。◕‿◕。••.•´¯`•.•• ~My Time is Still Going On!~••.•´¯`•.••。◕‿◕。
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2556
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 

หลบร้อนเมืองไทยไปเมืองจีน(2)

จากบล๊อกที่เเล้วจะเห็นว่าเรา พิมพ์ว่า ซัวเถา(ซั่นโถว) คือคนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่จะอพยพมาจากที่นี่ไง เเล้วใช้ภาษาจีนเเต้จิ๋ว ก็จะเรียกซัวเถาๆ เเล้วก็จะมีเเต่คนที่นี่นะที่พูดเเต้จิ๋วกัน อาอี๊ อาม่าที่พูดจีนเเต้กันมาเเต่ไหนเเต่ไรก็สบายไป สื่อสารกันได้ เเต่ที่นี้พอปัจจุบันใช้จีนกลางกันมากขึ้น เขาก็ไม่อ่านซัวเถาเเล้วอะ เขาเรียก ซั่นโถว 汕头 /Shantou/  เราก็เลยติดเลยเรียกซั่นโถวๆกับเขามั่ง กระเเดะจริงตู 5555

วันที่สองในซัวเถา ก็เก็บตามที่เที่ยวที่เขาวางไว้ให้หมดคือไปไหว้ไฮตังม่า (เจ้าเเม่ทับทิม) ที่นี่จะให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเรามาก ทั้งภาษา ของไหว้ การไหว้เจ้าเเม่ ก็เพราะที่เมืองนี้เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมชาวจีนโพ้นทะเลนี่นะเลยไม่ต่างกันมาก  หลังจากนั้นก็ไปไหว้พระที่ วัดไคหยวน เเล้วก็ไปชมสะพานเซียงจื๊อ กินข้าวกลางวัน ทีนี่ก็มีกลุ่มนึงมีญาติมารับไปก่อนละ ลูกทัวร์ที่เหลือเลยได้ไปเดินโลตัสจีนกัน ไม่ใช่ห้างตราดอกบัวเขียวเเบบบ้านเรานะ อันนี้เป็นดอกบัวเเดง มีทางเข้าออกเเบบวันเวย์ ห้ามเดินย้อนทาง เเละให้ฝากของไว้ในล็อกเกอร์

ล็อกเกอร์ที่เห็นเขาทำดีมากเลย เราจำไม่ได้ว่าต้องหยอดเหรียญเปล่าเเต่น่าจะหยอดเเหล่ะ คือพอหยอดเหรียญไปมั้ง ตู้ไหนที่ว่างก็จะเด้งออกมา เเล้วจะมีใบเสร็จเป็นบาร์โค้ดให้ พอเราซื้อของเสร็จ มาเอาของที่ฝากไว้ในล็อกเกอร์ก็สเเกนบาร์โค้ดนั้น เป็นอันเสร็จ^^

เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็ติดต่อรถตู้ไปบ้านญาติ ตอนเเรกคิดว่าจะกรุ๊ปเรากรุ๊ปเดียวเสียอีกที่มาเยี่ยมญาติ เเต่ปรากฎว่าลูกทัวร์ทั้งหมด 24 คน มีสองคน(หนึ่งคู่) เท่านั้นที่มาเที่ยวเเบบคู่รักชิลด์ๆ ที่เหลืออีก 22 ชีวิตเเยกกันไปเยี่ยมญาติหมดเลย ติดต่อรถกันเอง บ้างก็ญาติขับมารับที่โรงเเรม โชคดีไป

เท่าที่ถามอี๊มาคือบ้านที่จะไปเนี่ยเป็นบ้านเก่าของอากงเราเอง อยู่ที่เซียไจ๊ นั่งๆรถไป ดูข้างทางตอนข้ามสะพานจากฝั่งโรงเเรมซึ่งเป็นส่วนเมืองใหม่ไปอีกฝั่งที่เป็นเมืองเก่านี่ มองไปเห็นทะเลข้างล่างกับหมอกจางๆยามเช้า คือ...อารมณ์เเบบละครลอดลายมังกรผุดขึ้นมาในหัวเลย อารมณ์นั้นเลย คิดดูว่าจีนสมัยนั้นเป็นยังไง ลำบากมาก นั่งเรือออกมาก็เหมือนเหยียบความเสี่ยงมาเเล้วครึ่งนึง ทะเลมันกว้างใหญ่มากนะ จากจีนไปไทยสมัยนั้นไกลมาก เเล้วระหว่างทางจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ เราคิดเป็นละครมากอะ โชคดีที่กงปลอดภัยมาถึงเมืองไทย

