Bloggang.com : Mickeytae - Hokkaido (2014) Day 6 : Sapporo

Hokkaido (2014) Day 6 : Sapporo

28 January 2014

Sapporo, Japan

พาชมบรรยากาศนอกโรงแรม

โฉมหน้าโรงแรมเครือ toyoko inn ที่มีสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น เป็นโรงแรมราคาย่อมเยา มักมีที่ตั้งใกล้สถานีรถไฟหลักๆ คนไทยชอบไปพัก

แต่ไปคราวนี้ไม่เจอคนไทยนะ

ทางลงสถานีรถไฟใต้ดิน Sapporo เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์อิฐแดงจากตะวันตก

เดินเรื่อยมาจนถึงสถานีรถไฟ JR Sapporo หาซื้อของกินเพิ่มเติม ก่อนที่วันนี้จะเที่ยวยาว

ทางขึ้น JR Tower ที่คืนนี้เราจะไปเที่ยวกัน

Pocket Wifi ใช้ดีมากๆ Internet ระบบ LTE (หรือที่คนไทยเรียกกันว่า 4G)

อินเตอร์เน็ตระดับความเร็วแสง จำราคาไม่ได้

รายละเอียดไป search หาเอาในเน็ตนะ ข้อมูลเยอะมาก

วันนี้เดินทางโดยใช้ตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินแบบตั๋ววันราคา 800 เยน วันนี้เราจะเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเป็นหลัก

มี Baskin robbin ด้วย

รถไฟฟ้าใต้ดินของ Sapporo มีทั้งหมด 3 สาย คือ Tozai สายสีส้ม, Nanboku สายสีเขียว และ Toho Line สายสีฟ้า

ซื้อตั๋วกันก่อนที่เครื่องขายตั๋ว

โฉมหน้าของตั๋ววัน ราคา 800 เยน

เข้า Ticket gate และก็รอรถไฟมา

บรรยากาศในรถไฟฟ้าใต้ดิน

1.Nijo Market (二条市場)

อ่านว่า นิโจ อิจิบะ

เป็นตลาดปลาเก่าแก่กลางเมือง Sapporo ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1903

ร้านค้าเปิดเวลา 7.00 น. ปิดประมาณ 18.00 น.

มีของสด ของแห้งจำหน่ายมากมาย อาหารทะเลต่างๆ

ปูยักษ์แบบสุกแล้ว

มีทั้งร้านค้าสไตล์ตลาดและแบบคล้ายๆซุเปอร์มาร์เก็ต และก็ร้านที่แบบมีที่ซื้อแล้วเข้าไปนั่งกินข้างใน

นอกจากของสดแล้ว ของแห้งก็ยังมี

หอยเชลล์อบแห้ง

ปูยักษ์สดๆ

ปลาสด ราคาไม่เบา แต่การันตีคุณภาพ

ของทะเลอื่นๆ เช่น ไข่ปลาแซลมอน หอยเชลล์ ไข่หอยเม่น ปลาหมึก

ไข่ปลาเป็นกระปุกเลย ใครชอบกินคงฟินน่าดู (กระผมกินไม่เป็น)

ปลาหมึก

ไข่หอยเม่น แดกให้ขึ้นสมองกันไปเลย

หอยเชลล์แสนหอมหวาน

ปลาเกือบแห้ง ?

มันปูกระป๋อง

คิทแคทรสเมล่อนก็มีขายนะเออ

แม้แต่ข้าวโพดยังน่ารัก

เดินรอบๆตลาด กินปูยักษ์ Taraba กิโลละ 8000 เยน ปูผู้โชคดีที่ถูกเลือก หนัก 2 โลกว่าๆ ต่อราคาเหลือ 15,500 เยน เลือกปูเสร็จก็เอาไปนึ่งต่อ สั่งข้าวเพิ่ม 200 เยน

หลังจากเลือกปูแล้วคนขายก็เอาไปนึ่งให้

มีคนไทยมาสร้างวีรกรรมไว้ที่นี่ด้วย

ค่าเสียหายสำหรับวันนี้ สามคนกินรวมกัน

กินเสร็จก็ออกเดินทางต่อ ที่หมายต่อไปคือ Sapporo Clock Tower

ระหว่างทางก็เดินผ่าน Sapporo TV Tower หอคอยส่งสัญญาณทีวีและเป็นจุดชมวิว

แม้แต่โค้กยังเป็นลายของ Snow festival

คนไทยเยอะจนถึงขนาดมีป้ายภาษาไทย

Odori Park กำลังก่อสร้างเตรียมงานเทศกาลหิมะอยู่ ตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จ

2.Sapporo Clock Tower (時計台, Tokeidai)

กินเสร็จออกไป Clock Tower ข้างในเป็น Museum ค่าเข้า 200 เยน

Landmark ที่สำคัญของเมืองซับโปโร

อาคารเก่าแก่อีกที่หนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1878 เคยใช้เป็นหอประชุมของวิทยาลัยเกษตรกรรมของซับโปโร ปัจจุบันสังกัด Hokkaido Univerity

ก่อตั้งโดย Professor William S. Clark และคณาจารย์จาก Massachusetts

ตัวนาฬิกาสั่งซื้อมาจากเมืองบอสตัน

เป็นที่ที่คนญี่ปุ่นถือว่าเป็น The must ถ้าใครมาไม่ถึง Clock Tower ถือว่ามาไม่ถึงซับโปโร (ขนาดนั้น !!)

