กรณี เลาด้าแอร์ (ภาค1)
สายการบินเลาด้าห์แอร์ ก่อตั้งขึ้นโดยมี Mr. Niki Lauda นักขับรถแข่งแชมป์โลกชาวออสเตรีย มีชื่อเล่นว่า Rat หรือ Mouse เหตุผลก้อคือตอนแกแข่งรถF1เสร็จ แกบอกว่าหนูมันชอบสร้างอนาจักรที่ใหญ่ ฉลาด ตายยาก เป็น role model ของแกเลยก้อว่าได้ เลยกลายเป็นชื่อที่คนแซวแก เกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 1949 อายุอานามเท่าไหร่บวกลบเองนะครับ กรุงเวียนนา ออสเตรีย ตระกูลร่ำรวยของ Juan Lauda Crespo เขาตัดสินใจเข้าวงการแข่งรถ ทั้งๆที่ครอบครัวเขาไม่เห็นด้วย ห้ามก้อไม่เป็นผล เริ่มเข้าวงการกับรถมินิคันแรกก่อนเปลี่ยนไปเป็น Formula Vee หลังจากนั้นก้อย้ายมาขับ Porsche ชิวๆ
สมัยแข่งรถแรกๆครับ
ลุงหนูกับการแข่งขัน F1
ปี 1979 แข่งไปแข่งมา หันมาสนใจ ธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำซะเลย หรือ air taxi (ไม่ใช่แอร์ในรถแท็กซี่นะครับ) โดยใช้เครื่อง Fokker F27 ตอนนั้นเป็นแชมป์สมัยที่สองอยู่ (สมัยแรกปี 1975 สมัยที่ 2 ปี 1977 ครับ)
Fokker F27 สมัยคุณลุงหนู
ไปๆมาๆช่วงนั้นเองหลังจากชิงแชมป์อีกในเป็น 3 สมัย เริ่มวางมือจากวงการนักแข่ง อาจจะสงสัยกันนะครับว่าทำไมถึงวางมือทั้งๆที่เป็นแชมป์ตั้ง 3 สมัย คำตอบสั้นๆคือ"หมดแรงบัลดาลใจ" ต่อจากนั้นหันมาจริงๆจังๆกับธุรกิจการบินที่แกทำอยู่ เริ่มขยายกิจการ โดยในปี 1985 ได้เปลี่ยนรุ่นจาก Fokker F27 เป็นBAC 1-11/500 (1-11อ่าน one eleven นะครับ ) รุ่นแรกคือ BAC1-11ต่อมาเติม 500 ข้างหลังคือรุ่นที่อัพขึ้นมาให้มีที่นั่งมากขึ้น ตัวใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อน ปกติรุ่นนี้จะเรียกๆกันว่า super one-eleven
BAC 1-11/500
เครื่องเช่าเหมาลำจะจอดคอยให้ลูกค้ามาเช่า จะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีทัวร์ แกเลยลง หุ้นส่วนเป็นเครื่องบินกับบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ Basile Varvaressos และ ITAS ไปๆมาๆกิจการขายดิบขายดี ปี 1985 เสริมเครื่องบิน Boeing 737/200 ลำนึง รุ่น300 และ 400 อย่างละ2ลำ ขึ้นมา โดยมีบริษัท ITAS จัดการให้ เพิ่มเส้นทางเช่าเหมาลำ สู่เกาะ คานารี่ (Canary Island)ประเทศสเปน และเที่ยวบินระยะไกลขึ้น ซึ่งตอนนั้นมีแพคเกจท่องเที่ยวกรีซอยู่ จึงบินเหมาลำเส้นนั้นอีก
ลุงหนูเห็นว่าจะมาเหมาลำตลอดคงไม่ดีแน่ เพราะลูกค้าเพิ่มเอาๆแบบนี้ เลยเห็นช่องทางก้าวหน้าขึ้นมา ตอนนั้น 1986 รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินอยู่ เลยทำการขอใบอนุญาตและสัมปทาน เส้นทางบินต่างๆสั้นๆ โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงการขนส่งแห่งออสเตรีย ต่อมาในปี 1987 Top Viennese restaurateur Attila Dogudan (DO&CO) ภัตคารเล็งเห็นช่องทาง เลยขอร่วมวงด้วย