welcome to my world
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
21 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

Maria-sama ga Miteru:Volume1 แปลไทย(ส่วนที่3)

Maria-sama ga Miteru:Volume1 แปลไทย(ส่วนที่3)

(ส่วนที่ 3)

"ยูมิซัง ยูมิซัง"

หลังโรงเรียนเลิก เมื่อเสร็จจากเวรทำความสะอาด ขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้องดนตรี ยูมิก็ถูกเรียก

"อ้าว ซึทาโกะซัง ทำความสะอาดห้องเสร็จแล้วเหรอจ๊ะ?"

"ใช่ เพราะงั้นนั่นแหล่ะ ฉันถึงได้รีบมาที่นี่ เห็นเธอหิ้วกระเป๋ามาด้วย เกรงว่าเธอจะกลับบ้านไปก่อน"

เนื่องจากชั้นเรียนของเด็กปีหนึ่ง ค่อนข้างจะห่างไกลจากห้องดนตรี พวกเธอจึงมักจะนำกระเป๋าติดตัวไปด้วย เพื่อความสะดวกที่จะกลับบ้านหรือไปทำกิจกรรมชมรมต่อ เพราะประตูโรงเรียนและห้องชมรมอยู่ใกล้กับทางนี้มากกว่า

"ตามหาฉันอยู่เหรอ?"

"มีเรี่องจะคุยด้วยน่ะ"

"คุย?"

ซึคาโกะซังใช้นิ้วดันแว่นให้ตรงกับดั้งจมูก พยักหน้า แล้วตอบว่า"ใช่"

"ยูมิซัง ขอตัวก่อนนะ พวกเรามีงานชมรมรออยู่น่ะ แล้วเดี๋ยวจะเอาสมุดเวรไปคืนที่ห้องให้เอง"

นักเรียนสามคนที่มีเวรทำความสะอาดพร้อมกับยูมิ ยิ้มให้

"ขอบใจจ้ะ"

"ไม่เป็นไรจ้ะ ลาก่อนนะจ๊ะ"

"ลาก่อนจ้ะ"


เครื่องแบบสีขนกาอ่อนหายลับไปตรงทางเดิน ซึทาโกะซังและยูมิมองตามไปส่ง

"ฉันคิดว่าเธอคงรู้แล้วว่าฉันอยู่ชมรมถ่ายภาพ ?"

ซึทาโกะซังหันมาหายูมิแล้วถามขึ้นมาทันที

"ชะ...ใช่"

ก็เธอน่ะออกจะดัง

นอกจากเวลาเรียนแล้ว ในมือเธอไม่เคยจะห่างจากกล้องเลย ยูมิยังจำได้ว่า เคยได้ยินเธอพร่ำบ่นถึงความเสียใจที่พลาดโอกาสที่จะได้กดชัตเตอร์ ดังนั้นเธอจึงถือกล้องติดตัวไปด้วยตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มเรียนชั้นมัธยม นี่เป็นครั้งแรกที่ยูมิได้เรียนห้องเดียวกับซึทาโกะซัง เธอยังเคยได้รับรูปถ่ายสองสามใบที่เธอไม่รู้ตัวว่าถูกถ่ายเอาไว้ตั้งแต่เมื่ อไร แม้เธอจะไม่อาจจะบอกได้ว่าฝีมือของซึทาโกะซังนั้นดีเพียงใด แต่เธอคงต้องยอมรับว่ารูปของเธอนั้น น่ารักกว่าตัวจริงมากถึง 30 % เลยทีเดียว

"รู้ใช่ไหมว่างานโรงเรียนใกล้จะมาถึงแล้ว เพราะงั้นฉันเลยมาโรงเรียนเพื่อถ่ายรูปแต่เช้า"

เป้าหมายในการถ่ายภาพของเธอก็คือคน หรือถ้าจะให้จำเพาะเจาะจงซะหน่อย ก็ภาพของ"เด็กนักเรียนมัธยมสาวๆ"นั่นแหล่ะ ซึ่งโดยปกติแล้ว มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนักหรอก เพียงแต่แนวคิดของเธอที่ว่า"รูปที่ดี จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ถ้าเป้าหมายรู้ตัว" เพราะงั้นแล้ว เธอจึงมักจะถ่ายรูปแอบถ่ายอยู่เสมอ

