Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2561
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
7 กุมภาพันธ์ 2561
 
All Blogs
 

อันว่าด้วยเรื่องบวชชีพราหมณ์ ถือศีล 8 แบบแนว แนว (10) Bedtime Story



         สวัสดีค่ะเมื่อวานเราว่ากันด้วยเรื่องกิน กินเสร็จก็ต้องนอนสิคะ

สำหรับการนอนของผู้ถืออุโบสถศีลจะต้องเป็นไปตามถ้อยคำสมาทานศีล
ที่ว่า

“อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ”


อันหมายถึงการเว้นจากการนั่งนอนบนเตียงตั่งมีเท้าสูงเกินประมาณ
และที่นอนสูงใหญ่ภายในมีนุ่นและสำลีและเครื่องปูลาดอันวิจิตรงดงามต่าง ๆ
เป็นไงคะ ขนาดแปลไทยเป็นไทย ยังเข้าใจยากใช่มั๊ย ข้อนี้เจ๊ริบบิ้นก็ขอสารภาพ

ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่มาก จึงขอถ่ายทอดแต่ประสบการณ์ที่เคยได้รับ
จากการไปปฏิบัติธรรม บวชชีพราหมณ์ ถือศีล 8 ตามวัดหรือสถาบันต่าง ๆ

มาให้อ่านกันนะคะ ผิดถูกอย่างไร ต้องกราบขออภัย หรือรบกวนช่วยชี้แนะ

พร้อมอ้างแหล่งที่มาใน
Comment ให้ด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง

อันดับแรกเรามาดูเจตนารมณ์ของการบัญญัติอุโบสถศีลก่อน
ถ้าตามความเข้าใจของเจ๊บิ้น ก็น่าจะเกิดจากความต้องการให้มนุษย์เรามี
“สติ”
อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลานอนพักผ่อน การนอนที่สบายจนเกินไป
อาจทำให้เราหลุดจากการควบคุมสติ ทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม
เพลิดเพลินไปกับการนอน โดยเฉพาะแนวทางปฏิบัติสายวัดป่า
อย่างเช่นวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ซึ่งเน้นการปฏิบัติเป็นสำคัญ

พระภิกษุที่เคร่งครัดจริง ๆ จึงนอนน้อย ฉันน้อย กระทั่งบางรูปอาจมีช่วงเวลา
ที่งดเว้นจากของขบฉันทั้งปวง อธิบายสั้น ๆ ไม่กินของที่ต้องใช้ฟันกัดเคี้ยวนั่น
แหละ แต่จะมีการอนุโลมฉันได้เฉพาะเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เพื่อให้พลังงานบ้าง
แต่ก็มีเหมือนกันนะ เท่าที่ทราบบางรูปไม่ฉันอะไรเลยจริง ๆ แม้แต่น้ำเปล่า
แต่เป็นการปฏิบัติในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

เมื่อเรามาเริ่มชำแหละคำอธิบายอุโบสถศีลข้อ8 นี้ ออกเป็นส่วน ๆ
ซึ่งเป็นการว่าด้วยการละเว้นจากการนอนบนที่นอนที่มีลักษณะ ดังนี้

1.ที่นอนสูง ก็คือ เตียงหรือตั่งขอเตียงที่มีความสูงเกินกว่า 8 นิ้วพระสุคต
 (นิ้วมือของพระพุทธเจ้า) หรือประมาณ 10 นิ้ว 3 กระเบียด

2.ที่นอนใหญ่ คือที่นอนหรือเครื่องปูลาดที่มีขนาดกว้างใหญ่

3.ฟูกที่ยัดด้วยนุ่นหรือสำลี

4.เครื่องปูลาดด้วยเงินทอง

ข้อแรกการเว้นจากการนอนบนที่นอนสูงข้อนี้เจ๊บิ้นแอบงงนะ ภายใน
ห้องพักที่วัดญาณสังวรารามฯ จะมีเตียงไม้ให้ วัดความสูงยังไงก็เกิน 10 นิ้ว

