หลายเรื่องราว...เล่าเรื่องลูก (2)
เป็นปกติที่ ทุกเช้าฉันต้องเดินไปส่งลูกที่โรงเรียน ระหว่างทางเราจะเดินคุยกันไป และเพราะต้องคุย ทำให้เราต้องออกจากบ้านโดยกะระยะเวลาให้พอดี ที่จะไปถึงโรงเรียนให้ทันเวลาออดเข้าเรียน
วันนี้เป็นวันที่ไม่ปกติ..เพราะนิกต้องสอบ State test ทั้งอาทิตย์ และข้ามไปถึงอาทิตย์หน้า แต่ละวันจึงเป็น วันที่แม่พูดและพูด เน้นย้ำให้ลูกอ่านข้อสอบให้ดี อย่าเดา และหากจะเดาก็ขอให้เดาอย่างมีหลักเกณฑ์ มั่นใจได้เลยว่า ฉันพูดคำเหล่านี้ทุกวันจนกว่าจะสอบเสร็จ
ขณะที่ฉันกับลูกเดินผ่านทางด้านหน้าโรงเรียน เพื่อที่จะผ่านไปเข้าประตูทางด้านข้าง เราสองคน ได้ยินเสียงแม่คนหนึ่ง ด่าลูกด้วยถ้อยคำหยาบคาย นิกนั้นได้ยินเต็มสองหู แต่ก็เงียบ เราหันไปมอง ที่มาของเสียง ก็ได้เห็นภาพที่แม่ของเด็กคนหนึ่ง นั่งอยู่ในรถที่เปิดประตูค้างไว้ ในมือของเธอ ถือการบ้านเป็นแผ่นๆที่ลูกไม่ได้ทำ ฟาดลงไปบนแฟ้ม พร้อมกับด่าไปทุกครั้งที่เธอฟาดมัน ลูกของเธอเท่าที่ฉัน เห็นคงอยู่เกรดหนึ่ง นิ่งเงียบฟังแม่โมโหด่าเอาอย่างไร้ เสียงตอบโต้
เราสองคนเดินผ่านมาด้วยใจระทึก ที่ระทึกเป็นเพราะว่า ฉันไม่เคยด่าลูกอย่างที่แม่คนนั้นทำ ส่วนนิกก็ไม่เคยโดน แม่ด่าอย่างหยาบคายในที่สาธารณะ ในตอนนั้น ฉันนึกในใจว่า..ฉันควรจะสอนลูกอย่างไรเกี่ยวกับ ตัวอย่างที่เห็น เพราะถ้าจะให้โทษคนเป็นลูก เด็กคนนั้นก็ยังเด็กเกินไป ที่จะรับผิดชอบได้ทุกเรื่อง ส่วนแม่เขาฉันก็เข้าใจว่าเธออาจจะทำงานหนัก เพื่อหาเลี้ยงลูก จึงเหนื่อยเกินกว่าที่จะมีเวลาเอาใจใส่ กับลูกได้ทุกเรื่อง เมื่อพบว่าลูกไม่ได้ทำการบ้าน แม้แต่แผ่นเดียว ก็คงอดที่จะโมโหไม่ได้อย่างแน่นอน
ฉันกอดลูกเดินไปด้วยกัน และพูดว่า..นิกว่า..นิกโชคดีมั๊ย ที่อย่างน้อยๆ แม่ก็ไม่เคยด่า และมีเวลาเอาใจใส่กับนิก อย่างเต็มที่ ลูกชายฉันพยักหน้าอย่างคล้อยตาม..
ฉันคงไม่ต้องสอนอะไรลูกมากมายนักหรอก เพียงตัวอย่างที่ลูกได้เห็นก็คงสะเทือนใจนิกได้ เป็นอย่างดี ฉันนึกขอบคุณผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้ฉัน ไม่ต้องพร่ำสอนลูกมากมาย เหมือนเป็นคำบ่น ของแม่ทั่วๆไปที่เด็กไม่เห็นคุณค่า
แม้แต่เพื่อนบ้านของฉันที่ปรับทุกข์ให้ฉันฟังเรื่องลูก ด้วยคำพูดที่ว่า..ฉันอยากให้ลูกได้ดีแต่ทำไมเด็กมัน ไม่เข้าใจว่าแม่รัก ทำไมมันดื้อ บอกไม่รู้จักฟัง ทำไมมันไม่รู้ว่าเราเป็นห่วงอนาคต..และคำต่อท้าย ที่ทำให้ฉันต้องร้องอ๋ออยู่ในใจ คือคำพูดที่เธอพูดว่า มีอะไรบ้างที่มันน้อยหน้าคนอื่นเขา เกมส์ทุกอย่างก็มี ของเล่นทุกอย่างที่อยากได้ก็ซื้อให้ อยากได้อะไรก็ให้ทุกอย่าง แล้วทำไม มันไม่เอาใจใส่กับการเรียน
ฉันได้แต่ตอบเธออยู่ในใจว่า..เวลาและความรักที่จะให้ ลูกไง ที่เด็กมันน้อยหน้าและต้องการมี ซึ่งถ้าเธอมีให้ลูก เธอก็คงไม่พูดคำๆนี้กับฉันหรอก
..ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่า คำตอบในใจของฉันนั้นถูก หรือผิด เพราะสังคมในยุคปัจจุบันทำให้พ่อแม่ ต้องทำงานนอกบ้าน แต่หากมีเวลา ก็ขอให้บอก รักลูกออกมาเป็นคำพูดและการกระทำ มากกว่าที่จะ ให้สิ่งของทุกอย่าง เพื่อทดแทนคำว่ารักที่ไม่ได้ เอ่ยออกมาเป็นคำพูด ให้ลูกได้รู้ว่า พ่อแม่นั้นรักเจ้า เด็กคงไม่เก่งที่จะอ่านใจพ่อแม่หรอก ฉันคิดอย่างนั้น
Create Date : 23 พฤษภาคม 2550 |
|
28 comments |
Last Update : 23 พฤษภาคม 2550 3:54:00 น. |
Counter : 971 Pageviews. |
|
|
|
ผมไปสอนเด็ก 3 บ้าน เจอทั้งแบบที่ไม่มีเวลาให้จนไม่รู้ว่าลูกตัวเองพูดจาแย่ยังไง แล้วก็แบบที่ตามใจมากจนเริ่มจะเสียคน (อยากได้อะไรก็ได้จนเริ่มติดนิสัยนี้แล้วเอามาใช้กับคนอื่นๆ น่ากลัวนะ) กับแบบที่ดูแล้วเป็นผู้ใหญ่เกินตัว (บ้านนี้แม่เค้าจะสอนดีมากๆ เลย ลูกชายเค้าดูแล้วเป็นคนดีทุกคน)
ผมเลยเชื่อเลยว่า เด็กจะมีพฤติกรรมยังไง ขึ้นกับพ่อแม่จริงๆ ว่ามีเวลาใส่ใจลูกแค่ไหน