|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
ต่อกรการไม่ยอมรับในงานเครือข่าย |
|
การปฏิเสธในธุรกิจเอ็มแอลเอ็มนั้นเกิดเรื่องที่นักธุรกิจMLMทุกคนจำเป็นต้องพบ นักขายผู้ชำนาญหรือนักธุรกิจ MLM ที่บรรลุเป้าหมายรู้ว่า วิธีขายยังมิได้เกิดขึ้นจริงๆจนกว่าลูกค้าจะตอบปฏิเสธ นั้นแปลว่าเช่นไร… วิธีขายยังมิได้เกิดขึ้นจริงตราบจนกระทั่งลูกค้าจะตอบไม่ยอมรับนั่นหมายความว่า ถ้าหากคุณสร้างสื่อชมรมหรือเป้าหมายความว่าคุณกับลูกค้าเจริญมากมายแล้วลูกค้าก็จะจ่ายตลาดคุณโดยง่ายแทบไม่มีคำกล่าวปฏิเสธไปได้เลย แต่หากลูกค้าเริ่มโต้แย้งแล้วก็ไม่ยอมรับ คุณก็จะแงะทักษะสำหรับการขายสินค้าคุณออกมาใช้ได้จริงๆโน่นเป็น คุณจะต้องก้าวข้ามคำพูดปฏิเสธนี้ไปให้ได้ แล้วนำคนที่คุณมุ่งหวังมาอยู่ในที่พร้อมจะซื้อ แล้วหลังจากนั้นคุณก็ปิดการขาย สำหรับเพื่อการถูกไม่ยอมรับทุกทุกครั้งนั้นคุณไม่จำเป็นที่ต้องสะดุ้ง ไม่ต้องอับอายขายหน้า หรือรู้สึกผิดหวังกับคำกล่าวปฏิเสธของลูกค้า ข้อแรกคุณจำต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ทั่วๆไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวคุณจะต้องดำรงท่าทีรวมทั้งทัศนคติที่เป็นบวกไว้เสมอ สิ่งที่สร้างความไม่เหมือนระหว่างนักธุรกิจ MLM ที่ไปถึงเป้าหมายกับนักธุรกิจ ขายตรง ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็คือการรับมือกับการถูกไม่ยอมรับ
การถูกไม่ยอมรับที่พบเจอได้บ่อยครั้งในการMLM
• ยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ในช่วงเวลานี้ • มีเงินไม่พอ • ราคาสินค้าสูงเกินไป • คาดหมายไว้หรือที่รู้มาไม่เป็นแบบนี้ • ขอคิดดูก่อน • ขอคุยกับคนภายในบ้านก่อน • ใช้สอยของแบรนด์อื่นๆอยู่
กลุ่มนี้คือประโยคที่ใช้ในการปฏิเสธที่เคยทราบอยู่บ่อยๆและเมื่อคุณได้รับการไม่ยอมรับแบบอ้อมๆเช่นนี้ คุณสามารถหยุดวิธีการขายกลางทางได้เลย แต่หากจะดีมากยิ่งกว่านั้นเป็นเดินหน้าต่อไปด้วยการรักษาค์ทัศนคติรวมทั้งทีท่าที่เป็นบวกเอาไว้ คุณจึงควรอธิบายให้เห็นจริงว่าสินค้าหรือบริการของคุณมีประโยชน์จริงๆยังไงกับเขาหรือคุณที่เกินกว่าข้อตำหนิ รวมทั้งกระบวนการทำแบบนี้ก็มีโอกาสที่คุณจะสามารถขายของของคุณได้ และคุณสามารถเปลี่ยนคำปฏิเสธของลูกค้าแปลงเป็นยอดขายของคุณได้ดังต่อไปนี้
ยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เดี๋ยวนี้ ถ้าเกิดคำตอบของลูกค้าเป็นยังไม่จำเป็นต้องใช้เดี๋ยวนี้จริงๆก็คงไม่มีอะไรต้องกล่าวต่อไป แม้กระนั้นคำตอบในใจของลูกค้าก็คือ ไม่จริง แทนที่คุณจะเลือกยอมกับคำพูดนี้ ให้ลองพินิจพิจารณาว่ามีความสำคัญอะไรแอบซ่อนอยู่ในความคิดของลูกค้า ถ้าว่ามีก็ให้ระบุชัดออกมา ตัวอย่างเช่น “ผมเข้าใจว่าคุณยังอายุไม่มากมายและคุณมั่นใจว่าสุขภาพของคุณแข็งแรงดีไม่จำเป็นที่ต้องรับประทานอาหารเสริมอะไรก็แล้วแต่แม้กระนั้นที่สำคัญก็คือ มันจะชะลอความแก่ชราของคุณลงได้ หากคุณไม่เตรียมการซื้อตั้งแต่ช่วงนี้มันจะก่อให้ร่างกายของคุณไม่มีภูมิต้านทานความแก่อย่างที่ควรจะเป็น