Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
21 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
:: Castiglioni della Pescaia, Italia :::


เมือง Castiglioni della Pescaia (คา-สติ-โย-นี เดล-ลา เป-สคา-ย่า) บ้านเกิดของคุณฟาบริที่จังหวัด Grosseto เป็นอำเภอเล็กๆ อำเภอหนึ่งซึ่งติดทะเลค่ะ ในหน้าร้อนนักท่องเที่ยวทั้งอิตาเลียนเอง ประจากประเทศอื่นๆ พากันมาเที่ยวกันเยอะแยะไปหมด เมืองนี้ได้รางวัลชายหาดสะอาดติดต่อกันมาหลายปีแล้ว เป็นโชคดีของโมและฟาบริที่บ้านพ่อแม่เขาอยู่ที่นี่ ก็เลยไม่ต้องเสียค่าโรงแรม

คนที่นี่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้อยู่ในตัวเมืองซักเท่าไรค่ะ เพราะเขาปล่อยบ้านให้นักท่องเที่ยวเช่าทำรายได้เสียมากกว่า ที่นี่ในหน้าร้อนจะหยุดกันยาวเป็นเดือนๆ เลยค่ะ สถานที่ราชการบางแห่งปิดป้ายประกาศไว้เลยว่า หน้าร้อนในเดือนสิงหาคม ปิดตลอดทั้งเดือน ถามว่าที่นี่ร้อนเหมือนเมืองไทยบ้านเรามั้ย โมว่าไม่ถึงกับร้อนขนาดนั้น เพราะที่นี่หน้าร้อนอยู่กลางแดด ร้อนค่ะ แต่พอเข้าร่มปุ๊บก็เย็นปั๊บ ไม่เหมือนบ้านเรา ร้อนแล้วร้อนเลย

โมมาที่นี่หลายครั้งแล้วค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ไปไหน มาคราวนี้คุณฟาบริกลัวโมจะเบื่อเลยพาเที่ยวเมืองเล็กๆ แถบๆ นี้




บรรยากาศระเบียงหลังบ้านค่ะ มองออกไปก็เห็นภูเขาแล้ว อากาศดีมากมาย แต่ก็ยังหนาวสำหรับเราอยู่ดี ที่เห็นต้นใกล้ๆ เป็นต้นซากุระค่ะ แต่..ที่นี่เรียกว่าอะไรโมก็จำไม่ได้แล้ว เห้อ.. สงสัยจะเริ่มแก่แล้วจริงๆ

มาถึงตอนเย็นของวันพุธที่ 16 มีนาค่ะ พอคุณฟาบริเลิกงานกลับบ้านก็แพคกระเป๋าอย่างรวดเร็ว กระโดดขึ้นรถไฟจากสถานี Trastevere เหาะมายังสถานี Grosseto ภายในเวลา 2 ชั่วโมงค่ะ เพราะวันที่ 17 มีนาเป็นวันหยุด ก็เลยถือโอกาสลาวันศุกร์ซะเลย





พอมาถึง Grosseto คุณพี่ชายของคุณฟาบริก็มารับที่หน้าสถานีค่ะ น่ารักมาก มิหนำซ้ำพอกลับถึงบ้านก็ได้ทาน Pasta al forno หรือ Lasagna ซอสเนื้อโฮมเมดสไตล์กันเลย ลาภปากจริงๆ





ต่อด้วยขนมเค้ก ลักษณะเหมือนแยมโรลบ้านเราแต่ขนาดมหึมา เนื้อแน่นโดยเฉพาะไส้ช็อคโกแลต อัดมาแบบเต็มๆ ค่ะ

หลักดินเนอร์ด้วยความเหนื่อยอ่อนก็พักผ่อนกันตามระเบียบ รอเช้าวันรุ่งขึ้นแพลนกันว่าจะไปเที่ยวในตัวเมือง Grosseto เพราะทุกวันพฤหัสจะมีตลาดนัดในตัวเมือง อิชั้นแฟนพันธุ์แท้ตลาดนัดค่ะ ไม่ไปไม่ได้แล้ว

