Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2561
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
21 กุมภาพันธ์ 2561
 
All Blogs
 

เรื่องลี้ลับใต้ชายคา (6)



เราได้คุยเรื่องคุณตาและคุณยายของเจ๊ริบบิ้นกันมาแล้ว
 วันนี้เรามาคุยเรื่องคุณปู่คุณย่ากันบ้างนะคะ ว่ากันตามจริงแล้ว เจ๊บิ้น
จะสนิทกับทางคุณตาคุณยายมากกว่าเนื่องจากเกิดและโตมาในบ้าน
ของคุณตาคุณยาย สำหรับคุณปู่นั้น นาน ๆครั้งถึงจะเจอกันซักที
 เนื่องจากบ้านคุณปู่อยู่ต่างจังหวัด แม้จะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก
แต่ด้วยภารกิจมากมาย จึงแทบไม่เคยได้ไปมาหาสู่กันเลย บางทีญาติกัน
แท้ ๆกลับจำกันไม่ได้ซะงั้น ถึงขนาดว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง เจ๊บิ้นผ่านไปจังหวัด
ที่คุณปู่อยู่ แล้วได้แวะอุดหนุนขนมร้านของอาสะใภ้โดยไม่ได้แนะนำ
กันก่อนทานขนมเสร็จจ่ายสตางค์ปุ๊บ อาสะใภ้ยกมือไหว้เจ๊บิ้นปั๊บ
แถมส่งท้ายว่า
“แล้วมาอุดหนุนใหม่นะคะพี่”

คุณย่าแท้ ๆขอเจ๊บิ้นเสียชีวิตตั้งแต่พ่อเจ๊ยังเล็ก ๆ  บรรดา
ญาติทางคุณย่าจึงยึดพ่อไว้เนื่องจากเกรงปัญหาเรื่องทรัพย์มรดกในส่วน
ของคุณย่าที่ยังไม่ได้แบ่งกันอย่างชัดเจนต่อมาคุณปู่ก็แต่งงานใหม่
กับคุณย่าเงินส่วนพ่อเจ๊ก็ได้รับการเลี้ยงดูตามสภาพ อยู่ที่บ้านญาติ
ทางคุณย่าแต่น่าจะสภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ร้อนถึงคุณทวดต้องถือ
ไม้คมแฝกไปอุ้มเอาพ่อเจ๊มาเลี้ยงเองอ้าว
! เรื่องจริงนะ คนรุ่นปู่ย่า
เล่าให้ฟัง พูดถึงคุณทวดเจ๊แกเป็นหญิงแกร่ง และใจเด็ดมาก แกแต่งงาน
อยู่กินกับคุณทวดผู้ชายมาจนมีลูกหลายคนต่อมาน้องสาวแกมาขออาศัย
อยู่ที่บ้าน คุณทวดผู้ชายก็เลยได้น้องสาวแกอีกคนซะงั้นแกเลยโกรธมาก
 เชื่อมั๊ยว่าแกนอนกันคนละห้องนะ แต่แกนั่งด่าคุณทวดผู้ชายตลอดทุกวัน
 ขนาดคุณทวดผู้ชายอยู่ในโลงแล้วแกยังไม่อโหสิกรรมให้เลย ชนิดตาย
ไม่เผาผีกันจริง ๆ

คุณทวดมีอาชีพเป็นแม่ค้าโดยมีแผงขายของอยู่ในตลาด
 แกเป็นคนขยันทำมาหากินหาตัวจับยากแกเลี้ยงดูพ่อเจ๊มาจนโต
ลูกหลานคนไหนที่คุณทวดเลี้ยงจะได้ดีเป็นใหญ่เป็นโตทุกคนรวมทั้ง
พ่อเจ๊ด้วย(ไม่ได้โม้น้า) และแกก็ชอบเล่นหวยมาก เมื่อถึงวันหวยออก
 คุณทวดแกจะไปหาคางคกมาหลายตัวแล้วนำมาขังไว้ เพื่อดูเลขจาก
คางคก แต่ไม่รู้ว่าดูยังไงเหมือนกันนะคนเล่าให้เจ๊ฟังอีกทีเค้าก็ไม่รู้ว่า
ดูยังไงเนื่องจากคุณทวดสงวนวิธีการดูคางคกไว้ไม่ให้ใครรู้ถ้าสมัยนั้น
มีการจดสิทธิบัตรวิธีการดูหวยคางคก ป่านนี้คงรวยกันน่าดูคุณทวด
จะเก็บเงินเก่งมาก เก็บได้เท่าไหร่ก็จะนำไปซื้อสร้อยคอทองคำจากนั้น
จะแอบนำมาร้อยไว้ตามตะเข็บที่นอนซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้ พอคุณทวด
อายุมากขึ้นมีอาการหลงลืมบรรดาคุณอา เห็นว่าที่นอนคุณทวดนอกจาก
จะเก่าแถมยังสกปรก จึงขนไปขายซาเล้ง  พวกสร้อยคอทองคำ
ที่ถูกซ่อนไว้ตามตะเข็บที่นอนจึงไปกับที่นอนด้วยกระทั่งมีคนสูงอายุ
มาเยี่ยมคุณทวดและได้ถามหาที่นอนเก่าความจึงเปิดเผยมาว่า
ที่นอนดังกล่าวมีสร้อยคอทองคำซ่อนอยู่แต่กว่าจะรู้ซาเล้งที่รับซื้อ
ที่นอนไปก็ได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

