milaika
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
9 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add milaika's blog to your web]
Links
 

 

สุดถวิล ตอนที่ 1


ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ Smiley ปรารถนาจะได้รับคำติชมจากผู้อ่านทุกท่านค่ะ


คำอธิบาย:


สาวงามอย่างนรีย์นุช มีอันต้องปวดศีรษะกับเพื่อนสุดแสบที่ดันสรรหาการสะกดจิตมาจากตำราเก่าคร่ำครึ เพื่อนำพาหล่อนไปพบกับชายเดียวในหัวใจที่ใฝ่ถวิล เสียแต่ว่า...เจ้าหล่อนยังไม่รู้ตัวเลยหน่ะสิ...ว่าถวิลใคร


ตอน 1 เรื่องกาลก่อนหน้าโน้น


“ นุช เมื่อไหร่จะรับรักเจ้าชายเวทย์มนตร์ซักทีอ่ะ”


เสียงเอ่ยถามอย่างอ่อนอกอ่อนใจของเพื่อนสาวร่วมห้อง ทำให้ฉันต้องเด้งตัวจากเตียงขึ้นมามองหน้าเจ้าหล่อนอย่างฉงน อมยิ้มรสโปรดยังคงคาอยู่ในปาก แม้ว่าจะทำให้พูดอย่างอู้อี้เต็มที


 “ไอ๋อ่า เอ๋าอายเอดอน”


“ ก็พ่อหนุ่มสุดหล่อคนล่าสุดที่เที่ยวส่งน้ำส่งขนมให้แกตลอดนะสิ ชั้นว่าถ้าเป็นไปได้นะ เค้าอาจจะไปแอบเอาน้ำมันพรายมาป้ายแกก็ได้นะ เอ บางทีชั้นอาจจะแนะนำให้เค้าลองใช้รากราคะกับแกดูบ้างดีมั๊ย เผื่อแกจะเห็นใจในความรักมั่นชั่วฟ้าดินสลายของเค้า”


“ลองใช้กับหล่อนไปก่อนเถอะย่ะ ถ้าผลเป็นยังไงก็บอกกันด้วยแล้วกันนะ เผื่อว่าชั้นอาจจะต้องเตรียมชุดไว้รอเป็นเพื่อนเจ้าสาว จะได้หาทัน”


ฉันเอาอมยิ้มยัดปากเหมือนเดิม แล้วก็เอานิยายเล่มล่าสุดที่เพิ่งวางแผงมาอ่านต่อ โธ่...ไอ้เรารึก็นึกว่าเรื่องอะไร! ที่แท้ก็เรื่องนายแบงค์สุดหล่อที่มาตามจีบได้สองเดือนกว่า อันที่จริงฉันก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเค้าหรอก ออกจะยินดีซะด้วยซ้ำที่มีหนุ่มหน้ามนคนป๊อบมาตกหลุมเสน่ห์ แถมด้วยการคอยตามประเคนน้ำอาหารและขนมหวานสามเวลา แต่หลังจากเรื่องนี้หลุดไปเข้าหูคุณแม่สุดที่รัก ฉันก็ได้รับคำสั่งเด็ดขาดว่าอย่าไปรับของของคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล...เพราะแม่กลัวว่าฉันจะโดนเล่นของ ด้วยเหตุนี้ฉันจึงนึกขันกับความคิดของยัยเพื่อนสนิทที่กลับคิดจะไปยุยงให้คนอื่นเล่นคุณไสยใส่เพื่อนตัวเองเสียได้    


“ นุช ชั้นสงสัยจริงๆเล้ยยย”


แป้งยังคงไม่หยุดดึงความสนใจจากฉันด้วยการลากเสียงสูงแหลมปรี๊ด เมื่อเห็นว่าฉันยังคงก้มหน้างุด จมอยู่ในนิยายจีนโดยไม่มีวี่แววจะสนใจเจ้าหล่อนเลยซักนิด แม่เพื่อนสนิทก็สุดทนเอื้อมมือไปยึดหนังสือเล่มนั้นซะเลย


“ เฮ้ย ทำอย่างงั้นได้ไง ยังไม่ได้คั่นเลยนะเว้ย โอ๊ย ท่านอ๋องเพิ่งจะตะลึงในความงามของเซียวหงเป็นครั้งแรกนะ”


“ เออ ปล่อยท่านอ๋องไปสบายก่อนเถอะ”


แป้งเอาหนังสือเล่มนั้นไปซ่อนด้านหลังให้พ้นจากสายตาของฉัน  เยี่ยม...ทีนี้ก็เป็นอันรู้กันว่า ฉันจะยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้นจนกว่าแม่เจ้าประคุณจะหมดข้อสงสัยใดๆเสียก่อน


 “ นุช...นี่ชั้นอยากรู้จริงๆเลยนะ ทำไมพระเจ้าถึงได้ลำเอียงขนาดนี้ พระองค์ประทานใบหน้าที่สวยเกินไปมาให้แก ชั้นที่เป็นเพื่อนก็เลยต้องกลายมาเป็นองครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงตลอดเวลา แถมแกที่เป็นคนถูกพิทักษ์ก็ดันไม่สำรวมตัวเสียอีก  รู้บ้างมั๊ยว่าอย่าไปยิ้มมั่วซั่ว ทีเดียวครั้งเดียวเนี่ยเล่นเอาถึงตายเลยนะเว้ย”


“ถึงตายเนี่ย ใครตายเหรอ?”