"ซึทาโกะซัง มันจะไม่ดีกว่านี้เหรอ ถ้าเธอเลิกถ่ายภาพอย่างกับพวกถ้ำมองแบบนั้นน่ะ"

"ก็แล้วทำไมฉันถึงต้องทิ้งสิทธิ์พิเศษที่ได้มาพร้อมกับการเป็นนักเรียนโรงเร ียนสตรีลิลเลียนด้วยล่ะ ฉันก็แค่ต้องการเก็บความงามของทุกคนไว้ในภาพถ่ายเท่านั้น พวกเราน่ะอายุมากขึ้นทุกวันนะจ๊ะ การเก็บรักษาความงดงามในวัยเยาว์ผ่านทางกล้องนี้ เป็นหน้าที่ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานให้กับฉัน "

ว่าแล้วเธอก็ชูหมัดขึ้น

"ถึงงั้นก็เถอะ..."

"ไม่ต้องห่วงน่า ฉันไปขออนุญาต คนที่ฉันถ่ายมาทุกคนนั่นแหล่ะ ถ้าถูกปฏิเสธ หรือเป็นรูปที่ไม่เหมาะสม ฉันก็เผามันทิ้งทั้งหมด และก่อนที่จะเอารูปนั้นไปแสดง ฉันก็ต้องแน่ใจแล้วว่า คนที่เกี่ยวข้องต้องยอมให้เปิดเผยแล้วจริงๆ"

"ขออนุญาต?"

"ก็แบบนี้ไงล่ะ"

ซึทาโกะซัง ยื่นรูปถ่าย 2 ใบให้ยูมิ

"อะไร?"

สาม สอง หนึ่ง

ใช้เวลาสามวินาที กว่าที่เธอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

"เอ๋!!"

ยูมิร้องเสียงหลง ดังเกินกว่าจะเป็นที่รับได้สำหรับนักเรียนโรงเรียนสตรีลิลเลียน ซึทาโกะซังรีบเอามืออุดปากของเธอไว้

"นะ...นี่มัน..."

รูปนั้น...

มันเป็นภาพในตอนเช้า ภาพเดียวกันกับภาพที่เธออยากจะลบมันออกจากความทรงจำ ภาพถ่ายสองรูปของ โอกาซาวาระ ซาจิโกะซามะกับยูมิ

นี่แหล่ะ คือสิ่งที่สมกับฉายาของช่างภาพมือหนึ่งแห่งชมรมถ่ายภาพ เธอไม่มีวันปล่อยโอกาสของเธอให้หลุดลอย มือทั้งคู่ของซาจิโกะซามะกำลังผูกผ้าพันคอของยูมิ ชัดเจนจนแทบจินตนาการถึงเสียงบิดของปมได้เลย

แม้ว่าเกือบจะทำกระเป๋าหลุดมือ แต่ยูมิก็ยังจ้อง พยายามที่จะซึมซับทุกสิ่งทุกอย่างในรูปถ่ายใบนั้น

ซาจิโกะซามะยังน่าหลงไหลเหมือนเดิม และที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็คือยูมิ เมื่อมาอยู่เคียงข้างกันแบบนี้ ยูมิก็ดูเหมือนจะเป็นนางฟ้าองค์น้อยๆไปด้วย

"รูปแรกนั้นออกจะไกลไปซักหน่อย แต่รูปเต็มตัวรูปนี้สิ ออกจะให้อารมณ์"อันตราย"พอควร แบบนี้แหล่ะที่ทำให้มันดูน่าสนใจดี เธอว่าไหม?"

