สวัสดีค่ะสาวๆ
หลังจากได้รีวิว
BarryM Lip paint ไปแล้ว
วันนี้มีของใหม่มายั่วๆๆๆ อิอิ
เครื่อ BerryM เป็นเครื่องสำอางค์ไลน์ Drug Store ที่ไม่ได้ดังมาก
ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ซึ่งนิก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไม่ค่อยอินกันเท่าไหร่
เพราะเวลานิไปช๊อปที่บู๊ทของ BerryM นิอดไม่ได้ที่จะหยิบมาซักชิ้นสองชิ้นเสมอ
เพราะอะไร?
เพราะว่าราคามันถูกมากๆ เทียบกับปริมาณแล้วถือว่าคุ้มค่า
แถมคุณภาพก็ใช่ว่าจะแย่ซะที่ไหน พิกเม้นแน่นสุดๆค่ะ
ไปแล้วอยากจะกวาดทุกสิ่งใส่ตะกร้า โดยไม่ต้องคิดอะไรเลย
หลังจากเห็นกระแสเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้เอาของไม่ใหม่ แต่ยังไม่เห็นใครรีิวิวมา Swatch สีให้ดูค่ะ
BarryM Dazzle Dust อายชาโดว์แบบผงค่ะ
นิหยิบมาทังหมด 12 สีได้โหลนึงพอดิบพอดีเลยค่ะ
จริงๆอยากให้ไปเห็นบู๊ทที่อยู่ใน TOP SHOP ตรง Oxford Street, London มากๆ
คือสีมันพรึบพรับ ตาลาย มองไปอันไหนก็อยากได้ อันไหนก็สวยไปหมด
ใจจริงอยากจะสอยอาทิตย์ละ 10 สี แต่กลัวขนกลับไม่ไหวค่ะ >"<
เพราะมันเป็นกระปุกแก้ว หนักเอาเรื่องทีเดียว
และไม่ใช่มีเฉพาะอายชาโดว์เท่านั้น ลิปสติก ลิปกลอส ยาทาเล็บ มาสคาร่า อายไลน์เนอร์
ทุกอย่างเรียงเป็นตับ เลือกไม่หวาดไม่ไหวทีเดียวค่ะ T^T
เริ่มที่สีแรก นิขอเอาเบอร์ที่เป็นตัวใหญ่นะคะ
ไม่แน่ใจว่าในเว็บเค้าเอาเบอร์ตัวใหญ่หรือตัวเล็กเป็นเมน ถ้าไงลองเช็คกันเอาเองเน่อ
เบอร์ 3 เ็ป็นสีชมพูที่มีประกายสีมองค่ะ
ทาออกมาแล้วดูคุณหนูแบบผู้ดีๆ
เบอร์ 14 จะเป็นโทนเขียวหัวเป็ด ประกายทองอมเขียวค่ะ
เบอร์ 15 เป็นโทนฟ้าที่ผสมสีเขียวลงไปเล็กน้อยค่ะ
จะมีชิมเมอร์ประกายเขียวๆ สวยมากๆ
อันนี้คาดว่าจะเป็น
เบอร์ 17 ค่ะ เบอร์ลอกหายไปละ
จะเป็นโทนฟ้าเพียวๆ มีชิมเมอร์สีเงิน
เบอร์ 23 โทนสีม่วงอมน้ำเงินแบบ Navy มีชิมเมอร์สีเงินค่ะ
เบอร์ 58 สีชมพูอีกแล้ว แต่อันนี้ชิมเมอร์สีเงินค่ะ
เบอร์ 60 สี Green Mint เขียวออกมิ้นท์ๆ ชิมเมอร์สีเงินค่ะ
เบอร์ 83เป็นกรีนมิิ้นท์อีกสี แต่ออกฟ้ามากกว่าค่ะ ชิมเมอร์สีเงิน
เบอร์ 84 สีแดงสด ไม่มีชิมเมอร์ค่ะ
เบอร์ 77 สีส้มสด มีชิมเมอร์สีเงิน แต่ไม่วิ๊งมากค่ะ
เบอร์ 99สีม่วงเปลือกมังคุด เนื้อแมทไม่มีชิมเมอร์ค่ะ
เบอร์ 102สีดำประกายม่วงปนทอง
ปาดเหงื่อ....เยอะจัด มาดูภาพรวมกันค่ะ
เสร็จแล้ววว เสร็จซักที เหนื่อยเลย = ="
มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ
นิให้
เต็ม
เพราะอะไรมาดูกัน
ข้อดีข้อแรก สำหรับเนื้อชิมเมอร์ ถึงแม้สีสันจะไม่ชัดเจนเท่าเนื้อแมท
แต่ขอบอกว่าชิมเมอร์เค้าสวยมากๆ ไม่เ็ล็กไป ไม่ใหญ่ไป
และลูกเล่นเค้ามีค่อนข้างเยอะตรงชิมเมอร์นี่ละค่ะ
เพราะมันมีหลายสีในตัว ที่บอกไปว่า ชิมเมอร์ทอง ชิมเมอร์เงิน
แต่ถ้าเปลี่ยนองศาของแสงดู จะมีสีโทน เขียว ม่วง แดง ของแต่ละสีคละๆกันไปด้วย
สรุปว่า ชิมเมอร์แจ่มแมวที่ซู๊ดดดดด!!!