ปรากฏว่า.. ตื่นสายกันค่ะ ร้านรวงที่นี่เปิดปิดเป็นเวลา โดยเฉพาะแถบนอกๆ เมือง หรือเมืองเล็กๆ ที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหรือเมืองหลวง ร้านจะเปิด 8-9 โมง ปิดบ่ายโมง- 4 โมงเย็น พักเที่ยงค่ะ พักกันยาวเลย พอตื่นสายก็เลยกะว่า งั้นไปให้ถึงในเมืองหลังสี่โมงเย็นละกัน แหะๆ

หลังอาหารกลางวันเลยแวะเดินเล่นในเมืองกันก่อนค่ะ แวะขึ้นไปดูปราสาทบนเขา แต่เสียดายที่เขาปิดค่ะ คุณฟาบริบอกว่าเมื่อก่อนเขาเปิดให้เข้าไปได้ แต่ตอนนี้ไม่รู้เพราะอะไร หรือเพราะความโชคไม่ดีของเราเองหว่า เง้อๆ





รถในดวงใจค่ะ มินิ ^ ^




ที่นี่ถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองนึง แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวในหน้าร้อนในช่วงสั้นๆ เท่านั้นเองค่ะ ร้านขายของบางร้านที่นี่จะเปิดแค่เฉพาะช่วงหน้าร้อน สามสี่เดือนเท่านั้น เห้อ.. รวยแล้วนี่เน้าะ ว่ากันไม่ได้ ฮ่าๆๆ





หลังจากเดินผ่านในตัวเมืองนิดหน่อยก็มาถึงทางเดินขึ้นปราสาทค่ะ




เดินขึ้นมาแล้วก็มองย้อนกลับไป ชันประมาณนึงเลยนะเนี่ย จากที่เห็นประดับประดาด้วยธงชาติอิตาเลียน อย่างที่บอกข้างต้นว่าวันนี้วันชาติของเขาค่ะ แต่เขาไม่ได้ฉลองทุกปีนะคะ เพียงเพราะปีนี้ครบ 150 ปีหรืออะไรเนี่ยแหละค่ะ อิชั้นก็สมองเสื่อมเช่นเคย แหะๆ














ตากผ้าสไตล์อิตาเลียนค่ะ ^ ^




ชื่อถนนน่ารักมากค่ะ "ถนนแห่งความรัก" นี่แหละน๊าถึงได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่โรแมนติกมากๆ ประเทศนึงเลยทีเดียว





เดินมาถึงลานหน้าปราสาทค่ะ แต่ก็เข้าไปไม่ได้ มองจากใกล้ๆ ก็ไม่เห็นอะไร เพราะรั่วถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้และเถาว์วัลย์ต่างๆ มากมาย คงต้องมองกันระยะไกลๆ นั่นแหละค่ะถึงจะมองเห็น ... เลยเก็บภาพวิวด้านนอกมาฝากแทนละกันนะคะ




















ต้นหญ้านี้น่ารักมากค่ะ เอามาแปะก็ติดกับเสื้อเหมือนสติ๊กเกอร์เลย




ขากลับลงมาจากปราสาทค่ะ แวะเข้าตัวเมืองนิดหน่อย หาไรดื่มค่ะ










นี่เป็นถนนเลียบชายหาดค่ะ ติดกันชายหาดเลย ตอนเย็นๆ ผู้คนจะพากันออกมาเดินเล่นที่ถนนเส้นนี้เต็มไปหมดค่ะ เพราะที่นี่มีสนามเด็กเล่นด้วย





เอ.. ดื่มไรดีหว่า







ขอเป็น Crodino ละกัน ของโปรดค่ะ




สี่โมงเย็น ได้เวลาออกเดินทางไปตัวเมือง Grosseto แล้วค่ะ ที่เห็นตรงนั้นเป็นกำแพงเมือง เหมือนที่โคราชบ้านเราเลยค่ะ




