Bloggang.com : mojikojung : :: Make-up Class day 1st ::

:: Make-up Class day 1st ::

เมื่อต้นปี 2011 ที่ผ่านมา สามีเคยถามว่าอยากทำงานอะไร สนใจอยากจะเรียนอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า ตอบไปสองสามอย่าง เพราะเราเป็นคนสนใจและชอบทำหลายสิ่ง อย่างแรกคือ

ทำอาหาร ก็คุยกันว่าจะยังไง เรียนทำอาหารเหรอ ด้วยความที่สามีเคยทำงานร้านอาหารอยู่หลายปี แกก็ให้ความเห็นว่า เออ.. มันเหนื่อยนะ ของซื้อมาทำไม่หมดมันก็เสียนะ ที่สำคัญ วันหยุดเราไม่ได้หยุดนะ เพราะวันหยุดนั่นแหละที่ลูกค้าจะเยอะที่สุด จะเหนื่อยเกินไปมั้ย ... อืม อันนี้ก็น่าคิด อีกอย่าง ธุรกิจร้านอาหารที่นี่ค่อนข้างจำกัด คนอิตาเลียนค่อนข้างรักและเทิดทูนอาหารของเขาเหลือเกิน ร้านอาหารไทยที่โรมมีอยู่ไม่กี่ร้าน แต่ละร้านก็ไม่ใหญ่โตอะไร เหมือนเป็นธุรกิจในครอบครัวซะมากกว่า อ่ะงั้น ผ่านละกัน ไม่ทำอาหาร

เสื้อผ้า ชอบนะ ตัดเสื้อผ้า เย็บ ถัก มากมายหลายสิ่ง ล้วนแต่ของถนัด แต่มาคิดอีกที อิตาลี เมืองแฟชั่นก็จริง แต่การแข่งขันสูงมาก เราไม่ใช่คนอิตาเลียนด้วย จะทำแบรนด์สู้เขาก็ไม่ได้ จะเปิดร้านตัดเสื้อผ้าเล็กๆ ก็กระไรอยู่ ถ้าคนมาตัดแล้วไม่มาเอาล่ะ ??? อ่ะผ่านไป

ความสวยความงาม แต่งหน้า!!! ใช่เลย สามีตาโต บอก "That's you!" จะต้องอธิบายอะไรกันอีกเนี่ย ในเมื่อสามีตกลงโอเคซะขนาดนี้ แต่ปัญหา ณ ตอนนั้นคือ ภาษา เป็นอุปสรรคมาก เพราะมันเป็นภาษาที่ 3 ของเรา ภาษาใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 0 ภาษาที่เกิดมาแทบไม่เคยคิดเลยว่ามันจะยากอะไรซะขนาดนั้น นึกถึงตอนเรียนภาษาอังกฤษ กว่าจะมาถึง ณ จุดๆ นี้ ใช้เวลาตั้งกี่ปี แล้วนี่เพิ่งมาอยู่ได้แค่ปีเดียว จะไหวเหรอ ไม่ไหวหรอก ... อ่ะ งั้นรออีก 1 ปีละกัน เอาให้แกร่งกล้ากว่านี้แล้วค่อยว่ากัน

ผ่านไป 1 ปี ในที่สุดก็ได้เรียนจนได้ เรียนแต่งหน้าค่ะ เรียนเต็มหลักสูตร หรือเรียกให้เท่ห์ๆ ก็ Make-up Artist นั่นแหละค่ะ อย่าถึงกระนั้นเลย ขอเป็นแค่ "ช่างแต่งหน้า" ก็พอ ช่างแต่งหน้าที่นี่เรียกว่า "Truccatrice (ผู้หญิง)" หรือ "Truccatore (ผู้ชาย)" มาจากรากศัพท์คำว่า Truccare หมายถึง แต่งหน้า หรือ make-up นั่นเอง

