เอะอะอะไรก็พยาธิ by-หมอแมว-


เดี๋ยวนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่ข่าวหนังสือพิมพ์ลงข่าวแปลกๆเกี่ยวกับสัตว์ที่ไปอยู่ผิดที่ผิดทางในลักษณะที่ว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาด
เช่น
หนอนไปอยู่ในจมูก.... แล้วบอกว่าเป็นรายแรกในประเทศ....ซึ่งจริงๆเจอกันมา40-50ปีแล้ว (และอาจจะมีเจอมาก่อนนั้นแต่ไม่ได้บันทึกไว้)
หนอนไปอยู่ในสะดือ.... เรื่องนี้สิแปลก เด็กอยู่ในตู้อบแล้วดันมีหนอนขึ้น
พยาธิมรณะค้นพบใหม่ กินเนื้อหมูไม่สุกแล้วถึงตาย เฮ้อ เค้าเจอมาเป็นสิบๆปีแล้ว แต่หนังสือพิมพ์บางฉบับก็แปลก ลงข่าวมาก็หลายครั้งแต่ทุกครั้งลงว่าพึ่งค้นพบ
พยาธิมรณะขึ้นสมอง นี่ก็ไม่ได้ถึงกับตาย รักษาก็หาย

บังเอิญช่วงนี้กำลังหาเรื่องมาลง แล้วมีคนมาบอกว่าน่าจะลองเอาเรื่องพยาธิมาพูดดู ก็เลยนึกสนุกลองเขียนดูครับ

พยาธิในความหมายของแพทย์ คือ Parasite ซึ่งคือสัตว์อะไรก็ได้ ที่มาอาศัยอยู่กับคนแบบเบียดเบียน
แต่ในความหมายของคนไทย พยาธิคือหนอน

ผมขอเล่าเรื่องแบบตามใจตัวเองแล้วกันนะครับ มาพูดถึงพยาธิที่ไม่ใช่หนอนก่อนกันแบบสั้นๆแล้วกัน

ปีที่แล้ว ผมตรวจเด็กคนนึงที่มีภูมิแพ้ผิวหนัง(เรื่องนี้ก็ติดไว้หลายวันแล้ว คราวหน้าจะเขียนแล้วค้าบ) เด็กเป็นผื่นเห่อขึ้นตามแขนขาโดยเฉพาะมือ และมีผื่นขึ้นตามตัว เคยได้ยาไปหลายขนานแล้วอาการไม่ดีขึ้นนัก ผื่นแดงจะยุบเฉพาะตามตัว แต่ว่าไม่ว่ายังไงก็จะเหลือผื่นที่มือเท้าและขาหนีบเสมอ
หลังจากที่บ้านได้ลองเอาผ้าปูที่นอนไปซัก ให้ยาแก้คันนานาชนิดก็ไม่หาย มาวันนั้นก็พาน้องของเด็กคนนั้นมาด้วย ซึ่งผมก็งงว่า ทำไมภูมิแพ้ถึงเป็นกันทั้งพี่ทั้งน้อง
เฉลยออกมาก็ตอนหมออาวุโสคนนึงเดินมาดูแล้วบอกว่า เด็กทั้งสองเป็นหิด! แล้วอาจารย์ก็เดินไป......ปล่อยให้งงเป็นไก่ตาแตกทั้งคนตรวจทั้งคนไข้+พ่อแม่

อีกครั้งก็เมื่อพุธที่ผ่านมาได้เข้าห้องผ่าตัดตัดก้อนเนื้อที่หัว ระหว่างตัดก็เห็นอะไรบางอย่างเดินตกลงมาในแผลผ่าตัด...... ก็เลยเอาออกมา แล้วมันก็ดุกดิกอยู่จมกองเลือด(ที่เปื้อนที่คีบ)....มันคือเหา!!
พวกหิดเหาโลนและแมลงอื่นๆเหล่านี้ เป็นแมลงที่โดยตัวมันเองไม่ได้ทำอันตรายอะไรนัก แต่เวลาโดนกัดคันแล้วเกาอาจเหลือแผลให้ติดเชื้อซ้ำได้ ทางแก้ก็ใช้ยาตามที่หมอสั่งหรือใช้ยาตามแบบชาวบ้านก็ได้ เดี๋ยวก็หายครับ
ต่างจากบางประเทศที่มีมีแมลงพวกเห็บหมัดที่นำโรคร้ายแรงเช่นกาฬโรคหรือโรคไข้ชนิดต่างๆ
นับว่าโชคดีที่ไทยไม่มีโรคติดเชื้อทางเหาหิดโลนล่ะ

