Я Люблю Микоян-Гуревич.
Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
1 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Flight 571 สัมภาษณ์หนึ่งในผู้รอดชีวิต



จากเหตุการณ์ เครื่องบินกองทัพอากาศอุรุกวัย
Fairchild รุ่น FH-227D Flight ที่ 571
ประสบอุบัติเหตุตก วันศุกร์ที่13ตุลาคม ปี1972
ลูกเรื่อพร้อมผู้โดยสารรวม 45 คน รอดมาได้เพียง 16 คนเท่านั้น
หนึ่งในเหตุการณ์นั้น ถ้าไม่มีคนฝ่าหิมะออกไปขอความช่วยเหลือ
เหตุการณ์อาจจะพลิกผันจบแบบไม่สวยก้อเป็นได้
หนึ่งในสองคนที่จะเอาบทสัมภาษณ์แปลเป็นภาษาไทย
มาลงคือ Alfredo Delgado ครับ




เป็นรายชื่อกัปตัน ลูกเรือ และผู้โดยสารครับ
โดยคนที่มีแถบเขียวคือผู้ที่มีชีวิตรอดจากเหตุการณ์นี้ครับ







บทสัมภาษณ์นี้เป็นการแปลจากภาษาสเปนและอังกฤษ
ซึ่งผมจะจับหลักที่ภาษาสเปนก่อนเพราะเป็นต้นฉบับนะครับ





<แปล โดย ผมเอง แหะๆ>
บทสัมภาษณ์เปิดใจ Alfredo Delgado เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2002

ตอนหนุ่มละอ่อนวัย 21 ปี ขณะนั้นเรียนวิศวะเครื่องกลอยู่




"อุรุกวัย เป็นประเทศเล็กๆที่ผู้คนสมัยนั้นรู้จักอยู่บ้าง
เพราะไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ก่อนปี 1972
จากเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อ 12 ตุลา ข่าวได้แพร่สะพัดไปทั่วโลก
จาก 45 คนประสบอุบัติเหตุที่ Andes
และ16 คนรอดชีวิตมาได้หนึ่งในนั้นคือเขา Alfredo Delgado

ทั้งสองคน(Fernando Parrado และ Roberto Canessa)
ได้ตัดสินใจเดินทางสิบวันด้วยความกดอากาศสูง
จากระดับน้ำทะเลกว่าห้าพันเมตร เดินข้ามเขา Andes ไป
..และได้ไปเจอกับที่ซึ่งผู้คนอาศัยอยู่ อยู่ท่ามกลางหิมะมา 72 วัน

ซึ่งผมไม่คิดอะไรกับเรื่องนี้น่ะครับ ไม่ได้หวังจะให้คนมาสร้างอนุสรณ์สถานให้เพวกเขา
ไม่ได้ให้คนมายกย่องเชิดชูอะไรทั้งนั้น นี่ก้อครบรอบ30ปีแล้ว

Fernando Parrado เป็นจุดเปลี่ยนของเหตุการณ์
ถ้าเขาไม่ตัดสินใจเดินทางออกไปขอความช่วยเหลือจะเกิดอะไรขึ้น
เขาอาจจะเสียชีวิตเหมือนแม่และน้องสาวของเขา
หลังจากเครื่องบินตก เขาหายจากอาการบาดเจ็บมาดูแลน้องสาว
ที่บาดเจ็บอยู่ด้วย เขาดูแลน้องสาวจน วินาทีสุดท้ายที่น้องสาวตายในอ้อมแขนของเขา
ผู้ชายขี้อายได้กลายเป็นฮีโร่ กลั่นออกมาเป็นหนังสือเรื่อง“Alive”
นิสัยของเขาเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ค่อยจะโกรธใคร
จึงเป็นที่รักของทุกๆคน

เขาออกเดินทางกับ Roberto Canessa ด้วยความห้าวหาญ
ผ่านภูเขาที่สูงชันอย่างไม่รู้จักเหนื่อย ไปส่งเพื่อนเสร็จก้อขึ้นเฮลิคอปเตอร์
กลับมารับเพื่อนของเขาที่จุดเครื่องบินตก แม้เขาจะกลัวอยู่แต่ก้อไม่ทิ้งเพื่อนๆ