แป้งถลึงตาใส่ฉันอย่างเหลือทน


“ก็ผู้ชายที่อยู่ในรัศมีรอยยิ้มของแกนั่นแหล่ะ ทุรนทุรายจะเป็นจะตายกับความงามของแกกันทุกคน”


“โธ่ แป้งจ๋า เรื่องนี้บ่นจนนุชหูชาแล้ว ก็แป้งบ่นตั้งแต่พวกเราอายุสิบสอง จนตอนนี้ปาเข้าไปจะยี่สิบแล้วนะ แป้งก็รู้นี่นา นุชแค่ยิ้มไปเรื่อย ไม่ได้คิดอะไรหรอก”


ว่าแล้วฉันก็ยิ้มหวานประจบอีกรอบ ทำเอาแป้งถอนหายใจไปเฮือกใหญ่อย่างอ่อนอกอ่อนใจ


“งั้นก็หัดทำหน้านิ่งๆ ไม่เอาๆ ทำหน้าบึ้งเหมือนจะฆ่าคนเลยดีกว่า พวกผู้ชายมันจะได้กลัวหัวหดไปหมดเลย”


“แป้งไม่เคยได้ยินเหรอ ยิ้มเป็นยารักษาโรคที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเลยนะ พวกเราในฐานะนักเรียนแพทย์ก็ควรเริ่มปฏิบัติตัวให้สมกับฐานะหน่อยสิจ๊ะ”


ฉันพูดเสียงหวานเข้าอ้อน ก็รู้อยู่แก่ใจอย่างที่แป้งพูดออกมาทุกอย่าง ด้วยเพราะรู้และตระหนักว่าบางทีความสวยงามก็เป็นดาบสองคม ชักนำทั้งสิ่งที่มีค่ามหาศาลและอันตรายเกินพรรณนาได้ การที่เพื่อนรักเอ่ยเตือนด้วยความหวังดีออกมาตรงๆ ก็ทำให้ฉันยิ่งรักเพื่อนคนนี้มากขึ้นไปอีก


“แกไม่ลองคบใครจริงๆจังๆไปเลยหล่ะ คนอื่นจะได้รู้ว่าแกมีเจ้าของแล้วเค้าจะได้เลิกหวังไปซะ”


“อย่าบอกนะว่า แกเบื่อหน้าที่องครักษ์พิทักษ์นรีย์นุชเสียแล้ว”


เพี๊ยะ! แป้งฟาดฝ่ามืออย่างเหลืออดเข้าเต็มที่ที่บ่าของฉัน เล่นเอามือชาไปทั้งแขน


“โฮย ข้าน้อยอยากทราบยิ่งนักว่า แม่นางไปฝึกฝ่ามืออรหันต์มาจากสำนักไหนหรือ มันถึงได้บรรลุเร็วยิ่งนัก”


ฉันพูดเรียนแบบบทพูดในนิยายจีนที่กำลังอ่านอย่างติดลมในช่วงนี้ ไม่ได้ถือสาเลยแม้แต่น้อยที่ถูกเพื่อนฟาดเข้าให้แบบเต็มๆอย่างจัง ด้วยรู้ว่าคนตีก็คงตกใจอยู่เหมือนกัน


“แกนี่นะ ชั้นอุตส่าห์เชียร์ให้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วไปซะ ทำไมไม่มองใครเลยวะ นี่...แกรู้มั๊ยว่าบางคนคิดว่าพวกเราเป็นคู่เลสเบี้ยนกัน ชั้นหล่ะจะบ้าตาย”


“อ๋อ แกก็เลยยิ่งเป็นเดือดเป็นร้อนในเรื่องของฉันใช่มั๊ย”


ฉันยิ้มกริ่ม แกล้งทำเป็นเข้าใจอะไรไปคนละเรื่องกับที่แป้งต้องการจะสื่อ


“ใช่ เพราะเรื่องนี้มันรวมถึงชื่อเสียงของฉันด้วยเหมือนกัน ฉันต้องรักษามันไว้ยิ่งชีพก่อนที่มันจะถูกแกทำลายมากไปกว่านี้”


