กลับมาพบกับหิมะ ต้นสน ฆาตกรรม และตำรวจกันอีกครั้ง
ซีซั่นนี้เนื้อเรื่องเล่าถึงสองพี่น้องตระกูลสตัสซี่ เอ็มเม็ทผู้ร่ำรวยกับธุรกิจลานจอดรถในมิเน็ตโซต้า กับเรย์ นายตำรวจหนุ่มใหญ่ขี้แพ้ที่เป็นแฟนกับผู้ต้องหาของตัวเองอย่างนิคกี้ แสวงโก้ การเล่าเรื่องจะเป็นไปในสามด้านหลัก ที่ถึงที่สุดแล้วจะมาเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก หนึ่งคือด้านนิคกี้ที่พยายามกล่อมให้เรย์ไปไถตังค์จากพี่ชายโดยเชื่อว่านั่นเป็นสิทธิ์ที่แฟนของเธอควรได้ ต่อมา วีเอ็ม วาก้า นายทุนที่เคยให้เอ็มเม็ทยืมเงิน ก่อนจะมาบังคับขอร่วมทุนด้วยจุดประสงค์บางอย่าง และสุดท้ายฝ่ายตำรวจผู้สืบสวนคดีอย่างกลอเรีย เบอร์เกิ้ล
ด้านเนื้อเรื่อง เราไม่เคยคิดว่ามันเป็นจุดแข็งที่สมเหตุสมผลอะไรมาก บทจะตายก็ตายอย่างนั้นเลย บางช่วงตัวละครเอกก็ได้รับความช่วยเหลือรอดตัวไปซะงั้น ตอนจบยังบอก "บางทีโลกนี้ก็ไม่มีเหตุผล" สำหรับซีรีย์นี้มุ่งแสดงเอกลักษณ์ของความเป็น Fargo มากกว่า สังเกตได้ว่าซีซั่นนี้ไม่ค่อยมีนองเลือด ขนาดฉากตายยังมีเลี่ยงๆหลบมุม ทำให้เข้าใจเอา เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวความโหด ถึงทุกตอนจะขึ้นตัวหนังสือว่าเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง(หลอกๆก็เถอะ) แต่เวลาดูจะรู้สึกได้เลยองค์ประกอบโดยรวมมันดีมาก ผู้ชมจะมีโอกาสได้ชมนกชมไม้ ฟังเสียง ดูภาพพร้อมฉุกคิดประเด็นบางอย่างไปด้วย
-ประเด็นเรื่องแสตมป์ คือว่าพ่อของสองพี่น้องตายกะทันหัน ทิ้งสมบัติไว้สองอย่างหลักๆคือ รถยนต์กับกองแสตมป์ที่สะสมไว้ เอ็มมิทเลือกแสตมป์ น้องชายตอนนั้นยังหนุ่มๆก็เลือกรถให้สาวๆมอง แต่ต่อมาภายหลังเอ็มมิทพบว่าแสตมป์พวกนั้นเป็นของหายากมีราคาสูง จึงขายไปแล้วเอาเงินมาตั้งบริษัทขยายกิจการจนใหญ่โต ส่วนตัวเองเก็บแสตมป์อันสุดท้ายไว้ ส่วนเรย์โตไปเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย พอแฟนสาวยุ จึงอิจฉาพี่ชายอยู่ตลอดว่าถ้าตอนนั้นตัวเองเลือกแสตมป์ก็คงไม่จนอย่างทุกวันนี้ พร้อมกับหาทางขโมยแสตมป์อันสุดท้ายมา ซึ่งถ้าเอามาได้แล้วขายก็คงได้เงินเป็นล้าน เลยแบล็คเมล์ขี้ยาคนนึงให้ไปขโมยมา หารู้ไม่ว่ามันคือการนำหายนะมาสู่ชีวิตบัดซบของเขาและแฟนสาวอย่างไม่อาจหยุดยั้ง จนนำไปสู่จุดจบของเขาเองและสุดท้ายแสตมป์ดวงนั้นก็กลับถูกทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
อีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจมากๆคือวีเอ็ม วาก้า เห็นชายคนนี้ครั้งแรกแล้วละสายตาจากเขาไม่ได้เลย ทั้งกิริยาอาการ ท่าทาง น้ำเสียง น่าขยะเเขยงสิ้นดี บอกได้เลยว่า fargo ไม่เคยร้างลาไปจากบทตัวร้ายแบบแนวๆ เราว่าเทียบได้กับลอร์น มัลโว จากซีซั่นแรกเลยทีเดียวที่นักแสดงเล่นได้ดีมาก
โดยวาก้าจะมาแนวปีศาจร้ายทางการเงิน ที่อาศัยบริษัทของเอ็มเม็ทฟอกเงิน ทุจริตธุรกรรมทางการเงินอะไรแนวนั้น เริ่มจากให้เงินกู้จำนวนมาก เข้ามาร่วมหุ้น บริหารบริษัทจนเป็นหนี้ แล้วขายไปให้นอมินีในราคาถูก เหมือนอัฐยายซื้อขนมยาย ความจริงวิธีการนี้จะไม่ผิดกฏหมายด้วยซ้ำ ถ้าวาก้าเข้า take over แล้วจ่ายภาษีถูกต้อง แต่นี่กะจะเบี้ยวภาษีรัฐอีก เลยเป็นเรื่องขึ้นมา นอกจากนี้เขายังไม่ใช่ตัวร้ายขาบู๊อย่างที่แล้วๆมาแต่เป็นขาบุ๋น มีความคิดชักใยคนอื่นได้แนบเนียน มีกลอุบายที่ตอนแรกอาจจะไม่เข้าใจแต่พอมองออกจะเห็นเลยว่าช่างฉลาดและโหดเหี้ยมเหลือเกิน คิดได้ไง