ตามเทคโนโลยีในสมัยปัจจุบัน อีกอย่างหนึ่งผมเองก็รับประทานมาราวสามเดือนแล้วรู้สึกเหมือนกับเป็นวัยรุ่น คราวก่อนออกกำลังกายได้เพียงแค่ไม่นานก็อ่อนเพลียเป็นอย่างมากแล้ว แม้กระนั้นในช่วงเวลานี้บริหารร่างกายได้เป็นชั่วโมงๆโดยไม่ทราบสึกเหนื่อยเหน็ดอะไร ไม่มีการปวดกล้ามเนื้อ แล้วหากเป็นคุณที่มีร่างกายแข็งแรงและจากนั้นก็จะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น แถมยังย่นระยะเวลาสำหรับในการดูแลสุขภาพและก็บริหารร่างกายได้อีกด้วย”
มีเงินไม่เพียงพอ ถ้าหากลูกค้ายิ่งมีเงินน้อยเกินไปจริงๆก็คือเรื่องธรรดาที่คนจะไม่สามารถปิดแนวทางการขายได้ แต่ว่าถ้าเกิดคุณมั่นใจว่าเขาหรือเธอสามารถซื้อมันได้คุณก็อาจจะมีคำอธิบายอย่างเช่น “มั่นใจว่าคุณอาจจะยังลังเลที่จะลงทุนในระบบการกรองน้ำแบบล้ำยุคและอดออมนี้ มันเกิดเรื่องที่เกิดขึ้นได้อะไรๆก็แพงหมดตอนนี้ ทำไมจะต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมถ้าหากคุณยังซื้อน้ำได้ทีละขวดตามร้านค้าทั่วไป แต่หากคุณลองนึกดูคุณมีคนในครอบครัวผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยแม้จะซื้อเป็นแพคใหญ่ก็เปลืองมากเหมือนกัน การซื้อน้ำโดยประมาณ 10 แพ็คต่อเดือน คุณสามารถผ่อนจ่ายได้ในราคาที่ถูกกว่าอีกครับผม และพอถึงเดือนที่สี่คุณก็จะมีกำไรจากเครื่องนี้แล้ว เมื่อหักลบกับทุนและก็เปรียบเทียบกับน้ำที่คุณซื้อมาเป็นแพค แถมคุณยังได้น้ำที่มีคุณภาพ อีกด้วยครับ”
ราคาผลิตภัณฑ์สูงเหลือเกิน นักธุรกิจMLMมักจะได้ยินคำนี้มากกว่าคำตอบอื่นๆแต่ว่าถ้าหากคุณทราบราคาสินค้าที่แบบเดียวกันในตลาดคุณจะสามารถที่จะบอกลูกค้าได้ แต่ว่าถ้าเกิดราคาของผลิตภัณฑ์ของคุณสูงขึ้นยิ่งกว่าจริงๆคุณก็ควรมีเหตุผลที่จะรองรับและก็ลบล้างอย่างมีเหตุผล ซึ่งส่วนมากแล้วลูกค้าก็รู้ว่าจะต้องแย้งในเรื่องของคุณภาพที่ดีกว่า แม้กระนั้นมันดีกว่าในด้านไหน ลูกค้าจะสามารถสารภาพเหตุผลนั้นได้หรือเปล่า อาทิเช่น “คนที่ซื้อไปทุกคนทีแรกก็คิดแบบเดียวกันนี้นะครับ มันบางครั้งก็อาจจะแพงกว่ายี่ห้ออื่นน้อยแต่ว่าประโยชน์ที่พวกเขาได้รับมีมากยิ่งกว่าหลายเท่า เริ่มต้นที่ขั้นตอนวิจัยและพัฒนาอย่างละเอียดลออ ขั้นตอนการผลิตที่ได้รับรองมาตรฐานระดับโลก ทำให้แก่การใช้แรงงานเป็นเวลานานกว่าแบรนด์อื่นๆหลายเท่า”
คิดไว้หรือได้ยินมาไม่เป็นอย่างนี้ เกิดเรื่องที่ท้าอย่างยิ่งในการที่จะแย้งคำปฏิเสธข้อนี้ โดยเฉพาะแม้คุณไม่มีสิ่งอื่นใดที่นำมาเสนอเพิ่มเติมอีกให้เลือก แม้กระนั้นจะต้องอย่ายอมแพ้ หายพบว่าคนที่คุณมุ่งหวังกำลังมีความรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณเป็นยังไง ให้ท่านบากบั่นมองหาความต่างเหล่านั้น ดังเช่นว่า “ตุ๊กตาตัวนี้ไม่สามารถพูดได้ ก็จริงครับ แต่ว่าที่จริงเราทำเอาไว้แบบนั้นก็เพื่อเด็กๆใช้จินตนาการของตนเองแทนที่จะให้ตุ๊กตาพูดได้ไม่กี่ประโยค แต่ว่าตุ๊กตาตัวนี้ลูกๆของคุณสามารถบันทึกเสียงลงไปแล้วเล่นซ้ำอย่างกับว่ามันบอกได้เหมือนกันครับ”
