การเดินทางของสองเรา จากเมื่อวาน ถึงวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้
../data/numai-mai/picture/1220091593.jpg
Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
11 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

หลวงพระบาง เมื่อชิวิต ย้อนกลับ ตอนที่ 3 (ตอนจบ)



เราแพลนกันไว้ว่าจะเดินตลาดเย็นกัน จึงยังไม่กลับที่พัก และขอเดินเล่นชมเมืองรอบๆไปเรื่อยๆ

เดินไปมาเจอพิพิธพัฒน์แห่งชาติหลวงพระบางจึงเข้าไปเก็บบรรยากาศสักหน่อย
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดพูสีเลยค่ะ
เนื่องจากตอนที่ไปใกล้ปิดแล้ว เลยไม่ได้เข้าไปได้แต่ถ่ายรูปรอบๆมาให้ดูจ๊ะ



พอเสร็จจากพิพิธภัณฑ์ก็หมดแรง แต่ตลาดเย็นยังไม่เริ่ม เลยว่าจะเดินเล่นต่อจ้า เราเลยเดินเที่ยวกันต่อรอตลาดนัด เดินไปเจอวัดสวยๆอีกวัดนึง เดินจากพิพิธภัณฑ์ ขึ้นไปอีกนิดจ้า เดินขึ้นไปอีกนิด จะมีตลาดนัดกลางวัน เราได้เสื้อ สะบายดี ราคาไม่แพงที่นี่แหล่ะ (ต่อเยอะๆนะคะ)



ได้เวลาแล้ว ไปตลาดค่ำเลยดีกว่าค่า ตลาดค่ำนี่ มีแบ่งเป็นสองตรอกนะคะ จุดเริ่มต้นอยู่ที่พระธาตุพูสี หรือตรงข้างๆพิพิธภัณฑ์นั่นแล ของที่นำมาขายกัน ส่วนมากเป็นของเหมือนๆกัน เช่น ผ้าคลุมเตียง ปอกหมอน ผ้าพันคอ สารพัดเสื้อยืด โคมไฟ ผ้าทอ ฯลฯ แม่ค้าส่วนใหญ่เหมือนเป็นชาวเขา เด็กๆ ก็ขายของกันเป็นแล้วเก่งมาก

สนนราคา เท่าๆกันหมด ขึ้นอยู่กับฝีมือต่อรองแล้วค่ะ อ้อ ตลาดที่นี่ คนขายพูดไทยได้ทุกร้าน และใช้เงินไทยได้เลยเช่นกันค่ะ

พอช๊อปเสร็จก็หมดแรง วันนี้ได้ของไปไม่เยอะ เพราะรู้ว่าพรุ่งนี้เราจะยังคงอยู่ที่นี่คงได้มาเดินอีก เลยดูลาดเลาก่อนวันนี้

สี่ทุ่มก่า ได้เวลากลับไปนอนแล้ว เรียกพาหนะคู่ชีพไปส่งท่าเรือกันเลย

นั่งเรือกลางคืน หนาวแทบแข็งตายแหน่ะ

เอาบรรยากาศสวยๆของรีสอร์ทยามค่ำมาให้ชมด้วยค่า

ทางขึ้นจากท่าเรือ โรแมนติกมากกกกกกก

ถึงห้องแล้ว ขอไปนอนก่อนนะคะ

จบวันที่สอง เดี๋ยวพาไปตักบาตรข้าวเหนียวต่อจ้า


-----------------------------------------------------------

วันที่สาม วันนี้เราตื่นกันแต่เช้า แล้วรีบนั่งเรือออกไปที่ฝั่ง พอขึ้นฝั่งก็รีบตรงไปหาที่ตักบาตรข้าวเหนียวทันที นึกว่าไม่ทันแล้ว แต่ปรากฏด้านที่เราขึ้นนั้นพระยังมาไม่ถึง ที่หลวงพระบาง พระจะเดินเป็นสายค่ะ ประมาณ 300 องค์ สายเดียว รอบเมือง แล้วคนที่นี่จะตักบาตรข้าวเหนียวเท่านั้น หลายคนถามแล้วกับข้าวหล่ะ ได้ยินว่า ส่วนกับข้าว จะมีพุทธศาสนิกชน ไปทำถวายที่วัด
สักพักพระก็มาแล้วค่ะ ตื่นเต้นมาก ข้าวก็ร้อน ใส่ไม่ทัน คุณยายข้างๆสอนวิธีจกข้าวเหนียวด้วย น่ารักมากๆ ให้จกพอน้อยๆ เพราะมีพระตั้ง 300 กว่ารูป เดี๋ยวจะไม่พอ