◘◘◘ชีวิตความเป็นอยู่ก่อนประสบเหตุเครื่องบินตก◘◘◘

► ก่อนหน้านั้นคุณอยู่ที่ไหน
๏ เราอยู่ที่ Prado มาก่อน แล้วก้อย้ายมาที่Punta Gorda
ย้ายมาใช้ชีวิตวัยหนุ่มที่ Carrasco
ผมอยู่ที่โรงเรียน Christian Brothers มาโดยตลอด

► แล้วแม่ของคุณเป็นคนที่ไหน
๏ เอ่อ แม่ผมอยู่ยูเครนมาก่อนน่ะครับ แล้วย้ายมาอุรุกวัย
พออายุได้16 ปีก้อมาอยู่ที่ Quebracho ใน Paisandú
ทำงานเลี้ยงผึ้งอยู่ พอแม่ผมอายุมากขึ้นก้อเลยมาที่ Montevideo
เพื่อมาทำงานที่ห้องทดลอง เลยได้เจอกับพ่อผม มีลูก3คน คือผมและ
ผมมีน้องสาวสองคนคือ กราเซียล่า (Graciela) กับ ซูซาน่า (Susana)
คนที่เสียชีวิตเครื่องบินตกเนี่ยแหล่ะ

► มีความหลังอะไรที่เกี่ยวกับ โรงเรียน Stella Maris บ้างไหม
๏ ที่นั่นมันเป็นชีวิตที่งดงามมากครับ ผมอยากอยู่ที่นั่นก้อเพราะเพื่อนนี่แหล่ะ
เราปั่นจักยานตอนเช้า เล่นรักบี้กับเพื่อนๆ เฮฮาๆมีความสุขดีนะ

► คุณเล่นรักบี้อยู่ตำแหน่งไหนอ่ะ
๏ ผมเล่นอยู่ตำแหน่งแถวที่สอง ผมอยากเล่นปีกแต่เพื่อนมันไม่ให้น่ะซิ่

► คุณเล่นรักบี้เป็นหลักเรื่องเรียนเป็นรองเพราะทีม La Cachila ตอนนั้นชนะตลอดใช่ไหม
๏ อ่ะคับ เรื่องเรียนเป็นรองเลย คือผมจะได้ชัยชนะแทบทุกแมช
ผมยังจำได้ตั้งแต่แข่งในสนามไปจนจบออกจากสนามเลยแหล่ะ
ผมรู้สึกได้เลยว่าความเป็นพี่น้องระหว่างกันในทีมมันเป็นยังไง โดยเฉพาะรุ่นพี่

► ลองให้จำกัดความคุณภาพทีมคุณหน่อยซิ่เป็นว่ายังไง
๏ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมครับ เล่นมา11ปี
มีทั้งเรื่องส่วนตัว การเรียน ความรัก การท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ จิปาถะ

Parrado ถ่ายกับ Canessa ในทีมรักบี้




► ความเชื่อทางศาสนามันมีอิทธิพลต่อคุณไหม
๏ ส่วนตัวแล้วผมว่ารักบี้มีอิทธิพลต่อผมมากกว่าศาสนาอีกนะ
รักบี้มันเหมือนศาสนาสำหรับผม

► ตอนนั้นคุณมีความฝันหรือมีความแผนในอนาคตยังไง
๏ ตอนนั้นยังไม่ได้คิดไปไกลอะไรขนาดนั้นหรอกครับ
ผมคิดวันต่อวันเท่านั้นว่าผมควรจะทำอะไร
ผมคิดเหมือนบางคน ไม่ต้องคิดว่าโตขึ้นต้องเป็นหมอ
เป็นทนาย หรือค้นหาชีวิตในวัยยังเด็ก

ผมจำสมัยเรียนได้ ที่สวนในโรงเรียนมีคนคนนึงมาพูดให้พังเกี่ยวกับ
การทดสอบวิชาชีพช่าง ผมบอกเขาว่าผมไม่ได้ต้องการจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
เหมือนหมอ เหมือนทนาย เหมือนสถาปนิกอะไรหรอกนะ

