เพียงมีวาสนา ถึงสุดขอบฟ้าก็พานพบ หากไร้วาสนา แม้ไขว่คว้าก็คลาดคลา

Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
เหตุเกิดที่ลานจอดรถ




จากที่นู๋ฝิ่นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรับยา และนอนหนึ่งคืน เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2551
อันเป็นเหตุปกติของนู๋ฝิ่น กับอาหมอที่จะต้องเจอกันทุกไตรมาส
นู๋ฝิ่นกับไอ้ตัวเล็ก จึงไปโรงพยาบาลด้วยกันเหมือนทุกครั้ง
เมื่อพบอาหมอ พร้อมสั่งยา และส่งตัวเข้าห้องพัก
นู๋ฝิ่นก็กลายเป็นคนไข้ที่อยู่ในการรักษาของอาหมอ
โดยมีคุณพยาบาลเป็นพี่เลี้ยงดูแล
ต่อมาวันที่ 5 พ.ค. 2551 ได้เวลากลับบ้าน
คุณพยาบาลถือถุงยา และเดินมาส่งนู๋ฝิ่นที่ลานจอดรถ
งานเข้าละ รถสัญชาติญี่ปุ่นคันใหญ่จอดขวางทางไอ้ตัวเล็กออกไม่ได้
พร้อมกับใส่เบรกมือกันรถไหล (คงจะนึกว่าอยู่บนดอย)
หันไปมองคุณพยาบาล เพื่อจะฟังคำตอบ
“ของหมอ.............ค่ะ เดี๋ยวพี่ไปตามให้นะค่ะ” เดินไปพร้อมกับถุงยานู๋ฝิ่นด้วย
ถ้าไม่ไปตาม ก็คงต้องนอนโรงพยาบาลต่อละ
ผ่านไปเกือบ 10 นาที กลับมาพร้อมเจ้าของรถ
“ขอโทษครับ ผมนึกว่ารถเจ้าหน้าที่”
ไหงงั้นละ เจ้าหน้าที่กับคนไข้ต่างกันตรงไหน
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ายังไงรบกวนช่วยเคลื่อนรถให้ด้วยนะค่ะ คิดถึงบ้านค่ะ”
“ครับ”ๆๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์นู๋ฝิ่นดัง ไม่ใช่ใครอื่นไกลเพื่อนสมัยเรียนประถม นัดกินข้าวร่วมรุ่นเย็นนี้
นู๋ฝิ่นก็รับปากไป ด้วยขัดใจใครไม่เป็น
“ผมไปด้วยนะครับ เย็นนี้ไม่มีเพื่อนกินข้าว”
อ้าว ทำเนียน แล้วเป็นเพื่อนกับนู๋ฝิ่นตอนไหนนี่
หันไปมองคุณพยาบาล เพื่อขอขยายความ
“หมอเค้าเพิ่งย้ายมาใหม่ค่ะ ไม่เชื่อถามท่านรองได้”
“ร้านนี้ผมเคยไป อาหารอร่อย เพลงก็เพราะ เจอกันหกโมงเย็นนะครับ”
ใครเชิญนายนี้ จะโทรไปเปลี่ยนร้าน ก็กลัวถูกบ่น จะอ้างว่าไปไม่ได้ ก็รับปากเค้าไปแล้ว
ขึ้นรถกลับบ้านด้วยอาการงง ๆ พร้อมกับถุงยาอีก 1 ถุงใหญ่
จนเวลาหกโมงเย็น เตรียมตัวจะไปกินข้าวตามที่นัดไว้
เสียงโทรศัพท์ดัง เบอร์ไม่คุ้น ว่าแต่ใครละ
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ นู่ฝิ่น พี่หมอมารอหน้าร้านแล้วนะครับ แต่ไม่เห็นเพื่อนนู๋ฝิ่นเลย”
แป่ว นี่ท่านพ่อที่เคารพไปแอบมีพี่ชายตอนไหน ก็นู๋ฝิ่นเป็นลูกคนโต แล้วจะมีพี่ชายได้ไง
“เออ...........”
“นู๋ฝิ่นออกจากบ้านหรือยังครับ หรือว่าจะให้พี่หมอไปรับ”
สมองกำลังรับข้อมูลใหม่ งงจนตั้งตัวไม่ถูก รู้จักบ้านเราด้วยเหรอ
“ค่ะ ๆ กำลังจะออกจากบ้านแล้วค่ะ ถ้าคุณไม่โทรมาเสียก่อน ก็คงจะถึงร้านแล้วค่ะ”
“ครับ ๆๆๆขับรถดี ๆ นะครับ”
แล้วจะเอาไงละ รออยู่ที่ร้านแล้ว ก็นึกว่าพูดเล่น แล้วได้เบอร์โทรศัพท์มาได้ไง ฝูงชะนีอีกฝูง
งานเข้าโดยไม่ได้ได้ตั้งใจละ
ไปถึงร้านเกือบ 18.30 น. คุณนายหัวโจ๊กกำลังรอรับแขกหน้าร้าน พร้อมเสียงบ่นในเรื่องมาสายของผองเพื่อน
“คุณนู๋ฝิ่นที่รัก ไม่มาพรุ่งนี้เลยละ เค้ารอหล่อนอยู่คนเดียวนะ แม่คุณแม่ทูนหัว เล่นตัวเสียจริง แล้วหล่อนนอนโรงบาลกี่วัน ไหนมาดมกลิ่นยาใกล้ ๆ ดิ ว่ายังเหลืออยู่หรือป่าว”
“คุณนายเจ้าขา ดิฉันอาบน้ำนะเจ้าค่ะ กลิ่นคราบโรงพยาบาลไม่เหลือติดตัวหรอก ว่าแต่มากันครบแล้วเหรอ”
“ยังขาดอีกหลายท่าน พวกมีภาระครอบครัว เอาลูกเต้าไปฝากบ้านญาติ”