พอตักบาตรเสร็จ เราก็หาของกินกันมั่ง แต่ เดินดูหลวงพระบางยามเช้ากัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยพระธาตุภูสีค่ะ
เมืองหลวงพระบางยามเช้า ร้านรวงยังไม่เปิด สงบดีแท้ๆ แล้วเราก็คิดกันว่า ไปเดินตลาดสดยามเช้ากันดีกว่า
ตลาดม้งอยู่ฝั่งพิพิธภัณฑ์ เลี้ยวขวาไปประมาณ 500 เมตร มีของสด ของแห้งขายกัน ราคาย่อมเยาว์ ไปแล้วอย่าลืมแวะไปสัมผัสชีวิตชาวลาวกันนะจ๊ะ ก่อนสุดตรอกตลาด มีวัดสวยๆ เงียบสงบ อยู่ด้วย
จบจากตลาดม้ง จะพาไปชิมกาแฟนักปราชญ์กันค่ะ ที่เรียกกาแฟนักปราชญ์เพราะ เห็นอย่างนี้ คนขาย กำลังจะจบ ป.ตรี นิติศาสตร์ แล้วมุ่งสอบเนฯ นะจ๊ะบอกให้ คนขายน่ารักมากๆค่ะ กาแฟรสชาติดี หอมมาก มิกิซื้อกลับมาตั้ง 1 กิโล คุณแม่ทานแล้วชอบมาก น้องมิกิคอกาแฟก็บอกอร่อย

หาน้องเค้าได้ไม่ยากนะคะ น้องเค้าขายอยู่หน้าตลาดกลางวันตรงหัวมุมถนนคนเดินเลยจ้า มีเจ้าเดียวเลย ตอนเช้า



ราไปต่อที่สำคัญอีกที่เลยนะคะ พระธาตุพูสี

ข้อมูลจาก //www.oceansmile.com/Lao/Phusi.htm

• พูสีี เป็นยอดเขาที่มีความสูงราว 150 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง การได้เดินขึ้นไปบนยอดภูษีทำให้เห็นเมืองหลวงพระบางได้โดยรอบ และเห็นสายน้ำโขง มีบันไดขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือตรงข้ามพระราชวัง 328 ขั้น ตลอดทางขึ้นร่มรื่นไปด้วยต้นจำปา (ดอกไม้ประจำชาติลาว) หรือที่บ้านเราเรียกว่าต้นลั่นทม
• พูสี มีความหมายว่า ภูเขาของพระฤาษี เดิมชื่อว่า ภูสรวง ครั้นเมื่อมีฤาษีไปอาศัยอยู่ชาวบ้านจึงเรียกว่าภูฤาษี หรือภูษีมาจนถึงปัจจุบัน แต่ยังมีนักโบราณคดีบางคนเชื่อว่าภูษี อาจหมายถึง พูสีึซึ่งเป็นศรีของเมืองหลวงพระบาง
• พระธาตุพูสีี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอนุรุท ประมาณพุทธศักราช 2337 พระธาตุนี้ตั้งอยู่บนยอดสูงสุดของพูสีี บนความสูง 150 เมตรพระธาตุนี้มองเห็นได้แต่ไกลแทบจะทุกมุมเมืองของหลวงพระบาง ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริดเจ็ดชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ช่วงที่พระธาตุนี้งดงามที่สุดคือช่วงตอนบ่ายแก่ๆแสงแดดจะกระทบอ งค์พระธาตุเป็นสีทองสุก รอบๆพระธาตุจะมีทางเดินให้ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงพระบาง ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมองเห็นสนามบิน ส่วนด้านทิศตะวันตกจะมองเห็นแม่น้ำโขง ช่วงที่คดเคี้ยวเข้าหากันในกลีบเขาและจากยอดภูสียังมองเห็นพระร าชวังเดิมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง พระธาตุจอมษีมิได้เป็นสิ่งก่อสร้างแห่งเดียวบนยอดภูษี ยังมีสิ่งก่อสร้างทางพระพุทธศาสนาอีกหลายแห่งเช่น วัดถ้ำพูสี วัดป่าแค วัดศรีพุทธบาท วัดป่ารวก
สถานที่ตั้ง อยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง
ค่าเข้าชม 20,000 กีบ (ประมาณ 80 บาท)
เปิดเวลา เปิดตลอดวันค่ะ

มาถึงที่พักครึ่งทาง ซื้อบัตรเข้าชมก่อนนะคะ มีที่นั่งพักด้วยค่ะที่ชั้นนี้ แล้วก็มีต้นไม้อะไรสักอย่างที่ศักดิ์สิทธิ์ (อ่านภาษาลาวบ่ออก) แผ่กิ่งก้านสวยงามมากๆ ขึ้นมาเจอจุดชมวิวหลวงพระบาง แล้วหายเหนื่อยเลย สวยมากกกกกกกกกกกกกกก บนนี้เราสามารถเห็นหลวงพระบางโดยรอบเลยนะ
เมื่อเข้าไปในอุโบสถ ข้างในเย็นสบายมากๆเลยคะ เราเสี่ยงเซียมซีที่นี่ได้ใบดีมากๆ แม่หญิงชาวลาวอ่านให้ฟัง ปลื้ม

