|
เที่ยวหน้าฝนให้ปลอดภัยห่างไกลเมอร์ส
......พอดีเห็นช่วงนี้มี โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส มีการแพร่ระบาดและลามเข้ามาประเทศไทย ......
......ประจวบเหมาะพอดีช่วงหนี้หน้าฝน ด้วยความเป็นห่วง คนที่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้ก็ขอให้ดูแลสุขภาพและป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคนี้ด้วยวิธีง่ายๆจากคุณ
หมอโสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข คือ
- ให้หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ หรือผู้มีอาการไอ จาม
- ให้ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่
- ให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสกับสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง
- ให้ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการป่วย อาจจะสวมหน้ากากป้องกันโรค และหมั่นเปลี่ยนหน้ากาก ถ้ามีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับคนอื่น เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ และควรใช้กระดาษชําระปิดปาก-จมูกทุกครั้ง ก่อนทิ้งกระดาษชําระที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่ปิดมิดชิด พร้อมล้างมือให้สะอาด กรณีที่ไม่มีกระดาษชำระควรไอหรือจามลงบนเสื้อผ้าบริเวณต้นแขน ไม่ควรจามรดมือ และรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจรักษา
......นอกจากนี้คุณหมอโสภณ ยังได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ว่า โรคเมอร์ส เกิดจากเชื้อไวรัสสาย พันธุ์หนึ่งในกลุ่มไวรัสโคโรนา (MERS Corona Virus : MERS CoV) อยู่ในตระกูลเดียวกับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ซาร์ส เป็นต้น
.....โรคนี้ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 2555 ในประเทศแถบตะวันออกกลาง มีระยะฟักตัวของโรคอยู่ที่ 2-14 วัน โดยปกติทั่วไปประมาณ 5-7 วัน หากผู้ที่เดินทางไปในประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างเช่น ประเทศในตะวันออกกลาง เกาหลีใต้ และกลับเข้ามาในประเทศไทย เมื่อสังเกตอาการของตัวเอง ภายใน 14 วัน อยู่ดีๆ ก็มีไข้ขึ้น มีอาการเหมือนเป็นทางเดินหายใจอักเสบ หรือไข้หวัด ไปจนถึงเป็นปอดบวมก็มีความเสี่ยงที่อาจจะเป็นโรคนี้ได้
.......อาการของผู้ป่วยโรคเมอร์ส จะเหมือนกับการป่วยระบบทางเดินหายใจอย่าง ไข้หวัด มีไข้ ไอ จาม บางรายอาจเกิดในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วง หรืออาการรุนแรงที่ทำให้ปอดบวม ยังไม่มีวัคซีนรักษาและยาฆ่าเชื้อโดยเฉพาะ ทำได้เพียงประคองอาการ โดยให้น้ำเกลือหรือออกซิเจนช่วย หากมีแบคทีเรียซ้ำเติม แพทย์ก็จะให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียรักษาไปตามอาการที่ผู้ป่วยเป็น การรักษาในปัจจุบันจึงเป็นการรักษาแบบประคับประคองอาการ ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย
สำหรับผู้ที่ติดเชื้อก็มีโอกาสที่จะหาย แต่จะใช้ระยะเวลารักษานาน อาจจะ 2-3 สัปดาห์ หรือบางรายมีอาการหนักก็รักษากันเป็นเดือน
ขอบคุณข้อมูล ไทยรัฐออนไลน์ //www.thairath.co.th/content/506422
| Create Date : 24 มิถุนายน 2558 |
|
1 comments |
| Last Update : 24 มิถุนายน 2558 17:29:38 น. |
| Counter : 851 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