Bloggang.com : หมาเลี้ยงแกะ : ด้วยรักและกัดกัน? ด้วยรักและผูกพัน?

ด้วยรักและกัดกัน? ด้วยรักและผูกพัน?

.... มากกว่าแค่ Chick Lit อีกเล่ม ???....

วิจารณ์หนังสือ: ด้วยรักและกัดกัน (In Her Shoes) ของ Jennifer Weiner/ แปลโดยวรรธนา วงษ์ปิยะฉัตร/ สำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์/ 472 หน้า/ 295 บาท (ราคาปก)

เนื้อเรื่องของ "ด้วยรักและกัดกัน” จะให้น้ำหนักกับตัวละครหญิงสองคนซึ่งเป็นพี่น้องกัน “โรส” พี่สาวคนโตกำลังมีอาชีพทนายความที่ไปได้สวย มีผลตอบแทนพอที่จะเช่าอพาร์ตเมนต์ดี ๆ กับซื้อของทุกอย่างที่ต้องการได้ และที่สำคัญ กำลังดูเหมือนจะหวานแหววกับหุ้นส่วนหนุ่มหล่อของบริษัทอยู่พอดี กับ “แม๊กกี้” น้องสาวแสนสวยผู้หยิบโหย่ง รักความสวยงามและสะดวกสบาย แต่ก็ไร้หลักชีวิต สองพี่น้องดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทั้งคู่ดูแคลนการใช้ชีวิตของอีกฝ่าย โดยโรสมองว่าชีวิตของน้องสาวฉาบฉวยไร้แก่นสารเกินไป ขณะที่แม๊กกี้มองพี่สาวของตัวเองว่าคร่ำครึและล้าสมัย

เมื่อแม๊กกี้ต้องมาอาศัยอยู่กับโรส แน่นอนว่าปัญหาความต่างขั้วสุด ๆ นี้ต้องเกิดขึ้นอีกครั้งแน่ และเวลาแต่ละวันที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ปัญหานี้ก็ลามหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นที่ทั้งสองคนทะเลาะกัน และแม๊กกี้ออกจากอพาร์ตเมนต์ของพี่สาวไป

หากเมื่อแต่ละฝ่ายได้อยู่คนเดียว เวลาที่ผ่านไปก็ตกผลึกให้รู้ว่า แต่ละคนมีความหมายกับอีกฝ่ายเพียงไร .... ไม่ใช่แค่ความผูกพันเป็นพี่น้องตามสายเลือดเท่านั้น แต่การเป็นคนต่างชนิดกันนั้นหมายความว่าทั้งคู่ต่างเป็นเงาสะท้อนของกันและกัน .... ความที่เป็นพี่คนโต ทำให้โรสต้องโตเป็นผู้ใหญ่เกินวัยเพื่อดูแลน้องสาว และความที่เป็นน้องเล็ก แม๊กกี้จึงทำตัวเป็นเด็กเล็ก ๆ ไม่ต้องความรับผิดชอบใด ๆ และให้พี่สาวมาจัดการแก้สิ่งที่เธอขมวดเป็นปมไว้ตลอดเสมอ

ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ทั้งสองก็มีวิถีการเติบโตแตกต่างกันด้วย โรสเลือกที่จะเดินตามทุกอย่างอย่างเป็นระเบียบแบบแผน มีขั้นตอนและวิธีการ แต่แม๊กกี้จะใช้วิธีเดินหลีกหนีจากกฎเกณฑ์กติกาใด ๆ และหลุดเลี่ยงจากกรอบไป .... อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลึก ๆ แล้ว การที่มีแม๊กกี้อยู่จะทำให้โรสผ่อนคลายและเห็นโลกรื่นรมย์ไม่ต้องจริงจังเคร่งเครียดอย่างเคย และสำหรับแม๊กกี้เอง พี่สาวคนโตก็เป็นคนที่จัดการแก้ปัญหาและอุปสรรคทุกอย่างได้อย่างง่ายดายและลงตัว