แผนที่เมืองเก่า ภายในกำแพงค่ะ




ตราประจำเมืองค่ะ




ที่นี่เป็นเหมือนย่านช้อปปิ้งของเมืองนี้ก็ว่าได้ค่ะ มีร้านแบรนด์ต่างๆ มากมาย เป็นที่นัดชุมนุม เดินเล่น จิบกาแฟ พบปะสังสรรค์ของทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยชรากันเลยทีเดียว










เก๋มากค่ะชิ้นนี้ ^ ^







อ๊ะ.. นึกว่าจะเห็นแบบนี้แต่ในโรม ที่นี่ก็มีแฮะ.. ชนะเลิศค่ะ




อีกวันนึงค่ะ วันนี้กลับมาเที่ยวในเมือง Castiglioni อีกครั้ง ที่นี่เป็นคล้ายๆ กับอุทธยานอนุรักษ์สัตว์ค่ะ เพราะทุกปีจะมีฤดูกาลนึงที่นกน้ำต่างๆ อพยพจากทางเหนือมากอยู่ที่นี่ หาที่อบอุ่นและผสมพันธุ์ค่ะ





บ้านตรงนั้นเป็น Museo หรือ Museum ชื่อว่า Casa Rossa หรือบ้านสีแดงนั่นเองค่ะ













เป็นป้ายบอกว่าเราสามารถเจอสัตว์เหล่านี้ได้ที่บริเวณแถบนั้นค่ะ




ตรงนี้เป็นเหมือนน้ำกร่อยอะไรประมาณนั้น เพราะเชื่อมติดกับทะเลค่ะ




ตอนนี้ Casa Rossa ยังไม่เปิดค่ะ พักเที่ยงกันอยู่ ก็เลยพากันเดินสำรวจรอบๆ แต่ไปไหนไม่ได้ไกลมากค่ะ เพราะรองเท้าไม่อำนวยต่อพื้นที่ชื้นแฉะ แหะๆ

ปีนป่ายกันไปค่ะ
















ที่เห็นกระท่อมไกลๆ ตรงนั้น เขาสร้างไว้สำหรับส่องนกค่ะ เวลาที่นกอพยพมา เพื่อไม่ให้นกแตกตื่น ก็ต้องเข้าไปส่องในนั้นล่ะค่ะ













เจ้าหน้าที่มาเปิดประตูแล้วค่ะ โมไม่ได้เดินเข้าไปดูข้างในลึกๆ เท่าไหร่นักค่ะ ดูแล้วไม่ค่อยมีอะไรมากมายนัก อีกอย่างต้องเสียกะตังค์ด้วย แป่ว.. รอบหน้าละกันเน้าะ เพราะอยู่ใกล้บ้านนิดเดียว








ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ ตอนนี้เราจะไปกันที่เมืองเล็กๆ บนภูเขาชื่อว่า เวทูโลน่าค่ะ




มีอุทธยานเมืองเก่าตรงทางเข้าหมู่บ้านค่ะ เขาว่ากันว่าเมื่อก่อนผู้คนอาศัยอยู่กันตรงนี้ ..




























ป้ายอะไรซักอย่าง เป็นภาษาโรมันค่ะ เลยอ่านมะออก - -"










เข้ามาในเมืองแล้วค่ะ จอดรถหน้า Museo ประจำเมืองที่นี่ เสียดายที่เขาไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ เลยอดดูเลย งั้นไปดูบรรยากาศในเมืองดีกว่านะคะ







เวทูโลน่าเป็นเมืองเล็กๆ บนภูเขา มีประชากรอยู่ราวๆ สองร้อยกว่าคนเท่านั้นเองค่ะ เงียบเชียบกันน่าดู






ในหน้าร้อนก็จะมีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว Castiglioni เข้ามาชมเมืองกันเยอะพอสมควรค่ะ อากาศที่นี่ดีมากมาย