อ้าว ซวย! จากที่ฉันแกล้งทำเป็นเข้าใจว่าแป้งเป็นห่วงแต่ตัวเอง เพื่อยั่วให้เจ้าหล่อนน๊อกตหลุดอีกรอบ ยัยเพื่อนรักดันยอมรับมาหน้าตาเฉยว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชื่อเสียงของเจ้าหล่อนอย่างมาก ผิดแผนเสียแล้ว! ฉันที่คบกับแป้งมาอย่างยาวนานย่อมรู้ว่าเรื่องมันต้องไม่จบแค่นี้แน่ เมื่อเรื่องใดมีความเกี่ยวพันกับภาพลักษณ์แล้ว เจ้าหล่อนยอมทำทุกวิถีทางจริงๆ!


“นุช ชั้นว่าจะต้องหาสาเหตุแล้วหล่ะว่า ทำไมแกถึงไม่ชอบผู้ชายเลย เท่าที่เห็นมาเนี่ย แกไม่สนเลยสักนิด ไม่ว่าจะหล่อ รวย ฉลาด แสนดีขนาดไหน ฉันก็เลยคิดว่าอาจจะยังไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับแก...ไหนแกลองบอกสเป็คของแกแบบเจาะจงมาเลยได้มั๊ย เดี๋ยวชั้นจะลองไปตามหาดู”


“อืม...”


ฉันหลับตาคิด ขมวดคิ้วเล็กๆ เก็กมาดให้ดูทรงภูมิเหมือนคนที่กำลังใช้ความคิดอย่างเต็มที่ แกล้งเอามือคลึงตรงระหว่างหัวคิ้วเหมือนกำลังคิดหนักอย่างมาก และเพื่อความสมบูรณ์แบบ ฉันก็เลยระบายลมหายใจออกมาบางเบา แต่ก็เน้นเสียงให้แป้งได้ยินอยู่ดี


“มันบรรยายยากนะ”


ฉันมองเห็นดวงตาของแป้งเต้นระริกด้วยความอยากรู้ อันที่จริงฉันรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกลืนน้ำลายอย่างกระหายด้วยนะ!


“ขอกระดาษหน่อย เดี๋ยววาดให้ดู”


ฉันแบมือกระดิกดิ๊กๆ แล้วก็ได้เห็นแป้ง สาวน้อยอ้วนจ้ำม่ำไซส์กระทัดรัดกระโดดข้ามห้องด้วยความเร็วอย่างเหลือเชื่อ เพื่อคว้าดินสอไม้กับกระดาษขาว มาวางใส่มือของฉันที่วางแบอยู่ตรงหน้า ทำเอาฉันแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยบ้าง ...ความอยากรู้ของคนช่างมีอานุภาพน่ากลัวยิ่งนัก...


“อย่าแอบดูหล่ะ”


ฉันลงมือวาดภาพสเก็ตหนุ่มหล่อโดยทันที แต่ก็ไม่วายหันหลังกลับมาเตือนเจ้าหล่อนไม่ให้แอบดูจากด้านหลัง แหม! นานๆจะได้ทำอะไรสนุกๆบ้าง...ถือเป็นการคลายเครียดจากการสอบที่แสนหนักหน่วง


เมื่อวาดภาพเสร็จแล้ว ฉันก็ม้วนภาพเข้าด้วยกัน แล้วถือไปให้แป้งที่นั่งรออยู่บนเตียงนอน หลังจากนั้นฉันก็รีบเดินออกจากห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว


“เดี๋ยว”


เสียงแป้งที่เรียกจากด้านหลัง เล่นเอาฉันขนลุกซู่เมื่อได้ยิน อย่าบอกนะว่า...


“เมื่อกี้ที่แกบอกว่า ยิ้มเป็นยารักษาโรค ถ้าชั้นจำไม่ผิด จริงๆแล้วมันควรเป็น เสียงหัวเราะเป็นยารักษาโรคนะ” 


“อ๋อ”


ฉันทำเสียงเป็นรับรู้อือออในคอให้แม่นักเรียนดีเด่นได้ยิน ก่อนจะแว้บหายออกจากห้องไปเลย


ฉันจำได้ว่าตอนนั้น ฉันแค่คิดจะแกล้งยัยแป้งสักหน่อย ก็เลยวาดภาพสเก็ตหนุ่มในฝันเป็นมนุษย์ก้างปลาซึ่งเหมือนปลาทูมีหัวเป็นคน ใส่เม็ดสาคูลงไปเป็นตาสองตา มีปากกับจมูกอย่าละหนึ่ง แล้วก็หูอีกสองหู โดยที่ฉันมั่นใจว่า ยัยแป้งคงตามหามนุษย์ในฝันให้ฉันได้ยากยิ่งนัก...แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งที่ตามมา มันจะยากยิ่งกว่า...