ชื่อของภาพก็คือ"แนะแนว" ซึทาโกะซังบอก และยูมิก็ไร้คำโต้แย้งนอกจากเห็นด้วย

"ขอรูปให้ฉันเถอะนะ"

ยูมิขอ แต่ซึทาโกะซังกลับหัวเราะแล้วดึงรูปคืนมา เธอมองยูมิราวกับว่ามีปลามากินเหยื่อแล้ว

"มันก็ได้อยู่หรอกนะ แต่ว่ามีสองเงื่อนไข"

"เงื่อนไข"

"อย่างแรกคือ เธอต้องให้ฉันเอารูปนี้ไปติดบอร์ดในนิทรรศการของชมรมถ่ายภาพตอนงานโรงเรียน"

"เอ่อ..."

ติดบอร์ดในนิทรรศการ เธอเพี้ยนไปแล้วรึไง

มันต้องเป็นเรื่องที่บ้ามากๆ ที่จะให้คนที่มีผลการเรียน ส่วนสูง น้ำหนัก รูปร่าง ที่ล้วนแล้วแต่มาตรฐานอย่างยูมิ มาเทียบเคียงกับคนที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง อย่างโอกาซาวาระ ซาจิโกะซามะ ต่อหน้านักเรียนทุกคนด้วย

"ซึทาโกะซัง ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย?"

"ทำไมต้องล้อเล่นด้วยล่ะ? ฉันมั่นใจตั้งแต่ตอนถ่ายรูปแล้วว่านี่ต้องเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ ปีเลย เพราะงั้นฉันเลยรีบไปล้างรูปมาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว"

พอพูดขึ้นมาแบบนั้น ท้องของซึทาโกะซังก็ส่งเสียงประท้วงออกมาทันที กล่องข้าวของเธอยังนอนสงบนิ่งอยู่ในกระเป๋า งานอดิเรกนี่สำคัญกว่าการได้รับโภชนาการที่ถูกต้องซะอีกนะ

"แต่ติดบอร์ดนี่มัน..."

ยูมิยังไม่เห็นด้วย

"ไม่อยากได้รูปงั้นเหรอ?"

ซึมาโกะซังหยิบรูปขึ้นมาโบกต่อหน้ายูมิ

"ฉันรู้นะว่าเธอน่ะ แอบชื่นชมโอกาซาวาระ ซาจิโกะซามะอยู่เหมือนกัน นอกจากรูปสองใบนี้แล้ว เธอก็ยังไม่มีรูปที่เห็นหน้าชัดๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ รูปที่ถ่ายตอนไปทัศนศึกษาที่ติดไว้ที่หน้าห้องชมรม เธอเองก็ยังไม่กล้าพอที่จะไปขอซื้อมา เพราะเธอนั้นอยู่คนละชั้นปี อีกทั้งเธอก็ยังไม่ได้เข้าชมรมไหนเลย เธอจึงไม่มีพี่ปีสองที่พอจะขอให้ช่วยซื้อรูปให้ได้ ฉันพูดถูกไหม รูปเดียวที่เธอมีก็คือรูปตอนงานวันแข่งกรีฑา ที่บังเอิญมีรูปของซาจิโกะซามะ ติดมาเป็นพื้นหลังแค่นั้นเอง แล้วรูปนั้นน่ะ มันไม่ได้เล็กเท่าเม็ดข้าว แต่มันเล็กขนาดขี้แมลงวันเลยล่ะ"

"ใครบอก อย่างน้อยก็เท่าดินสอนั่นแหล่ะ แล้วมันก็เป็นสมบัติล้ำค่าของฉันด้วย"

ให้ตายเถอะ ซึทาโกะซัง อย่างเธอน่ะน่าจะไปทำงานเป็นนักสืบเอกชนนะ

"ฉันล่ะสงสัยจริงว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างในวันนี้แล้ว เธอจะยังพอใจกับดินสอแท่งนั้นอยู่อีกไหมน้าาาา"

เลนซ์แว่นตาของเธอส่องประกายราวกับแฟลชของกล้อง

"ใจร้าย..."

แน่นอนอยู่แล้วล่ะว่าเธอไม่มีทางที่จะพอใจแน่ เมื่อได้เห็นรูปชั้นยอดเช่นนั้น

"แล้วถ้าเกิดซาจิโกะซามะปฏิเสธล่ะ?"

"เพราะงั้นไง..."