และนั่นก็ถือเป็นโจทย์ที่คนเขียนตีออกมาให้เราคิดตามได้ดีทีเดียว การแยกจากกันนอกจากจะทำให้สองสาวได้เห็นคุณค่าและความผูกพันที่มีต่อกันแล้ว ก็ยังเป็นจุดหักเหให้ทั้งคู่เห็นรูปแบบชีวิตแบบเดิม ๆ ที่ตัวเองเคยมีและเคยเป็นมาตลอด การมีชีวิตที่ขึงไว้จนตึงและชีวิตที่ปราศจากจุดหมายนั้นไม่ใช่หนทางสำหรับความสุขยั่งยืนแน่นอน หากคนหนึ่งไม่คลายปมที่พันธนาการตัวเองออก และอีกคนไม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ และก็หมายความว่าทั้งคู่จะต้องค้นพบความผูกพันที่มีให้กัน ความต้องการความฝันของแต่ละคน และที่สำคัญที่สุด ค้นพบตัวเองให้ได้!

ต้องสารภาพก่อนว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้คิดจะซื้อหนังสือเล่มนี้เลย เพียงแต่ว่าพลิกอ่านขณะรอคนที่นัดไว้ แล้วกว่าจะรู้ตัวก็ได้เวลานัดแล้วโดยที่ยังเหลืออยู่ครึ่งเล่มทำให้ต้องติดพันซื้อกลับมาอ่านต่อที่บ้านในคืนนั้น เริ่มแรก “ด้วยรักและกัดกัน” ก็เหมือนจะเป็นแค่ Chick Lit อีกเล่มหนึ่งที่มักกล่าวถึงชีวิตของผู้หญิงทำงานวัยยี่สิบไปถึงสามสิบปีที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ และวุ่นวายวิ่งวุ่นไปกับเรื่องรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ความรัก ครอบครัว การเงิน ด้วยการพยายามลองผิดลองถูกเพื่อแสวงหาส่วนผสมชีวิตที่ลงตัวสำหรับตัวเองในตอนจบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความรักและคู่ครอง

แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่า หนังสือเล่มนี้กล่าวเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องเป็นหลัก จึงช่วยให้ “ด้วยรักและกัดกัน” มีมุมมองที่น่าสนใจเพียงพอที่จะอ่าน ความคะนึงหาที่มีต่ออีกฝ่ายที่ก่อตัวเงียบ ๆ ในใจของสองคู่น้องจะทำให้คนอ่านค่อย ๆ ซึมซับความคิดถึงและผูกพันที่มีต่อกัน และจะปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้แทบจะไม่เกิดขึ้นในช่วงแรกของหนังสือเลย และการแก้ปัญหาเพื่อที่จะให้ทั้งคู่กลับมาคืนดีกันก็ทำให้ได้ค่อนข้างลงตัว เมื่อน้องสาวรู้ตัวว่าทำให้พี่สาวโกรธและเสียใจเพียงใด สิ่งที่พร่ำบอกพี่สาวจึงเป็นคำว่าเสียใจ และการกระทำ ...ซึ่งแม้จะใช้เวลานานและยากลำบาก แต่ก็ทำให้ผู้รับข้อความเห็นความตั้งใจและคุณค่าได้ในที่สุด

หนังสือเล่มนี้ตีค่าของความสุขให้เป็นค่าเชิงจิตใจมากกว่าแค่วัตถุอย่างที่ปรากฏอยู่ในหนังสือหลาย ๆ เล่ม การเดินทางค้นพบตัวเองของทั้งสองสาวจึงไม่ใช่แค่การประสบความสำเร็จและมีรายได้ตอบแทนที่ดี หากแต่เป็นการเรียนรู้ที่จะรักและให้คุณค่าของตัวเอง และให้ความสำคัญกับคนรอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของน้องสาวเมื่อตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่กับคุณยาย และเรียนรู้ที่จะรักพลเมืองอาวุโสทั้งหลาย (ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ Chick Lit เก๋ไก๋ทั้งหลายไม่คิดจะเอาเข้ามาเป็นตัวละครหลักในเรื่อง!)

