'*^-+...ไม่มีอะไรงดงาม เท่าความสงบสุข...+-^*'

ตู้เย็นที่รัก

หลังจากโงหัวขึ้นมาจากการเล่นเนท 6 ชั่วโมงติดต่อกันเยี่ยงคนไม่ได้เล่นเนทมาหนึ่งปีได้แล้วนั้น นอกจากตาสองข้างจะปวดตุบ ๆ และเห็นจุดสี ๆ เต็มพนังแล้ว ท้องว่าง ๆ ที่กินเพียงยำแหนมหมูยอไปเมื่อตอนเย็นก็ร้องดังโครก ๆ ๆ...จะให้เดินไปอาบน้ำและเข้านอนตอนนี้ก็ได้อยู่หรอก แต่คงนอนกระสับกระส่ายฟังเสียงท้องตัวเองกล่อมนอนแทนเพลงจาก MP เสียเป็นแน่


แต่เมื่อเหลือบมองนาฬิกาสี่เหลี่ยมสีขาวบนผนังหนึ่งทีก็ใจไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ครั้นจะลุกไปขุดคุ้ยครัวตอนนี้ก็คงรู้สึกผิดไม่หยอกจากการกินอะไรก็ตามลงไป...ระหว่างกำลังชั่งใจอย่างหนักหน่วงอยู่นั้น เสียงเล็ก ๆ จากไหนก็ไม่รู้แว่วเข้าหูข้าง ๆ “ไม่เป็นไรน่า...แอปเปิ้ลสักลูก สุขภาพดีด้วย”

มารู้ตัวอีกทีแสงไฟจากตู้เย็นฟริจิแดร์ (ยี่ห้อตู้เย็นชนิดหนึ่ง) ใบโตก็ฉาบหน้าวาบ ๆ และมีช็อคโกแลตขาวเฮอร์ชีส์รส cookie and cream ของโปรดเคี้ยวกร้วม ๆ อยู่ในปากเสียแล้ว...รสหวาน ๆ ของมันกับเนื้อกรุบ ๆ ของคุกกี้สีดำนี่มันช่างเข้ากันเสียนี่กระไร...
ไม่ทันไรก็หมดไปเกือบแท่งหนึ่ง สายตาถึงเพิ่งจะเหลือบไปเห็นแอปเปิ้ลเขียวที่ล้างปอกหั่นไว้อย่างดีนอนนิ่ง ๆ ในกล่องทับเปอร์แวร์ข้าง ๆ ตู้เย็น...อุตส่าห์เตรียมมันเอาไว้เพื่อการนี้อย่างดีแล้วเชียว ยังหันไปคว้าเจ้านี่เข้าเสียได้อย่างไรกัน (แหะ ๆ ๆ)



ฉันจึงต้องตัดใจยัดเจ้าก้อนสีขาวที่เหลือเอาไว้เล็กน้อยพอเป็นพิธีกลับเข้าไปวางที่เดิมที่มันเคยเป็นอยู่
...แล้วทันใดนั้น แหนมดอนเมืองเปิบพิสดารแท่งขนาดกลางที่พี่ตู่ให้มาเมื่อเกือบเดือนก่อนก็หล่นปุออกมากลิ้งหลุน ๆ บนพื้นในครัว...ฉันจึงตระหนักขึ้นได้และหันกลับไปมองฟริจิแดร์ (อ้างแล้ว) ใบใหญ่อย่างละเอียดถี่ถ้วน และเริ่มรู้สึกว่าบางทีมันอาจจะแน่นและตัวโตเกินไปเสียหน่อยแล้ว



