.....................กี่คืนกี่วันแล้วก็ไม่รู้ ที่ฉันใช้ชีวิตยามค่ำคืนให้หมดไป แล้วรอเวลาฟ้าสางอรุณรุ่งเพื่อจะได้เข้านอนยามแสงอาทิตย์ส่องหน้าต่าง อย่างน้อยที่สุดก็มีเสียงนกน้อยออกหากิน เสียงรถราขับเคลื่อน เสียงผู้คนพูดคุยจอแจดีกว่าเสียงเบา ๆ ของท่วงทำนองเพลงเดิมและเสียงเงียบ ๆ ของหยดน้ำตาอย่างหลายคืนที่ผ่านมาที่ฉันต้องจำใจผ่านมันไปให้ได้อย่างยากเย็น และตื่นขึ้นมาพร้อมกับคราบน้ำตาเปื้อนแก้มและลมหายใจขัด ๆ เพราะสะอื้นหนักในคอกับเศษกองทิชชู่มหาศาล เหมือนจะเตือนให้รู้ว่าสงครามอันโหดร้ายที่ฉันต้องต่อสู้...ฉันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แล้วในยามฟ้ามืดลงอีกครั้งใด ฉันก็เป็นอันต้องขดตัวหลบภัยจากสิ่งลี้ลับที่คอยคุกคามอารมณ์ให้รวนแร
เหงาบ้าง
ไปตามจังหวะชีวิต
.
.
.
ชีวิตก็แค่เหงา
เหงาบ้าง...บางคราว
กระซิบเบาเบา : ไม่ห่วงค่ะ