และอีกประเด็นที่ชอบมากก็คือ แม้ “ด้วยรักและกัดกัน” จะอิงสูตรสำเร็จด้วยการให้ตัวเอกของเราได้พบเจ้าชายของตัวเอง แต่ก็ผิดจาก Chick Lit ทั่วไปที่หญิงสาวในเรื่องจะต้องลงเอยด้วยความรักที่ลงตัวสวยงามกับ “ชายหนุ่มรูปงาม” ร่ำรวย และสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเทพนิยาย ในเรื่องชายหนุ่มของเราเป็นแค่ชายธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องดีพร้อม หากกลายเป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมได้ เพราะทำให้นางเอกรู้สึกได้ว่ามีค่า เติมเต็ม และถูกรักได้

.... ความรักต้องการมากกว่าแค่สถานะทางสังคม และความพึงใจทางร่างกายนี่นา!

*******

สุดท้าย ... ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะซื้อ Chick Lit มาอ่าน และรู้สึกถูกใจได้ระดับหนึ่งแบบนี้ โอ.... ครั้งสุดท้ายที่อ่าน Bridget Jones's Diary จาก Helen Fielding ยังหงุดหงิดผิดหวังอยู่เลย (บอกให้รู้ว่าอย่าไปเชื่อคำคนอื่นจนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง – ตามหลักกาลามสูตรพอดี TT) หรือ Confessions of a Shopaholic / Can You Keep A Secret ของ Sophie Kinsella ก็สนุกแต่ก็รู้สึกขาดแก่นบางอย่างไป

เพราะตามความรู้สึกตัวเอง ถึงแม้ Chick Lit ทั่วไปจะปฏิเสธการอิงแบบแผนของนิยายประโลมชโลมจิตใจสาวน้อยสาวใหญ่ที่เคยมีมาในอดีต โดยการกล่าวถึงชีวิตของตัวเอกที่ “ไม่สมบูรณ์แบบ” และเป็นสาวโสดในสังคมเมืองซึ่งต้องการจะหลีกหนีจากกรอบเดิม ๆ ที่ต้องสวยเพรียว ประสบความสำคัญในหน้าที่การงาน มีแฟนหนุ่มหล่อร่ำรวยและชีวิตรักที่ลงตัวตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการให้ตัวเองทดสอบแสวงหาส่วนผสมชีวิตที่ลงตัวสำหรับตัวเอง และพยายามสร้างตำราสูตรรัก anti-fairy tales ใด ๆ ขึ้นมาเองแล้ว

แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า การพยายามทำตัวเป็นกบฏจากกฎเกณฑ์ที่มีมาเดิมกลับลงท้ายไม่ต่างอะไรจากนิยายรักแบบเดิม ๆ คือปัญหาการบริหารชีวิต ที่มีถูกจัดการ สิ่งรอบตัวคลี่คลายลงตัวในตอนจบ พร้อม ๆ กับการมีความรักที่ราบรื่นสวยงามกับ “ชายหนุ่มรูปงาม” และที่สำคัญว่า ร่ำรวย และสมบูรณ์แบบ

นั่นก็สะท้อนว่า แม้ตัวละครใน Chic Lit จะพยายามเป็นกบฏด้วยการปฏิเสธความเชื่อเดิม ๆ และให้คุณค่าของการเป็นสาวโสดอิสระในสังคมเมือง แต่ตัวละคนเหล่านี้ก็ยังโหยหาสิ่งซึ่งหญิงสาวต้องการ นั่นก็คือ ความรักและความโรแมนติคให้ชีวิตอยู่ดี

.. จะบอกว่าเหล้าเก่าในขวดใหม่ก็ได้ ก็ความต้องการของคนเรา มันก็วนเวียนอยู่แค่นี้มิใช่หรือ!

