มินอา ฮเยริ และโซจินหันมาสบตากันเลิ่กลั่ก พวกเธอรู้จักยูรามานานกว่า 4 ปี นอกจากจะเป็นไอดอลวงเดียวกันแล้วพวกเธอยังอยู่หอด้วยกัน ใช้เวลาด้วยกันมากว่า 300 วันต่อ 1ปี แล้วเรื่องแค่นี้ ทำไมพวกเอจะไม่รู้ว่ายูรารู้สึกยังไง

ภาพลักษณ์ที่ดูสดใสและซื่อตรงที่ทุกคนได้เห็นนั่นคือตัวจริงของยูราแต่ที่จริงยิ่งกว่านั้นคือ เธอเป็นคนที่รักในศักดิ์ศรีและค่อนข้างถือตัวถ้ายังไม่สนิทใจพอความเด็ดขาดของยูราทำให้เมมเบอร์ทุกคนหวั่นใจ แต่นิสัยที่น่ากังวลอีกอย่างคือความดื้อรั้นของยูรา เธอจะดื้อทำในสิ่งที่ยากเย็นเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เป็นของของเธอ

ถ้าเพื่อสิ่งที่เป็นของของเธอแล้ว “แล้วถ้าพี่เขยโดนแกล้งล่ะ ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงล่ะ ออนนี่จะทำยังไง”ฮเยริถามประเด็นใหม่

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงพี่เขาก็จะน่าสงสารมากๆเลยนะออนนี่” มินอาร่วมสมทบ เธออยากรู้ว่ายูราจะเป็นห่วงจงฮยอนแค่ไหนถ้าข่าวลือทั้งหมดเป็นเรื่องไม่จริง

“อืม ใช่ พี่ก็อยากรู้ว่าถ้าไม่จริงเธอจะทำยังไง” โซจินก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มาร่วมสมทบ

“เอางี้ตอนนี้พี่กับพี่เขยเป็นอะไรกัน อยู่ในสถานะไหน” ฮเยริยิงตรงเข้าจุดที่เธออยากรู้

“และอย่าบอกว่าฐานะสามีภรรยาในรายการนะอันนั้นไม่เอา ฉันหมายถึงสถานะหลังกล้อง พวกพี่เป็นอะไรกัน” ฮเยริย้ำต่ออีกครั้ง

“ฉันพูดตรงๆนะพวกเธอก็ดูออกใช่ไหมว่าฉันชอบเขา” ยูราค่อยๆเอ่ยออกมา

“อันนั้นฉันว่าข้ามไปเถอะใครๆก็รู้ไหม ฉันว่าคนตาบอดยังรู้เลย” มินอาเข้ามาช่วยฮเยริอีกแรง

“ย่าห์- - ฟังก่อนสิเดี๋ยวก็ไม่เล่าซะเลย” ยูราแว๊ดออกมา

“อ่ะฟังๆ พี่เล่าต่อได้เลย” มินอาเท้าคางรอฟังทำหน้าทะเล้น

“แล้วฉันว่าพี่เขาก็คิดแบบเดียวกับฉันนะ แต่แค่พี่เขาไม่ค่อยแสดงออกเท่านั้นเองคนเลยชอบคิดกันไปว่าฉันชอบพี่เขาฝ่ายเดียว” ยูราเล่า

“พี่เขาเคยบอกรักพี่บ้างรึยัง”ฮเยริยิงคำถามเพิ่ม

ยูราส่ายหัวช้าๆหน้าตาเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด

“ข้ามเรื่องบอกรักสิออนนี่ก็บอกอยู่ว่าพี่เขยแสดงออกไม่เก่ง” มินอาพูดจบก็หันกลับมาถามต่อ

“งั้นพี่จะบอกว่าพี่สองคนก็ชอบพอกันแต่แค่สถานะยังไม่ชัดเจน งั้นเหรอ” มินอาสรุป

“งั้นถ้าพี่2คนชอบๆกันแล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ นี่พี่เขยคบซ้อนเหรอ ไอ้คนชั่ว” ฮเยริสบถออกมา

“ใจเย็นน่า ฮเยริ ไม่ใช่เรื่องของเรานะอย่าให้มันเยอะนักนะ ทำยังกัแฟนตัวเองนอกใจงั้นล่ะนะ มีเรื่องเก็บกดมาจากไหนรึเปล่า”โซจินดุฮเยริขำๆ

