วันนี้แปลกๆพิกล
ดวงพามาให้เจอเหตุการณ์จากที่ทำให้รู้สึกว่า
โดนแบ่งแยกสัญชาติ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกเลย
ตอนเช้า หลังจากที่ขึ้น DLR ซึ่งปกติแล้ว
จะไม่ค่อยได้ Touch In เพราะจ่ายแบบ Monthly
ซึ่งเวลาโดนตรวจบัตรบนรถไฟฟ้า ก็ไม่เห็นมีพนักงานตรวจตั๋วคนไหนบ่นอะไร
ซึ่งก็ทำแบบนี้มาครึ่งปีได้แล้ว (ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่)
แล้วอยู่ดีๆ วันนี้...หลังจากลงจาก DLR มาต่อ TUBE
แล้วกำลังจะเดินออกมา Touch ตั๋วเพื่อออกจากสถานี
ก็มีพนักงาน(ผิวสี)ของ London Underground เดินมาขอตรวจตั๋ว???
แถมตรวจแล้ว ตรวจอีก แล้วทำหน้าแบบเหมือนงงๆว่าเป็นไปได้ยังไง?
แล้วไม่ยอมให้เราเดินออกจากสถานีด้วย ยึดตั๋วเราไปเฉยเลย
แล้วเค้าก็บอกว่า เป็นไปได้ยังไง เครื่องบอกว่าผ่าน(มีไฟสีเขียวขึ้นที่เครื่อง ถ้าไม่ผ่านจะสีแดง)
แต่ว่าเธอ Touch In ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 16(วันอังคารที่ผ่านมา)
เราก็เลยบอกไปว่า ชั้นจ่ายแบบ Monthly นะ
แล้วเค้าก็ไปคุยกับพนักงานอีกคน(ผิวสีเช่นกัน)แล้วพูดกันงุ๊งๆงิ๊งๆ
แล้วหันมาถามว่า ขึ้นมาจากสถานีไหน แล้วเช็คกันยกใหญ่
เราก็ยืนรอแบบเซ็งๆ อารมณ์ว่าจะรีบไปเรียน
และกำลังคิดอยู่ว่า ถ้าหากเค้าคิดจะปรับเรา ไม่ยอมลูกเดียว
เพราะเราจ่ายรายเดือนไปแล้ว ไม่จำเป็นที่เราจะโดนปรับอะไรเลย
สรุปกว่าจะเช็คกันเสร็จ ก็ปาไปหลายนาที แล้วยื่นบัตรมาให้เราคืน
แล้วบอกห้วนๆว่า ทีหลังต้อง Touch In ทุกครั้งนะ
เพราะพวกเธออาจจะมาจาก Heattrow ก็ได้ ใครจะไปรู้
โอเคนะว่า เราผิดที่ไม่ได้ Touch In ทุกครั้งเวลาที่จะขึ้นรถไฟ
แต่กริยามารยาทที่ทำเนี่ยะ ไม่น่ารักเอาซะเลย
แล้วทีกับคนอื่นๆ ไม่ตรวจ ดันมาตรวจเรา???
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่ประจวบกับนึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อวานมีน้องมาเล่าให้ฟังว่า
เค้าขึ้นรถเมย์ แล้วมีคนผิวสีไม่ได้ Touch บัตร
พนักงานมาตรวจเจอ เค้าไม่ทำอะไรเลย แค่ปล่อยให้ลงป้ายถัดไป
แต่พอไปเจอคนเอเชียไม่ได้ Touch บัตร เค้าจับปรับ (ซะงั้น?)
เลยทำให้เรารู้สึกขึ้นมาได้ทันที
ที่เค้าเรียกเราไปตรวจบัตรวันนี้ เหตุผลหลักเพราะเราเป็นคนเอเชียหรือเปล่า?
แล้วพอตอนเย็น
ขึ้นรถเมย์กำลังกลับบ้าน ก็ไปเจอแก๊ง 3 สาวเด็กติ่งหู(ผิวสีอีกแล้ว)
(ต่างประเทศก็มีติ่งหู เกรียน เหมือนกันนะเออ)
นั่งๆอยู่แล้วสะกิดพี่ที่เป็นคนไทยด้วยกันแล้วบอกว่า
มีคนเรียก...พี่เค้าก็มองๆไม่เห็นมีอะไรเลย เลยรู้ละว่ามันแกล้ง
แล้วอีกคนก็เอามือถือออกมาถ่ายรูปเพื่อนเราอีกคนนึง
และบอกว่า ชั้นจะเอารูปเธอไปทำอะไรฮาๆ แล้วเอาลง Facebook
แล้วก็หัวเราะกันใหญ่ แต่เผอิญเพื่อนเราไม่ตอบโต้อะไร
มองๆแล้วก็เฉยๆ ไม่สะทกสะท้าน มันเลยเลิกแกล้งไป
บางคนอาจจะคิดว่าเราคิดในแง่ร้ายไปหรือเปล่า
แต่ด้วยความที่สังคมของคนไทย ไม่แบ่งแยกเรื่องสีผิว
ประเทศของเราเป็นประเทศที่ใจดี และเป็นมิตร
แต่บางประเทศไม่ได้เป็นแบบนั้น
ฝรั่ง หรือคนผิวสีบางคน ดูถูกคนเอเชียมากๆ
มีพี่คนนึงเคยไปเล่นที่สวนสาธารณะ
แล้วมีเด็กฝรั่งมาขอให้พี่เค้าช่วยไกวชิงช้าให้
แล้วพอพ่อแม่เด็กมาเห็น ก็มาพาลูกเค้าไป แล้วด่าพี่คนนั้นเสียหาย
ถ้าด่าเพราะหวงลูกอย่างเดียวก็คงไม่อะไรมาก
แต่นี่ด่าประมาณว่า ไอ้พวกคนเอเชีย ไปไกลๆเลยนะ อะไรประมาณนั้น
พี่เค้าก็โมโหแล้วถามกลับไปว่า คนเอเชียอย่างชั้นมันทำไมเหรอ?
แล้วฝรั่งพวกนั้นก็ไม่ตอบอะไร เดินลอยหน้าไปเฉยๆ
เพราะฉะนั้น ถ้าใครคิดอยากจะเรียนต่อต่างประเทศ หรือจะมาเที่ยว
จะทำอะไรก็ต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่า เราจะซวยไปเจอคนพาลที่ไหนบ้าง
ที่เขียนนี่ไม่ได้ตั้งใจจะเหยียดสีผิว หรือแบ่งแยกอะไร
เพราะปกติก็ไม่ใช่คนมานั่งมองว่าใครมีพื้นเพ หรือสัญชาติอะไรอยู่แล้ว
คนเรา ไม่ว่าจะที่ไหน ก็มีทั้งคนดีและไม่ดีปนเปกันไปอยู่แล้วเนอะ
แต่แค่อยากจะเอาประสบการณ์ในต่างแดนมาให้อ่านกันค่ะ