3 กระเบียด  รวมทั้งอีกหลายวัดเท่าที่ทราบมีการใช้เตียงไม้ในลักษณะนี้

แถมความคิดเจ๊มันก็บรรเจิดไปอีกว่า ถ้าเรานอนชั้น 2 ชั้น 3 นี่มันไม่ถือว่า
สูงเกินพระวินัยเหรอ หลังจากสงสัยไม่รู้จบ เพื่อนเจ๊บิ้นคนนึง ซึ่งเป็นกูรู
ด้านการถือศีล คงทนรำคาญไม่ไหว เลยบอกอนุโลมให้นอนตามสภาพ

อย่าเรื่องมาก มีไรให้นอนแบบนั้น เอาฟะ เตียงไม้ก็เตียงไม้ ทำไงได้

ไม่มีความรู้จริง ๆ แถมเวลาถามผู้รู้ก็ให้คำตอบมาลอย ๆ ไม่มีแหล่งอ้างอิงด้วย

ข้อต่อมาการเว้นจากการนอนบนที่นอนใหญ่ แล้วใหญ่ขนาดไหนล่ะ
ก็มีการขยายความต่อว่าต้องใหญ่ขนาดนางรำขึ้นไปยืนฟ้อนได้ 16 นาง

ข้อนี้ทำเจ๊ฮากลิ้งไปหลายรอบ ช่างเข้าใจหาหน่วยวัดที่มันยากเย็นอะไรเช่นนี้

จะบวชทั้งทีต้องจ้างนางรำ 16 คนขึ้นไปยืนรำบนที่นอนก่อนรึเปล่าเนี่ย

แหม
! จินตนาการล้ำเลิศเหนือบรรยายว่าแต่ กรูคิดแบบนี้จะบาปมั๊ยน้า
แต่สำหรับข้อนี้ไม่มีปัญหา ที่นอนใหญ่ขนาดคนยืน 16 คนนี่ หายาก

ถ้านางรำตัวขนาดเจ๊นี่ ยิ่งไม่ต้องกังวลเลย

ข้อต่อไปการเว้นจากการนอนบนฟูกที่ยัดด้วยนุ่นหรือสำลี ข้อนี้มีการ
เลี่ยงบาลีกันออกไปอย่างกว้างขวาง เนื่องจากพระวินัยบัญญัติโดยใช้คำว่า

“ฟูกที่ยัดด้วยนุ่นหรือสำลี” แต่ในปัจจุบันมีวัสดุหลายอย่างที่ถูกนำมา
ใช้ยัดข้างในฟูก เช่น ใยสังเคราะห์ ยางพารา ขนนก ฟางข้าว เศษผ้า

บ้างก็ว่า ถ้าไม่ใช่ฟูกที่ยัดด้วยนุ่นหรือสำลีก็นอนได้ไม่ผิด บ้างก็ไม่ใช่ฟูก

แต่นำผ้าห่มนวมหนา ๆ มาปูรองนอนหลาย ๆ ชั้น เสมือนไปปิคนิกตามเรียวกัง
ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ปาน อะไรจะสบายปานนั้น  อย่างไรก็ดี ควรดูที่เจตนารมณ์
ของการบัญญัติด้วยนะ ก็เหมือนกฎหมายนั่นแหละ มีทั้งที่ต้องตีความโดยเคร่งครัด
ยึดถือถ้อยคำตามตัวบทกฎหมาย หรือเทียบเคียงได้ แต่เจ๊ว่า ที่มีข้อห้ามนอน
ฟูกนุ่ม ๆ ก็เพราะอยากให้เรามีสติตลอด เวลานอนฟูกแข็ง พลิกตัวที
เราก็จะเจ็บสะโพก ทำให้รู้สึกตัวว่าเรากำลังนอนอยู่นะ เป็นการดึงสติอย่างหนึ่ง
ไม่ให้เราหลงใหลเพลิดเพลินไปกับการนอนจนเกินไป เราต้องนอนก็เพราะร่างกาย
ต้องการพักผ่อน แต่จะนอนสบายระดับไหน คุณเท่านั้นที่จะรู้ตัวคุณดี

