งานใหม่...เพือนใหม่...minority แบบฉันทำยังไง?

การไปเริ่มงานทีใหม่สำหรับเรามีความรู้สึกตื่นเต้นไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือหลังจากนั้น จะทำงานที่เมืองไทยหรือเมืองนอกจนถึงปัจจุบันผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี ก็ยังคงหลับไม่สนิทก่อนวันเริ่มงานเหมือนเดิม


เมื่อเริ่มงานช่วงแรกๆจะมีความรู้สึกเป็นชนกลุ่มน้อย(Minority)หรือถึงขั้นหัวเดียวกระเทียมลีบเพราะ  1) ไม่รู้จักใครที่ทำงานใหม่เลย   2) แจมวงสนทนาด้วยไม่ได้ ต่อไม่ติด   แล้วความรู้สึกนี้ก็จะลดลงหลังจากผ่านไป 2-3 อาทิตย์เพราะเริ่มรู้จักแล้วว่าใครเป็นใคร ใครชอบอะไรมั่ง ละครเรื่องไหนที่เค้าคุยกัน ฯลฯ


เด็กใหม่หรือคนที่เข้าไปทำงานใหม่ๆในระดับปฏิบัติการจะมีพี่ๆหัวหน้างานคอยเป็นพี่เลี้ยงพาไปแนะนำคนในทีมนอกทีม   พาไปกินข้าวกลางวัน   พี่ๆพากันมาทักทายก่อน   ชวนกินข้าว   ช้อปปิ้ง   ทำโน่นทำนี่   แต่ช่วงโปรโมชั่นนี้มีวันหมดอายุนะคะ   ประมาณ 1 อาทิตย์ถ้าพ้นช่วงนี้ไปแล้วถ้า minority อย่างเรายังไม่เริ่มทักทายชวนคุยก่อนบ้าง สะพานมิตรภาพที่เค้าทอดมาให้ก่อนจะเริ่มปิด ...


“ใครชอบกินแมคโดนัลมั่งคะหนูเห็นตอนนี้มีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ใครงอยากหุ้นกับหนูมั่ง?”

“กลางวันนี้พี่ไปกินข้าวที่ไหนคะหนูขอไปด้วยคน” ... ฯลฯ

เริ่มคุยก่อนบ้างไรบ้าง  ทำงานดีมีสามัญสำนึก  กำแพงแบ่งกั้นน้องใหม่กับคนอยู่เดิมก็จะค่อยๆพังลงด้วยความรวดเร็ว


ตอนทำงานเมืองไทย  หลังเลิกงานเค้าชอบรวมกลุ่มไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมากกินเป็นของว่างก่อนแยกย้ายไปผจญกับรถติดระหว่างกลับบ้าน   น้องใหม่อย่างเราก็แจมด้วยได้อยู่แล้วเรื่องกิน แบ่งข้างเหนียวแย่งหมูปิ้ง   เม้าท์ละครและโฆษณากันสนุก   โอกาสสร้างความสนิทสนมกันแบบง่ายๆมือมันๆและอิ่มท้องมีอยู่เกือบทุกเย็น   หลังๆขยายคอนเซ็ปต์จากของว่างกลายเป็นดินเนอร์ต่อด้วยคาราโอเกะเกือบทุกศุกร์  และสานสัมพันธ์ต่อในวันเสาร์ด้วยการไปกินกุ้งแม่น้ำแถวอยุธยาJ


ตอนทำงานที่นิวยอร์ค  หลังเลิกงานเค้าชอบบ่อยครั้งที่รวมกลุ่มกันไปนั่งดื่มเบียร์ hangout กันที่บาร์ใกล้ออฟฟิสกระชับสัมพันธ์ โอกาสที่จะได้รู้จักเพื่อนมากขึ้นเปิดแล้วน้องใหม่อย่างเราก็ตัดสินใจไปถึงจะไม่ดื่มเบียร์ งานนี้ยากกว่าข้าวเหนียวหมูปิ้งเพราะเรื่องที่เค้าคุยกันมันอเมริกั๊นน อเมริกัน  เรื่องเบสบอลยั่งเงี้ย  บาสเก็ตบอลยังงั้ย...ยังไงๆก็เอี่ยวด้วยไม่ไหวเข้าไม่ถูกช่อง ทำไงดีฟระ ถ้านั่งนิ่งเหมือนหินอับเฉาแบบนี้คงอับเฉาไร้เพื่อนจริงๆ .... มีจานถั่วลิสงคั่วอยู่ข้างหน้า  เราก็เริ่มว่า  