กลับมาที่เรื่องของคุณปู่คุณปู่หลังจากแต่งงานใหม่กับ
คุณย่าเงิน ก็มีลูกด้วยกันอีกหลายคน  ดังนั้น เจ๊บิ้นจึงมีคุณอามากมาย
 คุณปู่เป็นคนคุยเก่ง มนุษยสัมพันธ์ดี สำหรับคุณย่าเงินนั้นไม่ค่อยเป็นที่
โปรดปรานจากแม่สามี(ก็คุณทวดนั่นแหละ) เท่าไหร่ แต่ก็อยู่ในบ้าน
เดียวกันได้อย่างสันติภาพเนื่องจากคุณทวดจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับ
การด่าคุณทวดผู้ชายที่นอนป่วยอยู่ห้องข้าง ๆหลังจากคุณทวดทั้งสอง
คนถึงแก่กรรมลง คุณย่าเงินก็ป่วยกระเสาะกระแสะมาโดยตลอดแล้วจึง
ถึงแก่กรรมก่อนเจ๊แต่งงานไม่กี่วัน

หลังจากที่คุณย่าเงินเสียแล้วคุณปู่ก็อยู่ตัวคนเดียวโดยมี
บรรดาคุณอาและคนแถวบ้านคอยดูแล บอกแล้วไงคุณปู่คุยเก่งจึงมีคน
แวะเวียนมาคุยเรื่อย ๆ พอคุณปู่อายุมากขึ้น โรคภัยต่าง ๆ ก็รุมเร้าเข้ามา
 คุณปู่ต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลตลอด เนื่องจากคุณปู่เป็นข้าราชการ
บำนาญจึงใช้สิทธิรักษาตัวในโรงพยาบาลศูนย์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐ
ในจังหวัดที่คุณปู่อาศัยอยู่นั่นแหละ ขอพูดถึงสภาพโรงพยาบาลศูนย์
หน่อยนึงนะ  มันไม่ได้น่าอยู่น่านอนแอดมิทเหมือนโรงพยาบาลเอกชน
หรอก คนป่วยล้นมากบางทีล้นทะลักมานอนอยู่บริเวณทางเดิน
เมื่อสถานที่ไม่เพียงพอที่จะรองรับปริมาณคนป่วยความสะอาดหอมกรุ่น
จึงหาได้ค่อนข้างยาก แต่อย่างว่านะ ต่อให้พี่ตูนวิ่งตั้งแต่เบตงจนทะลุไป
ถึงขั้วโลกเหนือก็คงไม่สามารถหาเงินมาได้เพียงพอที่จะปรับปรุงระบบ
บริการสาธารณสุขให้ทั่วถึงทั้งประเทศว่ากันตามตรงแล้วมันต้องช่วยกัน
รักษาสุขภาพอนามัยกันตั้งแต่ยังเด็ก ๆ นั่นแหละ จะได้ลดจำนวน
คนป่วยลง

