|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
จาก...Tokyo Tower สู่...Tokyo Sky Tree
“TOKYO SKY TREE” หอกระจายสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ และว่าที่แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงโตเกียว
หลังจากตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโตเกียวมาช้านาน ”หอคอยโตเกียว” จะถูกว่าที่แลนด์มาร์คแห่งใหม่อย่าง “โตเกียว สกาย ทรี” มาแย่งชิงตำแหน่งในอีกไม่ช้านี้แล้ว...
50 กว่าปีแล้วที่ หอคอยโตเกียว หรือ TOKYO TOWER หอคอยสีส้มสลับขาวได้ทำหน้าที่ส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ให้คนโตเกียวและระแวกใกล้เคียง รวมทั้งได้เป็นสัญลักษณ์ประจำกรุงโตเกียวอีกด้วย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958 หอคอยแห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นที่ต้องมาเยี่ยมชมสักครั้งให้ได้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มักจแวะเวียนมาเยือนอยู่เสมอ และยังเป็นสถานที่สุดแสนโรแมนติกที่ทั้งกลางวันและกลางคืนเหล่าคู่รักก็มักจะมาออกเดทกัน จึงไม่แปลกที่หอคอยโตเกียวได้กลายมาเป็นทั้งแลนด์มาร์คและศูนย์รวมจิตใจของชาวโตเกียวมาอย่างยาวนาน และถ้าได้ติดตามซีรี่ส์ของทางช่อง Thai PBS ก็อาจจะได้มีโอกาสชมซี่รี่ส์ยอดฮิตของญี่ปุ่นเรื่อง “Tokyo Tower – Mom & Me, and sometimes Dad” กันบ้างซึ่งเค้าแทบจะใช้หอคอยโตเกียวแทนความเป็นโตเกียวเลยนะ เห็นมั้ยว่าที่นี่สำคัญกับคนญี่ปุ่นเค้าจริงๆ
แต่..ปัจจุบันความทันสมัยของกรุงโตเกียว กลับเริ่มเป็นอุปสรรคในการทำหน้าที่หลักของหอคอยโตเกียว นั่นคือการกระจายสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ เนื่องจาก 50 ปีที่ผ่านมา หอคอยโตเกียวกระจายสัญญาณแบบอนาล็อกซึ่งถูกรบกวนให้มีการแปลความหมายผิดพลาดได้ง่ายและต้องใช้ระบบควบคุมที่ซับซ้อนมาตลอด แม้จะเริ่มมีการกระจายสัญญาณแบบดิจิตอลซึ่งควบคุมได้ง่ายกว่าจากหอคอยโตเกียวเพื่อให้เข้ากับเทคโนโลยีอันทันสมัยในปัจจุบันบ้างแล้วก็ตาม แต่เมื่อมีบรรดาสิ่งปลูกสร้างที่พยายามแข่งกันสูงให้ถึงก้อนเมฆกันเลยทีเดียวนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเจ้าอนาล็อกและดิจิตอลก็ต้องถอยเหมือนกัน
ดังนั้นในอีก 2 ปีนี้ เราก็จะได้เห็นโฉมหน้า "โตเกียว สกาย ทรี" (TOKYO SKY TREE) ที่จะมาทำหน้าที่กระจายสัญญาณแทนหอคอยโตเกียว ด้วยความสูงที่ยังคงประมาณกันว่าน่าจะสูงราว 610 เมตร เกือบ 2 เท่าของหอคอยโตเกียวซึ่งสูงถึง 333 เมตร แม้ว่าตอนแรกจะสร้างด้วยความสูงที่ 634 เมตร ซึ่งน่าจะกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความหมายที่ว่า คำว่า 6-3-4 ในภาษาญี่ปุ่นสามารถออกเสียงได้ว่า “มุซาชิ” ซึ่งในสมัยก่อนก็คือชื่อเดิมของจังหวัดแถบนี้เค้า ปัจจุบันก็คือพื้นที่ของกรุงโตเกียว ส่วนใหญ่ของจังหวัดไซตามะ และบางส่วนของจังหวัดคานางาว่านั่นเอง อีกทั้งคำว่า “มุซาชิ” ยังทำให้ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เกือบทุกเพศทุกวัยระลึกถึงซามูไรผู้ชำนาญการใช้ดาบที่ยิ่งใหญ่ ชื่อว่า Miyamoto Musashi ซึ่งไม่ว่าจะตำนาน การ์ตูน หรือภาพยนตร์ก็มีหลายเรื่องที่กล่าวถึงซามูไรนักดาบผู้นี้ แต่สุดท้ายแล้ว..ความสูงของโตเกียว สกาย ทรี จะสักแค่ไหน ก็คงต้องรอชมกันประมาณเดือนกรกฎาคม ปี 2011 ซึ่งน่าจะเสร็จสมบูรณ์ตามหมายกำหนดการ และจะเปิดอย่างเป็นทางการช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2012 อีกไม่ช้าไม่นานนี้แหล่ะเพราะเค้าเริ่มก่อสร้างกันมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว ถ้าในช่วงนี้ ใครได้ไปแถวแม่น้ำสึมิดะ ไม่ไกลจากย่านอะซะคึซะเท่าใดนัก ก็อาจจะได้เห็นความคืบหน้ากันพอสมควร และพอโตเกียว สกาย ทรี สร้างเสร็จ...กรุงโตเกียวก็หันมาการกระจายสัญญาณดิจิตอลเท่านั้นซึ่งเหมาะกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ปัจจุบันที่รองรับสัญญาณนี้มากกว่า และสัญญาณอนาล็อกแบบเก่าๆ ก็จะถูกยุติการใช้งานไปโดยปริยาย