ซึทาโกะซัง ชูนิ้วชี้ขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะอย่างผู้ชนะ

"เงื่อนไขอีกอย่างก็คือ เธอต้องไปขออนุญาติจากโรซา ชินองซี ออง บูตองด้วยตัวเอง"

"เอ๋?? เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด"

อีกครั้งแล้วนะ ที่เธอพูดเรื่องบ้าๆแบบนั้นออกมาได้

"ทำไมล่ะ"

ซึทาโกะซังตาโตด้วยความประหลาดใจ

"เธอทั้งสองคนก็ดูสนิทสนมกันดีนี่ เหมือนพี่สาวน้องสาว ยังไงยังงั้น"

"ไม่ใช่หรอก"

ยูมิอธิบาย เมื่อเช้านี้ตอนที่เดินมาโรงเรียน เธอถูกเรียกตัวเอาไว้แล้วก็โดนตักเตือนเรื่องเครื่องแบบของเธอที่ไม่เรียบร้ อย ก็เท่านั้นเอง

"อืมม...แล้วเธอก็เลยช่วยผูกโบว์ให้ใหม่เหรอ ถ้าเพื่อนในห้องรู้เข้า คงต้องอิจฉาแน่ๆเลย"

"อิจฉาเหรอ ยังไงกัน?"

เพียงแค่นึกขึ้นมาได้ เธอก็หน้าแดงซะแล้ว

"ซาจิโกะซามะอาจจะแค่คิดว่า นักเรียนอะไรไม่เรียบร้อยเอาซะเลย ก็ได้นี่"

มันไม่ควรที่จะเป็นแบบนั้นเลย

ความจริงแล้ว การได้พบกับท่านพี่ที่ใฝ่ฝัน น่าจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่งดงามกว่านี้

อย่างเช่นฉากทั้งหลายในภาพยนตร์ ฉากที่ทำให้หน้าแดงทุกครั้งที่นึกขึ้นมาได้แม้กระทั่งเรียนจบไปแล้ว ลองนึกถึงเวลาที่ได้เก็บผ้าเช็ดหน้าที่ถูกพัดพาไปตามลมของซาจิโกะซามะ แล้วนำไปคืนให้เธอ หรืออะไรที่คล้ายๆแบบนั้น

แต่ว่าการผูกโบว์ให้ใหม่เนี่ยนะ ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังทำอะไรไม่ถูกแม้แต่จะกล่าวคำอำลาหรือขอบคุณ เธอขาดคุณสมบัติของรุ่นน้องที่ดีไปซะแล้ว

"ถึงจะเป็นนักเรียนที่ไม่เรียบร้อยก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ อย่างน้อยเธอก็ได้ใกล้ชิดกับท่านพี่ที่รักแล้วไม่ใช่เหรอ"

"เอ่อ"

ยูมิพูดไม่ออก นั่นเป็นความจริง ถ้าโบว์ของเธอไม่หลวมเช่นนั้น ตลอดชีวิตนี้ก็ไม่มีทางที่เธอจะถูกเรียก

"ซึทาโกะซัง งั้นทำไมเธอไม่ลองไปขอด้วยตัวเองล่ะ เธอทำอย่างนั้นมาตลอดเลยไม่ใช่เหรอ?"

"ถึงฉันจะเป็นซึทาโกะซังที่ไม่เคยกลัวใครก็เถอะนะ แต่อยู่ๆจะให้ไปเจอกับคณะกรรมการยามายูริไคนี่มันก็น่าหวั่นๆอยู่เหมือนกัน"

ยามายูริไค คือคณะกรรมการของโรงเรียนสตรีลิลเลียน คณะกรรมการที่มีชื่อจากดอกกุหลาบสีขาว แดง และเหลือง แม้ว่าพวกเธอจะเป็นนักเรียน แต่ก็มีสถานะที่แตกต่างกับนักเรียนทั่วไป คล้ายๆกับเป็นผู้บริหารองค์กรนักศึกษา ซึ่งซาจิโกะซามะ ก็เป็นน้องสาวของโรซา ชินองซี หนึ่งในสามคณะกรรมการนั้นด้วย

"เอาล่ะ ยูมิซัง ฉันตัดสินใจแล้วว่า ให้เธอไปเป็นคนเจรจาน่าจะดีกว่า"

"ทะ...ทำไมล่ะ?"

