ครั้งหนึ่ง ณ ชุมพร
ได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดชุมพร (2-4 สค.55) ไปธุระกึงไปเที่ยวด้วย เริ่มเดินทางวันที่ 2 สค.55 ประมาณ 10.00 น. โดยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ อากาศวันนั้นไม่ร้อนมากเท่าไรนัก มีฝนตกสลับกันตลอดเส้นทาง หมายกำหนดการคือชุมพร ณ รีสอร์ต หาดทรายรี แล้วเราก็มาถึงที่พักประมาณ 17.45-18.00 น. ก็ช้าไปนิด อาหารที่เตรียมไว้อร่อยมาก มีหลากหลายอย่าง (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มั่วแต่หิว) รีสอร์ตนี้ไม่ใหญ่และเล็กค่ะ ขนาดกลาง มีห้องพักหลายแบบให้เลือก เช่น บ้านแบบบังกะโล้เป็นหลัง ห้องชุดก็มีหลายแบบ ความสะอาดและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม (ราคาไม่ได้ถามค่ะ) หน้ารีสอร์ตมีหาดทรายสะอาด สามารถเล่นน้ำได้ค่ะ ที่รีสอร์ตมีจุดบริการล้างตัวก่อนเข้าห้องพักค่ะ
วันที่ 3 สค.55 เราเดินทางไปเที่ยวอำเภอพรุพิน ไชยาค่ะ เริ่มออกเดินทางเวลาประมาณ 9.00 น.หลังจากทานอาหารเช้ากันแล้ว เพือไปทานอาหารกลางวัน ณ พลับเพลาราตรี เป็นร้านอาหารชายฝั่งป่ากงกาง มองเห็นทะเลไกลๆค่ะ อาหารที่นี่อร่อยมากค่ะ มีรายการให้เลือกหลายอย่าง แต่วันนั้นเราเลือกมาหลายอย่างเหมือนกันค่ะ ถ้าจะให้แนะนำต้องทานเลย ก็เป็น ยอดพร้าวปลากระบอก ปลาทรายทอดกรอบ ปลาอินทร์ราดน้ำปลา หรือ เด็กๆก็ได้เป็น ไข่เจียวใส่เนื้อปู ข้าวผัดปู ก็อร่อยค่ะ กลุ่มของเราก็ทานกันจนพุงกาง แล้วก็เดินทางกลับที่พัก เขาบอกว่าถ้ามาไชยา ต้องซื้อไข่เค็มไปด้วยจะได้ถึงไชยาแท้จริง เราก็ไม่รีรอนะค่ะ ซื้อติดไม้ติดมือกันคนละหลายกล่องเลยค่ะ ราคากล่องละ 50 บาท ใหม่ สด กันไปเล้ย ... เมือออกจากไชยาสองข้างทางก็จะมีร้านผลไม้จำหน่าย กลุ่มของเราก็ไม่เสียเวลามาไหนก็มาถึงที่แระ จัดทุเรียนใต้กันสักลูกสองลูก มังคุด สะตอ ตามแต่ชอบกันค่ะ ทุเรียนมีทั้งหมอนทอง ก้านยาว (แต่ชะนีไม่มีค่ะ) กิโลกรัมละ 35 บาท ส่วนมังคุด 4 กก. 100 บาทค่ะ สะตอ เขาจะมัดเป็นมัดๆค่ะ มัดหนึ่งมีประมาณ 5-6 ฝักค่ะ ราคา 200 บาท แต่เราต่อราคาได้ 120 บาทต่อมัดค่ะ ลืมเล่าไป กลุ่มเรามีทั้งหมด ประมาณ 40 คนได้ค่ะ โดยกลุ่มแรก 20 คนลงเรือไปตกปลา อีกกลุ่มไปเที่ยวไชยา กันค่ะ เย็นวันนี้เรามีเลี้ยงกันอีกครั้งค่ะ อาหารอร่อยเหมือนเดิมค่ะ ได้ปลาเก๋า ของกลุ่มนักตกมาเป็นอาหารขึ้นโต๊ะด้วยค่ะ