ด้วยดีไซน์เก๋ไก๋ ที่รวมพลังความคิดกันมาทั้งสถาปนิก (TADAO ANDO) และช่างศิลป์ ที่เอารูปทรงเลขาคณิตอย่างสามเหลี่ยมและวงกลมธรรมดาๆ มาสร้างสรรค์จนเจ้าหอสูงนี้ดูท่าว่าจะเท่ซะจนคนที่ทราบข่าวเจ้าหอคอยแห่งใหม่นี้ ต้องคอยมองกันอยู่เนืองๆ ว่าเมื่อไรจะเสร็จซะที... แล้วสีนั้นมันสำคัญไฉน..จะสร้าง โตเกียว สกาย ทรี ทั้งที เค้าก็คิดกันเยอะทีเดียว เค้าเอาสิ่งที่ช่างศิลป์ในอดีตเรียนรู้กับการย้อมครามกันมาแต่โบราณ มาสร้างสีสรรให้กับหอคอยอันทันสมัยนี้ เพื่อจะสะท้อนวัฒนธรรมและความเป็นตัวตนของชาวเอโดะกันอย่างเต็มที่ เค้าเลือกสีขาว เน้นนะ..ว่าสีขาว แต่เป็นสีขาวที่อ่อนที่สุดที่ได้จากการย้อมคราม ซึ่งเป็นหนึ่งในสีพื้นฐานตามแบบญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งแน่นอนว่าสีขาวนี้จะอมฟ้าจางๆ บวกกับเทคนิคการผสมสีในปัจจุบัน สีขาวแบบ Sky Tree white น่ารอชมอย่างยิ่ง ที่เค้าเลือกสีนี้ก็เพราะยามที่เห็นสีนี้ ก็เสมือนสีขาวนี้โอบกอดทุกสิ่งทุกอย่างท่ามกลางท้องฟ้าของกรุงโตเกียว สะท้อนฤดูกาลและวิถีชีวิตในเขตเมืองเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของหอคอย นอกจากนี้สีขาวยังเหมือนความสะอาดบริสุทธิ์ที่เป็นมนตร์ขลังของหิมะที่ปกคลุมยอดภูเขาไฟฟูจิ บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่น รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจที่แตกต่างจากแห่งไหนๆ ในโลกของชาวเมืองหลวงอีกด้วย ซึ่งชาวญี่ปุ่นเค้าก็คงคาดหวังกันไว้ว่าเมื่อหอคอยแห่งนี้สร้างเสร็จ..Sky Tree white จะส่งให้หอคอยดูสว่าง สดใส และนำมาซึ่งความเจริญโชติช่วงภายใต้ท้องฟ้าสีครามกลางกรุงโตเกียว โตเกียว สกาย ทรี นี้ เค้าก็ไม่ได้แต่เน้นสูง สวย ดีไซน์เก๋ เท่านั้น เพราะสิ่งที่ต้องคำนึงเวลาจะมีสิ่งก่อสร้างใดๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ในญี่ปุ่นนั้นเค้าต้องพิจารณามาตรฐานระบบป้องกันการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวกันอย่างเข้มงวดทีเดียวแหล่ะ...โตเกียว สกาย ทรี เค้าก็มั่นใจเหมือนกันว่าออกแบบมาเพื่อรองรับกับเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างดี
สุดท้าย โตเกียว ทาวเวอร์ ตำนานสัญลักษณ์ประจำกรุงโตเกียวที่ยืนยงเนิ่นนาน ก็คงต้องหลีกทางให้ โตเกียว สกาย ทรี เพื่อเปิดศักราชใหม่ของระบบการกระจายสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ให้กับชาวโตเกียว แล้วยังจะมาเป็นแลนด์มาร์ค รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติอย่างเราๆ ในอีกไม่กี่ปีนี้แหล่ะ ระหว่างนี้ถ้าได้มีโอกาสไปเที่ยวกรุงโตเกียว ก็อย่าลืมมองหา...เจ้าหอคอยแห่งนี้กันดูไปพลางๆ ก่อนว่าสร้างไปถึงไหนแล้ว แล้วก็อย่าลืมไปเยี่ยมหอคอยกรุงโตเกียว ก่อนที่เค้าจะอำลาหน้าที่กันหล่ะ เค้าจะได้ไม่น้อยใจ แล้วเราก็จะได้ไม่เสียดายว่า...หอคอยโตเกียวยังไม่เคยได้ไปเยือน โตเกียว สกาย ทรีก็จะมาแทนที่ซะแล้ว...
ที่มา:
Create Date : 21 กันยายน 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 21 กันยายน 2553 19:49:57 น. |
Counter : 2120 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|