เข้าวันที่ห้าล่ะนั่งรถ(อันเเสนยาวนาน)กลับไปเซินเจิ่น ฝนตกล่ะวันนี้ไปถึงเซินเจิ้นนี่รถติดพอกับกรุงเทพ ก็เมืองช้อปปิ้งอะ เเล้วรถจะข้ามไปฝั่งฮ่องกงก็เยอะเหมือนกัน ไปเดินห้างหลอวู่กัน อารมณ์ประมาณมาบุณครองบ้านเรา เเล้วถ้าใครพูดจีนได้นี่ก็ต่อของกันมันส์นะคะ ใครใคร่อยากซื้ออะไรก็ซื้อ ก๊อปเเบรนด์เนมก็เยอะเเต่เขาไม่เอามาโชว์จะเเอบใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางอะไรพวกนี้ ถ้าจะเอาก็คุยกันเอง อาอี๊ลูกทัวร์อีกกรุ๊ปที่ไปด้วยกันต่อของมันทุกร้านเลยค่ะ เราก็เดินอย่างเดียว ได้พวกพวงกุญเเจจีนมาเป็นของฝาก เเล้วก็หากาน้ำชาสองหูตามที่อี๊อีกคนฝากมาเเค่นั้น จากนั้นก็ไปดูการเเสดงที่ China Folk Culture Village ก่อนเริ่มเเสดงพวกเราก็นั่งรถกอล์ฟดูสถานที่รอบๆ เขาจัดไว้เหมือนเมืองจำลองเเล้วก็มีบ้านของชนเผ่าต่างๆในจีนประมาณนี้ พอเข้าไปดูการเเสดง จะบอกว่า สวยมาก เราดูเเล้วอ้าปากค้างอะ เขาเเสดงดี สวย ชุดอะไรก็สวย เอฟเฟ็กมาเต็ม ทั้งน้ำทั้งไฟทั้งคนทั้งม้า(?)

ตอนเเรกกะว่าจะอัดวีดีโอไว้สักหน่อย เเต่มันละลานตามากเลยไม่รู้จะอัดช่วงไหนดี สวยหมด ชอบหมด เลยดูด้วยตาเเล้วเก็บไว้เป็นความทรงจำดีกว่า รูปที่ถ่ายได้ก็ช่วงต้นๆ มีชัดอยู่ไม่กี่รูปหรอก ฮ่าฮ่า มันสวยจริงๆนะ อาจจะคิดว่าการเเสดงเเบบนี้ที่ไหนก็สวยเหมือนๆกัน ยังไงถ้าใครมีโอกาสไปก็ลองไปชมสักครั้งนะคะ (โดยส่วนตัวชอบมาก เเห่ะๆ)

คืนนั้นก็ออกจากเซินเจิ่นขับกลับไปพักที่ตงก่วน ที่พักนี่เเบบ อื๊อหืออ คนออกเเบบมันคิดอะไรฟร้าา เเต่ชอบนะเท่าที่พักมาคือที่นี่ห้องใหญ่สุด ห้องอาบน้ำก็ใหญ่ ตัวโรงเเรมก็หรู ขวดน้ำก็สวย(ห๊ะ?)

