยงที่บ้านเรา ไม่อยากให้มันอยู่กรุงเทพฯ สงสัยแกจะเลี้ยงให้เองมั้ง
ส่วนวี ลูกแหม่ม นั้นมีบ่าวมาติดเหมือนกันนะ ตอนนี้อยู่ม.3 แล้ว ไอ้ตาลนั้นก็อยู่กรุงเทพ ทำงานเกี่ยวกับไกด์อะไรเนี่ย ไม่แน่ใจว่าบริษัทขายตั๋วเครื่องบินหรือเปล่า ป้าเหลียวแกบอกว่าไม่รู้ว่าจะได้แต่งหลานหรือเปล่า เพราะแต่ละคนมีแววกันทั้งนั้น เออ..ลืมบอกว่า วี เรียนเก่งนะ ได้เกรดเกือบ 4แน่ะ

 

โดย: แม่น้องกุ๊ก IP: 203.146.201.9 29 มิถุนายน 2549 11:25:25 น.  

 

ถ้าเด็กๆโตขึ้น
ความเป็นระเบียบ ความสะอาดจะเกิดขึ้นกับบ้าน
ความวุ่นวายคงหมดไป
แต่ความเงียบเหงา ไร้สีสันจะมาแทนที่ค่ะ
มีเด็กๆ ไว้บ้านไม่เหงานะคะ
วีดวาดเคยบอกกับแม่เหมือนกันว่า
อีกสักกี่ปีนะ ที่จะไม่เสียงวุ่นๆอย่างนี้ เพราะเด็กจะโต
แล้วไม่มีวิ่งเล่นที่บ้านอีก

 

โดย: วีดวาด IP: 203.188.18.91 29 มิถุนายน 2549 18:39:09 น.  

 

อ่านทั้งสามเรื่องแปลล่าสุดนี้แล้วนะจ๊ะ ชอบทุกเรื่องเลย

สำหรับเรื่องนี้... เชื่อไหม พี่ไม่เคยอยากให้เด็กๆโตเพราะคิดว่าเราจะได้สบายขึ้นเลย รู้ว่าจะเหนื่อยไปตลอด เหนื่อยคนละแบบ สบายคนละแบบ
พี่ปรารถนาให้ลูกดูแลตัวเองได้ อยู่ในสังคมบูดๆ โลกเบี้ยวใบนี้ได้อย่างไม่ทุกข์ใจเกินไปนัก ยิ่งถ้ามองโลกในแง่ดี อยู่ที่ไหนก็สุขใจได้อย่างที่เรื่อง "เมืองนี้น่าอยู่มั๊ย" บอกเอาไว้ยิ่งดี

ไม่มีที่ไหน คนไหน และอะไรในโลกนี้เพอร์เฟค ดีอย่างเสียอย่างเสมอ มีสองด้านเหมือนเหรียญ เอ่อ..หรือแบบที่จีนบอกไว้เกี่ยวกับหยินหยาง..อะไรทำนองนั้นน่ะ...ชักไปไกล เป็นว่า....

พี่มีความสุขที่จะมีลูกอยู่ในชีวิต ไม่ว่าเขาจะทำให้พี่เหนื่อย สูญเสียความเป็นส่วนตัวจนหมดสิ้น แต่มันคุ้มค่าแก่การเสียสละทั้งปวง

ตอนลูกเล็กเคยฝันว่า ถ้าลูกโตช่วยเหลือตัวเองได้ ฉันจะไปยุโรปสักหกเดือนให้หายอยาก แต่พอมาตอนนี้เลิกคิดแล้ว ความรักลูกเพิ่มขึ้น ความรักตัวเองจะน้อยลง อะไรๆก็เก็บไว้ให้ลูกดีกว่า

ถ้าคุยเรื่องลูกนี่ คุยได้อีกยาวจ้ะ....

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.136.67.254 1 กรกฎาคม 2549 21:23:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Mommy and me
Location :
California United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mommy and me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.