ทำในการจัดการบริหารอาหารเครื่องดื่มในสายการบินของเขา นอกจากนั้นยังมี ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, เกาหลี, ไต้หวัน, แถบอเมริกาใต้ และอเมริกากลางบางประเทศ เดือนพฤษภาคม ปี1988 เลาดาแอร์สนใจบินเส้นเอเซียเอามากๆ วิ่งสัมประทานจนเปิดเส้นกรุงเทพฯ-ฮ่องกง-ซิดนีย์ โดยใช้ Boeing 767 - 300ER แต่เว้นสายสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นให้ Austrian Airlines บ้าง เดี๋ยวจะเขม่นกัน ท่ามกลางการดูถูกดูแคลนของสายการบินยักษ์ใหญ่ว่าเลาด้าห์ขยายตัวมากเกินไป อยู่แบบนี้ไม่นานก้อเจ๊ง แต่แล้วไปๆมาๆด้วยชั้นเชิงทางการตลาดของลุงหนู เลาด้า ทำให้สายการบินเลาด้ากลายเป็นสายการบินประจำชาติ เครื่อง 767-300 ER อาจจะสงสัย ER คืออะไร? ER คือ Extended range ครับ ถังน้ำมันใหญ่ลำตัวกว้างขึ้นเพื่อใช้บินระยะไกลได้ (ลำละประมาณ 144.5–161.5 ล้าน$ นะครับ) ด้วยสโลแกนว่า "The Austrian Way to holidays"
23 สิงหาคม ปี1990 หลังจากได้รับใบอนุญาต ลาดาแอร์ได้กำหนดให้สัมปทานเส้นทางการบินแบบ world-wide
เดือนกันยายน ปี 1990 ยังมีสายการบินแตกไลน์ออกไปอีก นั่นคือ Lauda Air Italy แต่กระนั้นยังไม่พร้อมเท่าไหร่ เลยเริ่มดำเนินการจริงๆในปี 1993 โดยร่วมทุนระหว่างบริษัท Volante กับลุงหนู Niki Lauda แต่แล้ววันที่ 31 มีนาคม 2003 Gruppo Ventaglio เข้าซื้อหุ้น Volante เลยรวมเลาดาแอร์อิตาลี ไว้กับ Livingston ภายใต้ บริษัทแม่ Livingston Aviation Group Livingston แห่งอิตาลี Francesco Giuilani เป็น CEO คนปัจจุบัน ใช้เครื่อง Airbus A330-200 บินแถบแคริเบียน อเมริกาใต้, แอฟริกา, มัลดีฟ และ ประเทศไทย มีฮับอยู่ที่มิลาน ประเทศอิตาลี สโลแกนของเขาคือ"Pozzo Della Mosca" แปลว่้าบินดีอยู่ดี
boeing - 767-300 ของ Lauda Air Italy ก่อนจะขายหุ้น
กลับมา เลาด้าแอร์ ตอนนี้ขยายเส้นทางเรื่อยมา ปัจจุบันบินหลักๆ(ไม่นับที่แวะ)อยู่ 8 ประเทศได้แก่ ออสเตรีย อียิปต์ ไอซแลนด์ ดูไบ อิตาลี่ ปอร์ตุเกส สเปน ตุรกี โดยฮับจะอยู่สนามบินเวียนนา
ปัจจุบันมีเครื่องใหม่ๆอย่างโบอิ้ง B737 - 800 ให้บริการ โดย Fleet มีทั้งหมด 7ลำ 184 ที่นั่ง ชื่อเครื่องบินแกตั้งเป็นศิลปินทั้งนั้น Falco,Freddie,Mercury,George,Harrison, Peck,Gregory,Frank,Zappa และ Miles Davis
ลุงหนูมักจะใส่หมวกแดง"oerlikon" เป็นหนูน้อยหมวกแดง
ลุงหนูกับเครื่องแกล่ะ
มาเข้าเรื่องโศกกันบ้าง เหตุการณ์สูญเสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในประเทศไทย เห็นจะไม่พ้นกรณีของเลาด้าห์แอร์ Flight 004 ของวันที่ 26 พฤษภาคม 1991
Lauda Air รุ่นราวคราวเดียวกัน