เมื่อคุณปู่ต้องเข้าโรงพยาบาลแกก็แสดงความจำนงว่า
จะขอนอนห้องเตียงรวมตลอด แถมไม่ใช่ห้องเตียงรวมแบบ 2
– 3 เตียง
นะแต่เป็นห้องเตียงรวมแบบห้องนึงมีเป็นสิบเตียง คนป่วยนอนกันบนเตียง
 ส่วนบรรดาญาติก็ปูเสื่อและหนังสือพิมพ์นอนกันเต็มข้างเตียงไปหมด
 บางทีมีลูกเล็กเด็กแดงก็ผูกเปลกับขาเตียงไกวกันใต้เตียงกันเลย
เมื่อคนเยอะมากจึงแลดูอึกทึกครึกโครม ความสะอาดก็ไม่ค่อยมี
แถมคนเยอะ ก็เป็นธรรมดาที่บุคลากรที่เกี่ยวข้องมักจะอารมณ์ไม่ค่อยดี
 จะหาที่พูดจาไพเราะรื่นหูคงเป็นไปได้ยาก บรรดาคุณอาจึงไม่อยากให้
คุณปู่ต้องพักรักษาตัวในสภาพเช่นนี้จึงขอร้องให้คุณปู่ย้ายไปพักรักษา
ตัวในห้องเดี่ยวที่น่าจะสงบ สะอาด และปลอดภัยกว่าแต่คุณปู่ก็ยังไม่ยอม
คุณอาจึงโทรมาหาพ่อเจ๊ให้ช่วยมาเกลี้ยกล่อมคุณปู่ให้ย้ายไปพัก
ห้องเดี่ยวคุณปู่จึงยอมย้ายไปห้องเดี่ยว แต่ไม่นานก็ขอย้ายกลับไปอยู่
ห้องรวมตามเดิม ทุกคนเริ่มหงุดหงิดไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมคุณปู่
ถึงได้ดื้อดึงอะไรเช่นนี้ในที่สุดคุณปู่ก็ปริปากบอกเหตุผล คุณปู่เล่าว่า
ทุกคืนวันพระ คุณปู่จะเห็นสิ่งไร้ชีวิตที่เรียกว่า
“ผี”จำนวนมากมาย
ยืนล้อมเตียงคุณปู่บ้าง เดินเพ่นพ่านไปมาในห้องพักบ้าง เต็มไปหมด
บางร่างหัวขาด บางร่างแขนขาขาด น่าสยดสยองมาก มีทั้งเด็ก
และผู้ใหญ่เต็มไปหมด  ดังนั้น เมื่อผ่านคืนวันพระไปทีไรรุ่งขึ้นความดัน
ของคุณปู่จะพุ่งปรี๊ดสร้างความวิตกให้คุณหมอและญาติ ๆ โดยตลอด

เมื่อทราบเหตุผลอันสุดสยองแล้วบรรดาคุณอาและพ่อ
ต่างเข้าใจคุณปู่กันทันทีแต่กระนั้นพวกเรากลัวว่าหากปล่อยให้คุณปู่
ที่มีอายุมากแล้วร่างก่ายก็อ่อนแอไปนอนห้องรวมจะยิ่งเกิดการติดเชื้อ
ได้ง่ายขึ้น จึงขออนุญาตโรงพยาบาลให้เคสคุณปู่สามารถมีคนเฝ้าไข้
เกินกว่า2 คนได้ คุณหมอเมื่อทราบเหตุผลก็ดีใจหายรีบลงนามรับรอง
คำขออนุญาตของคุณปู่ได้ในทันใด (ก็น่าจะรู้ ๆ กันนั่นแหละ)  ดังนั้น
ในคืนวันพระ บรรดาคุณอาจึงไปนอนเป็นเพื่อนคุณปู่กันอย่างล้นหลาม

แต่แล้วในวันหนึ่งคุณปู่ตื่นขึ้นมาแล้วเล่าให้คุณอาที่เฝ้าไข้
อยู่ฟังว่า เมื่อคืนย่าเงินมาหาแล้วมาต่อว่าคุณปู่ว่าไหนว่าจะอยู่ต่อหลัง
จากที่ย่าเงินเสียอีกแค่ 3 ปี แต่นี่หลายปีแล้วนะ จากนั้นอีก 2
– 3 วัน
 อาการคุณปู่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รับประทานอาหารได้มากขึ้นช่วงนี้
พ่อเจ๊ก็เป็นอันขับรถขึ้น ๆ ลง ๆ ไปเยี่ยมปู่เกือบทุกวัน กระทั่งวันหนึ่ง
พ่อเพิ่งกลับจากเยี่ยมคุณปู่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณอาโทรมาแจ้งข่าวว่า
 คุณปู่เสียแล้ว