ขอคิดดูก่อน คุณต้องหาว่าเพราะเหตุไรผู้ที่คุณมุ่งมาดจึงต้องการเวลาเพิ่มขึ้นสำหรับเพื่อการคิดทบทวน ถ้าเกิดเรื่องที่มีเหตุผลคุณก็ควรปลดปล่อยให้เป็นไปตามครรลองแล้วนัดหมายวันที่ใหม่เพื่อรอคำตอบ แต่ถ้าหากคุณเชื่อว่าเป็นการบอกปฏิเสธหนไม่น่าจะเป็นจริงก็ให้คุณย้ำประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์อีกทีหนึ่ง เช่น “ขณะนี้เป็นตอนลดพิเศษของเรานะครับ ธรรมดาราคาสูงกว่านี้ 200 บาท แต่ว่าเหตุเพราะเป็นช่วงเทศกาลบริษัทจึงมีนโยบายที่จะเชิญชวนให้ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์กันจำนวนมากและก็ยังมีคูปองแถมให้อีกนะครับ คุณจะได้ลดอีก 20% กับสินค้าที่มีโลโก้ของพวกเราตลอดระยะเวลาหนึ่งปีแล้วก็ 10% ของสินค้าที่มีโลโก้แบบอื่นในร้านของพวกเราขอรับ”
ขอคุยกับคนในครอบครัวก่อน คำนี้มักเป็นคำพูดปฏิเสธที่ไม่ค่อยตรงในความจริงสักเท่าไหร่ ขั้นตอนการตอบการขัดแย้งนี้ก็ยังพอเพียงมีขั้นตอนการทำได้ดังนี้ “ผมรู้เรื่องว่าคุณอาจจะต้องสนทนากับคนภายในครอบครัวก่อน แม้กระนั้นคุณก็สามารถที่จะยกเลิกการสมัครได้ในวันที่จ่ายเงิน ดังนั้นคุณสามารถถือโอกาสนี้สมัครไว้ก่อนเพื่อจะได้สิทธิพิเศษต่างๆที่ผมได้อธิบายไว้แล้วขอรับ”
ใช้ยี่ห้ออื่นอยู่ ถึงแม้ว่าจะลูกค้าที่ซื่อสัตย์สุจริตต่อผลิตภัณฑ์ของคุณก็บางทีอาจจะเปลี่ยนใจไปใช้แบรนด์อื่นได้เมื่อมีข้อเสนอที่ดีกว่า กรรมวิธีการที่เหมาะสมที่สุดที่จะพิสูจน์ว่าจะเป็นข้อได้เปรียบถ้าเกิดเปลี่ยนแปลงแบรนด์ในเวลานี้ คุณสามารถเน้นย้ำไปว่ามันจะเป็นอะไร ดังเช่นว่า คุณสมบัติ ราคา อายุการใช้งาน การใช้งานที่ง่าย และอื่นๆที่ทำให้สินค้าของคุณเหนือกว่าสินค้าของลูกค้ากำลังใช้อยู่ เช่น “ผมรู้จักดีกับแบรนด์ที่คุณกำลังใช้อยู่นี้ครับและรู้ว่าคุณรู้จักดีกับมันมากมายทีเดียว แต่ว่าสินค้าของพวกเรามีส่วนผสมที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นและไม่มียี่ห้อไหนทำเป็น แต่ละส่วนถูกเลือกเฟ้นมาเป็นอย่างดีและรักษาได้นาน”
เหล่านี้เป็นการรับมือกับการปฏิเสธของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าของนักธุรกิจMLM ชอบมีการทำอยู่แล้วสำหรับผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆที่มีอยู่คุณสามารถประยุกต์ใช้ได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นขอให้คุณค้นคว้าทำการวิจัยว่ามีการไม่ยอมรับและการแย้งแบบใดบ้าง รวมทั้งคุณจะสามารถรับมือมันได้อย่างไร เท่านี้คุณก็จะเป็นนักธุรกิจMLMที่มีโอกาสบรรลุผลสำเร็จมากยิ่งกว่านักธุรกิจขายตรงที่ไม่สามารถที่จะรับมือกับการเช็ดกปฏิเสธได้ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โปรแกรมขายตรง
เครดิต : //www.mlmeazy.com
Create Date : 31 พฤษภาคม 2560 |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2560 1:36:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 372 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|