วันนี้ไปเรียนวันแรก จะบอกว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับเลย ตื่นเต้นปนหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าจะเข้าใจครูได้มากน้อยแค่ไหน เป็นคนขี้เกียจและไม่ชอบดูทีวีเลย ที่บ้านนี่มีทีวีเครื่องเล็กๆ เครื่องนึง เปิดดูครั้งสุดท้ายตอนบอลโลก ปี 2010 หลังจากนั้นก็นอนตายอยู่ที่มุมห้องตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ดังนั้น ทักษะการฟังภาษาที่ฝึกโดยการดูทีวีนั้นจึงแทบจะไม่มีเลย นอกเสียจากจะกลับไปเยี่ยมบ้านสามีซึ่งก็จะพักอยู่กับพี่ชายสามีที่เป็นคนติดทีวีมาก นั่นล่ะถึงจะได้ดูทีวีกับใครเขาบ้าง เท่านั้นยังไม่พอเมื่อวานเปรี้ยวปากอยากทานส้มตำ จัดซะเลย "ส้มตำหอยดอง" ตกกลางคืน ท้องไส้เริ่มปั่นป่วนนิดหน่อย อ่ะไม่เป็นไร กะว่าตอนเช้าขอเข้าห้องน้ำแล้วค่อยไปเรียน พอเช้าขึ้นมา .. มันไม่เป็นอย่างที่คิดน่ะสิ ไม่สำเร็จ ท้องไส้ไม่ปั่นป่วนแล้ว ทำไงล่ะ ??? ได้เวลาไปเรียนแล้ว สายแล้วด้วย อ่ะ.. ไปเรียนเลยละกัน ช่างมัน

Buongiorno ศริญญาเธอมาสายไป 20 นาที ตอนไปถึง ครูกำลังเปิดสมุดโทรศัพท์กำลังจะจิ้มหาอิชั้นพอดี อ่ะไม่เป็นไร แนะนำตัวกับเพื่อนๆ ไป แล้วก็เริ่ม brief กันว่าเครื่องสำอางมีอะไร ทำอะไร บลาๆๆ .. มันมาแล้ว มันมาทวงสัญญาที่ทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน โอ๊ย.. ครูก็กำลังพูดฉอดๆ อิชั้นก็ท้องไส้ไม่เป็นใจ ไม่ไหวละ .. "ครูคะ ห้องน้ำอยู่ตรงไหนคะ?" มาสายแล้วยังจะ... อีก เซ็งๆๆ

นักเรียนมีกัน 4 คนค่ะ มาจากทางไกลทั้งนั้น มีอิชั้นคนเดียว นั่งรถเมล์มา 6 ป้าย ก็ถึง แต่ดันมาสายสุด ละอาย T_T

วันแรกครูสอนเรื่องแม่สี นางพูดเร็วมาก T_T แต่อิชั้นก็สามารถมั่วตาม และตอบคำถามครูถูก อิอิ เป็นไงล่ะ ไม่ธรรมดานะจะบอกให้ เรื่องของเรื่องคือ ใช้ทักษะการเดาประโยค ไม่ได้รู้หมดทุกคำหรอกค่ะ จับเอาเป็นคำแล้วมาทำความเข้าใจ ไม่เข้าใจก็ถามครู ให้ครูอธิ่บายซ้ำ และ พูด ช้า ช้า นะ คะ คุณ ครู ...

ส่วนปฏิบัติ วันนี้เรียน การเช็ดล้างเครื่องสำอาง ครูก็อธิบายว่ามีอะไรบ้าง อันไหนดี อันไหนไม่ดี บลาๆๆ และ ณ จุดๆ นี้ ถึงเวลาปฏิบัติ ครูจะสาธิตวิธีการให้ดูนะคะ

"ศริญญา มาเป็นนางแบบคนแรกของคลาสเลยมะ จะได้เข้าใจเวลาครูอธิบาย"

เหวอค่ะเหวอ หน้าจัดเต็มมาเรียน ครูเช็ดออกซะเกลี้ยงเลย .. คิ้วชั้น T_T ต้องแบกหน้าซีดศพๆ กลับบ้านอย่างอนาถใจ .. นี่หรือผลของการมาเรียนสายของอิชััน อิชั้นถูกทำโทษใช่มั้ย???