เครื่องโบอิ้ง 767-300ER ชื่อ "Wolfgang Amadeus Mozart" หรือ โวล์ฟกัง อามาเดอุส โมซาร์ท ชื่อเสียงเรียงนามนี่ไม่ใช่อื่นไกล คือนักประพันธ์ ดนตรีคลาสสิกชาวออสเตรีย เมื่อปี ค.ศ. 1756 - 1791 ประพันธ์เพลงกว่า 700 บทเพลงจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกครับ ทีนี้ทางเลาด้าแอร์ได้รับมอบเครื่องบินลำนี้เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ปี 1989 เป็นที่เรียบร้อยครับ โดยใช้เครื่อง Pratt and Whitney 4060 เครื่องที่1(ซ๊าย) serial number P724134 เครื่องที่ 2 ขวา serial number P724130 ชั่วโมงการใช้งานทั้งหมด 7,444 ชั่วโมงนิดๆ
กัปตันคือThomas John Welch วัย 48ปี เป็นมะริกันชน ประสบการณ์การบินเพียบพร้อม ได้ใบอนุญาตนักบินพานิชย์ ตามองค์กรการบินสหรัฐฯ (FAA) ประสบการณ์11,750 ชั่วโมง นักบินผู้ช่วย Josef Thumer วัย 41 ปี ชาวออสเตรีย ได้ใบอนุญาตจาก กรมการ ขนส่งทางอากาศของประเทศออสเตรีย ประสบการณ์ 6,500 ชั่วโมงบิน
เลาด้าแอร์ Flight 004 ออกจากสนามบินไคตั๊กที่ฮ่องกง จุดหมายแท้ๆคือกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย แต่ต้องแวะที่สนามบินดอนเมือง ประเทศไทย เพื่อรับส่งผู้โดยสารเปลี่ยนถ่ายสินค้า เช็คเครื่อง เติมน้ำมัน ตามปกติของเที่ยวบินนี้
วันที่ 26 พฤษภาคม ปี 1991(หรือ พ.ศ. 2534)ที่สนามบินดอนเมือง
เวลา 22.45 น เครื่องออกจากเกทดอนเมือง เพื่อตั้งลำที่ RIW 21L กระแสลม 250/06 kts ทัศนวิสัยดี มีแสงจันทร์นวลผ่อง อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส เมฆประปราย
เวลา 23.02 น. นักบินขอนุญาตหอควบคุมการบินเพื่อนำเครื่องขึ้น ซึ่งก้อได้การอนุญาตให้บินขึ้นได้
เวลา 23.05 น. เครื่องอยู่ที่ความสูง 4,500 ฟิต และกำลังไต่ไปที่ระดับ 11000 ฟิต กัปตันติดต่อ bangkok Control ที่ความถี่ 128.1 ทางหอควบคุมการบินได้อนุญาตให้บินที่ระดับ 31000 ฟิต และรักษาระดับไว้ บินตรงไปที่จุดติดต่อ Limla (คือจุดที่อยู่ระหว่างน่านฟ้าไทยกับพม่า)
เวลา 23:06 น. เครื่องไต่มาที่ความสูง 13,000 ฟิต นักบินผู้ช่วย ติดต่อ LAUDA AIR ที่กรุงเทพ เพื่อรายงานว่าบินออกจากกรุงเทพ คาดว่าจะถึงเวียนนา ทางเลาด้าแอร์รับทราบ
เวลา 23:07 น. กัปตันสังเกตเห็นว่า EICAS (จอแสดงผลการบินและแจ้งเตือนสภาพของเครื่อง) แสดงข้อความเตือน L REV ISLN VAL ตลอด มันเป็นการบ่งบอกว่ามี reverse thrust เครื่องยนต์ซ้าย กำลังทำงาน
EICAS อันนี้จากเครื่องฝึกภาคพื้น
เวลา 23:08 น. ไต่ระดับเพิ่ม 1,030 ฟิต สัญญาณยังคงเตือนอยู่
เวลา 23:10 น. กัปตันให้นักบินผู้ช่วยเปิดสมุดคู่มือ(quick reference handbook) และถามนักบินผู้ช่วยว่าคู่มือมันบอกว่าเป็นอะไร นักบินผู้ช่วยกล่าวถึงสาเหตุอาจจะเป็นเพราะ thrust reverser doploy พลางให้กัปตันลองอ่านดู
เวลา 23:11 น. กัปตันพยายามหาสาเหตุ ขณะนั้นนักบินผู้ช่วย ปรึษากัปตันเพื่อให้ถามช่างภาคพื้นดีกว่าไหม