เวลานั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันยากหนักกดดันมาก
ถ้าคิดจะทุ่มเทเพื่อบางสิ่งคุณจะไม่มีเพื่อนเลย

ทุกวันนี้ผมมีความคิดแว่บนึง อยากกลับไปเรียนการตลาดไม่ก้อนิเทศศาสตร์
อยากเรียนเหมือนกับสมัยก่อนที่นั่งเรียนคู่กับเพื่อนดีๆอย่าง Ignacio Iturria
เป็นเพื่อนซี้บึ๊กผมเลย


► ◘◘◘ เรามาพูดถึงชีวิตตอนเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกกันบ้าง◘◘◘

► ก่อนเกิดอุบัติเหตุ คุณเคยกลัวตายบ้างไหม

๏ เหมือนคนอื่นๆในวัย 18-19 ล่ะครับ เราเล่นรักบี้
คุณจะอยู่เป็นอมตะไหมล่ะ ไปกังวลมันทำไม
อะไรจะเกิดก้อเกิด

►คุณรู้สึกทึ่งตะลึงอะไรใน Andes
๏ คำถามมันไม่มีคำตอบหรอกครับ คุณจะมีอารมณ์มาทึ่งตะลึงอะไรล่ะครับ
ในเมื่อจะตายไม่ตายก้อไม่รู้ ผมคงได้คำสอนจากพ่อ ที่ท่านเคยสอนว่า
"นันโด้เอ๊ย... สิ่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้วและจบไปแล้ว
ดวงอาทิตย์มันขึ้นจากขอบฟ้าและลับลง
มันไม่เคยสนใจหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น
และไม่เคยสนใจหรอกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ทุกวันๆ"
ฉะนั้นผมเจอปัญหาที่ร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเจอเลยในชีวิต
แต่ผมถือซะว่าชีวิตเหมือนปกติ ไม่วู่วาม ขาดสติ

ในวันนั้นผมได้สูญเสียแม่ น้องสาว และเพื่อนที่ดีไป
มันเป็นการสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต
ตอนนั้นก้อช้ำใจอยู่ แต่ Roberto บอกว่า สิ่งที่น่ากลัวกำลังรออยู่
นั่นคือทำยังไงเราจะรอดได้ที่ Andes แห่งนี้..?
เขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะบอกคุณได้ มากกว่าทุกคน
เพราะไม่มีใครมโนภาพระหว่างการเดินทางไปขอความช่วยเหลือได้
นอกเราสองคน เมื่อตอนครบรอบ25 ปีจากเหตุการณ์เครื่องบินตก
เราไปที่เกิดเหตุนั่น เดินย้อนรอยตามเส้นทางที่ใกล้เคียงกับ
ที่เราเคยเดินไปขอความช่วยเหลือ แต่เราทำไม่ได้
ถึงแม่จะมากับทีมนักปีนเขาที่ชำนาญเคยปีนเขาและพักที่เอเวอร์เรสมาแล้ว
ธารน้ำแข็งมันอันตรายมาก เราทำไม่ได้ซะนี่
ทำให้ผมเห็นความแตกต่างระหว่างการเดินตะเกียกตะกายเพื่อเอาชีวิตรอด
เราทำทุกวิถีทางที่จะออกจากภูเขาน้ำแข็งเพื่อให้อยู่รอดไปขอความช่วยเหลือ
ในตอนนั้น เราไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทุกๆอย่างมันพลิกผันทำให้ตายได้เสมอ
ผมไปไม่ได้ถ้าไม่มี Roberto และเขาก้อไปไม่ได้ถ้าไม่มีผม
เราช่วยกันประคับประคองกันไป เส้นทางที่ลำบากมีเราเดินกันสองคน
เดินแบบอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ท่ามกลางอันตรายที่จะให้ตายเมื่อไหร่ก้อได้
เราทำงานเป็นทีม เราเป็นทีมที่สุดยอดแล้วล่ะ
เราเดินลุยหิมะมาตลอดสิบวัน และอีกราวหกสิบวันที่ซากเครื่องบิน