หลังจากคุณปู่เสียชีวิตทางบ้านตัดสินใจตั้งสวด
พระอภิธรรมคุณปู่ ณ วัดที่อยู่ใกล้บ้านคุณปู่ เนื่องจากคุณปู่มีคนรู้จัก
เยอะมากแขกจึงล้นหลามทุกคืน ทางบ้านมีการจ้างช่างภาพมาบันทึก
ภาพบรรยากาศในงานคุณปู่เก็บไว้เป็นที่ระลึกเจ๊บิ้นเองก็หอบหิ้วลูกชาย
 ซึ่งขณะนั้นอายุประมาณ 5
– 6 ขวบไปทุกคืน งานนี้เหมือนงานรวมญาติ
 บรรดาลูก ๆ หลาน ๆ เหลน ๆ จึงได้มาพบปะกันที่วัดเด็ก ๆ วิ่งเล่นกัน
เจี๊ยวจ๊าว เรียกได้ว่า ครึกครื้นกันไปทั้งวัด ไม่มีมุมไหนน่าวังเวงเลย
คนนั่งกันเต็มแม้แต่บันไดเมรุ เมื่อถึงวันก่อนพิธีพระราชทานเพลิงศพ
ช่างภาพได้ทยอยล้างและอัดภาพมาให้ดู ปรากฏว่า ในภาพถ่าย
ได้ติดภาพแปลก ๆ มา 2
– 3 ภาพ บรรดาอาจึงนำภาพนั้นมาขยาย
แจกจ่ายกันในหมู่พี่น้องเจ๊บิ้นก็ได้เห็นด้วย เอาเท่าที่จำได้นะ ภาพแรก
 เป็นภาพถ่ายเด็ก ๆที่เป็นเหลนของคุณปู่ หนึ่งในนี้ก็มีลูกชายเจ๊บิ้นด้วย
 เด็ก ๆ นั่งเล่นกันอยู่ที่บันไดเมรุโดยเห็นเค้าโครงร่างที่โปร่งใสเกือบจะ
เป็นเงา แต่มีความชัดเจน สามารถเห็นได้ว่าเป็นคุณปู่และคุณย่าเงิน
นั่งอยู่ที่บันไดเมรุกับพวกเด็ก ๆ ด้วย โดยเห็นค่อนข้างชัดแบบไม่ได้
มโนไปเองคุณปู่นั่งบนบันไดเมรุหันหน้ามองไปทางศาลาที่กำลัง
ตั้งคุณปู่อยู่ ส่วนคุณย่าเงินนั่งถัดออกมานิดนึงโดยหันมาหากล้อง
เห็นได้ค่อนข้างชัดขนาดว่าเห็นลายเสื้อ กางเกง ผ้านุ่ง แต่มีลักษณะ
โปร่งใสบางส่วนของร่างกายก็สามารถมองทะลุผ่านเห็นเหลน ๆ ที่นั่งอยู่
ใกล้ ๆ ได้เลยส่วนภาพที่เหลือจะเป็นภาพถ่ายหมู่หน้าโลงศพ แขกที่มา
ในงานก็จะยืนเรียงกันหน้าโลงแต่ในแถวที่ยืนจะปรากฏเงาโปร่งใส
เป็นร่างคนร่วมยืนอยู่ด้วยอีกหลายร่างแถมมีการจัดการยืนเรียงได้
ลงตัวกันเป๊ะ

มันก็แปลกนะที่ช่างภาพที่รับงานนี้ไม่เคยถ่ายภาพคุณปู่
และคุณย่าเงินมาก่อนเลยแถมคุณย่าเงินก็เสียชีวิตไปนานแล้วจึงแทบ
จะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีภาพถ่ายรูปคู่คุณปู่และคุณย่าเงินในอิริยาบถดังกล่าว
ค้างอยู่ในกล้องแถมเสื้อผ้าที่เห็นก็เป็นชุดที่ทั้งสองชอบใส่ประจำเวลา
อยู่บ้านและทั้งสองก็ไม่มีพี่น้องหรือญาติคนไหนที่มีความคล้ายคลึงกัน
พอที่จะเห็นว่าเป็นเงาภาพซ้อนของคนคนนั้นได้สำหรับกรณีภาพหมู่
ในงานมันก็อาจเป็นไปได้นะที่จะเกิดกรณีภาพค้างในกล้องงานอื่น
ที่บังเอิญมาเข้ากันได้กับรูปนี้เป๊ะแต่ภาพคุณปู่และคุณย่าเงินที่นั่งกับ
หลาน ๆ หน้าบันไดเมรุนี่นับว่าค่อนข้างชัดเจนในระดับหนึ่งเลยล่ะ
แต่ก็ไม่มีใครเคยพบเคยเจอทั้งคุณทวด คุณปู่ และคุณย่าเงิน เลยนะ
จะมีก็แต่รูปถ่ายนี้แหละที่ค่อนข้างแปลกและชัด

พ่อของเจ๊ก็ได้รับภาพนี้มาจากคุณอาด้วยแต่พ่อเอาเก็บไว้
เงียบ หลังจากนั้นอีกหลายปี จนกระทั่งลูกชายเจ๊โตแล้วเค้าจำได้จึงไปขอ
ดูภาพนี้อีกที แต่พ่อเจ๊ปฏิเสธว่าไม่มีไม่รู้ว่าพ่อจะลืมไปแล้วจริง ๆ หรือไม่
อยากให้ใครดู อาจจะด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างก็ไม่อาจรู้ได้

บ๊าย บาย นะคะ




 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2561
0 comments
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2561 14:30:17 น.
Counter : 520 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 4341744
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุณป้าวัยใส ผู้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 4341744's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.