หลังจากเหลือบตามองและสังเกตคร่าว ๆ ในตู้เย็นชั้นที่สองและสี่ (ชั้นที่หนึ่งและสามเป็นของรูมเมท...แบ่งกันแปลก ๆ...รู้แล้วล่ะ) ก็เห็นได้ชัดถึงความแตกต่างของการจัดระเบียบและข้าวของต่าง ๆ นานา
...ณ เวลาเกือบตีสองของกลางดึกคืนหนึ่งนั้น ฉันจึงขุดตู้เย็นออกมาให้เห็นกันจะจะและจัดการกับมันเสียใหม่ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าตู้เย็นใบนี้จะมีอะไรต่าง ๆ นานามากมาย...ดังนี้ (บล็อกนี้ประจานตัวเองโดยแท้)


ช็อคโกแลตขาวหลากยี่ห้อวางเรียงเป็นตับ (แน่นอนว่ามี Hershey’ เยอะที่สุด) ซึ่งไม่น่าปรากฏในตู้เย็นของผู้ที่ประกาศปาว ๆ อยู่ทุกวันว่าจะ “ลดความอ้วน” หลายอันกัดไปแล้วครึ่งแท่งแล้วกองอยู่ที่เดิม บางอันไม่อร่อยเลยไม่กินให้หมด บางอันมีเหตุผลเหมือนกับแท่งที่เพิ่งกินไป คือ กลัวจะรู้สึกผิดมากเกินไปกว่านี้ เลยเหลือทิ้งไว้ก้น ๆ (เพื่อ??)



มีแอปเปิ้ลเขียว แอปเปิ้ลแดงทั้งที่ปอกไว้ในกล่องแล้วและยังใส่ถุงพลาสติคอยู่ อันเป็น ‘อุปกรณ์’ ที่หวังว่าจะช่วยคลายความหิวกลางดึก หรือยามบ่าย และจะได้ไม่เพิ่มความอ้วนให้มากไปกว่านี้ ซึ่งนั่นเป็นเหมือน “อุดมคติ” ตอนซื้อ ซึ่งไม่มีทางจะเป็นจริงได้เมื่อซื้อมาแล้ว เพราะจะลงมือกินมันต่อเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเดือนที่แล้วซื้อมา และต้องรีบจัดการก่อนมันจะกลายเป็นสีดำและโยนทิ้ง (เหมือนที่เคยทำมาแล้วเมื่อจัดตู้เย็นคราวก่อน)



เห็ดชอมปริยอง...มีตั้งสองกล่อง กล่องนึงใช้ทำไปแล้วครึ่งและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหี่ยว ๆ ส่วนอีกกล่องยังเต็มเพราะเพิ่งซื้อมาเมื่อวาน ทำให้ต้องนั่งมองพลางคิดว่า จะซื้อมาทำไมเยอะแยะนะตรู!!

พริกแดง 4-5 เม็ดในกล่องพลาสติคก้น ๆ ตู้เย็นและขึ้นราเน่า ๆ (ประจานตัวเองเพื่ออะไรเนี่ย?) โยนทิ้งไปหมดแล้ว…ใบมะกรูดล้างสะอาดอยู่อีกกล่องหนึ่ง และยังไม่ขึ้นรา ดีจริง

นมข้นจืด 2 กระปุกโต ๆ ยังไม่ได้เปิดสักอัน...เพิ่งรู้ว่าซื้อมาซ้ำ เพราะนึกว่ายังไม่ได้ซื้อ

แป้งห่อปอเปี๊ยะและชีสขาวซึ่งซื้อมาเมื่อไหร่ก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่าตั้งใจจะมาทำปอเปี๊ยะห่อชีสเยิ้ม ๆ ใส่กุ้งร้อน ๆ (อ่า หิววว) ...เพิ่งจะมานึกขึ้นได้ก็ตอนนี้ แล้วก็ยังมีแป้งพายที่ใช้ไปแล้วครึ่งกับไส้แอปเปิ้ลและบลูเบอร์รี่ใส่กล่องเอาไว้...เอาละ ตั้งใจใหม่ว่าสักวันจะเอาออกมาทำกิน (อร่อยนะจะบอกให้)