ปล. อย่างไรก็ตาม ได้หวานแหววตะแหน่วจ๋าด้วย Chic Lit ไปแล้ววววว!!!!

งวดหน้าจะเริ่มวิจารณ์หนังสือแนวการเมืองระหว่างประเทศบ้างแล้วก็ได้ค่ะ ฮืออ... อ่านค้างมาหลายเรื่องแล้ว TT

Create Date : 26 เมษายน 2549

Last Update : 26 เมษายน 2549 22:13:35 น.

26 comments

Counter : 1224 Pageviews.

แรกที่เห็น
แปลกใจว่า นก อ่านหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอ
แถมยังเป็นเล่มแปลเป็นไทยแล้วด้วย

แต่พออ่านแล้วก็เข้าใจ
หลังๆ อ่านนิยายแปลน้อยลงแล้วอะ
ไปเน้นอ่านนิยายไทยมากกว่า เหอๆ

เบื่อกลิ่นนมเนยมากๆ

โดย: พจ IP: 203.156.44.86 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:22:01:21 น.

^
^
พจ
แกะว่านะ จริง ๆ เคยอ่าน ชิค ลิค เล่มแรกคือ Bridget Jones's Diary มังคะ สมัยที่ฮิตก่อนที่หนังสือพวกนี้เข้ามาใหม่ ๆ แล้วพออ่านจริง ๆ ก็พูดได้เลยว่า ไม่ชอบเลย อ่านแล้วหงุดหงิดน่ะ มองว่าเป็นการฉีกแนวแบบเดิม ๆ ตรงไหน พวกเธอดูเหมือนจะลุกขึ้นมาปฏิวัติแบบฉันเป็นฉันเองแต่สุดท้ายสิ่งที่อยู่ข้างในก็ไม่ต่างไปจากทั่วไปเท่าไหร่ อย่างที่บอกว่า ความต้องการพื้นฐานมันเหมือนกัน อาจจะเปลี่ยนฉลากเปลี่ยนยี่ห้อ แต่ก็นะ ....

เหมือนเอาผักสลัดมาเรียงใหม่ ^^"

แกะพูดอะไรวนไปวนมาก็ไม่รู้ แต่สรุปว่าเล่มนี้สนุกและละเอียดอ่อนกว่าที่คิด .. มั้ง

งั้นคราวหน้าจะเป็นแกะเขี้ยวด้วย The Prince นะ :D :D :D :D

โดย: หมาเลี้ยงแกะ

วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:22:59:05 น.

ยังไม่เคยอ่านแต่ดูหนังไปแล้ว ก็ถือว่าโอเคนะ
แต่ชั้นชอบอ่าน chick lit ว่ะ เพราะว่ามันคลายเครียดดี
ที่สำคัญชอบตรงพ้อยต์ของมันที่นางเอกไม่ต้องเพอร์เฟ็คนี่แหละ (เอาตัวเองไปใส่เป็นนางเอกได้ง่ายดี) แต่คือสุดท้ายนิยายก็คือนิยายแหละ ไม่สามารถหลุดขนบไปได้เท่าไร แฮปปี้เอ็นดิ้งกับพระเอกไปเลย (ซึ่งไม่เคยตรงกะชีวิตเดี๊ยนแม้แต่น้อย)

หนังเรื่องนี้ถูกใจที่ว่านางเอกเป็นคนบ้ารองเท้า เพราะชั้นก็ชอบรองเท้ามาก แต่ไม่รู้ว่าในหนังสือเป็นไง คือคาเมรอน ดิอาซก็เล่นเป็นสติวปิด บลอนด์ได้อย่างดีเชียว

แต่เรื่องล่าสุดที่ของโซฟี คินเซลา ดิ อันโดเมสติค กอดเดสก็จบแบบตื้อๆอย่างไรไม่รู้ เซ็ง มิถูกใจๆ

ตอนนี้อ่าน PS. I love you แต่ไม่จบเสียที รีๆรอๆอ่าน Size 12 is not fat อยู่ ถึงชั้นยังไม่ไซส์ 12 แต่ก็จะอ่านไว้เป็นกำลังใจให้ตัวเอง

พล่ามเสียยาวเลยเนาะ

โดย: Brownie point IP: 203.113.16.241 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:23:10:26 น.