"เพราะว่าซาจิโกะซามะ สนใจเธอน่ะสิ"

"แต่นั่นมันเป็นเพราะว่าโบว์ของฉัน.."

"ถ้าแค่โบว์หลวมๆจะทำให้ซาจิโกะซามะสนใจได้ล่ะก็ ป่านนี้นักเรียนทั้งโรงเรียน คงเดินปล่อยโบว์ปลิวกันหมดแน่"

ซึทาโกะซังแย้ง

"ไม่จริงน่า"

"อันที่จริงแล้ว ฉันก็เคยเห็นเด็กปีหนึ่งทำแบบนั้นเหมือนกันนะ"

เด็กปีหนึ่งที่คาดหวังว่า จะทำให้ซาจิโกะซามะสนใจตัวเองได้แม้เพียงนิด ใช้วิธีการผูกโบว์หลวมๆแล้วเดินผ่านหน้าเธอ ซึทาโกะซังเล่าด้วยน้ำเสียงราวกับว่าเธอเป็นนักแสดงนำที่ยืนอยู่กลางเวที อาบด้วยแสงไฟจากสปอตไลท์

"เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ซาจิโกะซามะเป็นหนึ่งในผู้ที่เคร่งครัดกฎระเบียบของโรงเรียนเป็นอย่างมาก เธอนั้นมักจะไม่ประทับใจกับผู้ที่มีภาพลักษณ์ไม่เรียบร้อย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอีกหลายคนที่อยากจะลองเสี่ยงดวงด้วยวิธีนี้"

เพื่อรักษาจิตใจให้ดีงาม ต้องเริ่มจากการดูแลภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดีเสียก่อน นี่คือสิ่งที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาโดยตลอด 11 ปี นับตั้งแต่ชั้นอนุบาล ดังนั้นแล้วคนที่ไม่ประพฤติตัวตามกฏ และพยายามจะทำให้รุ่นพี่สนใจ โดยการปล่อยปละละเลยแบบแผนที่ดีงามเช่นนี้ รางวัลที่เธอคนนั้นจะได้รับก็คือ สายตาเย็นชา ที่มองข้ามไปโดยสิ้นเชิง

ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ในบางครั้งท่านพี่ของนักเรียนผู้นั้น ก็ถูกเรียกมาตำหนิเรื่องการประพฤติตัวของน้องสาวที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย

"ซาจิโกะซามะ น่ากลัวจัง"

"เข้าใจแล้วใช่ไหมล่ะว่า โอกาซาวาร่า ซาจิโกะซามะน่ะ น่ากลัวเพียงใด แน่นอนว่านี่เป็นแค่เพียงวิธีหนึ่งที่เธอใช้จัดการกับคนประเภทนี้ด้วยนะ"

"แล้วแบบนี้เธอยังจะให้ฉันไปพบกับซาจิโกะซามะที่แสนน่ากลัวคนนั้นอีกเหรอ..?"

อันที่จริง ยูมิคิดว่าซึทาโกะซังนั้นก็น่ากลัวพอๆกันกับซาจิโกะซามะนั่นแหล่ะ

แล้วยูมิก็เตรียมตัวจะวิ่งหนี ปลายเท้าชี้ไปยังทางออกเรียบร้อยแล้ว

"ยูมิซัง เธอยังไม่เข้าใจ ซาจิโกะซามะน่ะไม่ใช่ปีศาจอะไรซักหน่อย เธอเป็นทูตสววรค์ต่างหาก ทูตสวรรค์มิคาเอลไงล่ะ"

"ทะ...ทูตสวรรค์มิคาเอล"

พูดอะไรของเธอน่ะ เธอรู้ตัวไหมเนี่ยว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่ ดวงตาของซึทาโกะซัง มองไกลออกไป

"โดยเนื้อแท้นั้น เธอเป็นผู้ที่จิตใจสะอาดบริสุทธิ์และโอบอ้อมอารี แต่อย่างไรก็ดี สิ่งใดที่ขัดกับความรู้สึกที่งดงามของเธอนั้น จะไม่ได้รับการให้อภัยอย่างเด็ดขาด เธอคือผู้ที่กำเนิดมาอย่างเจ้าหญิงผู้พิทักษ์ความถูกต้องทั้งมวล"

ซึคาโกะซังเริ่มล่องลอยไปไกล ยูมิจึงทำได้เพียงยกมือขออนุญาต "เอ่อ..."