สองวันหลังจากนั้น ยัยแป้งเดินมาหาฉันพร้อมหนังสือฝุ่นเขรอะสีน้ำตาลในมือ หล่อนยิ้มใส่ตาฉันอย่างยินดีพร้อมทั้งบอกว่าหล่อนพบวิธีตามหาคนในฝันของฉันได้แล้ว แป้งชูหนังสือเล่มนั้นโบกไปมาตรงหน้าฉัน เล่นเอาฉันกลั้นหายใจด้วยความกลัวเป็นภูมิแพ้ เมื่อเห็นปรากฏการณ์ทินดอลล์ ซึ่งแสงอาทิตย์ส่องเป็นลำเมื่อฝุ่นจากหนังสือในมือแป้งฟุ้งกระจายลอยอยู่ในอากาศ ด้วยความที่ตากับความสนใจของฉันมัวแต่มองฝุ่นปลิวไปมา ทำให้ไม่ได้สนใจว่ายัยแป้งพูดอะไรอยู่ข้างๆหู สิ่งที่คิดอยู่ในหัวตอนนั้นก็มีแค่ว่า หนังสือเล่มนี้เป็นสมบัติประจำตระกูลมันเหรอวะ..มันถึงได้เก่าซะขนาดนี้


ฉันจำได้ว่าตอนนั้นไม่ได้ยึกยักเลยแม้แต่นิดเดียวทั้งๆที่ควรจะห้ามหรือขัดขวาง เมื่อโดนยัยแป้งลากให้ไปนอนบนเตียง แล้วเจ้าหล่อนก็ประกาศกร้าวว่าจะสะกดจิตฉัน เพื่อตามหาหนุ่มในฝันให้ฉันให้จงได้ ตามวิธีที่หนังสือเก่าแก่เล่มนี้บอกไว้


ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็ดันหนังสือมาใส่ตรงหน้าให้ฉันได้เบิ่งชัดๆอีกรอบ หนนี้ฉันก็เลยได้กลิ่นเหม็นหืนแบบกระดาษเก่าเก็บในที่อับชืนและได้เห็นหน้าปกที่คงจะลงสีทองไว้ทั้งเล่มแต่ด้วยความเก่าเหลือเกิน สีก็เลยลอกจางกลายเป็นสีน้ำตาลเน่าๆชนิดหนึ่ง ที่ฉันไม่กล้าเปรียบเทียบกับส่งที่อยู่ในหัว


ฉันอือออรับคำบอกแป้งให้ทำได้เลยตามสบาย เพราะเคยได้ยินมาว่าสะกดจิตก็แค่หลับตาปล่อยใจให้ว่างแล้วก็ปล่อยให้ผู้ทำการสะกดถามอะไรไปเรื่อยตามแต่ต้องการ


แล้วไอ้ด้วยความคิดแบบเด็กๆตอนนั้นหน่ะสิ ที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมดที่ตามมา...






Free TextEditor




 

Create Date : 09 กันยายน 2553
3 comments
Last Update : 9 กันยายน 2553 21:47:06 น.
Counter : 386 Pageviews.

 

เนื้อหาน่ารักดี เขียนเป้นเรื่องแรกหรือเปล่าคะ เก่งจังเลย
แป้งจะเป้นอย่างไร เล่นสะกดจิตกันแล้ว ขอaddไว้เป้นเพื่อนบ้านนะคะ แล้วจะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: เกศสุริยง 15 กันยายน 2553 0:08:21 น.  

 

เรื่องน่ารักจัง ขอติดตามด้วยคนนะคะ
ว่างๆไปทักทายที่บ้านกันบ้างนะคะและขอADDไว้เป้นเพื่อนบ้านด้วยนะคะ

 

โดย: ดรสา 15 กันยายน 2553 0:12:06 น.  

 


เอาน้ำสมุนไพรสูตร ล้างสารพิษ บำรุงตับ มาฝากค่ะ เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์


สิ่งที่ต้องเตรียมได้แก่
-กะหล่ำปลี 1 ถ้วย
-วีตกราส 2 ถ้วย
-สาหร่ายสไปรูลินา พอประมาณ

ขั้นตอนการปรุง เริ่มจากทำความสะอาดกะหล่ำปลีและวีตกราส หั่นส่วนผสมทั้งสองชนิดให้มีขนาดเล็กพอประมาณ นำไปสกัดเอาแต่น้ำด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้ เทใส่แก้ว เติมสาหร่ายสไปรูลินาลงไปแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ดื่มได้ทันที
------------------------------------
เก็บเอามาฝากค่ะอยากให้มีสุขภาพดีถ้วนกัน คุณสบายดีนะคะ

 

โดย: เกศสุริยง 17 กันยายน 2553 14:53:53 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.