บลูเบอร์รี่ชีสพายที่พี่เม่า เพื่อนบ้าน ทำมาให้กินเมื่ออาทิตย์ก่อน ยังไม่ได้กินเลยสักนิด แช่ไว้ก่อน

ครีมพอกหน้าของบูทส์ที่หารกันกับบีซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง...ยังไม่ได้อ่านวิธีใช้ด้วยซ้ำ

น้ำพริกต่าง ๆ นานา ทั้งที่เพิ่งซื้อมาจากกรุงเทพฯคราวก่อน ฝากเพื่อนซื้อคราวนู้น แล้วก็ได้มาจากไหนสักทีหนึ่งแหละ...กะทิ น้ำจิ้มสุกี้ แยม ซอสปรุงรส มายองเนส โยเกิร์ตสี่กระปุก ฯลฯ เมื่อพลิกดูวันหมดอายุก็โล่งใจที่ไม่ต้องทิ้งอะไรไปอย่างน่าเสียดายอีก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะยัดสิ่งเหล่านั้นกินก่อนมันหมดอายุทันได้อย่างไร

แล้วก็ยังมีแหนมดอนเมือง (อ้างแล้ว) กุนเชียงดุ้นเบ้อเร้อ เบคอนจากแฟรงเฟิร์ตเปิดห่อไว้แล้วกินไม่หมด กับขนมบิสกิตเล็ก ๆ หลายชิ้นจากบนเครื่อง



อย่างละเอียดก็มีเท่านั้น...

ยืนยิ้มกอดอกเงียบ ๆ กับความภูมิใจคนเดียวในครัวกลางดึก ตู้เย็นโล่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แค่จับนู่นขยับ จับนี่ทิ้ง จับนั่นเข้าด้วยกัน ก็รู้สึกเหมือนชีวิตจะมีระเบียบขึ้นมาอย่างประหลาด
หัวเราะหึ ๆ ๆ กับแหนมและกุนเชียงที่นอนตัวอยู่ด้วยกันอย่างเป็นที่เป็นทางเหมือนคนบ้า หลังจากที่มองอย่างเอือม ๆ และหลอกตัวเองว่ามัน ‘ดีอยู่แล้ว’ มานานแสนนาน




ฉันเพิ่งมาตระหนักได้ว่า...หลังจากมาตั้งต้นชีวิตใหม่ในการจะใช้ชีวิตเองทั้งหมดที่นี่แล้วนั้น ตั้งใจใหม่ไว้ด้วยเหมือนกันว่าจะไม่บ้าซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า เครื่องสำอางเหมือนอย่างที่เคยเป็น ๆ มาในอดีตอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่เพียงจุดประสงค์จะเก็บเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ไม่อยากมาขุดตู้เสื้อผ้าในวันหนึ่งแล้วพบเสื้อผ้าที่ไม่เคยใส่สักครั้งหรือใส่ครั้งเดียวแล้วต้องมาโยนทิ้งแบบเมื่อก่อนอีก หรือตุ้มหูแขวนเรียงเป็นตับ ๆ ๆ แต่ใส่จริง ๆ แค่อันโปรดไม่กี่อัน



อุตส่าห์ปลาบปลื้มใจเอาเสียเป็นนานนิจว่าปณิธานอันใหม่สำเร็จลงด้วยดีอย่างสวยงามตลอดระยะเวลาห้าเดือนกว่า (เท่ากับเวลาที่อยู่ที่นี่) เป็นที่คุยโวกับแม่ให้ยินดีได้อยู่พักหนึ่ง...แต่วันนี้กลับมายืนขุดตู้เย็นกลางดึกและโยนข้าวของทิ้งไปหลายอย่าง และพบว่าหลายอย่างซื้อมาไม่ได้ใช้แต่เห็นว่า(น่าจะ)จำเป็น อย่างกับ DÉJÀ VU...ภาพเก่าซ้ำที่เหมือนเคยเกิดขึ้นแล้วยังไงไม่รู้