เรื่องฟูกนี้ ใหม่ ๆ เจ๊บิ้นก็เคร่งจัด วัดมีอะไรก็เอาตามนั้นแหละ ซึ่งวัดส่วนใหญ่
จะมีเสื่อให้ นอนบนเสื่อก็พอไหว เสียแต่เช้ามาแขนขางี้ลายพร้อยเลย จากนั้น
เจ๊ก็มารู้จากเพื่อนที่เป็นนักบวชชีพรหมณ์มืออาชีพว่า ถุงนอนที่ไม่หนานุ่มมาก
ก็นอนได้ คราวนี้สบายเลยค่ะ เวลาไปถือศีลที่ไหน พกถุงนอนไปอัน ได้ครบ
ทั้งที่ปูนอนและผ้าห่ม แถมไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาด ก็แหม
! จะให้นอน
บี้เรือดริ้นไรทั้งคืนก็ไม่ไหวนะคะ บาปด้วย

ข้อสุดท้ายการห้ามนอนบนเครื่องปูลาดด้วยเงินทองข้อนี้ไม่มีปัญหา
ขืนวัดไหนมีเครื่องปูลาดทำด้วยเงินหรือทองคำ เป็นได้หายวับไปชั่วนิรันดร์

สำหรับบรรยากาศการนอนเนื่องจากวัดญาณสังวรารามฯ ได้จัดห้องพัก
ให้ผู้ปฏิบัติธรรมไว้หลายอาคาร และมีปริมาณเพียงพอที่จะรองรับผู้มาปฏิบัติธรรม
ที่มาเป็นหมู่คณะจำนวนมาก ๆ ได้ เช่น โรงเรียน บริษัท สมาคมต่าง ๆ
มีทั้งที่ให้นอนรวมกันเป็นโรงเรือนยาว อาคารที่พักแยกชายหญิง แบ่งเป็น
ห้องเดี่ยว
มีห้องน้ำในตัว บ้านพักเป็นหลัง ๆ แต่ละหลังแบ่งออกเป็นห้องเดี่ยว ๆ
หลายห้อง
แต่แบบนี้น่าจะใช้ห้องน้ำร่วมกันนะ เจ๊ก็ไม่เคยได้เข้าไปดูข่างในซักที
รวมทั้งกุฏิขนาดเล็ก ๆ นอนได้พอดีตัว แบบนี้แอบดูน่ากลัวหน่อย ๆ
ดูเก่าและโทรม ตั้งอยู่ตามใต้ต้นไม้ใหญ่ ๆ กลางคืนแลดูวังเวงน่ากลัวพิลึก

แต่ก็มีคนเข้าพักแบบนี้กันเยอะอยู่นะ

สำหรับเจ๊บิ้นไปถือศีลที่วัดญาณสังวรารามทั้ง2 ครั้ง ถูกจัดให้นอน
ที่อาคาร
ญส.72 ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ขนาด 20ห้องมีห้องน้ำในตัว
ภายในห้องปกติมีหน้าต่างบานเกล็ด 2 ด้าน ด้านติดทางเดินกับด้านหลัง
สำหรับห้องริมตึก
จะพิเศษหน่อย เพิ่มหน้าต่างด้านข้างให้ แต่ไม่มีผ้าม่านนะจ๊ะ
กลางคืนช่างน่าจินตนาการถึงผี ๆ สาง ๆ ดีแท้ ที่สำคัญติดมุ้งลวดกันยุง
และแมลงให้ ภายในห้องมีเตียงไม้ให้ 1 หลัง ตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ ให้ 1 ใบ
ข้างในเก็บเสื่อ ผ้าห่ม
และอาสนะให้ สำหรับอาสนะและหนังสือสวดมนต์
ที่มีให้ในแต่ละห้อง
ถือว่าเป็นอาวุธประจำกาย ให้พกไปทำวัตรด้วยเสมอทั้งเช้า
และเย็น มีโต๊ะเล็ก ๆ 
และเก้าอี้นั่งให้ 2 ตัวมีตู้ติดผนังไว้เก็บจานชามช้อนส้อม
 โดยมักจะมีผู้บริจาคไว้ในแต่ละห้อง และมีพัดลมผนังไว้ไล่ความร้อน
ภายในห้องน้ำจะมีถังน้ำใบใหญ่
ฝักบัว และอ่างล้างหน้าให้ และก็มีกระจก
ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นน้อยสุดสำหรับเจ๊บิ้น 
ถือศีล 8 แต่ละทีไม่เคยส่องกระจกเลย
จะได้ตัดปัญหาเรื่องทนดูสภาพตัวเองไม่ได้ 
เนื่องจากการถือศีล 8
“นัจจคีตวาทิตวิสูกทัสสนมาลาคันธวิเลปนธารณมัณฑนวิภูสนัฏฐานา เวรมณี"
 นั่นคือการงดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการละเล่น
อันเป็นข้าศึกต่อกุศล ลูบ ทา ทัด ทรงประดับตกแต่งร่างกายด้วยพวงดอกไม้
ของหอม เครื่องย้อม เครื่องทาอันจัดว่าเป็นการแต่งตัว
ดังนั้นเมคอัพต่าง ๆ
เป็นอันห้ามขาด แต่เท่าที่ดู ๆมาก็มีการเลี่ยงบาลีในกรณีพวกครีมกันแดด
กันเยอะ โดยอ้างว่าเป็นยานะ ไม่ใช่เครื่องสำอางค์ซักกะหน่อยของแบบนี้
ในใจย่อมรู้ดีอยู่แล้วนะว่ากำลังทำอะไรอยู่ หึ หึ หึ


ส่วนใหญ่เราจะนอนกันหลัง2 ทุ่ม และจะตื่นกันกี่โมงก็ได้ แค่ให้ทัน
ไปทำวัตรเช้าตี 4 กว่าก็พอบรรยากาศกลางคืนจะเงียบกริบ มีแต่เสียงหรีดหริ่ง
เรไร นาน ๆทีจะมีเสียงนกร้องขึ้นมา รวมทั้งเสียงหมาหอนปลุกอารมณ์กันบ้าง
สำหรับรอบแรกเจ๊บิ้นฉายเดี่ยว แถมนอนห้องริม ข้างนอกหน้าต่างเป็นต้นมะม่วง
ขนาดใหญ่เขียวครึ้มกลางวันก็ดูร่มรื่นดีแต่ตอนกลางคืนมันชวนให้จินตนาการ
ไปว่าจะมีอะไรจ้องเราอยู่ข้างนอกมั๊ย(จินตนาการทั้งนั้น) ถึงเวลาเข้านอน
ทุกคนจะเงียบกริบเงียบกระทั่งเจ๊ได้แต่วิงวอนร้องขอ ใครก็ได้ช่วยจาม
เป็นเพื่อนเจ๊หน่อยเห๊อะ ก็แหม
เจ๊ยังกลัวผีนี่นาแต่เพราะความกลัวผี
ในเวลากลางคืนนี่แหละทำให้เจ๊บิ้นมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมในเวลากลางวัน
โดยเฉพาะรอบแรกที่ไปคนเดียวไม่มีการแอบงีบนอนกลางวันเลย เอาแต่
เดินจงกรมสลับกับนั่งสมาธิตลอด พอง่วงทนไม่ไหว ก็เดินออกไปบริเวณโถง
หน้าบันไดจะมีตู้หนังสือที่มีคนนำมาบริจาคไว้เต็มส่วนใหญ่เป็นบทสวดมนต์
และหนังสือธรรมะที่เจ๊ชอบมากก็คือบรรดาประวัติของเกจิอาจารย์สายวัดป่า
เช่น หลวงตามหาบัวพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต แต่มือเจ๊ดันไม่รักดี
หยิบหนังสือผีของโปรดมาอ่านซะงั้น ก็ได้เรื่องสิคะ เวลากลางคืนจิตจึงคิด
ไปเรื่อยเปื่อย