ข้อสอง มาดูในส่วนของเนื้อแมทกันบ้าง
ตัวเนื้อแมทถึงแม้ลูกเล่นจะไม่แพรวพราวเท่าเนื้อชิมเมอร์
แต่พิกเม้นท์บยอมรับจริงๆว่า แน่นที่สุด ปาดไปนิดเดียว ติดชัดเจนสุดๆค่ะ
ข้อสาม ด้วยความที่พิกเม้นท์ก็แน่น ชิมเมอร์ก็แหล่ม
ทำให้เราไม่จำเป็นจะต้องแตะเนื้อพิกเม้นเยอะๆเลย พูดง่ายๆคือ ประหยัดมากๆ ใช้ได้นานทีเดียวค่ะ
ข้อสุดท้าย ราคาถูกมากกกกกก 4.50 ปอนด์เท่านั้น
ประมาณกระปุกละ 200 นิดๆเอง เทียบกับปริมาณที่ใช้ได้นานถึงโลกหน้า คุ้มมากค่ะ!!
มีแต่ชมๆๆอย่างเดียวก็จะหาว่าอวยกันซะเว่อร์
มาดู
ข้อเสียกันบ้าง
มันเป็นเนื้อแบบผง เพราะฉะนั้น จงอยู่ให้ห่างพัดลมนะคะ เวลาแต่งหน้า
เพราะมันปลิว พริ้ว ฟุ้งกระจายยยยยย
นิโดนมาแล้ว กระเป๋าขนเฟอร์สีขาว ตอนนี้เป้นสีม่วงไปแล้ว T^T
ต้องไปซักกันวุ่นวายทีเดียวค่ะ
และด้วยความที่เป็นแบบผงนี่เอง ทำให้กะปริมาณการใช้ลำบากหน่อย
แตะมากไปก็เลอะเทอะ เปรอะลงมาข้างแก้มกันเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นเวลาจะใช้ เคาะออกมาไว้ก่อน และใช่ที่ฝาทีละนิดก็พอนะคะ
และด้วยความที่ฝามันดำทึบ ทำให้เวลาวางเรียงกันหน้าตาเหมือนกันหมดเลย
เพราะฉะนั้นเวลาวางต้องวางเอาก้นขึ้นเพื่อให้เห็นสี
เป็นการออกแบบแพ๊คเกจที่ไม่ค่อยเวิร์คสำหรับนิค่ะ
เหมือนตัวลิปสติกที่ออกแบบมายังไงของเค้าไม่รู้ ดำทั้งแท่ง ไม่รู้หยิบสีไหนมาทาเลย
แล้วนิซื้อสีแปลกๆมาเยอะ บางวันถ้าเบลอๆ
อาจเผลอหยิบสีเขียวมาใช้ไม่รู้ตัว หายนะของชีวิตเลยนะคะ
ข้อเสียเยอะขนาดนี้ ทำไมยังให้ 5 ดาว
ตอบตรงๆเลยค่ะ เพราะมัน"ถูกใจ" คำเดียวจบทุกอย่าง >"<
ตัวอย่างเมคอัพที่ใช้ Dazzle Dust ค่ะ
นิใช้เบอร์ 102 ในการทำสโมคกี้อายค่ะ
ภาพโดยรวมจ้า
ก็มีประมาณนี้ละค่ะที่จะแนะนำ
หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเสียตังค์ให้สาวๆนะคะ โห๊ะๆๆๆ
ยังไงก็ขอบคุณมากๆที่ติดตามนะคะ