วันสุดท้ายเเล้ว จะกลับบ้านเเล้วเเต่ก่อนกลับก็ไปโรงงานบัวหิมะก่อน ก็นะ... เเล้วไปช้อปกันที่ เป่ยจิงลู่ เเหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่กว่างโจว ขอบอกอีกครั้งว่าถ้าคุณพูดภาษาจีนเป็น คุณจะสนุกกับการต่อราคามาก 55 มันลดเว่อร์อะ จนบางทียังคิดว่าเเล้วมันจะได้อะไร เเล้วถ้ามันต่อได้ขนาดนั้นต้นทุนมันจะเท่าไหร่กัน บางร้านก็ลดไม่เยอะ เเต่ก็อยู่ระดับที่ซื้อได้ ของไทยของจีนเราว่าเหมือนกันเลย เราก็ไปได้เสื้อได้รองเท้ามานิดหน่อยให้อี๊ต่อให้ เราไปก็อยากได้รองเท้าอยู่เเล้วไงไปเจอคู่ถูกใจพอดี จาก120หยวน อี๊ต่อให้เหลือ 80หยวน เเถมเปลี่ยนใส่เท้าผูกเชือกให้เราเสร็จสรรพเลยค่ะ ตอนนั้นเหลือเงินอยู่ 123หยวน กะว่าอาจจะได้หยกชิ้นเล็กๆจากที่สุดท้ายที่จะไปกลับมาบ้าง ปรากฎว่า ไอ้123หยวนของเรามันกลับไม่พอค่ะ ตอนเเรกที่เห็นราคาหยกเเต่ละชิ้นเเล้วเเบบ เก็บเงินที่เหลือกลับบ้านก็ได้ฟร่ะ เเพงเว่อร์ เป็นพัน เป็นหมื่นหยวนเลย ขอดูอย่างเดียวละกัน เเต่เอ่อ..พนักงานที่นีพูดไทยคล่องมากค่ะ พูดชัดเเละใช้คำดี คงเรียนมาโดยเฉพาะ เเล้วสักพักก็มีผู้จัดการเข้ามาคุย นี่ก็พูดชัดเว่อร์ พี่ท่านก็เเจกหยกให้ฟรีคนละซองเลยค่ะ =_= เเล้วก็นะ..ว่าจะไม่เสียตังค์ อิชั้นก็จ่ายจนได้ คุณผู้จัดการจัดการโปรโมตสร้อยประจำปีเกิดเหลือเส้นละ200หยวนเลยสอยมาเส้นนึง ยืมอี๊80หยวน เหลืออยู่ในกระเป๋า3 หยวน เก็บเเบงค์ไปให้หลานดูละกัน ทีไหนได้ ออกมาเจอ ตู้บริจาคสามตู้พอดีค่ะ ไหนๆก็ไหนๆเเล้ว หยอดให้หมดไปเลย ทีนี้ล่ะ หมดตรูดของเเท้ ;____; นี่ตูทำอะไรลงไปปปป ไม่เคยไปเที่ยวเเล้วใช้เงินหมดขนาดนี้เลย ฮ่าฮ่า (ยังมีหน้ามาหัวเราะ)

เอาล่ะ ขอลงรูปโรงเเรมที่ไปพักทั้งสามที่มาหน่อย

ที่เเรกที่พักคือ Jovenstar Hotel ที่กว่างโจว(รูปบนสุด) คือ..ห้องก็ดีพอประมาณเเต่เหม็นบุหรี่ง่ะ ให้อภัยเพราะมีสัญญาณเนตในห้องพัก(เกี่ยวกันไหม) คืนเเรกที่พักเเล้วเดินออกไปหาข้าวกินสังเกตทางที่เดินไป คือเราไม่รุ้ว่าที่เราพักมันเป็นย่านอะไรหรือเปล่า หรือว่าใกล้อะไร เราเห็นนามบัตรเล็กๆเกลื่อนพื้นเลย มีเป็นระยะๆ ก้มลงไปดูก็เห็นเป็นรูปผู้หญิงกึ่งโป๊เเหล่ะ 555 พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ก็นะ..คงใกล้ย่านสถานบันเทิงล่ะมั้ง มันก็อดคิดไม่ได้นะว่าเเล้วบ้านอิพี่คริสเนี่ยทำธุรกิจอะไรวะ อยู่เมืองนี้ ค้าขายเเหล่ะมั้ง คงไม่ใช่งี้หรอก ฮ่าๆๆ ถึงลุคนางตอนกลับจากจีนตอนนั้นมันดูมาเฟียมากๆก็ตาม 5555  รูปกลางคือโรงเเรม Happy Hotel ที่ซั่นโถว...ห้องไม่ใหญ่มากเเต่นอนเเล้วสบายใจดี ไม่เหม็นบุหรี่ ถึงเเม้ว่าท่อน้ำจะรั่วก็ตาม เเต่มันไม่เดือดร้อนมากเลยให้ผ่าน คืนสุดท้ายพักที่ตงก่วนที่ The Nile Hotel (รูปใหญ่เเละรูปล่างสุด) คือโอ้วว ห้องใหญ่ไฮโซ ห้องน้ำก็ใหญ่ เเต่เเบบคุณคะะะะะ ห้องน้ำเป็นกระจกใสหมดเลยค่ะ สามารถดึงผ้าม่ายในห้องน้ำขึ้นได้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ประตูห้องน้ำก็เป็นกระจกใส สลักขุ่นๆเเค่บนกับล่างเเล้วตรงกลางที่เป็นที่ผลักประตูมันดันเป็นกระจกใสเเละไปถ้ามองลอดไปจะไปตรงกับส่วนที่กั้นเป็นห้องอาบน้ำพอดี เเละไอ้ส่วนที่กั้นนั้น..ก็เป็นกระจกใสทั้งหมด .....คุณพระ!! อิชั้นไม่คุ้นชินค่ะ  555555 คือ..คือ จะว่าเราโลกสวยเหรอ ก็ไม่เชิงนะ เเต่ขำอะ ออกเเบบมาอย่างนี้เพื่ออะไร เป้าหมายกลุ่มลูกค้า? คืออะไรยังไง ฮ่าฮ่า