►สิ่งไหนที่ยังคงเป็นความทรงจำที่แจ่มๆของคุณอยู่
๏ เดี๋ยวขอนึกแป๊บนะ..เอ่อ..อืม..ผมจำความเย็นยะเยือกที่น่ากลัว
เพื่อนที่ไม่ได้โชคดีรอดชีวิตมาได้แบบผม
ผมจำได้ว่า Roberto ปีนไปสุดยอดเขา Andes และผมก้อไต่ตามเขาไป
ช่วยกันมองหาธรรมชาติสีเขียวๆและบ้านที่อยู่อาศัย แต่มองไปทางไหน
มีแต่ ภูเขา..ภูเขา..ภูเขา..ไปหมด ผมพูดขึ้นว่า"โอพระเจ้าช่วย"
แล้วผมก้อทรุดตัวลงไปเลย หัวใจผมเต้นนะ แต่เต้นแผ่วๆด้วยความกลัว
อยากจะสลบซะตรงนั้นเลยจริงๆ Roberto บอกกับผมว่า
เฮ๊ย เราจะตายบนภูเขานี้ไม่ได้นะ ถ้าจะตายตรงนี้ขอเดินต่อดีกว่า
เดินไปทางทิศตะวันตก อากาศอาจจะอุ่นขึ้นก้อได้

► ระหว่างนี้คุณพูดถึงอะไรบ้าง
๏ หลักๆแล้วก้อพูดถึงครอบครัวแล้วก้อเพื่อนล่ะครับ

►หลังจากหิมะถล่ม ผู้รอดชีวิตอยากจะให้ใครในนั้นอยู่
กับพวกเขาตั้งแต่ต้นจนจบ และ
การเสียชีวิตของ Arturo Nogueira กับ then Turcatti
มีผลกระทบอะไรกับคุณบ้างหรือเปล่า

๏ อืม...หมายถึงเราต้องมีชีวิตรอดจนจบเลยใช่ไหม?
ผมคิดว่าผมตายจนนาทีสุดท้าย วันสุดท้าย สัปดาห์สุดท้ายแล้วล่ะ
จน ผ่านไปได้ 72 วัน ไม่คิดเลยว่าเราจะมีชีวิตรอดมาได้ 100%เต็ม
ตอนนั้นผมคิดว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่สุดๆจริงๆ
แต่คนอื่นอาจจะไม่คิดแบบผมก้อได้นะ

►คุณกลัวว่าจะเสียสติิเป็นบ้าไป หรือ กลัวตายมากกว่ากัน
๏ ไม่กลัวหรอกครับ ถ้าตายตอนอายุยังน้อย ตอนนั้นลูกเมียก้อยังไม่มี ไม่กังวล
ผมกลัวเป็นบ้ามากกว่าน่ะ เหตุผลนะเหรอ ก้อเพราะความกลัวมากๆไง

►ตอนนั้นคุณพูดให้กำลังใจกันยังไง
๏ ครับ..ตอนนั้นเราพูดว่า "ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ชีวิตก้อยังอยู่"

► เคยถามกับตัวเองบ้างไหม ทำไมเหตุการณ์ทั้งหมดต้องเกิดขึ้นกับตัวคุณ
๏ ไม่มีคำตอบหรอกครับ...ตราบใดที่คุณมีชีวิตอยู่คุณก้อมีสิทธิ์ตาย
ทุกวันนี้เราก้อเผชิญความเสี่ยงอยู่แล้วนี่ เหมือนซื้อล็อตเตอรี่นั่นแหล่ะ


◘◘◘ชีวิตหลังจากผ่านเหตุการณ์เครื่องบินตก◘◘◘

► เมื่อไหร่ที่จะคุณรู้ว่า คุณรอดตายแล้ว
๏ ตอนที่ผมเดินไปขอความช่วยเหลือ คนงานที่ไร่มองมาที่ผมนั่นแหล่ะ
ผมคิดว่าเรารอดตายแล้ว