 “เหว๋ว  พวกยูรู้มะว่าเค้ามีการแข่งคีบถั่วลิสงด้วยตะเกียบแหลมๆลื่นๆด้วยนะชั้นไม่เคยลองนะแต่คิดว่าไม่ยาก ใครอยากลองมั่ง?”    

 หลังจากสารน์ท้าคีบถั่วส่งออกไป  ผลตอบรับดีตามคาดหมาย เพราะหลายๆคนมาขอปะลอง :)   แต่งานนี้ใช้ตะเกียบไม้จ้ะเนื่องจากร้านเป็นร้านเบียร์ย่านอีสต์ไซด์ไม่ใช้ร้านในย่านชุมชนเกาหลีที่จะมีตะเกียบโลหะปลายแหลมไว้ใช้  ถือว่ารู้จักกันมากขึ้นมาหน่อยหล่ะ J


ที่สำคัญในการ mingleหรือเข้าสังคมไม่ว่าทำงานที่ไหนไทยหรือต่างประเทศ  เราต้องรู้จักรับไมตรีจากคนอื่นและรู้จักยื่นไมตรีให้ก่อนด้วย อย่านินทา  ฟังได้แต่อย่าเผยแพร่  คุยเรื่องทั่วๆไปที่ทุกคนคุยได้เช่น อาหาร อากาสร้อน ฝนตก รถติด ละคร ฯลฯ กฏเหล็กที่ยังใช้เป็นแนวทางได้อยู่คือห้ามคุยเรื่องการเมืองและศาสนา คุยเรื่องพวกนี้มีโอกาสทะเลาะกันสูงเมื่อสองปีที่แล้วแค่ใส่เสื้อสีเหลืองวันจันทร์ สีแดงวันอาทิตย์  แบบว่าขี้เกียจคิด  ยังโดนยัดเยียดให้เป็น minority ตามวันที่ใส่สีเสื้อได้เล๊ยย.....จบนะ





Create Date : 14 พฤษภาคม 2556
Last Update : 28 พฤษภาคม 2556 10:50:51 น.
Counter : 1780 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ciao_ciao
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



Ciao_Ciao หรือ Miss Career เป็นคนเดียวกันนะคะ :D ถ้าเห็น Miss Career ในเว็บ professional-one.com ก็นั่นแหละค่ะคนเดียวกัน ที่อยากแชร์ประสบการณ์และความคิดเห็นที่มีในเรื่องต่างๆไม่ว่าเรื่องการทำงานทั้งในประเทศและนอกประเทศ Miss Career เป็นการเป็นงานหน่อยค่ะปกติทำงานด้าน recruitment เห็นมาเยอะทำผิดมาเองแยะเลยอยากแชร์ให้คนอื่นที่เจอปัญหาคล้ายๆกันนำไปพิจารณาดู ส่วน Ciao_Ciao สบายๆหลุดบ้างไรบ้าง ทำไมถึงใช้ชื่อ ciao_ciao? คือตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากเที่ยวอิตาลี อินมากขนาดไปหาที่เรียนภาษา เชาๆเน้นเม้าท์และเล่าเรื่องสัพเพเพเหระเช่นท่องเที่ยว การแต่งตัว และอื่นๆที่จุดประกายให้เขียน ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ

เรื่องราวและข้อความทั้งหมดใน Blog นี้มาจากความคิดเห็นและประสบการณ์ของเจ้าของ Blog ค่ะ งานเขียนในบล็อคถ้าอยากเอาไปใช้ที่อื่นบอกกันหน่อยด้วยนะคะ
พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31