อะไรคือ chick lit คะ? ลิท นี่พอเดาได้ แต่ ชิค นี่?

โดย: brasserie 1802

วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:2:05:06 น.

ขออนุญาตอธิบายคำว่า Chick literature อย่างคร่าว ๆ นะคะ

Chick literature เป็นการเรียกประเภทของนิยายที่มักกล่าวถึงชีวิตของผู้หญิงทำงานวัยยี่สิบไปถึงสามสิบปีที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ และวุ่นวายวิ่งวุ่นไปกับเรื่องรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ความรัก ครอบครัว การเงิน ด้วยการพยายามลองผิดลองถูกเพื่อแสวงหาส่วนผสมชีวิตที่ลงตัวสำหรับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความรักและคู่ครอง

โดยเรื่อง Bridget Jones's Diary ของ Helen Fielding ถือเป็นการบุกเบิกการเกิดกระแส Chick lit กลางปี 1990s จนถึงปัจจุบัน เพราะไปจับใจสาว ๆ น้อยใหญ่ทั้งหลายที่รู้สึกว่าเรื่องของตัวละครนั้นเหมือนเรื่องราวชีวิตของตัวเอง (ตามหลักการจับตลาดสาว ๆ กลุ่มนี้ - เหมือนอย่างสำนักพิมพ์แจ่มใสที่ target เรื่องรักหวานใสให้แก่กลุ่มเด็กสาว ๆ ในบ้านเราและสร้างกระแสขึ้นมา )

* การที่คนอ่านสามารถเปรียบเทียบตัวละครหลักในเรื่องของ Chick literature ว่าเหมือนตัวเองได้นั้นก็เพราะตัวเอกในเรื่องมักจะไม่สมบูรณ์แบบ และให้ความรู้สึกเป็นคนธรรมดาเดินดินในสังคม มีรัก ผิดหวัง ทุกข์ใจ เสียใจ ด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน/ ใกล้ตัว ซึ่งให้ความรู้สึกจับต้องได้ และถึงแม้ผู้อ่านจะไม่ได้จินตนาการตัวเองลงไปในเรื่อง แต่การเล่าเรื่องโดยผ่านสรรมนามบุคคลที่หนึ่งก็ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าได้รับฟังเรื่องราวของคนใกล้ชิด

นอกจากนี้ อารมณ์ขันแบบกัดจิกที่มีในเรื่องก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างผ่อนคลายและเหมาะจะอ่านเพื่อความบันเทิงของสาว ๆ ตามแบบอารมณ์ Romantic Comedy

ลองดูเพิ่มก็ได้ค่ะ
//en.wikipedia.org/wiki/Chick_lit#References
//chicklitbooks.com/whatis.php

โดย: หมาเลี้ยงแกะ

วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:2:59:21 น.

หน้าตา chick lit

โดย: หมาเลี้ยงแกะ วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:3:19:27 น.

In Her Shoes เหมือนเพิ่งเป็นหนังไปนี้เนอะ แต่เสียดายผมมะได้ดูอะ

โดย: Bluejade

วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:6:32:11 น.

พลาดดูหนังเรื่องนี้ไปเหมือนกันครับ

โดย: Plin, :-p

วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:15:44:39 น.

ขยันอ่านหนังสือ ดีจัง

โดย: หลังคาดำแดง

วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:21:51:43 น.