“ใครจะเหมือนคุณนายละเจ้าค่ะ มีคนเลี้ยงลูกให้ แถมคนขับรถส่วนตัวอีก ว่าแต่วันนี้เอาคนขับรถมาด้วยป่าว”
“ไม่มาได้ไง ฉันก็หมดสิทธิ์ออกบ้านสินั่งทำยุทธหัตถีกับนายโบ้อยู่”
“หมดเสียเกียรติหมด จากสิงห์มาเป็นช้าง”
“เศรษฐกิจพอเพียงต่างหาก ไปได้แล้วหรือหล่อนจะรอรับเพื่อนกับฉัน”
“สวัสดีครับ ”
อาการเอ๋อรับประทานทั้งสองคน เดินมาตอนไหนนี่ นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก
“คุณหมอจ๊ะ อยากมาทานข้าวกับพวกเรา”
“ยินดีค่ะ ดีจังนะค่ะดูแลคนไข้นอกโรงพยาบาลด้วย”
“เชิญข้างในดีกว่าค่ะ คุณหมอคงจะหิวข้าวแล้ว เราไปก่อนนะ เจอกันที่โต๊ะ”
รีบตัดบท ก่อนที่จะโดนย่างสด พร้อมหลบสายตาแววอาฆาต
“ไม่เป็นไร ไม่รอแล้วพวกนัดไม่รู้จักเวลา เข้าไปพร้อมกันนี่แหละ โต ๆ กันแล้วไม่หลงหรอก เชิญค่ะคุณหมอ”
หล่อนจะล้วงตับฉันละสิ มาแผนสุงนะคุณนาย
“คุณหมอค่ะ................... คุณหมอขา......................”
จนถึงโต๊ะ พูดคุยเหมือนเพื่อนเรียนกันมา จนนู๋ฝิ่นเหมือนคนนอก
“พวกเรา นี่หมอ................สมาชิกใหม่ รู้จักไว้ซะ”
คราวนี้ยิ่งกว่าตลาดนัด เหมือนไม่เคยเจอกันมาเป็น 10 ปี แจกนามบัตร พร้อมเบอร์โทร กันให้สนุกสนาน ปล่อยเรานั่งเหงาเป็นไก่ติดหวัดนกเลย
“นั่นหล่อนจะไปไหนยัยนู๋ฝิ่น”
“ไปห้องน้ำ มีไรป่าว”
“เปล่า ไปด้วยสิ”
คนนี้เพื่อนนั่งข้างสมัยเรียน สงสัยจะถูกส่งมาเป็นทนายหน้าหอ
“เจอหมอเค้าได้ไง น่ารักนะ เป็นกันเองไม่ถือตัว แล้วทำไมเพิ่งพามา หมายความว่าไง...ฯลฯ...”
นึกแล้วต้องโดนซัก แล้วจะตอบว่าไงละนี่
“เจอเมื่อบ่าย ที่โรงพยาบาล ไม่ได้พามา มาเอง แล้วก็ไม่มีความหมายอะไร อยากรู้มากกว่านี้ไปถามเค้าเอง”
“อะไรนะ”
“พูดภาษาไทยนะนี่ ต้องแปลไทยเป็นไทยด้วยเหรอ”
“เจอวันนี้เองนะ”
“ก็ใช่”
“บ้า หรือดีนี่”
“ฉันนะไม่บ้า แต่หมอนะ ฉันไม่แน่ใจ”
“แล้วแกเจอเค้าได้ไง”
ต้องเล่าเหตุการณ์ตอนบ่ายให้ฟัง
“อะไรมันจะขนาดนั้น”
“จะไปรู้เหรอ ไอ้เรื่องจอดรถนะยังพอว่าได้ แต่โทรศัพท์คุณนายก้อยนะสิ ไม่น่าจะพอดีขนาดนั้น”
“ฉันนึกถึงโฆษณารถยนต์เลย ว่าแต่หมอโสดเปล่า”
“ไม่รู้ ชื่อฉันยังมารู้พร้อมพวกแกเลย”
“กามเทพแผลงศรละมั้ง แบบนี้ฉันก็เตรียมตัดชุดรอละสิ”
“แกแหละบ้า ปัญญาอ่อนอีกต่างหาก”
“เรื่องจริง”
“คงจะเหงามั้ง หาเพื่อนกินข้าว แล้วมาเจอพวกบ้า ๆ อย่างเรา ก็ทำตัวเนียนไง”
“แต่ฉันว่าก็ดูดีนะ”
“เหรอ”
ต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้านเวลา 22.00 น.
เช้าวันอังคาร นู๋ฝิ่นก็ทำงานปกติ จนเวลา 11.00 น.
คุณหมอโทรศัพท์เข้ามา ชวนทานข้าวกลางวัน
“นูฝิ่นขอโทษค่ะ มื้อกลางวัน สำนักงานเลี้ยงข้าวค่ะ คงจะไปทานกับคุณหมอไม่ได้”
“ไม่เป็นไรครับ ไว้มื้อเย็นก็ได้ครับ วันนี้ท่านรองชวนทานข้าวที่บ้าน คงได้เจอนู๋ฝิ่นนะครับ”
นี่อาหมอนึกยังไงชวนกินข้าวบ้าน มีอะไรหรือป่าว
เพราะฉะนั้นต้องถามต้นเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น
“ว่าไงยายนู๋”
“วันนี้อาหมอนัดใครทานข้าวเย็นค่ะ มีงานอะไรหรือป่าว”
“อ๋อ วันเกิดคุณเลขาเค้า ก็เลยจัดงานให้นะ ว่าจะโทรบอกเราเหมือนกัน เย็นนี้หกโมงนะ”
มัดมือชกตามแบบผู้ใหญ่ใจดี
จากวันนั้น จนทุกวันนี้นู๋ฝิ่นมีคนห่วงใย เพิ่มอีกหนึ่งคน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทนนู๋ฝิ่นได้แค่ไหน
เอาเป็นว่าติดตามกันต่อไป