ส่วนมาเรีย เบอเกิ้ล ตัวละครฝ่ายดีประจำซีซั่น เธอเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน ทนยืนหยัด สู้ไปใฝ่ประจัน ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดความถูกต้อง อะไรแนวนั้น ขณะที่โลกยุคใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีเฟสบุ๊ค กูเกิ้ล คอมพิวเตอร์ มาเรีย กลับเลือกที่จะไม่ใช้มัน ขณะเกิดเรื่องมีหัวหน้าคนใหม่มาที่สถานีตำรวจและไม่ค่อยชอบเธอนัก สามีเธอขอเลิกเพราะไปมีแฟนหนุ่มคนใหม่ พ่อเลี้ยงวัยชราของเธอตายลง เธอมีลูกชายวัยรุ่นคนนึงที่ต้องคอยดูแล สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอจำต้องเป็นแม่ที่เข้มแข็ง
จะว่าไปบทตอนไปสืบประวัติพ่อเลี้ยงของเธอมันไม่ค่อยสัมพันธ์อะไรกับเนื้อเรื่องเลยนะ แต่เข้าใจว่ามาปูให้เข้าใจตัวละคร อีกประเด็นที่ใส่มาเหมือนเป็นสัญลักษณ์กลายๆคือ ความเหมือนไม่มีตัวตนของเธอที่เดินผ่านเซ็นเซอร์ประตูก็ไม่เปิด เอามือรองก็อกน้ำแบบเซนเซอร์น้ำก็ไม่ไหล จะเป่าลม ลมก็ไม่ออก ทั้งที่คนอื่นๆทำได้ปกติ บางทีทั้งๆที่เธอเป็นตำรวจแต่ก็รู้สึกว่าตัวเองช่วยใครไม่ได้เลย ท่ามกลางความสิ้นหวังของเธอ วินนี่เพื่อนตำรวจสาวตาโตก็กอดให้กำลังใจ(เป็นฉากง่ายๆแต่ดูแล้วซึ้งมาก) แล้วพอได้กอดแล้ว เธอก็มีตัวตนขึ้นมาทันที ใช้ก็อกน้ำแบบเซนเซอร์ได้
นิคกี้ แสวงโก้ ตัวละครในบทสมทบหญิงแฟนสาวของเรย์ เลือกคนมาได้ดีทีเดียว บางฉากเธอสวยมาก ดูฉลาด ทันคน เสียดายกว่าจะได้ออกมาเฉือดเฉือนกับวาก้าก็ช่วงท้ายๆแล้ว การล้างแค้นเอาคืนสนุกและลุ้นน่าดู แต่จุดจบกลับออกมาในแบบที่คาดไม่ถึง จะว่าไปชีวิตเธอไม่น่ายุให้แฟนหาเรื่องใส่ตัวเลยนะ ถ้าจะแค่เลือกออกไปใช้ชีวิตใหม่ด้วยกันที่เมืองอื่น ทำอาชีพอื่นอะไรว่าไป จุดจบน่าจะดีกว่านี้
ส่วนตอนจบมาเรียย้ายไปอยู่ส่วนงานความมั่นคง แล้วจับวีเอ็ม วาก้าได้ในคราบของอีกคนนึง วาก้าขู่ว่าเขามีเส้นสายจะมีคนมาปล่อยตัวเขาในอีกไม่นาน มาเรียว่าเรามาดูกัน แล้วก็ตัดจบไปเลย ทิ้งให้คนดูคิดกันเองว่าวาก้าจะถูกจับไหม ซึ่งจะต่างจากช่วงเปิดเรื่องที่เจ้าหน้าที่นาซี จับคนที่ไม่ได้ทำความผิดแล้วก็ยังบังคับใส่ความว่าเขาทำผิดจริงๆ แต่นี่เรามีสิทธิ์เลือกได้ ประมาณนั้น ซึ่งจะต่างไปจาก Lord of Wars นะ เรื่องนั้นพระเอกใช้เส้นสายมาปล่อยตัว ฝ่ายตำรวจฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้ จะแช่งให้ไปลงนรก แต่นายก็ตกนรกอยู่แล้ว คือทำงานได้เงินดีแต่ชีวิตส่วนตัวไม่ดี เมียทิ้ง แต่สำหรับวาก้า นอกจากเขาเสียลูกน้องทั้งหมดไปแล้ว เราไม่ค่อยได้เห็นชีวิตส่วนตัวของเขาเท่าไหร่
ในซีซั่นนี้ fargo ได้เข้าชิงรางวัลเอ็มมี่ครั้งที่ 69 หลายสาขาเลย ทั้งนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ยวน แม็คเกรเกอร์ -เรย์และเอ็มเม็ท สตัสซี่ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แครี่ คูน-ตำรวจหญิงมาเรีย เบอร์เกิ้ล นักแสดงสมทบชาย-บทตัวร้ายของวีเอ็ม วาร์ก้าส์ ผู้กำกับ-เขียบบทยอดเยี่ยม Noah Hawley รางวัลด้านเทคนิคดีเด่นในหลายๆด้าน ทั้ง การเลือกตัวแสดงดีเด่น ถ่ายทำ ถ่ายภาพ ดีเด่น ด้านแต่งหน้า ทรงผม เพลงประกอบ และเสียงประกอบดีเด่น ก็ขอให้ได้มาสักหลายๆรางวัล