The Hospital
หลังจากห่างหายไปน้านนาน จนแทบจะปล่อยให้บล็อกเน่าขึ้นอืด ก็สมควรแก่เวลาที่จะอัพบล็อกใหม่กะเค้าซักกะที (เพื่อนๆบ่นกันจนหูชาแล้วว่าจะปล่อยให้บล็อกเน่าถึงเมื่อไหร่ 555) วันนี้ก็จะมาแนะนำซีรีย์ที่ประทับใจให้เพื่อนๆชาวบล็อกอีกเรื่องนึงค่ะ เรื่อง The Hopital (บาปสีขาว) หรือ เกมส์ชีวิตลิขิตหัวใจ ที่ทางช่อง 3 เคยเอามาฉายจนจบไปเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา (ขอสารภาพว่าตอนนั้นก็อยากดูมั่กๆ แต่ดันฉายซะดึก แถมอาทิตย์ละ 1 วันเท่านั้น ทำให้ขาดอรรถรสเป็นอย่างยิ่ง) ดังนั้น จขบ จึงรอมันออกมาเป็น DVD แล้วค่อยดูมันรวดเดียวจบ...สะใจดี ฮุๆๆ ตอนแรกๆที่ดูเรื่องนี้...หลักๆคือเราชอบพระเอกอ่ะ เจอร์รี่ F4 สุดหล่อ เล่นเป็นหมอได้หล่อกระชากใจจริงๆ ด้านเนื้อหาก็ได้ยินกระแสมาตั้งแต่เริ่มถ่ายทำว่าเอามาจากนิยายดังที่ขายดีที่สุดในไต้หวัน (เลยทำให้อยากดูมากขึ้นไปอีก) พอได้ดูแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆซะด้วย เรื่องนี้ทำไห้เราสัมผัสถึงความอบอุ่นได้ในแทบจะทุกตอนรวมไปถึงข้อคิดต่างๆที่แฝงไปด้วยปรัชญามากมาย จนมีหลายครั้งที่ดูๆอยู่น้ำตาก็ไหลพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความประทับใจ...ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน(ไม่รู้ว่าเพื่อนๆที่เคยดูจะรู้สึกแบบนี้กันมั่งเปล่า แต่เราเป็นแบบนี้จริงๆแฮะ ไม่ได้เวอร์นะเนี่ย) ยอมรับว่าในตอนแรกๆของเรื่อง อาจมีเบื่อๆอยู่บ้างเพราะเนื้อหาค่อนข้างหนัก ธีมของสีก็จะออกดำๆ หม่นหมอง ขมุกขมัวชอบกล แล้วก็ตัวละครแต่ละตัวผูกสัมพันธ์กันซับซ้อนซะเหลือเกิน แบบว่าต่างก็มีปมกันอยู่อ่ะนะ แต่พอดูๆไปได้ซักพักก็เริ่มติดใจ ธีมของหนังก็ค่อยๆสว่างขึ้นมาตามลำดับจนกระทั่งตอนจบทำได้ซาบซึ้งตรึงใจมากๆ (จขบ เล่นดูจนไม่ยอมหลับยอมนอนเลยทีเดียว) ก็หนังมันช่างเข้มข้นดีแท้ เนื้อหาของเรื่องใช้โรงพยาบาลเป็นจุดเดินเรื่องโดยมี หมอหนุ่ม ซูอี้หัว(เจอร์รี่ของเรา) เป็นตัวหลักในเดินเรื่อง ใครจะทราบว่าแท้จริงแล้วโรงพยาบาลที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสีขาว ซึ่งเห็นจากภายนอกว่าเป็นสถานที่น่าจะเปี่ยมไปด้วยความเมตตา พร้อมด้วยผู้มีความรู้ความสามารถมากมาย(บรรดาหมอมือหนึ่งต่างๆนั่นล่ะ) จะเป็นสถานที่แห่งการแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น จนยากจะคาดเดา ในซีรีย์เรื่องนี้บอกตามตรงว่าเราประทับใจตัวละครแทบทุกตัวไม่ว่าจะเป็น ถัวกว๋อไท้ ศัลยแพทย์มือหนึ่ง รองศาสตราจารย์ชิวชิ่งเฉิง คุณหมอกวนซินลูกสาวประธานาธิบดี นักข่าวสาวสวยเสี่ยวหม่า ฯลฯ แยะมั่กๆ เอาเป็นว่าเราชอบทุกตัวเลย 555 แสดงได้ดีโครตๆ ขอบอกๆ พอดูจนจบแล้วรูสึกว่าตัวเองได้แง่คิดขึ้นมากเลย มันเหมือนได้ยกระดับความนึกคิดของตัวเองขึ้นมาได้อีกจมเลยอ่ะ (จริงๆนะ) อยากให้ทุกคนได้ดูนะคะ แล้วเพื่อนๆอาจจะได้รอยยิ้มพร้อมน้ำตาเหมือนเราที่ดูเรื่องนี้น่ะ ท้ายนี้เราขอคารวะ ผู้แต่งเรื่องนี้ ด้วยความจริงใจ (เก่งสุดๆ แต่งขึ้นมาได้งัยคะเนี่ย) เพราะตอนนี้ท่านกลายเป็นนักเขียนหนึ่งในดวงใจของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณ Wen Yung Ho
เอาไปอ่านแล้วชอบไหม?