► เป็นยังไงบ้างที่กลับมาแบบฮีโร่ในครั้งนั้น
๏ พวกเราทุกคนเป็นฮีโร่กันหมดครับ พวกเราทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ
ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์นั้น คุณจะนึกไม่ถึงเลยว่าคุณมีความสามารถแบบนั้น
เพราะคุณจะโดนกดดันอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ คุณยังอยู่ในขณะที่
เห็นคนอื่นๆตายลงเรื่อยๆ ไม่ได้เหมือนในฝันอย่่างที่
คนเอาไปทำเป็นหนังสือหรือภาพยนต์ เหมือนโดนลงโทษถ้าได้กลับไป
กะฟาดพิซซ่าที่“La Mazcota”ให้หนำใจ
หลังจากรอดชีวิตมา ถ้าคุณไปกินพิซซ่าและทุกคนในร้าน
มองมาที่คุณ ถ้าทุกคนเห็นว่าคุณเป็นเป็็นฮีโร่ นั่นแหล่ะคุณกำลังโดน
ทำลายชีวิตอันปกติของคุณเอง

► คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้รับข่าวของคุณในหน้าหนังสืือพิมพ์
๏ ก้อดีนะแต่ข้อความมันย่อเล็กตัดทอนไปหน่อย
เราดูไม่หมดหรอกว่าใครจะเขียนดีต่อเราหรือเขียนไม่ค่อยจะดีต่อเรา

► คุณมีความคิดเห็นอย่างไรที่เห็นคนพูดถึงการกินเนื้อคน ทั้งที่
ความเชื่อทางทางคริสต์ศาสนาไม่ได้ตัดสินว่าผิดไม่ผิด

๏ มันเรื่องของเขา ที่นี่อุรุกวัย ไม่มีใครมาว่าผมก้อพอ

► มันเป็น"ปาฏิหารย์"ที่คุณรอดชีวิตมาได้
หรือ มันเป็นสิ่งที่คุณรอดมาด้วยตัวคุณเองไม่พึ่งปาฏิหารย์

๏ ผมรู้สึกว่าผมรอดมาได้นั้นเพราะตัวผมเอง 100% ครับ ไม่ได้พึ่งปาฏิหารย์
คนที่นี่ชอบเรื่องราวอภินิหารชวนติดตามนะ
ที่พูดกับคุณแบบนี้มันก้อไม่กินใจผู้คนเท่าไหร่นัก

► เป็นข้อตัดสินได้ไหมว่ามันทำให้คุณเปลี่ยนทัศนคติชีวิตไป
๏ ผมเชื่อในสันชาติญาณของมนุษย์ทุกคนว่า ถ้าเผชิญกับเหตุการณ์
แบบนั้น ทุกคนต้องเอาตัวรอดให้ได้ ทุกคนเผชิญกับปัญหาอยู่แล้ว
อาจจะเป็นเรื่องที่เล็กถ้ามาเทียบกับปัญหาที่ผมเผชิญที่ Andes
โชคดีที่ผมเจอปัญหานั้น และจริงๆผมควรถูกจะฝังในภูเขาน้ำแข็งไปแล้ว
...นี่ผมมองในแง่ดี 100% แล้วนะเนี่ย

► หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น คุณกลับมาเล่นรักบี้อีกหรือเปล่า
๏ ผมเล่นต่ออีก 5 ปี ผมก้อเลิกเล่นครับ

► ยังคงติดต่อกับเพื่อนๆที่รอดชีวิตบ้างหรือเปล่า
๏ แน่นอนครับ...เราจะนัดเจอกันสองสามครั้งต่อปี

► อยากจะให้คุณบอกอะไรถึงแม่ของคุณที่เสียไปแล้ว
๏ แม่เป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม,แต่ผมไม่เคยเสียน้ำตาให้แม่เลยนะ
แต่ผมเคยเสียน้ำตาให้ Panchito Aval (เสียชีวิตที่Andes)
ความตายเป็นเรื่องปกติครับ ตามกาลเวลา

► มีอะไรจะฝากบอกสำหรับคนที่สนใจเรื่องนี้บ้างไหม
๏ ก้อ...ไม่มีอะไรอ่ะคับ...มันโชคไม่ดีที่
ผมอยู่ผิดที่ผิดเวลามันเลยเกิดเหตุการณ์แบบนั้น
ผมไม่ใช่ผู้วิเศษเหมือนพระเจ้า ผมเหมือนกับคนอื่นทั่วๆไป
ทุกคนได้รับเชิญขึ้นเครื่องบิน และนักรักบี้เลือกที่จะเดินทางเอง
เราเป็นนักรักบี้อยู่ แต่อยู่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้น
บางสิ่งบางอย่างมากยากที่จะอธิบาย ได้แค่เปรียบเปรยมาเท่านั้นล่ะครับ
ไม่รู้จะเปรียบกันยังไงดีถึงจะให้ทุกคนรับรู้เหมือนเรา

ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ฟ้าหลังฝนต้องมีวันที่แจ่มใสล่ะครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีอุปสรรคอยู่


ชัยชนะของพวกเขาคือการได้รอดชีวิตจากความหนาวที่โหดร้าย
ภาพการได้รับความช่วยเหลือ ตอนนั้นไม่มีอะไรจะดีใจไปกว่านี้แล้ว


.................................................................................................

ปัจจุบัน เขาทำธุรกิจแข่งขันรถยนต์ เขาชอบแล่นเรือข้ามน้ำ ข้ามเขา
เดินทางไปทั่วยุโรปและอเมริกาใต้ ที่สำคัญคือมีครอบครัวที่อบอุ่น
มีลูกสาวสองคนคือ Veronica และ Cecilia ที่น่ารัก
เขาคิดอยู่ว่าที่เขารอดจากเหตุการณ์นั้นอาจจะเป็นที่เขายังหนุ่ม
สุขภาพแข็งแรง และเป็นนักกีฬาอยู่ ถ้าหง่อมแบบปัจจุบันนี่ซิ่อาจจะไม่รอด

งานเลี้ยงรวมพล คนรอดชีวิต แบบลุงๆ


มีการนัดแข่งรักบี้กระชากวัย


Javier ถ่ายรูปกับ Roy


มีเครื่องบินรุ่นเดียวกัน แทนลำที่ตก เก็บไว้เป็นอนุสรณ์ที่อุรุกวัยครับ




ข้างในช่างโล่งเตียน


ฮ.ฮิวอี้ ที่บินไปช่วยเหลือ ยังคงเก็บรักษาอย่างดีครับ
นั่นลุงคาเนสซ่า(Canessa)หนึ่งในสองของผู้ที่เดินไปขอความช่วยเหลือ



ลุงคาเนสซ่า ปัจจุบัน


ขอแสดงความดีใจด้วยครับที่รอดจากเหตุการณ์นี้มาได้


+++
ขอขอบคุณแหล่งที่มา
-//www.viven.com.uy/571/default.asp
-//www.faa.gov
(Federal Aviation Administration FAA)
-google map




Create Date : 01 กันยายน 2553
Last Update : 21 กันยายน 2553 18:52:41 น. 3 comments
Counter : 5464 Pageviews.

 
อ่านแล้วสยองนิด ๆ ที่เขาต้องกินเนื้อคน
แต่เพื่อให้ชีวิตรอด ก็เข้าใจค่ะ
เขาผ่านอะไรมาเยอะมาก
น่านับถือน้ำใจและความกล้าหาญ


โดย: โสดในซอย วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:23:26:28 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ โชคดีที่มาเจอบล็อคนี้อ่านเพลินเลย


โดย: fang IP: 58.8.153.195 วันที่: 12 กันยายน 2556 เวลา:0:27:10 น.  

 
เคยดูที่เขาเอามาถ่ายทำเป็นภาพยนต์สุดยอดมากครับ แต่ตอนนี้หาไม่เจอแล้ว


โดย: tong_abu IP: 101.109.46.155 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2556 เวลา:7:46:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

EL MACHO
Location :
กรุงเทพฯ Puerto Rico

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




. . . พูดน้อย . . .

. . . ต่อยหนัก . . .
น้องกิ๊กลิง
น้องเพนกี้
น้องลิงกี้
X
X
X
Friends' blogs
[Add EL MACHO's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.