การมุ่งมั่นปฏิบัติใช่ว่าจะดีเสมอไปด้วยความเคารพ นี่เป็นความเห็น
ส่วนตัวนะคะ จากประสบการณ์เจ๊บิ้น รอบแรกไปคนเดียวแฝงด้วยความกลัว
กลัวนั่นกลัวนี่ กลัวสารพัด ไม่เอารถไปเอง จึงขาดความเชื่อมั่นถ้าเกิดอะไรขึ้น
ชั้นจะออกไปจากที่นี่ยังไงน้า (คิดไปเรื่อย) ด้วยความกลัวจึงทำให้เคร่งกับการ
ปฏิบัติเช้า กลางวัน เย็น เว้นกลางคืนกลัวเจอขอส่วนบุญ (ฮา) ปฏิบัติธรรมเสร็จ
ก็แผ่เมตตาแผ่วันนึงหลายรอบ ขออย่าได้มาหลอกหลอนลูกเลย เจ้าประคุ๊ณ
ตอนเช้าก็เดินไปทำวัตรคนเดียว ต้องฝ่าความมืดไปพร้อมกับความกลัว
นอนกลางคืนก็เปิดไฟรอบทิศ เมื่อพักผ่อนน้อย มันก็เครียดถามว่า
ได้ปฏิบัติธรรมเยอะมั๊ย ตอบเลยว่า
“เยอะมาก” แต่ “ไม่มีคุณภาพ”
ก็มันทั้งเหนื่อย ง่วง เครียด ไม่มีความสงบ มีแต่ความกลัวพอไปอีกครั้ง
รอบหลัง เอาเพื่อนไปด้วย แต่นอนคนละห้องกัน ขับรถไปเอง
จอดหน้าอาคารเลยจ้า ได้นอนห้องต้น ๆ มีผู้ปฏิบัติธรรมอยู่ห้องข้าง ๆ
ทั้ง 2 ห้องกลางคืนส่งเสียงกรมครอก ครอก แจ๊บ แจ๊บ แจ๊บ ฟังแล้ว
แสนจะอุ่นใจแถมรอบนี้ทางเดินไปพระอุโบสถที่มืดสลัว ๆ และแสนน่ากลัว
ก็เปลี่ยนไปมีการติดตั้งไฟทางเดินเพิ่มให้สว่างไสวต้นตาลที่สร้างจินตนาการ
เสมือนเปรตมายืนเรียงแถวต้อนรับยามไปทำวัตรเช้าก็ถูกตัดเหลือไม่กี่ต้น
และก็เป็นช่วงข้างขึ้นเกือบ 15 ค่ำ พระจันทร์เดือนหงายสวยงาม
บรรดาสุนัขก็ดูจะลดจำนวนลงไปบ้างเล็กน้อย ทำให้มนต์ขลังของเสียงหอน
ดูลดลงทำให้เจ๊บิ้นหลับได้สนิทตลอด ตื่นมาอาบน้ำสดชื่นทุกวัน
แถมช่วงสายมีการนอนงีบเอาแรงนิดหน่อย เสียเวลานอนแค่ 2
– 3 ชั่วโมง
แต่กลับทำให้ประสิทธิภาพของการเดินจงกรมนั่งสมาธิในช่วงบ่าย
ประมาณ
4 – 5 ชั่วโมง ดีขึ้นเยอะเลย จิตนิ่งสงบ มีสมาธิมาก
ไม่ได้อยู่กับความกลัวอีกต่อไป

คราวหน้าเรามาว่าด้วยเรื่องพิธีสวดมนต์ข้ามปีนะจ๊ะแล้วเจอกัน บาย




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2561
1 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2561 16:53:56 น.
Counter : 7350 Pageviews.

 

แวะมาทักทายจ้าา ^__^ อิอิ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140 29 เมษายน 2561 15:22:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 4341744
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุณป้าวัยใส ผู้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 4341744's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.