เรื่องเม้าท์นอกรอบ : เอาจริงๆการจัดการของทัวร์ที่ไปครั้งนี้มีปัญหามาก ติดขัดเเละประสานงานกันไม่ค่อยดี อย่างเเรกคือหลังจากที่ลงเครื่องเเล้วทางทัวร์ต้องให้ไปทานอาหารซึ่งในใบที่เราได้มาเขาก็เขียนไว้ เเต่ปรากฎว่าใบที่ไกด์ถืออยู่มันไม่มีบอกให้ไป เขาเลยพาเราไปโรงเเรมเลย อันนี้เขามาเลี้ยงให้ทีหลังก็เจ๊ากันไป เรื่องที่สองคือ ไฟล์ทบินกลับของพวกเราไม่ตรงกันอีกเเล้ว ทีเราได้มาคือเครื่องออกสามทุ่ม เท่ากับว่าต้องไปถึงสนามบินตั้งเเต่หกโมงใช่มั้ย เเต่นี่ทุ่มนึงพี่ท่านยังพากันกินข้าวอยู่เลย เลยคิดว่าพี่เขาคงจะเช็กอินให้เเบบกรุ๊ป คงจะทัน ที่ไหนได้ พี่ไกด์เเกดูตามใบที่เเกได้มาบอกเครื่องออกห้าทุ่ม ยังไงก็ทัน เขาไม่ได้ประสานงานอะไรกันเลยหรือ มาถึงสนามบินเเล้วพอตั๋วออกมานั่นเเหละพี่เเกถึงได้รู้ว่า บรอดดิ้งไทม์ มันสองทุ่มครึ่ง คืออีกครึ่งชั่วโมง เเล้วก็ยังเช็กอินไม่เสร็จเเถมต้องไปต่อเเถว ตม.อีก วิ่งขึ้นเครื่องกันหน้ามืด เเล้วกรุ๊ปที่ไปก็คือคนเเก่ไปเยี่ยมญาติ วิ่งกันไหวมั้ย

เม้าท์เรื่องบริษัททัวร์เครียดๆไปล่ะ มาเม้าท์สองสาวที่บริษัทหยกดีกว่า อันนี้น่ารัก คือที่นี่คงพูดได้กันได้หลายคน คนที่มาอธิบายให้พวกเราฟังตอนเเรกก็น่ารักดี พูดเพราะ ยิ้มเเย้ม คือพูดเก่งเลยนะ ส่วนคุณผู้จัดการที่เข้ามาที่หลังนี่เก่งกว่า ดูคล่องเเคล่ว บอกว่ามีเพื่อนสอนมีเพื่อนคนไทยหลายคน จริงๆต้องอยู่ที่ฮ่องกงเเต่มาประจำที่กว่างโจวชั่วคราว พูดเก่งมาก เเล้วเขาก็หันมาถามด้วยนะว่า เขาพูดไทยถูกไหม เข้าใจที่เขาพูดมั้ยคะ

คือ..พี่คะ..ชัดเป๊ะ เเละเข้าใจมุกบางมุกจากลูกทัวร์ได้ขนาดนี้ หนูว่าพี่ด่าเป็นภาษาไทยได้เเล้วล่ะค่ะ..

 

จ้ายเจี้ยน ^^




 

Create Date : 06 พฤษภาคม 2556
0 comments
Last Update : 6 พฤษภาคม 2556 22:53:04 น.
Counter : 1486 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Bai Ning
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...เสียดายเล็กน้อยที่ชื่อlog inไม่ได้ใช้ชื่อ ที่ใช้ประจำคือ Bernadette เพราะว่ามีคนใช้ไปเเล้ว เลยได้log in Bai Ning มา ^^เเละก็ไม่เข้าใจตัวเองว่า จะตั้งให้เยอะทำไมชื่อbloggang กลายเป็นอีกชื่อซะงั้น เเล้วก็...การใช้ภาษาภายในบล๊อกนี้ จะเป็นอะไรที่ค่อนข้าง จะเป็นตัวเรามากๆ อ่านๆไปจะรู้เองว่ามันไม่ค่อยอยู่กับร่อง กับรอยเท่าไหร่ (หรือเราไม่ค่อยเต็ม?) ก็อย่าไปซีเรียสอะไรกันมาก ฮ่าฮ่า^^
Friends' blogs
[Add Bai Ning's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.