มียกพระขอพรเหมือนกัน
เมื่อเที่ยวด้านบนเสร็จแล้ว เราได้ทีขอลาจากค่ะ
ลงมาถึงด้านล่าง เราสองคนสะดุดตาอุโบสถหลังเล็กๆ ฝั่งซ้ายมือ เลยเดินเข้าไปดู
เข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าสวยงามมากๆ ไม่เก็บค่าเข้าชม รับบริจาคเพื่อบูรณะตามศัทธราค่ะ อยากให้แวะไปอ่ะ คนไม่ค่อยมองเห็นเลย เป็นพระอุโบสถเล็กๆ ที่ทรุดโทรมแล้ว รอเรี่ยไรเพื่อบูรณะค่ะ

กำแพงเป็นภาพวาด ที่เมื่อครั้งอดีต คงงามมากๆ ใครมีโอกาส อยากให้แวะเยี่ยมเยือนกันนะคะ
ที่เหลือจากวันนี้ ไม่มีอะไรมากแล้วคะ พอดีมิกิป่วย เลยหมดอารมณ์เที่ยวแล้ว

รอรูปจากโอ่งแทนละกันนะคะ

เคาน์ดาวน์ที่หลวงพระบางสวยดีค่ะ ได้ชมพลุด้วย

เดี๋ยวมาต่อรูประหว่างทางกลับอีกนิดหน่อยละกันนะคะ







วันที่สี่ วันกลับ วันนี้เราออกกันตั้งแต่ 9 โมง ด้วยหวังใจ แอบหวังมากๆ จะมีเวลาแวะวังเวียง ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้ไป

ก่อนออกเดินทางเราไปตลาดเช้า หาอาหารรองท้องแล้วออกเดินทางเลยค่ะ

ระหว่างทางตื่นตาตื่นใจมากๆ เพราะวันมา มืดแล้วเราไม่เห็นทิวทัศน์ทั้งสองข้างทางเลย

แต่วันกลับ มันช่างสวยงามเกินบรรยายจริงๆค่ะ

รูปที่พอจะเก็บมาให้ได้ เอามาให้ดูนะคะ
แล้วคนขับรถตู้ก็โดนบังคับให้จอด เพราะเราจะถ่ายรูปแม่น้ำซอง แม่น้ำซอง เหมือนสระมรกตเลยอ่ะ

สวยจนเราหมายมั่นปั้นมือว่า ถ้ามีโอกาส จะขอหลีกหนีความวุ่นวายไปอยู่วังเวียงสักอาทิตย์นึง



และจุดสุดท้ายที่เราได้แวะคือ บ้านน้ำลิก



ที่บ้านน้ำลิกนี่จะมีสะพานข้ามแม่น้ำซองเป็นสะพานไม้ เล็กๆ แลดูคลาสสิกมาก วิ่งรถได้ทางเดียว
วันนั้นเราถึงที่สะพานข้ามแดนตอนประมาณทุ่มก่าๆ รวมใช้เวลาประมาณ 10 ชม จากหลวงพระบางมาเวียงจันทร์

การเที่ยวครั้งนี้ก็จบลงด้วยประการฉะนี้ ค่า

ครั้งหน้าจะมารีวิว เที่ยว ฮานอย ฮาลองเบย์ค่ะ





 

Create Date : 11 กันยายน 2551
3 comments
Last Update : 11 กันยายน 2551 19:30:55 น.
Counter : 1141 Pageviews.

 

-ในรูปผอมสวย เชียว
-มีความรู้สึกป่ะว่ารูปภาพพวกนี้อ่ะ เหม็นตุๆๆ เหมือนดองมาจากที่อื่นอ่ะ อิอิ
-จ๊อบน่ารักเสมอ
-ทริปหน้ากิจะไปหลวงพระบางกับเพื่อนรักอีกเหรอเปล่าจ๊ะ

 

โดย: หมูน้อยกับไอติม 11 กันยายน 2551 19:51:57 น.  

 

หวานมากเลยบล็อกนี้....

 

โดย: คนไทยเมืองหลวงฯ (Minie' ) 12 กันยายน 2551 1:14:35 น.  

 

- อี๊ๆๆๆๆๆ เสื้อเหลืองนี่ใส่ไม่ได้ซักชิมิ
- ข้าวเหนียวของแกร พระฉันแล้วคงคิดว่าทำไมเค๊มเค็ม 55555
- "กาแฟนักปราชญ์" ชื่อเก๋ว่ะ น่าลิ้มลองจัง กาแฟลาวจะหร่อยสู้วาวีบ้านเราได้ป่าวหน๊อออ
- อุแม่เจ้า สองหมื่นกีบ = แปดฉิบบาทเองฤา ... อัตราน่าอัศจรรย์นัก
- จบแระหรอ??? วิวแต่รูปจ๊อบเฉยๆได้มั้ย ไม่ต้องมีสาระอะไรก็ได้อ่ะ

 

โดย: gor_gai 12 กันยายน 2551 14:28:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


mikimon
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add mikimon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.