รออ่านเล่มนี้อยู่ค่ะ ตอนนี้มี Good in Bed (คนแต่งเดียวกัน) รอคิวอ่านอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยมีอารมณ์หยิบชิกลิทเท่าไหร่

ความจริง ชิกลิทมีสองแบบนะคะ อย่าง Bridget หรือสาวนักช้อปฯ นี่ออกแนวจิ๊ดจ๊าดเอาใจหญิงมากกว่า (บางเรื่องนี่อ่านแล้วส่ายหัวกับความต๊องของนางเอกด้วยซ้ำ)

แต่อีกแนวจะเน้น relationship อย่างเช่น งานของ Marian Keyes แล้วก็ Jennifer Weiner คนนี้นี่แหล่ะ เพียงแต่แนวนี้มักจะอ่านแล้วไม่สนุก...สำหรับสาวส่วนใหญ่

โดย: ยาคูลท์

วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:1:07:35 น.

ขอบคุณสำหรับคำอธิบายนะคะ
เอาขนมมาฝากค่ะ

โดย: brasserie 1802

วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:2:03:58 น.

แวะมาดูจ้า

โดย: Bluejade

วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:6:32:14 น.

Happy Holiday นะครับ

โดย: หลังคาดำแดง

วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:11:59:06 น.

ไม่อยากจะบอกเลยว่า ผมชอบอ่าน chick lit ครับ อ่านเอามันส์ แต่ก็รู้สึกได้ว่าอ่านเยอะๆแล้วเลี่ยนๆ มันแอบน่าเบื่อเหมือนกัน

เล่มนี้ ไม่เคยอ่าน แต่พึ่งดู DVD เรื่องนี้กับพี่สาวเมื่อเสาร์ที่แล้ว แอบซึ้งนิดๆตอนท้ายเรื่อง คิดว่าถ้าอ่านคงได้อารมณ์กว่านี้นะครับ ไม่ชอบชื่อภาษาไทยของหนังสือเลย มันตรงไป คำว่า IN HER SHOES ดูจะน่าสนใจกว่าเยอะ

โดย: ป้อจาย

วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:21:30:30 น.

เขียนวิจารณ์ได้ดีจังค่ะ ทำให้อยากอ่านขึ้นมาเลย

เราเคยเห็นตัวอย่างภาพยนต์เรื่องนี้ยังคิดว่าพลอตมันดีนะ
นักแสดงก็ดัง ทำไมมันไม่ทำเงินก็ไม่รู้

Chick lit นี่เคยอ่านแต่บริทเจดแล้วก็ไม่เคยอ่านเรื่องอื่นเลย
แต่ชอบบริทเจทนะ

โดย: อันปังแนน

วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:1:27:14 น.

อิอิ คุณแกะนอนดึกเหมือนกันนะคะ

โดย: Arabianangel

วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:4:48:37 น.

เขียนยังกับเป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ หรือจริงๆใช่อยู่แล้ว?

อยู่สำนักไหนครับ

อ่านแล้วแว๊บแรกผมนึกถึงบริทเจทโจนส์แต่ดูมีมิติที่น่าสนใจกว่า เพราะเรื่องนั้นผมอ่านแล้วก็เฉยๆไม่อิน คงเพราะเป็นผู้ชายด้วยกระมัง

หากผ่านร้านหนังสือจะหามาอ่านครับ

โดย: นายเบียร์

วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:10:13:17 น.

หนู
คิดถึง

ไม่เกี่ยวกะบล็อกเขาซะงั้น

โดย: พจ IP: 203.151.141.194 วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:10:39:56 น.

ไม่เคยอ่านหนังสือแนวนี้เลยแฮะ

แต่อ่าน บ ลงมาเกือบจบ อดขำไม่ได้ สำนวน หวานแหววตะแหน่วๆ ติดปากแล้วล่ะสิ ฮ่าๆๆ

โดย: พส IP: 58.8.61.163 วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:18:22:10 น.

