Paris (2016) Day 3 : Versailles, Musée du Louvre
Paris, France

8 June 2016



เริ่มต้นจาก ตอบคำถามผู้ชมทางบ้าน

How to survive in Paris

วิธีพกเงินสดและพาสปอร์ตติดตัวโดยไม่ถูกขโมย

เราใช้วิธีแยกเงินเก็บดังนี้





อันบนสุด เป็นกระเป๋าแบบห้อยคอ เก็บเงินส่วนใหญ่ พาสปอร์ต และเอกสารอื่นๆที่สำคัญไว้ในนี้ ซ่อนไว้ใต้เสื้อตลอดการเดินทาง ไม่เอาออกมาถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

มันจะดูตุงๆเหมือนพุงหมี แต่มันปลอดภัยมากจริงๆนะ อันนี้ไม่สามารถโดนล้วงได้แน่นอน

หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ท่องเที่ยวทั่วไปหรือจะใช้กระเป๋ากันน้ำห้อยคอที่ใส่ตอนเล่นสงกรานต์ก็ได้

ซ้ายล่าง กระเป๋าตังที่เอาไว้ใส่กระเป๋ากางเกงข้างขวา ใส่เงินไว้ไม่เกินวันละ 50 ยูโร

ขวาล่าง กระเป๋าใส่เหรียญ ส่วนใหญ่จะมีแต่เศษเหรียญเซนต์ มากสุดก็เหรียญ 1,2 ยูโร แต่ส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปตอนซื้อเสบียง ขนม น้ำดื่ม ระหว่างทาง ไม่ค่อยจะมีเงินในกระเป๋านี้มากหรอก อันนี้จะเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายข้าง (ดูเสี่ยงนะ แต่ไม่มีที่เก็บ และมูลค่าของในกระเป๋านี้ก็ไม่ได้มากถ้าเทียบกับอันอื่น)

ส่วนโทรศัพท์มือถือ ไว้กระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างซ้าย ต้องไว้ในนี้เพราะเอามาเปิด google map กับ google translate บ่อยๆ

การเอาโทรศัพท์มือถือออกมาใช้ ต้องดูบริบทสภาพแวดล้อมดีๆ ถ้าสมมุติเดินในสถานีรถไฟ คนเยอะๆชุลมุนพลุกพล่าน ก็อย่าหยิบขึ้นมา

แต่ถ้าอยู่ใน Metro รถกำลังวิ่ง คนไม่แน่นมาก แล้วเราได้นั่ง อาจจะเอามือถือขึ้นมาบ้างได้ หรือเช่นในร้านอาหาร

แต่ห้ามเอามาวางไว้บนโต๊ะเฉยๆนะ เพราะถ้าเราเผลอโจรมันจะฉกไปได้

ขึ้นอยู่กับการสังเกตการณ์สภาพแวดล้อมรอบตัว ใช้ความรู้สึกล้วนๆ ถ้ารู้สึกว่ารอบตัวอันตรายก็อย่าหยิบของมีค่าขึ้นมา

ผู้หญิงอาจจะ sense ความอันตรายได้ดีกว่าผู้ชายซะอีก มั้ง ?? 55+

มีสติตลอดเวลา

ใช้ความระมัดระวัง (ไม่ใช่ระแวง !!!)

เอาล่ะ มาต่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว

วันนี้เราจะไปเที่ยวพระราชวังแวร์ซาย (Versailles)

เอาล่ะ ตรงนี้มีสิ่งที่ผิดแผน

อ่านในหนังสือ กับเว็บท่องเที่ยว เค้าแนะนำให้ขึ้นรถไฟ RER สาย C5 ไปลงที่สถานี Versailles Rive Gauche

ก็เลยขึ้น Metro ไปลง Invalides ปรากฎว่าทางเข้าสถานีปิด ก็คิดว่าสถานีนี้อาจปิดซ่อมก็ได้มั้ง

ก็เลยขึ้น Metro ไปต่อที่ Champs de Mars Tour Eiffel ปรากฎว่าก็ปิดอีก !!