Create Date : 14 พฤษภาคม 2551
Last Update : 14 พฤษภาคม 2551 15:17:24 น. 0 comments
Counter : 844 Pageviews.

ดอกฝิ่นในสายลมหนาว
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




คนเราคบหาร่วมทางกัน มีค่าตรงที่รู้จัก
คนเราคบหาคุ้นเคยกัน มีค่าตรงที่รู้ใจ
คนเราคบหากันแล้วจากกัน
มีค่าตรงที่อยู่ในความทรงจำที่ดีของกัน


บางคนผ่านมา....แล้วผ่านไป
บางคน.....ผ่านใครกำลังจะเข้ามา
บางคน.....รอเวลาแล้วอาจจะไป
บางเวลาไม่มีใคร......ที่เข้ามา
บางเวลา......มากหน้าแลลายตา
ถึงเวลา......อยากรู้ว่าจะมีไหม
ใครคนไหน ? .....คนนั้น...ที่อยู่ข้างๆกันตลอดไป



คนบางคนเกิดมาเพื่อให้เรารัก
แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อรักเรา
และเป็นคนของเรา



ไม่ว่าเธอจะอยู่กับใคร
ไม่ว่าเธอ....จะอยู่ที่ไหน
ไม่ว่าเธอ.....จะทำอะไร
แค่.....ฉันรู้ว่าเธอกำลังสบายใจ
ฉัน.....ก็จะสบายดีและสบายใจ
ไม่ห่วง....ไม่คาดหวังอะไร



เหยียบดินคนละผืน แต่เรายังอยู่ร่วมฟ้า
ก้าวย่างไปตามทางคนละสาย
แต่ยังคงเป็นโลกใบเดียวกัน
กายห่าง แต่ใจใกล้...
ไม่เห็นหน้า แต่เรายังอยู่ด้วยกันเสมอ...
แม้อนาคตจะมองไม่เห็น
แต่ฉันรู้ได้ด้วยหัวใจฉัน
ไม่ว่าเส้นทางจะ อยู่ห่างไกลกันแค่ไหน
เธอจะเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจฉัน...เสมอไป



ในคำว่ารัก ไม่ขออะไรมากไปกว่า
ได้รับรู้ว่า คุณยังมีชีวิตอยู่
ยิ้มได้...หัวเราะได้ มีความสุขกับชีวิต
ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้ไปในที่ที่อยากไป
แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว



ดีเพียงใด ที่ได้ยืนข้างเธอ
ได้พูดได้คุยได้พบได้เจอ ได้ใกล้ชิดกัน
ดีเกินพอ กับคนอย่างฉัน
ความรักในใจคงไม่พูดมัน ไม่ให้สร้างปัญหา
ใจเธอมีเจ้าของ คงต้องโทษที่พรหมลิขิต
ให้ฉันมีสิทธิ์แค่รักเธอผิดเวลา



ขอบคุณความรักของพ่อกับแม่ที่ปกป้องหัวใจของลูก
ขอบคุณความรักของเธอที่เป็นบทเรียนเล่มหนาในชีวิต
ขอบคุณความรักในหัวใจที่ทำให้พยุงตัวเองขึ้นมาได้

<
Free Clock กำลังใจที่กำลังชมบล็อก กำลังใจที่แวะมาทักทาย Color Codes ป้ามด
New Comments
Friends' blogs
[Add ดอกฝิ่นในสายลมหนาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.