^
^
คุณแก้ว
ชั้นก็อ่านได้นะแก มานั่งนับไปนับมาก็อ่านไปเป็นหลายโขอยู่เหมือนกัน แต่ประมาณว่าเล่มหลัง ๆ มันก็สนุกน้อยลงไปเรื่อย ๆ น่ะ ประมาณว่าเรื่องซ้ำไปซ้ำมา ใครว่าเป็นเรื่อง post-modern วะ มันก็เหมือนเดิม แถมมันยังมีสูตรสำเร็จประมาณว่า
1. นางเอกสวยต๊อง และจะทำอะไรโง่ ๆ ต่อหน้าพระเอกเสมอ
2. พระเอกจะโผล่มาตั้งแต่ต้น ๆ เรื่อง แต่คนจะต้องลุ้นว่าพี่แกเป็นพระเอกหรือไม่ เพราะเกือบ ๆ จะเป็น แถมคุณพี่แกยังต้องดีพร้อม หล่อลากดิน รวยล้นมหาสมุทร อะไรแบบเนี้ยอีก
ฉันไม่ชอบสิ่งที่คาดเดาได้น่ะแก
ยังไม่ได้ดูหนังเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ^^”

คุณ brasserie 1802
อิอิ ตอบคำถามไปแล้วนะคะ (เค้กน่าอร่อยจัง :D )
ลองดูคำตอบของคุณยาคูลท์ข้างล่างด้วยนะคะ

Bluejade
ไม่ได้ดูหนังด้วย ทำไมตอนนี้ดูหนังไม่ค่อยทันเล๊ยย ^^”

คุณ Plin, :-p
พลาดอีกคนค่ะ
ปล. ช่วงนี้หนีกลับมาได้แล้วเหรอคะ :D ?

คุณพี่ชาชาล่า
ฮือออ.. ก็มัวแต่อ่านหนังสือเล่นนะสิคะ
เวลานอนก็หายไปหมด TT

คุณยาคูลท์
สงสัยว่าเคยได้อ่านแต่เรื่องกระแสหลักกัดจิกจี๊ดจ๊าดเป็นหลักแน่ ๆ เลยค่ะ ก็เลยไม่เคยรู้ว่า sub-genre แนวความสัมพันธ์ก็มีให้อ่านเสียด้วย แต่เล่มนี้เป็นเล่มที่อ่านแล้วทำให้คิดตามได้เยอะเลยค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าชอบ เพราะปกติตัวเองก็ไม่ได้ติดใจ chick lit มากเท่าไหร่ อ่านให้บันเทิงแล้วก็จบกัน สงสัยว่าต้องไปพลิก ๆ ดู Good in Bed ด้วยเสียแล้ว

อืมม ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ที่มาแบ่งปันความรู้กันนะคะ :D :D :D
ปล. แวะไปดูที่ //chicklitbooks.com/subgenres.php มาค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะแบ่งได้หลายแนวขนาดนั้น เลยไปดูไหมคะ :D :D :D

คุณป้อจาย
เพิ่งมานั่งนับ ๆ ดูก็เพิ่งรู้ตัวว่าอ่าน chick lit ไปหลายเล่มเหมือนกันค่ะ แต่เห็นด้วยอย่างที่คุณป้อจายพูดจริง ๆ ว่า อ่านมาก ๆ แล้วเลี่ยน .. เพราะใส่สูตรสำเร็จเหมือน ๆ กันมังคะ อย่างตัวเองจะรู้สึกว่า นางเอกสวยต๊อง และจะทำอะไรโง่ ๆ ต่อหน้าพระเอกเสมอ และ พระเอกจะโผล่มาตั้งแต่ต้น ๆ เรื่อง แต่คนจะต้องลุ้นว่าพี่แกเป็นพระเอกหรือไม่ เพราะเกือบ ๆ จะเป็น แถมคุณพี่แกยังต้องดีพร้อม หล่อลากดิน รวยล้นมหาสมุทร อะไรแบบเนี้ยอีก คาดเดาได้สุด ๆ
อืม ๆ จริง ๆ พอใช้ชื่อว่า ด้วยรักและกัดจิก จะทำให้คิดไปว่าเรื่องนี้กัดจิกจิกกัดกันตามประสาเรื่อง chick lit ปกตินะคะ ขณะที่ in her shoes จะให้เกิดความรู้สึกเข้าอกเข้าใจและผูกพันรักใคร่กันได้มากกว่า ..