ท้ายที่สุดแล้ว...จากที่เคยใช้จ่ายไปกับความสวยงามบนเรือนร่างอย่างก่อน ฉันกลับเอา “อารมณ์ชอปปิ้ง” ไปทิ้งลงกับ Supermarket จำพวกอาหารการกินเสียเกือบหมด...ด้วยเพราะคิดว่าอย่างน้อยอาหารก็เป็นปัจจัยสี่ละนะ เป็นสิ่งที่ต้องเอาใส่ปากใส่ท้องและปรนเปรอตัวเองด้วยอาหารรสเลิศจากน้ำมือตัวเองเสียหน่อย ในที่สุดแล้ว ฉันก็ยังทิ้งเจ้าตัว Shoppoholic ที่ฝังลึกลงในเส้นเลือดดำไปไม่ได้ แค่เพียงเปลี่ยนวัตถุการใช้จ่ายไปเท่านั้นเอง



อย่างน้อยวันนี้ก็รู้ตนขึ้นมาแล้วฉัน จะได้ลด ๆ ยั้ง ๆ การจับจ่ายลงบ้างกับของบางอย่าง ให้อภัยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง (แต่อย่าให้แม่รู้ล่ะ โดนด่าแหงม) คราวหน้าที่จะออกไปซื้อของ...นอกจากทำรายการซื้อของแล้วยังต้องไปสำรวจตู้เย็นก่อนออกไปซื้อของทุกครั้ง ไม่ใช่ใช้เพียงจินตนาการฝ่ายเดียวว่ามีหรือไม่มีอะไรบ้างอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องยืนมองถังขยะกับของที่ทิ้งไปอย่างหดหู่อีก

คิดได้อย่างนั้นแล้วก็เป็นที่ปลื้มอกปลื้มใจแก่ตนอีกครา...คว้าเฮอร์ซีส์ที่เหลืออีกก้อนเล็ก ๆ เมื่อครู่เข้าปากเคี้ยวหงับ ๆ แก้มตุ่ย เป็นที่สาแก่ใจ

ให้รางวัลตัวเองกับการจัดตู้เย็นใหม่และคิดอะไร ๆ ได้ไงล่ะ...งั่ม ๆ



Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 3:28:25 น. 4 comments
Counter : 600 Pageviews.

 
แวะมาทักทายครับ

เมืองไทยฝนตกครับ

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


โดย: คนขับช้า IP: 203.146.63.184 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:12:15 น.  

 

แบ่งมาบ้างจิ ตู้เย็นเรานะโล่งเชียว


โดย: p_tham วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:38:04 น.  

 
ห้องผมไม่มีตู้เย็นอ่ะ

อยากได้มั่ง อิอิ


แต่ไม่ชอบเก้บอะไรมาทานกลางคืนหรอกนะ



โดย: " คุณชายช่างฝัน " วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:37:28 น.  

 
แหะๆ เด็กเน่า
กินอยู่ได้..อ่านแล้วขำชะมัด


โดย: สาวลาว IP: 202.149.25.225 วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:15:26:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางสาวดุ่บดั่บ
Location :
Vichy France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




\\\ดุ่บดั่บๆ///
ดุ่บดั่บ คือ การเคลื่อนตัวของหนอน
หนอนตัวน้อย ๆ ที่สามารถไปไหนก็ได้ตามใจต้องการ
ฉันเองก็อยากเป็นหนอนตัวน้อย
จะได้ทำอะไรก็ได้ และไปที่ไหนก็ได้ตามที่ใจฉันฝัน
...ดุ่บดั่บ ๆ ๆ...





>>>คลิก ๆ...สารบัญและสมุดเยี่ยมค่ะ<<<




อ่านบลอคเก่า ๆ ก็ได้นะ

<<การปรับตัว-Acclimatisation>>
::สวนสาธารณะวันหม่น::
ภาพ: ดอกมูเก้
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(2)
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(1)



















Status: ขาวดำ



Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นางสาวดุ่บดั่บ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.