Group Blog
All Blog
|
ลดอาการภูมิแพ้ ให้ได้ผล ด้วยวิธีการทำความสะอาดไรฝุ่นเตียง จาก De Hygienique เวลาอยู่ในห้องนอนแล้วเคยรู้สึกคัดจมูก จาม น้ำมูกไหล หรือบางทีตื่นมาแล้วคันที่ตัวกันไหมคะ มิกิว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะเป็นเหมือนกันเน๊อะ สาเหตุเนี่ย ก็มาจากฝุ่น แล้วก็ ไรฝุ่น นี่ล่ะค่ะ พวกไรฝุ่น จะมีอยู่ทุกที่ที่มีคนอาศัยอยู่ค่ะ เพราะว่าอาหารของเขาก็คือ ผิวหนังที่ตายแล้ว รังแค เส้นผม แล้วก็ขนสัตว์เลี้ยงของเรา พวกนี้จะมีอยู่แทบทุกจุดในบ้าน แต่ว่าที่มีมากสุดก็คือในที่นอนของเรานี่ล่ะ พูดง่าย ๆ ว่า เรานอนอยู่กับกองทัพไรฝุ่นหลายล้านตัวอยู่ทุกคืนค่ะ แล้วเราจะแพ้ของเสียที่ไรฝุ่นขับถ่ายออกมา จนเป็นอาการอย่างที่เกริ่นไว้ แล้วอาจจะลุกลามไปถึงโรคหอบหืดได้เลย ก่อนหน้านี้เราจะได้ยินว่า เอาหมอน ที่นอน ผ้าห่ม ไปตากแดดแล้วจะฆ่าไรฝุ่นได้นะ ที่จริงแล้วก็ช่วยได้ในระดับนึงนะคะ แต่อย่างที่นอนเนี่ย มีความหนามากเพราะฉะนั้นแดดก็จะช่วยได้แค่ส่วนนึงเท่านั้นเอง ก็เลยไม่แปลกที่เวลาเราอยู่ในห้องนอนแล้วรู้สึกว่าคัดจมูก น้ำมูกไหล หรือ บางทีตื่นมาเพราะคันที่ตัว เสียทั้งสุขภาพกาย กับ สุขภาพจิต เลยค่ะ ไรฝุ่นทำให้เกิดอะไรได้บ้างนะ ? เกิดอาการภูมิแพ้ ได้กับทุกเทศ ทุกวัย แล้วก็อาจจะทำให้มีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาด้วย เช่น ริดสีดวงจมูก ไซนัาอักเสบ นอนกรน ภาวะมีน้ำขังในหูชั้นกลาง หูชั้นกลางอักเสบ หรือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ดูน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ อีกอย่างตอนคันจมูก เราจะชอบขยี้จมูกใช่ไหมคะ ทำแบบนี้จะทำให้เป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ แล้วก็เกิดรอยย่นบนสันจมูกด้วย สำหรับสาว ๆ การมีริ้วรอยเพิ่มขึ้นบนหน้า ก็ทำให้รู้สึกกังวลค่อนข้างหนักเลย แถมริ้วรอยตรงสันจมูกแก้ไขยากด้วยนะคะ เพราะฉะนั้น การทำความสะอาดไรฝุ่นจากที่นอน เลยเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับทุกคนค่ะ วันนี้มิกิก็เลยทำรีวิวการใช้บริการกำจัดไรฝุ่นมาให้ทุกคนนะคะ ครั้งนี้มิกิเลือกใช้บริการจาก De Hygienique เหตุผลที่เลือกใช้บริการของที่นี่คือ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับร่างกาย สุขภาพ มิกิจะพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองค่ะ De Hygienique ( ดีไฮจีนิค ) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่นอน พรม โซฟา ด้วยระบบซานิไทส์ อันดับ 1 ของโลกจากเยอรมันค่ะ จะเป็นการบริการแห้ง และ ปลอดสารเคมี 100 % ระบบซานิไทส์ ได้รับการยอมรับ และ มีผู้ใช้งานมากกว่า 16 ประเทศทั่วโลก ระบบการฆ่าเชื้อโรคที่นอนเป็นหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลและใบเกียรติคุณจาก ECARF ( European Center For Allergy Research Foundation ) ได้รับการรับรอง