สังเกตตรงผนังค่ะ น่ารักเชียว
















ร้านสะดวกซื้อร้านเดียวของเมืองนี้ค่ะ ^0^



















กำแพงเก่าค่ะ สร้างด้วยหินขนาดมหึมาทั้งนั้น เอามากันยังไงน้อ













ทางไปสถานที่ทำฝังศพค่ะ ไม่รู้เขาทำยังไงกัน รูปร่างประหลาดๆ































ในนี้ไม่มีไฟอะไรเลยค่ะ มืดตึ๊ดตื๋อ.. วังเวง - -"








ขากลับอ๊ะๆ เล็งเห็นฝูงเจ้าตัวพวกนี้ ขอแอบแชะซะหน่อยค่ะ







แวะเดินเล่นในเมือง (อีกแล้ว) ก่อนเข้าบ้านค่ะ ที่นี่เขาตกปลากันแบบนี้ค่ะ ไม่ต้องมีสกิลใดๆ ทั้งสิ้น พกมาแต่ดวงก็พอ อิอิ







เช้าวันเสาร์ แวะไปเดินเล่นตลาดนัดของที่นี่ค่ะ เหมือนตลาดนัดบ้านเราเลย




เป็นวันที่อากาศดีอีกวันค่ะ


















แวะซื้อไหมพรมกันซักหน่อย ขนสัตว์แท้ ขีดละยูโรเองค่ะ อิชั้นโกยมาสองม้วน สองกิโล แหะๆ




ปลาร้าอิตาลี่ค่ะ อิอิ




ตอนนี้สตรอว์เบอร์รี่กำลังออกเยอะเลยค่ะ หวานด้วย




แวะดื่ม Crodino อีกเช่นเคย ฮ่าๆๆ




ซักแก้วมั้ยคะ



แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าค่ะ ขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ






Create Date : 21 มีนาคม 2554
Last Update : 21 มีนาคม 2554 23:52:22 น. 3 comments
Counter : 1265 Pageviews.

 
มาขอเที่ยวด้วยคนนะคะ ^^


โดย: Panino วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:17:21:30 น.  

 
เข้ามากรี๊ดกับไหมพรมขีดละยูโร เหมามันทั้งร้านเลยค่ะ

ปล ชอบแว่นด้วย ครบร้อยห้าสิบปี แถวบ้านยังติดธงชาติอยู่เลย


โดย: settembre วันที่: 3 เมษายน 2554 เวลา:17:12:34 น.  

 
ตอนแรกที่หลงเข้ามา อิอิอิ ก็คิดว่า เอ๊ะ ทำไมเจ้าของบล๊อคหน้าตาคุ้นๆ มาดูรูปสุดท้ายก็เฮ้ยยยย โมนี่เอง บล๊อคน่ารักมากนะจ๊ะ
ช่วงนี้พี่เลี้ยงลูกอย่างเดียวหัวฟู หน้ามัน แต่ยังอ้วนไม่เปลี่ยน อาอ่าอา แล้วจะเข้ามาเยี่ยมอีกนะจ๊ะ


โดย: eyeblue IP: 79.20.172.48 วันที่: 20 เมษายน 2554 เวลา:4:17:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mojikojung
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




@ สาว (เหลือ) น้อยที่ต้องมาอยู่ไกลบ้าน ชอบทำอาหาร ชอบเย็บปักถักร้อย ชอบพูดชอบคุย ชอบแต่งตัว ชอบหลายสิ่งหลายอย่าง ถึงจะทำได้ไม่เลิศเลยเหมือนคนอื่น แต่ก็ทำด้วยใจรัก ทำแล้วมีความสุข โดยมีผู้ชายใจดีและใจเย็นเหมือนน้ำแข็งขั้วโลก คอยเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลา ^ ^ @

@@@ แวะมาเยี่ยมใน Facebook ได้ที่นี่นะคะ @@@

Thai Kitchen Smile Kitchen


ตารางเทียบขนาด
เข็มโครเชต์และไม้นิตชนิดต่างๆ

Friends' blogs
[Add mojikojung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.