“ไม่มีนะฉันก็แค่เกลียดเรื่องการคบซ้อนที่สุด ถ้าพี่เขยทำจริง ออนนี่ต้องเลิกเลยนะผู้ชายแบบนี้คงไม่ได้” ฮเยริยังคงใส่อารมณ์

“ฉันก็เกลียด แต่รอให้ฉันได้รู้ก่อนล่ะกันว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แล้วฉันจะบอกว่าฉันจะทำยังไง” ยูราตัดบท

จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของยูราก็ดังขึ้นฮเยริพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะเครื่องแป้งของยูราทันที

“โอ๊ะ พี่เขยโทรมา ออนนี่รับเลยๆดูซิว่าจะมาแก้ตัวหรือจะมาบอกว่าอะไรกันแน่” ฮเยริเร่งเร้าให้รับสาย

“เอ๊ะแต่ถ้าพี่เขาโทรมาสารภาพล่ะออนนี่ พี่จะทำยังไง” มินอารีบดักคอ

ยูรามองน้องสองคนไปมา “นั่นน่ะสิ ฉันจะทำยังไงดีล่ะ โอ้ยยเครียดจัง”

“ก็รับสายไปก่อนสิ แล้วค่อยโวยวายไหม”โซจินรีบเตือนให้รีบรับก่อนสายจะตัด

“โอเค” ยูรารับคำก่อนกระแอมเพื่อปรับเสียงก่อนกดรับสาย

“อายองเหรอ นี่พี่นะ” เสียงจากปลายสายเอ่ยทักออกมาก่อน ที่เธอจะกล่าวรับสายด้วยซ้ำ

“อ่อ ค่ะ” ทันทีที่เธอได้ยินเสียงที่เหนื่อยล้าของเขาเธอก็พูดอะไรไม่ออก ได้เพียงแต่ตอบรับสั้นๆ

ดูจากลักษณะแล้วเหมือน 2คนจะอยากพูดอะไรที่มากกว่าแค่ อ่อหรือค่ะโซจินจึงตัดสินลุกขึ้นก่อนส่งสัญญาณให้มินอาและฮเยริลุกออกมาเพื่อปล่อยให้ทั้ง2คนได้เคลียร์เรื่องราวต่างๆโดยไม่มีคนนอก

“เห็นข่าวแล้วใช่ไหม” เขาถามเสียงนิ่งเย็น ทั้งๆที่ภายในใจมันร้อนรุ่มจนไม่รู้จะทำอย่างไรทันทีที่เขารู้ว่ามีข่าวนี้ออกมา สิ่งแรกที่คิดถึงคือ เขาจะพูดกับอายองยังไงให้เธอเข้าใจแต่สิ่งที่อยากรู้มากกว่านั้นคือ เธอจะเชื่อใจเขาบ้างไหม

“ค่ะ เห็นแล้ว” ยูราตอบเสียงเนิบแม้ว่าใจจะเต้นแรงจนอกแทบระเบิด “พี่บอกมาสิว่าไม่จริงไม่จริง พี่พูดออกมาสิคะ” ยูราได้แต่ภาวนาในใจ

“เธอเชื่อข่าวรึเปล่า” เขาตัดสินใจถามออกไป

“ฉันควรเชื่อมันหรือเปล่าคะ” ยูราถามกลับบ้าง

“ระหว่างข่าวนั่น กับ พี่เธอจะเชื่อใคร” เขาหยั่งเชิง

“พี่กำลังจะบอกฉันว่าระหว่างข่าวนั้นกับพี่มีคนใดคนนึงไม่จริงงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเชื่อความจริง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ฉันก็จะยอมรับมัน” ยูราตอบกลับเสียงหนักแน่น

“และถ้าพี่บอกว่าข่าวนั้นไม่จริงเรื่องจริงคือพี่ไม่ได้คบเขา และไม่เคยคบเขา เธอจะเชื่อพี่ใช่ไหม” จงฮยอนถามกลับ เขาแค่อยากรู้ว่าเธอพร้อมจะเชื่อเขาใช่ไหมในเวลาที่เขาต้องการที่สุดคือความเชื่อใจ เธอจะมีให้เขาใช่ไหม

“สิ่งที่พี่พูดมาคือความจริงหรือเปล่าล่ะคะ”เธอถามกลับอีกครั้ง

ทั้งที่ในใจธอกลับบอกตัวเองว่า ถึงพี่จะโกหกฉันว่ามันไม่จริงฉันพร้อมจะลืมทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเพียงแต่พี่บอกฉันมา ฉันจะเชื่อพี่ทุกอย่าง