และ เชื่อถือในวงกว้าง จากวารสาร นิตยสารนานาชาติ และจากห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์ ก่อนอื่นทำการนัดบริการทำความสะอาดก่อนล่วงหน้า 4 - 5 วันค่ะ ( ให้บริการ วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 8.30 - 17.30 น. ) พอถึงวันนัด เจ้าหน้าที่จะโทรเข้ามาคอนเฟิร์มก่อน เจ้าหน้าที่แต่งกายด้วยเสื้อบริษัท คลุมด้วยเสื้อกาวน์ ถุงมือ และ หน้ากาก มาพร้อมกับกล่องเครื่องมือทำความสะอาดไรฝุ่นที่นอนค่ะ ดูเป็นมืออาชีพสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชียวชาญด้านการฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดมาก ๆ ก่อนที่จะทำความสะอาดดูดไรฝุ่น เราต้องเคลียร์ทุกอย่างออกจากเตียง ให้เหลือแค่เตียงเปล่า ๆ ค่ะ อันนี้เป็นเครื่องมือในการทำความสะอาดไรฝุ่นที่เตียงค่ะ ตัวนี้จะเป็นปล่องเทสฝุ่น กับผ้าสีดำเก็บฝุ่น ตอนแรก จะเป็นการเทสดูฝุ่นในที่นอนเราก่อนว่ามีเยอะหรือเปล่า ( ถ้าเทสต์แล้วไม่ค่อยมี เราก็เลือกว่าจะทำความสะอาดต่อ หรือ เก็บสิทธิ์เอาไว้ก็ได้ค่ะ ) ใช้เวลาเทสดูดไรฝุ่น 30 วินาที และนี่คือ สิ่งที่ได้มาจากการดูดฝุ่นที่เตียงค่ะ ที่เห็นนี่คือแค่ดูดมาจากแถบข้าง ๆ ของเตียงเท่านั้นนะคะ ช็อคไปเลย ( ;°Д°) ไม่คิดว่าฝุ่นจะเยอะขนาดนี้ แล้วขนาดก็ละเอียดมาก ๆ ก็ไม่แปลกใจละว่าเข้ามาในห้องทีไรน้ำมูกไหล คันคอทุกที สำหรับเตียงที่บอกว่ากันไรฝุ่น ส่วนมากจะใช้สารเคมีในการเคลือบพื้นผิวเอาไว้ จะกันฝุ่นได้ประมาณ 8 - 12 เดือน หลังจากนั้นก็จะเริ่มสะสมฝุ่นค่ะ ยังไงก็หนีฝุ่น ไรฝุ่นไม่พ้นจริง ๆ กระบวนการฆ่าเชื้อโรคและซานิไทส์เซชั่นที่นอน ตัวเครื่องจะทำงานพร้อมกัน 3 ระบบค่ะ 1. ขั้นตอนการแยกอนุภาคฝุ่นออก ระบบจะทำการสร้างการสั่นไหวด้วยคลื่นความถี่ระดับสูงไปยังที่นอน ทำให้อนุภาคของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ฝังลึกอยู่ในที่นอนนั้นหลุดออก 2. ขั้นตอนการแยกสิ่งสกปรก จะแยกอนุภาคสิ่งสกปรกและสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ให้ออกมา ด้วยการสกัดผ่านระบบสูญญากาศหลายระดับ ที่พัฒนามาให้เหมาะสำหรับการใช้งานกับที่นอนโดยเฉพาะ 3. ขั้นตอนการฆ่าเชื้อโรค ด้วยการทำงานไปพร้อม ๆ กันของระบบซานิไทส์เซชั่นและฆ่าเชื้อโรค ตัวถุงผ้าสีดำ จะเป็นถุง 3 ชั้น เก็บฝุ่นได้มิดชิดมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะมีหลุดรอดออกมา แล้วถุงที่เก็บฝุ่นอันนี้ จะมีการเผากำจัดในทุกวันค่ะ ช่วงที่ดูดไรฝุ่นอยู่ เราก็อยู่ในห้องได้ตามปกติ จะไม่มีฝุ่นฝุ้งขึ้นมาเลยค่ะ ส่วนระยะเวลาในการทำความสะอาดที่นอนจะขึ้นอยู่กับขนาด เตียงขนาด Queen size ประมาณ 15 - 20 นาที เตียงขนาด King Size ประมาณ 25 - 30 นาที อย่างที่บอกไปว่า เครื่องดูดไรฝุ่นนี้ จะดูดไรฝุ่นได้ลึกถึง 6 - 7 นิ้ว ถ้าเราใช้เครื่องดูดฝุ่นทั่วไป ก็จะช่วยดูดไรฝุ่นขึ้นมาได้แค่จำนวนนึงเท่านั้นค่ะ เพราะความหนาของตัวที่นอน แรงดูดลงไปไม่ถึง ไรฝุ่นก็ยังมีเยอะอยู่ เวลาเรานอนพลิกตัว ฝุ่นที่สะสมก็กระจายขึ้นมาแล้วค่ะ พอทำความสะอาดเตียงด้านนึงเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการกลับเตียงแล้วทำความสะอาดอีกฝั่ง แรงดูดจากเครื่องก็จะทำให้ดูดไรฝุ่นออกมาได้ครบหมดทั้งที่นอนค่ะ ในระหว่างที่กำลังทำความสะอาดไรฝุ่น เจ้าหน้าที่เขาก็จะมีบอกเรื่องความรู้ทั่วไป เกี่ยวกับการทำความสะอาดไรฝุ่น กับเรื่องเตียงด้วยค่ะ การทำความสะอาดไรฝุ่นที่เตียง ควรจะทำบ่อยแค่ไหน ? ● ปกติควรจะทำทุก 6 เดือน ● สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ควรจะทำทุก 4 เดือน ● บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงเข้าในห้องนอน ควรจะทุกทุก 3 เดือน ที่นอนควรจะกลับด้านทุก 6 เดือน จะได้ไม่เป็นแอ่ง บุ๋มลงไปเฉพาะจุด แล้วก็ช่วยยืดอายุการใช้งานของเตียงด้วยค่ะ จะว่าไปก็เป็นเรื่องที่เราก็ไม่เคยรู้กันมาก่อนเหมือนกันใช่ไหมคะ หลังจากที่ใช้เครื่องดูดไรฝุ่นขึ้นมาเสร็จแล้วในแต่ละด้าน ก็จะใช้สเปรย์ เปโตม่า ฉีดเคลือบพื้นผิวเตียงไว้อีกที รอประมาณ 1 นาทีก็แห้งค่ะ โปเตม่าสเปรย์ จะช่วยป้องกันไรฝุ่น แบคทีเรีย ยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่น ได้ 3 - 4 เดือน กลิ่นของสเปรย์โปเตม่า คือกลิ่นดีมาก จะหอมแบบเปลือกส้ม ให้ความรู้สึก สะอาด สดชื่น ผ่อนคลายมากเลยค่ะ การทำความสะอาดไรฝุ่นที่หมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา พนักงานแนะนำว่า ให้เอาไปตากแดดช่วงเวลา 12.00 - 13.00 น. ค่ะ เป็นช่วงที่แดดแรงสุด ส่วนเครื่องกำจัดไรฝุ่นจะใช้กับหมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา ไม่ได้ เพราะเรื่องของความหนาแน่นของวัสดุค่ะ แต่หลังจากที่ทำความสะอาดไรฝุ่นที่เตียงแล้ว ก็จะมีการฉีดสเปรย์โปเตม่า ที่หมอนให้ด้วยค่ะ ( ถ้ามีหมอนข้าง ตุ๊กตา เขาก็ฉีดให้ด้วยนะคะ ) จากนั้นสามารถใช้งานที่นอน หมอน ได้ทันทีค่ะ เปรียบเทียบผลการกำจัดไรฝุ่น ก่อนใช้บริการ ตอนที่เทสว่าเตียงเรามีฝุ่นเยอะแค่ไหน จะเห็นเลยว่าทั้งฝุ่น ไรฝุ่น สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ฝังอยู่บนเตียง ถูกดูดออกมาเยอะมากจนน่าตกใจ ก่อนนี้น่าจะสูดไรฝุ่นเข้าจมูกไปเยอะมากเลยค่ะ หลังใช้บริการ เป็นการใช้ผ้าสีดำมาเทสอีกครั้งค่ะ จะเห็นว่าดูดขึ้นมาแล้วแทบจะไม่เหลือฝุ่น ไรฝุ่นขึ้นมาอีกเลย รู้สึกสบายใจ แล้วก็พอฉีดสเปรย์โปเตม่าเคลือบก็ทำให้ในห้องกลิ่นสดชื่นขึ้นด้วยค่ะ หลังจากเสร็จงานแล้ว ก็จะได้รับใบเสร็จมาให้เราเช็คลิสค่ะ มาถึงเรื่องการบริการของเจ้าหน้าที่ มีความสุภาพ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการ พร้อมกับให้ความรู้ในการดูแลที่นอนได้ดีค่ะ ก่อนที่จะเริ่มทำงานเจ้าหน้าที่ทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมมาเรียบร้อยแล้ว ทั้งเรื่องการใช้งานเครื่องมือ ความรู้เกี่ยวกับงาน มารยาท และก็การปฎิบัติตัวกับลูกค่ะ มาถึงตรงนี้ มิกิ คิดว่าเพื่อน ๆ หลายคนน่าจะรู้สึกอยากจะใช้บริการทำความสะอาดไรฝุ่นแล้วใช่ไหมคะ อันนี้มิกิถามเจ้าหน้าที่มาให้นะคะ ● ถ้าสนใจ เรียกเข้าเข้าไปเทสต์ฝุ่นได้ฟรี ( แบบที่ใช้ท่อดูดมาเช็คในตอนแรกค่ะ ) ใน กทม. และ ปริมณฑล ต่างจังหวัดมีค่าเดินทางตามระยะทางค่ะ ● มีราคาแบบแพ็กเกจอยู่ด้วย จะได้ราคาที่พิเศษขึ้น ( ติดต่อถามเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ ) ● ให้บริการทุกวัน ( จะมีหยุดแค่ ปีใหม่ สงกรานต์ วันแรงงานค่ะ ) บริการต่าง ๆ ของ De Hygienique ● บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่นอน ● บริการทำความสะอาดผ้าม่าน ● บริการทำความสะอาดพรม ● บริการทำความสะอาดโซฟา ● บริการฟื้นฟูสภาพรถทั้งภายในและภายนอก หลังจากที่ใช้บริการกำจัดไรฝุ่นของ De Hygienique แล้ว รู้สึกว่านอนหลับได้สนิท สบายขึ้นเยอะค่ะ จมูกโล่ง ไม่ต้องคันคอ ไม่มีน้ำมูกไหลแล้ว อย่างบางทีรู้สึกคันตัวก็ไม่เป็นแล้วด้วย เป็นการแก้ปัญหาเรื่องภูมิแพ้ที่เห็นผลชัด ใช้เวลาน้อย มีประสิทธิภาพ ได้ดีในระดับนึงเลย มิกิคิดว่าเป็นการลงทุนซื้อสุขภาพที่คุ้มค่ามากนะคะ อย่างน้อย ๆ แค่นอนหลับได้สนิทแบบไม่คัดจมูกก็ถือว่าคุ้มสุด ๆ แล้ว แต่นี่คือช่วยลดการเป็นภูมิแพ้ กับ โรคแทรกซ้อนด้วย ค่าใช้จ่ายหลักพัน เทียบกับ ถ้าเราต้องเข้าโรงพยาบาล หรือ เป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรัง ยังไงก็คุ้มกว่าค่ะ ถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยง ( ในห้อง ) ยิ่งอยากจะแนะนำให้ใช้บริการค่ะ เพราะว่าความรู้สึกหลังทำเนี่ย ดีมากจริง ๆ เพื่อน ๆ ที่สนใจติดตามข้อมูล โปรโมชั่น ได้ที่นี่ค่ะ website : https://www.dh-thailand.com Facebook : dh-thailand LINE : @dh-thailand Call Center : 02-2817103 , 02-6282652 ✩ ตอนนี้มี โปรโมชั่นพิเศษ อยู่นะคะ วันนี้ - เดือน มิ.ย. 62 บริการทำความสะอาดที่นอน 1 ที่นอน จากปกติ 3,590 บาท เหลือเพียง 1,990 บาทเท่านั้น ก่อนไป มิกิ มี Tips ในการลดไรฝุ่นมาฝากด้วยค่ะ • ทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าที่นอน ผ้าห่ม อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง • เปิดหน้าต่างระบายอากาศภายในห้อง ให้อากาศถ่ายเท ไม่อับ ( ไรฝุ่นชอบที่อับ ๆ ) • ไม่ควรเอาของใช่มาวางบนเตียง อย่างกระเป๋า เสื้อผ้า สมุด รวมตุ๊กตาด้วยค่ะ • ทำความสะอาดร่างกาย และ ทำตัวให้แห้งสนิทก่อนขึ้นที่นอนค่ะ เพราะถ้าตัวเปียกอาจจะทำให้เกิดอาการอับของที่นอนได้ หวังว่าจะเป็นข้อมูลดี ๆ ให้กับทุกคนนะคะ แล้วกลับมาเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ |
Tisiny
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 88 คน [?] ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International. Link |