เวลา 23:12 น.กัปตันคิดว่าคงเป็นข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆจากความชื้นของอากาศ นักบินผู้ช่วยปรับแก้ rudder ตอนนี้ thrust reverser ค่อยๆเริ่มทำงาน เพราะเริ่มบินเอียงๆไม่ตรงทาง(ก้อ thrust reverser เริ่มทำงานนั่นเอง) เวลา 23:13 น. คาดว่ากัปตันคงหาสาเหตุอีกรอบ บ่นพึมพำ
เวลา 23:14-16 น. thrust reverser ทำงานจน fully deploy ช่วงนี้ถ้ากัปตันสามารถดับเครื่องที่มีปัญหาได้ จะสามารถแก้ปัญหาได้ แต่สำคัญคือไม่รู้น่ะซิ่ครับ
เวลา 23:17 น. นักบินผู้ช่วยบอกว่า "reverser’s deploy ! " สิ้นเสียงเท่านั้น สัญยาณเตือน พร้อมกับเสียงสั่นของ airframe และเสียงฉีกขาดของหาง เครื่องลดระดับ เอียงขึ้น เครื่องค่อยๆตก ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
หลังจากเครื่องหายไปจากจอเรด้าห์ ขาดการติดต่อกับทางหอควบคุมการบินที่ดอนเมือง ทั้ง bangkok control , bangkok departure และเครื่องบินที่กำลังบินใกล้เคียง ช่วยกันเรียกเลาด้าแอร์เป็นการใหญ่ แต่แล้วก้อไร้วี่แววตอบกลับ จึงได้จัดชุดค้นหาขึ้นยังบริเวณที่คาดว่าเครื่องบินหายสาบสูญ แต่ได้รับรายงานจากตำรวจในท้องที่เกิดเหตุว่ามีชาวบ้านเห็นลูกไฟขนาดใหญ่ประทุกลางท้องฟ้า แล้วแตกกระจายเหมือนพลุค่อยๆวับๆหายไป ยิ่งทราบแน่ชัดว่าเครื่องบินได้ตกไปซะแล้ว
เป็นความร่วมมือทั้งเจ้าหน้าที่ไทยเจ้าของพื้นที่ กรมการขนส่งทางอากาศออสเตรีย เจ้าของสัญชาติเครื่องบิน และบริษัทโบอิ้ง อเมริกาผู้ผลิตเครื่องบิน ช่วยกันออกค้นหาและพิสูจน์ทราบ อุปสรรคนอกจากที่เป็นป่ารกชันแล้ว ซากและศพยังกระจายไปยังที่ต่างๆอีกด้วย โดยศพผู้เสียชีวิตสามารถพิสูจน์ทราบเพียง 72 ศพเท่านั้น นอกนั้นหาย หรือไม่สามารถพิสูจน์ได้ จากทั้งสิ้น 223 ศพ นั่นคือไม่มีผู้รอดชีวิตจากเที่ยวบินนี้ มีคนไทยเสียชีวิตอยู่ด้วย โดยมีบุคคลมีชื่อเสียงนั่นก้อคือ ดร. ไพรัตน์ เดชะรินทร์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ดำรงตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ.2527-2530 ต่อมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ.2530 และ ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้จนเสียชีวิต
นอกจากข่าวจะดังไปทั่วโลกแล้ว ข่าวคนไปทึ้งขโมย เอาข้าวของจากเครื่องบินตกในครั้งนั้นก้อดัง(แบบเลวๆ)ไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต่างประเทศมองคนไทยในแง่ลบในสมัยนั้น โดยเฉพาะกลุ่มยุโรป (ผมล่ะงงจริงๆสมัยนั้นทึ้งของจากศพผู้โดยสาร แล้วมาอวดกันอีกใครได้ของดี)
ลุงหนูรีบบินจากออสเตรียมาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ภาพนี้ลุงแกมองด้วยความหดหู่ใจ พลางบอกแก่ผู้สื่อข่าวว่า "Ich meine, die Verantwortung, eine Airline zu führen, und dann stürzt ein Flugzeug in Bangkok ab, das war sicher das Fürchterlichste, was ich erleben musste, durchmanagen musste, korrigieren musste"