ค่าเรียนที่นี่แพงค่ะ แพงมากจริงๆ แต่ก็สู้ (สามีว่างั้น) เพราะโรงเรียนนี้ถือว่ามีชื่อระดับนึงในอิตาลีเลยทีเดียว หลายต่อหลายคนดั้นด้นมาจากเมืองต่างๆ เพื่อมาเรียนที่นี่ อิชั้นโชคดีมาอีกหน่อย เพราะไม่ต้องเดินทางไกลเหมือนคนอื่นๆ (แต่ก็มาสายละอายใจ)

พอจบการสอน ไม่ไหวค่ะ ค่าเรียนขนาดนี้ ถ้าเข้าใจได้ไม่ถึง 80% นี่ เสียดายตังค์เน้อะ ดังนั้น อิชั้นก็เดินอย่างกล้าหาญไปถามครูว่า "ครูคะ รอบหน้านู๋ขอเอาเครื่องบันทึกเสียงมาอัดเสียงครูได้มั้ยคะ" ครูตอบทันใด "ได้ๆๆ จะจ่ายเป็นบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต หรือจะเป็นเงินสดก็ได้ แต่เช็คไม่ได้นะ เพราะทางเฮดเขาไม่รับ" -*-

นั่นหมายถึงอะไร ฉันพูดภาษาอิตาเลียนไม่รู้เรื่องเหรอออออ???

"เอ่อ ไม่ใช่ค่ะครู นู๋หมายถึง voice recorder อ่ะค่ะ" ครูยังงงๆ

"Registratore vocale" เพื่อนผู้น่ารักนามว่าวาเนเซีย ส่งเสียงจากข้างหลังมาช่วยชีวิต

ครูถึงบ้างอ้อแล้ว แล้วก็บอกว่า ได้ๆๆ ไม่มีปัญหา เอามาได้เลย(อ่ะ จะไม่ได้ได้ไง อิชั้นเสียตังค์แล้วนะเว้ยเห้ย)

เป็นอันว่า วันแรกเรียนแค่ทฤษฎี แต่รอบหน้าครูสั่งให้เอา
1. สำลีเช็ดหน้า
2. คอตตอนบัด
3. โลชั่นน้ำนมเช็ดเครื่องสำอาง
4. โทนิค
5. ถ้วยเล็กใส่น้ำ
6. แอลกอฮอล์เจล (ล้างมือ)
7. แอลกอฮอล์น้ำ (ใส่ขวดสเปรย์)
8. ฟอกจี้ ฉีดน้ำ (ใส่น้ำเปล่า)
9. โลชั่นทาหน้า
10. ลิปบาล์ม

เจอกันอีกทีวันพฤหัสค่า

Create Date : 09 ตุลาคม 2555

Last Update : 9 ตุลาคม 2555 22:35:40 น.

4 comments

Counter : 1076 Pageviews.

เข้ามาเจิมให้คนแรก.....น้องพี่เก่งอยู่แล้ว และพี่ว่าโมน่าจะทำได้ดีนะ เพราะเป็นสิ่งที่โมชอบและถนัดอยู่แล้ว สู้.....ๆ.....

โดย: พี่อาย IP: 95.244.229.6 วันที่: 9 ตุลาคม 2555 เวลา:23:07:14 น.

โวววว มีบล็อคด้วย

โดย: idinan IP: 124.120.49.95 วันที่: 9 ตุลาคม 2555 เวลา:23:29:43 น.

ขอบคุณค่ะพี่อาย จุ๊บๆ น่ารักที่ซู้ดดด มาให้กำลังใจน้อง

แม่นแล้วคุณดินาน

โดย: mojikojung

วันที่: 11 ตุลาคม 2555 เวลา:19:17:47 น.

โดย: teawpretty

วันที่: 29 มีนาคม 2567 เวลา:15:05:22 น.