ลองหาใน google ปรากฎว่า RER C ตอนนี้ปิดไม่มีกำหนดจ้า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม เพราะเนื่องจาก RER C ส่วนที่อยู่ในปารีสมันวิ่งเลียบแม่น้ำ (แต่ตอนนี้น้ำมันก็ไม่ท่วมแล้วนี่นาทำไมยังไม่เปิดก็ไม่รู้)

เลยต้องเปลี่ยนแผน ขึ้น Metro ไปลงสถานี Gare Montparnasse แล้วไปขึ้นรถไฟ Transilien สาย N ไปเพื่อลงที่สถานี Versailles Chantiers

สถานีปลายทางที่เดินไปแวร์ซาย ที่นี่จะเดินไกลกว่านิดนึง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ไปน่ะ





ใช้บัตร Navigo Découverte ได้ เพราะเป็นขนส่งระบบเดียวกัน

แตะบัตรผ่านเข้าไปเลย





ระหว่างรอรถไฟ ชานชาลาใกล้ๆกันมีรถไฟหัวกระสุน TGV จอดอยู่ หล่อมากๆ อยากขึ้นสักครั้งในชีวิต แต่คงไม่ใช่รอบนี้





รถไฟมาแล้ว





ถึงแล้ว





แวะเติมเสบียงก่อน อันขวาอร่อยมากๆๆๆ





ร้านขายชีส !! เยอะจัง แต่กินไม่เป็น เลือกไม่ถูก





ถึงแล้วพระราชวังแวร์ซาย มีอนุสาวรีย์พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ตั้งอยู่ด้านหน้า







ใช้ Paris Museum Pass เข้าได้ ก่อนเข้ามีการสแกนกระเป๋าเหมือนก่อนเข้าสนามบิน

ข้างในหรูหราอลังการมาก








ความหรูหราภายใต้ความพังพินาศของเศรษฐกิจสมัยนั้น

ห้องกระจก The Hall of Mirrors เป็นห้องที่ลงนามการยอมแพ้ของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1

โดยสนธิสัญญาฉบับที่ว่านี้คือ สนธิสัญญาแวร์ซาย (Treaty of Versailles)

นอกจากเป็นสนธิสัญญาการจำนนของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว ยังรวมถึงการจำกัดอาวุธ กองกำลัง และการชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามแก่ประเทศคู่สงครามอีกด้วย





ประชาชนอดอยาก ไม่มีอันจะกิน





สวนหลังบ้านของพระเจ้าหลุยส์





แวะพักเติมพลัง







เดินต่อไปข้างหลังพระราชวัง Grand Trianon

เป็นที่ประทับของพระนาง Marie Antoinette





ข้างในก็หรูหราไม่แพ้กัน





Let them eat cake









เดินต่อไปกระท่อมหลังบ้านกับฟาร์มของพระนางมารี







เป็ด ไก่





แกะไม่ยอมมองกล้อง





ได้เวลากลับ เดินกลับมาสถานี Versailles Chantiers





มีรถไฟที่กำลังจะไป La Defense กำลังจะออก ขึ้นขบวนนี้ไปละกัน

ถึง La Defense แล้ว มีร้านขายยา(และเครื่องสำอาง) Pharmacie ใหญ่มาก

ไปซื้อเครื่องสำอางให้น้อง และก็ซื้อของมาลองใช้เองด้วย เจลอาบน้ำ กับ เจลล้างหน้า

ของในร้านดูน่าซื้อมากๆเลย ราคาก็ไม่ได้แพงเวอร์ขนาดนั้น (ในความรู้สึกนะ)





ไปต่อที่พิพิธภัณฑ์ลูฟ

ขึ้น Metro ไปลงสถานี Palais Royale Musée du Louvre







ใครมาเสกปิระมิดให้หายไป





เปล่าหรอก มันคือ event พิเศษ ตกแต่งปิระมิดให้กลืนไปกับพระราชวังข้างหลัง โดย Street Artist JR

ปิระมิดจะหายตัวจนถึงวันที่ 27 มิ.ย.นี้ แล้วก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม





ปิระมิดไม่ได้หายไปไหน

หลังจากเดินเล่นข้างนอกเสร็จ ก็ได้เวลาเข้าไปข้างใน ผ่านด่าน security สแกนกระเป๋าให้เรียบร้อย





ใต้ปิระมิด





เข้าไปดูโมนาลิซ่า รูปภาพโมนาลิซ่าอยู่โซน Denon





นี่คือภาพที่ทุกคนใฝ่ฝันว่าต้องมาเห็นให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต





เดินดูภาพวาดอื่นๆ สวยๆทั้งนั้นเลย

เสร็จแล้วก็กลับ

แวะซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ต

เบียร์ที่นี่ราคาถูกมาก





ปิดท้ายด้วยมักกะโรนี Meat Ball

ภาพหน้ากล่อง กับอาหารข้างใน เหมือนกันเลย





ไม่เหมือนบางประเทศที่ภาพหน้ากล่องอาหารดูดี๊ดูดี แต่อาหารข้างในกลวงมาก เอาเปรียบผู้บริโภคสุดๆ



Create Date : 13 มิถุนายน 2559
Last Update : 17 มิถุนายน 2560 19:08:54 น.
Counter : 2081 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Mickeytae
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



มิถุนายน 2559

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30