"ซึทาโกะซัง ฉันได้คะแนนวิชาภาษาศาสตร์แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นนะ"

"แล้วทำไมล่ะ?"

"เธอช่วยลดระดับภาษา แล้วอธิบายให้ฟังอีกครั้งจะได้มั้ย"

"ลดระดับ?"

"เอ่อ...ก็แบบว่า ช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆหน่อยเถอะ"

ซึทาโกะซังกอดอกแล้วคิด มันเป็นการยากที่จะอธิบายทฤษฎีที่ตนเองเข้าถึงอยู่คนเดียว ให้คนอื่นฟังแล้วเข้าใจตามไปด้วย

"เอาง่ายๆเลยนะ ซาจิโกะซามะ ไม่เคยโกรธอะไรที่ไร้เหตุผล ดังนั้นเมื่อเธอโกรธ มันต้องมีสาเหตุอยู่แน่ๆ"

"แล้ว..."

"แล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ไปขออนุญาตเธอมาซะ"

"ก็แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ?"

"ก็เธอกับซาจิโกะซามะ ดูจะเข้ากันได้ดีนี่นา"

โธ่...ฉันไม่เข้าใจลำดับความคิดของซึทาโกะซังเอาซะเลย

"เธอใช้หลักเกณฑ์แบบไหนมาวัดกันเนี่ย?"

"หลักเกณฑ์? ไม่มีหลักเกณฑ์อะไรที่ไหนหรอก ของอย่างนี้มันต้องใช้สัญชาติญาณและความรู้สึก"

ซาจิโกะซามะ คนที่ไม่ชายตามองแม้แต่โบว์ของรุ่นน้อง แต่เมื่อเช้านี้เธอกลับเรียกยูมิ เพื่อช่วยจัดโบว์ของยูมิด้วยมือของเธอเอง ซึทาโกะซังเน้นว่านี่คือปรากฎการณ์พิเศษ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะโชคช่วยเท่านั้น

"บางคนอาจจะยังไม่รู้ตัว แต่ฉันคิดว่าจิตใจของคนเรานั้นสื่อถึงกันได้"

"เธอไม่มีเหตุผลอีกแล้วนะ"

จุดสำคัญก็คือ เอาเข้าจริงๆแล้ว เธอก็แค่ต้องการจะโยนงานที่ไม่อยากทำมาให้ยูมิเท่านั้นแหล่ะ

"งั้นถ้าเธอยังเสียใจที่ถูกคิดว่าเป็นนักเรียนที่ไร้ระเบียบแล้วล่ะก็ ไปปรับภาพลักษณ์นั้นใหม่ซะสิ ถ้าเธอกล่าวขอบคุณซาจิโกะซามะอย่างสุภาพว่า ขอบคุณที่ช่วยตักเตือนหนูเมื่อเช้านี้นะคะ เธอก็จะกลายเป็นคุณหนูผู้แสนจะอ่อนโยนไปในทันที"

"เอ่อ ซึทาโกะซัง เธอเข้าใจเกลี้ยกล่อมจังนะ"

"งั้นเหรอ ขอบใจจ้ะ นี่ชมรมโต้วาทีก็เคยชวนฉันให้เข้าชมรมอยู่เหมือนกัน"

เสียงหัวเราะอย่างมีชัยนั้นมีพลังจนชวนให้คิดว่า เธอนั้นน่าจะถูกชวนให้เข้าชมรมการแสดงแถมไปด้วยอีกชมรมหนึ่งนะ

(จบส่วนที่ 3)




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2551
0 comments
Last Update : 21 มิถุนายน 2551 21:41:08 น.
Counter : 829 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


คนรักมิวฟิล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คนรักมิวฟิล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.