พักครึ่งเวลาวงร๊อคกับออเคสตร้าหยิบเพลง Live and Let die ของ Paul Mccartney ออกมาเล่นฆ่าเวลา หนุ่มนักเปียนโนที่นั่งหน้าขรึมอยู่ตะกี้ แปลงร่างเป็นร๊อคเกอร์กีตาร์ลิสท์หัวฟูเล่นลีดกีตาร์ด้วยความมันสะใจ พอจบเพลง เราก็ปรบมือให้จนเจ็บมือไปเลย เก่งมากค่า
ครึ่งหลัง หนุ่ม ๆ กลับเข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวมาใหม่ Sebastian ร้องดูเอท I Believe in you คู่กับ David เจ้าตัวออกตัวว่า Miss Dion ไม่ว่างคืนนี้ ก็เลยต้องดูเอทคู่กับ Mister David ไปก่อน
เพลงที่ร้องในครึ่งหลังเท่าที่จำได้ก็มี Unchained melody , Mama , Nella Fantasia เอ .. เพลงนี้เล่นครึ่งแรกหรือครึ่งหลังหว่า ชักไม่แน่ใจ ส่วนเพลงที่เหลือ จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรอีก อย่าต่อว่ากันนะ ป้าแก่แล้ว จำได้แค่นี้ก็ดีถมเถไปแล้วละ
เพลงแรกช่วง Encore คือ Somewhere จากละครเวที West side story เพลงที่สองเป็น My way ของ Franky boy ช่วงแรกหนุ่ม ๆ ร้องเป็นภาษาอิตาเลียนพอครึ่งหลังร้องเป็นภาษาอังกฤษ ระหว่างที่เดวิดกำลังตั้งใจร้องท่อนภาษาอังกฤษอยู่นั้น ก็มีสาวแถวหน้าของอิฉันเกิดอาการของขึ้น เธอกรี๊ดสลบแบบทะลุกลางปล้องขึ้นมา งานนี้เดวิดหลุดค่ะ กำลังร้อง ๆ อยู่ แกสะอึกแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นหัวเราะแทน คนฟังก็เลยหัวเราะตามไปด้วย ตลกดี
ตอนท้าย ๆ เพลงช่วงที่ร้องว่า I did it myyyyyyyy wayyyyyyyy (กรุณาทำเสียงกว้าง ๆ ลึก ๆ แบบคาลอสตามไปด้วย) ก็มีการปล่อยกลีบกุหลาบปลอมตกลงมาท่วมหัวท่วมหูคนดูที่นั่งอยู่แถวหน้า ๆ รวมถึงหัวของอิฉันด้วย งานนี้ไม่โรแมนติกเลยค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เพลงที่เขาเล่นในคอนเสริตนี้ก็เรียกได้ว่า เป็นเพลงไพเราะที่เป็นประทับใจในอดีต ทั้งนั้นเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น All by myself , Everytime I look at you, Unchained melody หรือ My Way
นึกภาพตามไปด้วยได้เลย
เพลงที่เขาเล่นในคอนเสริตนี้ก็เรียกได้ว่า
เป็นเพลงไพเราะที่เป็นประทับใจในอดีต
ทั้งนั้นเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น All by myself ,
Everytime I look at you, Unchained melody
หรือ My Way
ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับบรรยากาศคอนเสริต
จากต่างแดนที่น่าสนใจค่ะ