วันที่ 4 สค.55 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการอยู่ชุมพร เราทุกคนมาร่วมตัวกันที่ลานคอฟฟีช้อปค่ะ ดื่มกาแฟแล้วเตรียมไปทานอาหารเช้าที่ร้านติ่มซำในตัวเมือง ก่อนกลับเราทุกคนไปกราบไหว้สักการะ ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งไม่ไกลจากรีสอร์ตที่เราพัก ศาลมี 2 แห่งนะค่ะ เป็นภูเขาจะทำเหมือนรูปหัวเรือรบค่ะ ส่วนใหญ่จะไปไหว้กันที่นั้นก่อนค่ะ แล้วลงมาไหว้ที่ข้างล่างที่มีเรือรบเก่าจอดอยู่ ศาลเป็นภูเขาจะมีของที่ระลึกขายนะค่ะ ก็จะพวกเหรียญบูชา และอีกหลายอย่างค่ะ ราคา ตั้งแต่ 49 บาทขึ้นไปค่ะ ศาลชั้นล่างก็มีรูปปั้นท่านเหมือนกันนะค่ะ สามารถไหว้บูชาได้เหมือนกันค่ะ บริเวณรอบๆจะมีสินค้าอาหารทะเลที่ชาวบ้านแถวนั้นเค้ามาขายเองนะค่ะ ราคาไม่แพงค่ะ อย่างปลาหมึกแห้ง กก. 120-150 บาทแล้วแต่ขนาดตัวค่ะ ปลาตัวเล็กปลาซิวหรือป่าวไม่แน่ใจค่ะ ปลาอินทรีค่ะ อ๋อ...ลืมเล่า หาดทรายแถวนี้จะมีเรือประมงขนาดกลางของชาวบ้านจอดอยู่ด้วยค่ะ เค้าจะจอดเพือไปตกหมึก (ปลาหมึก) กันตอนเย็นเวลาสัก 18.00 -05.00 น.ของทุกวันถ้าอากาศดีค่ะ หมึกส่วนใหญ่เป็นหมึกกล้วยค่ะ ขายตลาดตอนเช้าแล้วก็มีปูม้า กก.ละ 120-150 บาท แต่กลุ่มเราซื้อเค้า กก.180-200 บาท (โดนหลอกมากค่ะ) เรื่องนี้คุณตาชาวบ้านแถวนั้นเค้าบอกมาค่ะจึงได้ทราบ หลังจากเราไหว้สมเด็จกรมหลวงฯ เรียบร้อยแล้ว เราทุกคนก็พร้อมกันที่ร้าน ติ๋มซำ เจ้าอร่อย ร้านนี้ขายแต่ติ๋มซ้ำ และ มะกุเต๊ะ ค่ะ มีรายการติ๋มซำมีให้เลือก 21 รายการค่ะ เครืองดืมมีกาแฟ น้ำอัดลม เหมือนทุกร้านค่ะ แต่อาหารเน้นติ๋มซำ ม๊ะกุเต๊ะ เวลาสั่งให้สั่งเป็นชุดค่ะ เพราะคนจะเยอะมาก ถ้าเราสั่งน้อยจะขาดตอนการทานค่ะ อีกอย่างติ้มซำ เข่งหนึ่ง มีแค่ 2 คำค่ะ บางอยางจะมีหนึ่งคำ เช่น บะจ่างเล็ก ซาลาเปา มี 3 ลูกค่ะ วันนั้นกลุ่มเราเหมาไป 20 โต๊ะ ให้พี่เหมียว กับ พี่สมชาย เจ้าบ้านมาจอไว้ก่อนค่ะ (เดี๋ยวไม่ม่ที่นั่ง) เมื่ออิ่มกันแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ ทริปหน้า.....ไม่แน่ใจจะเป็น ภูเก็ต ตามที่ทัพหลังหรือจะ เป็น อุทัยธานี ตามทัพหน้า กำหนดไว้ .......... รูปยังใส่ไม่เป็นค่ะ ลืมวิธีไปแล้วค่ะ
Create Date : 07 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 7 สิงหาคม 2555 20:34:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 601 Pageviews. |
|
|