คุณ อันปังแนน
อิอิ ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ :D ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ดัง สงสัยมันจะดูเหมือนเป็นสูตรสำเร็จของเรื่อง chick lit ที่กลายเป็นหนังเรื่องอื่น ๆ มังคะ คนเลยไม่ตื่นเต้นแล้ว ^^”

คุณ Arabianangel
เอ่อ ไม่อยากสารภาพเลยค่ะ ว่าเพิ่งหัวราน้ำกลับมา ^^”

นายเบียร์
เขียนยังกับเป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ..
อิอิ ขอบคุณค่ะ ชอบประโยคนี้มาก ๆ เลย :D :D ขอบคุณนะคะ
จริง ๆ เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือแล้วก็คิดตามค่ะ ก็เลยออกมาได้แบบนี้
ไม่น่าใจว่าจะสนุกจริงหรือเปล่า อาจจะโฆษณาชวนเชื่อก็ได้นะคะ ^^”

พี่สาว
สำนวน หวานแหววตะแหน่วตะแหน่ว ไม่ได้ติดปากนะ แต่ชอบ แบบชอบเลย เพราะเห็นภาพได้ดีมาก แล้ว พส ว่าแกะเขียนดีไหมล่ะคะ :D

โดย: หมาเลี้ยงแกะ

วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:1:19:40 น.

ขอบคุณสำหรับลิงค์ sub-genre ค่ะ

โดย: ยาคูลท์

วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:5:06:36 น.

คุณหมาเลี้ยง แกะอ่าน เรื่อง วอชิงตันเนีย หรือยังค่ะ อยากรู้ความรู้สึกว่าสนุกหรือเปล่า
เก่อ่านแล้ว ว่าสนุกดี แต่ เกินไปนิดๆอะค่ะ

โดย: asariss

วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:16:53:58 น.

ยังฟังเพลง ไม่ได้เหมือนเดิม

โดย: หลังคาดำแดง

วันที่: 1 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:12:12 น.

^
^
คุณยาคูลท์
ด้วยความยินดีค่ะ :D :D :D

คุณ asariss
อืมม ยังเลยค่ะ ขอชื่อผู้แต่งได้ไหมคะ
จะได้ไปศึกษามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณ asariss ได้เต็มร้อย

หลัง ๆ นี่ขี้เกียจค่ะ อ่านหนังสือน้อยลงไปเยอะ ^^"

พี่หลังคาดำแเดง
ฟังได้แล้วนี่ๆๆๆ

โดย: หมาเลี้ยงแกะ

วันที่: 2 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:50:50 น.

อืม วิพากษ์วิจารณ์ได้เป็นสาระมากค่ะมิ้ง

น่าอ่านอยู่แฮะ แต่เราไม่มีพี่น้องผุ้หญิงให้เปรียบเทียบเลยนิ
ว่าแต่ chick lit นี่ นิยามคืออันหยังหรือคะ (เข้าใจว่าเป็นหนังสือประเภทนึงน่ะค่ะ)
แหะๆ ขออภัยที่แสดงความซื่อ...อย่างแรงนะจ๊ะ

โดย: นกยูง IP: 161.200.255.161 วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:39:15 น.

^
^

นกยูง

มีเขียนไว้แล้วข้างบนจ้า ไปดูด้วยเน้อ แต่ง่าย ๆ ก็คือเรื่อง
Bridget Jones's Diary กับอะไรเทือก ๆ นี้น่ะ :D

โดย: หมาเลี้ยงแกะ

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:21:19 น.