ที่นี่เป็น Museum แสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับหอนาฬิกา

ลิฟท์สำหรับคนพิการ

3. Former Hokkaido Office (北海道府旧本府舎)

หลังจากนั้นไปต่อที่ Former Hokkaido Office ค่าเข้าฟรี

อาคารก่อด้วยอิฐสีแดงตามแบบตะวันตก

อดีตที่ทำการประจำจังหวัดฮอกไกโด

ข้างในมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง Sapporo ประวัติศาสตร์ความเป็นมา ห้องเก็บจดหมายเหตุ

ความขัดแย้งกับรัสเซียเรื่องหมู่เกาะ Sakhalin อาณาเขตพื้นที่ทางทะเล

โต๊ะกินข้าว

โต๊ะทำงานของผู้ว่า

4.Ainu Association of Hokkaido

หลังจากนั้นไป Ainu Museum ต่อ เดินหายากมากกว่าจะเจอ

อยู่ตรงข้าม Hokkaido University Botanical Garden

ตั้งอยู่บนชั้น 7 อาคาร Kaderu 2.7

มาถึงแล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 7

Ainu(อ่านว่า "ไอนุ" ไม่ใช่ "อินุ" ที่แปลว่าหมานะเว้ย)

เป็นชนพื้นเมืองของเกาะ Hokkaido ปัจจุบันใกล้สูญพันธุ์แล้ว

ที่นี่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชนเผ่า เสื้อผ้า สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ

แผนที่ถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวเผ่าไอนุ

5.Hokkaido University

ตั้งใจจะไปหารูปปั้น Professor William S. Clark

เจ้าของคำพูด " Boys, be ambitious!"

แต่อากาศหนาวมาก หิมะตก หาไม่เจอ ได้แค่เดินโฉบๆ

6.Hokkaido Beer Hall

นั่ง Subway ไป Beer Hall

เลือกกินซักร้านนะ

เมนูแนะนำที่นี่ หนังสือเล่มไหนก็เขียน ก็คือ เจงกิสข่าน เป็นเนื้อย่างที่เป็นเนื้อแกะ

Genghis Khan Family Set อิ่มมาก

ที่สำคัญ มา Beer Hall ถ้าไม่กินเบียร์ก็คงกระไรอยู่ คราวนี้จัดเบียร์ขนาดยักษ์ 1L ไปแก้วนึง ราคา 1050 เยน

เป็นที่แรกที่มีเบียร์ขนาด 1L นอกจากที่เยอรมัน

ขนาดประเทศ Czech Republic กินเบียร์โหดกว่าเยอรมัน ไม่ค่อยขายเบียร์แก้วไซส์ 1L เลย มากสุดก็แค่ 500 mL

กินเสร็จตบท้ายด้วยไอศครีม

แวะซื้อของฝากก่อนกลับบ้าน

กินเสร็จแม่หมดแรง เดินไม่ไหว เลยโบก Taxi กลับ Toyoko Inn

แวะกินช็อกโกแล็ต Royce ที่ซื้อมา เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วสองครั้งแต่ไม่เห็นเคยรู้เลยว่าเค้านิยมช็อกโกแล็ต Royce เลย เยินมะ

7.JR Tower

หลังจากส่งแม่กับน้องเข้านอนแล้ว ได้เวลาที่หนุ่มโฉดออกเดินเที่ยวคนเดียว

เป็นตึกสูง 38 ชั้น เข้าทางสถานีรถไฟ JR Sapporo

เดินหาสถานที่ที่เขียนว่า Stellar Place

แล้วเราก็จะเห็นป้ายตัวโตๆว่า T38

แค่ T25 ก็เหนื่อยจนลิ้นห้อยละ นี่มาเจอ T38 ซะ อายคนญี่ปุ่นไหมล่ะ Shaun T. !!

ไม่ใช่ละ คนละ T ละ นั่นมันโปรแกรมออกกำลังกาย

T38 คือตึก JR Tower ชั้น 38 ที่เป็นสถานที่ชมวิวบนตึกระฟ้า

ซื้อตั๋วราคา 700 เยน ตรงเคาน์เตอร์ขายตั๋วมีจอให้ดูสภาพอากาศข้างบนก่อนตัดสินใจซื้อตั๋ว แฟร์ดี

กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 38

ชมวิวรอบๆ

ตึกระฟ้า บรรยากาศโรแมนติก

ทุกคนมาเป็นคู่ๆ เรามาคนเดียว ถ่ายรูปวิวรอบๆให้คนที่เราอยากพามาด้วย ส่ง LINE ให้ดู

ซึ่งตอนนี้ คนๆนั้นเค้าบอกเลิกเราไปแล้ว

แต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็ยังจะจีบเขาอยู่ดี

ชิงช้าสวรรค์ Noria Ferris Wheel ไม่ได้ขึ้นหรอกนะ แอบมองอยู่ต่างๆ