"มันเป็นความรับผิดชอบของผมต่อสายการบิน ที่มาจากกรุงเทพไปประสบเหตุซะก่อน มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่ผมต้องจัดการให้เรียบร้อย
ความรู้สึกเขาตอนนั้นเสียใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าญาติผู้เสียชีวิต เครื่องบินของเขาทำไมต้องพาคนไปตายนับร้อยๆชีวิตด้วย
ชิ้นส่วน carbin
เนื่องจากระเบิดก่อนถึงพื้น กระแทกลงพื้นอีกที ชิ้นส่วนโดยมากจะละเอียดครับ
จุดที่พบซากเครื่องต่างๆกระจายกันไป
1 section 41 2 Left Engine( No1) 3 Inboard Right Wing 4 Right Engine( No2) 5 APU 6 Burned core cowl 7 Outboard left wing 8 Section 43 belly 9 Horizontal Stabilizer Jackscrew 10 Left Horizontal Stabilizer nad center section 11 Right main gear beam and side strut 12 Right Horizontal Stabilizer 13 Outboard Right Wing 14 Left Wing Inboard Flaps 15 Vertical Stabilizer 16 Burned Core Cowl 17 Burned mid-carbin entry door 18 section 47 19 inboard left wing & center sectin,left main door
ศพผู้เสียชีวิตจะทำการเก็บไว้รอญาติมายืนยัน
ประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิต เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างไว
ปัจจุบันได้ทำการสร้างศาลและทำสุสานเอาไว้ใกล้กับที่เกิดเหต เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ (จริงๆซากเครื่องน่าจะเอามาไว้ในร่ม เขียนคำอธิบาย เป็นพิพิธภัณฑ์ ให้ได้ศึกษารายละเอียดเหตุการณ์ในตอนนั้นกันไปเลย ไม่อยากให้ ซากมันกองให้ผุพังตามกาลเวลา)
ขอแสดงความเีสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยครับ
เล่าเรื่องลึกลับมั่งดีกว่า ไม่ต้องเชื่อก้อได้ครับ ถือว่าอ่านสนุกๆ เหตุการ์เครื่องบินตกเหมือนจะจางหางไป 5 ปี ต่อมา ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มาก มีเด็กผู้ชายวัย4-5ขวบ มีพฤติกรรมแปลกๆ เด็กที่เห็นแต่ทุ่งแต่ไร่ แต่กลับมโนภาพวาดต้นคลิสมาสต์ได้ มีหิมะขาวๆ แถมระบายสีสวยงาม วาดบ้านทรงยุโรปและบอกว่านี่คือบ้านของเขา เขาอยากกลับบ้าน ที่งงๆคือเด็กแกภาษาอังกฤษเป็นคำสั้นๆได้ทั้งๆที่พ่อแม่จบป.4ไม่เคยได้สอน งงกว่านั้นคือแกบอกว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านแก เด็กมักจะบ่นเจ็บที่แขนบอกไฟๆๆๆเจ็บๆๆแต่ไม่มีรอยอะไร พ่อกับแม่ไม่ค่อยชอบพฤติกรรมนี้เท่าไหร่เพราะมันไม่ใช่วิถีชาวบ้านอย่างพวกเขา จึงเที่ยวไปหาพระรดน้ำมนต์มั่ง ทำพิธีต่างๆ เป็นแบบนี้ได้สองสามปีแกก้อค่อยๆลืม
ตอนที่2 สาเหตุและบทสรุป อ้างอิง จิปาถะ
Create Date : 20 สิงหาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 17:27:29 น. |
Counter : 16735 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