กลุ่มต่อไปคือพวกพยาธิ
ขอแบ่งเป็นกรณีไม่ถึงตายกับกรณีถึงตายครับ
ไม่ใช่พยาธิพวกที่ถึงตายกับไม่ถึงตายนะครับ ไม่เหมือนกัน... เดี๋ยวมาดู

กรณีไม่ถึงตายเป็นกรณีที่พบบ่อยกว่า
เพราะว่าสัตว์ทุกชนิดรักชีวิตของตนเอง ย่อมไม่ดูดทำลายที่ที่ตนอาศัยอยู่ มันก็แค่พอกินพอใช้เอาแค่ร่างกายโทรมๆ
ตัวอย่างก็คือพวกพยาธิลำไส้ชนิดต่างๆ ที่ดูดเลือดหรือดูดอาหารจากลำไส้คน

เรามาดูกรณีที่ถึงตายหรือเป็นอันตรายดีกว่า เพราะจะได้ป้องกันได้(เข้าเรื่องซะที)
กรณีถึงฆาตจากพยาธิ
1. กินยาถ่ายพยาธิสุ่มสี่สุ่มห้า เช่น
เด็กตัวแคระแกรน ตรวจเจอไข่พยาธิไส้เดือนปุ๊บ ก็เจอยาถ่ายพยาธิแบบธรรมดาให้ไป... ให้ไปวันเดียวปวดท้องมาก..แล้วก็ตายในเวลาไม่นาน ผ่าศพก็พบว่าพยาธิไส้เดือนมันชอนไชออกนอกทางเดินอาหารปกติทะลุทะลวงออกนอกลำไส้กัน
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น : เพราะยาฆ่าพยาธิบางชนิด ไปทำให้พยาธิดูดอาหารจากร่างกายไม่ได้ ในเด็กคนนี้มีพยาธิเยอะมากจนแคระแกรน พยาธิจำนวนมากในร่างกายพอเจอยาก็คิดว่าไม่มีอาหารก็เลยดิ้นรนหาที่อยู่ที่มีอาหารใหม่ก็เลยชอนไชไปจนตายทั้งคนทั้งพยาธิ
กรณีนี้ไม่ได้เจอกันง่ายๆ แต่ก็ทำให้ต้องพึงระลึกไว้ว่าไม่ใช่แต่ว่ารู้พยาธิแล้วจะเลือกยาง่ายๆ

หรือกรณีตรวจเจอไข่พยาธิตัวตืด แล้วก็ให้กินยาถ่ายพยาธิทันที.. ซึ่งถ้ามาพบแพทย์ แพทย์มักให้ยาถ่ายยาระบายไปกินคู่กัน ทั้งนี้เพราะว่าคนเราบางครั้งจะมีการย้อนกลับของอาหารในลำไส้มายังกระเพาะ
ไข่พยาธิตัวตืดบางชนิด เมื่อถูกน้ำย่อยในกระเพาะจะฟักเป็นตัวแล้วเข้าไปเป็นเม็ดสาคูในที่ต่างๆอย่างเช่นกล้ามเนื้อ หรือหนักๆก็สมอง..... ลองนึกที่เรียนตอนเด็กๆให้ระวังเนื้อที่มีเม็ดสาคู นั่นแหละจะเกิดขึ้นหากกินไข่ตัวตืดเข้าไป

2. พยาธิเค้าแรงจริง
อย่างพยาธิในเนื้อหมูป่าที่ว่า กินเข้าไปแล้วไชเข้ากล้ามเนื้อ
พยาธิตัวจี๊ดในปลา ไชได้ทั่วร่าง
พยาธิในตัวเงินตัวทองและเพื่อนพ้อง
พยาธิในหอยชนิดต่างๆ มีหลายชนิด ทั้งไชเข้าสมอง ตับ กล้ามเนื้อ
อย่างเร็ว ก็ไชแล้วตายหรือออกอาการ
อย่างช้าเช่นพวกพยาธิใบไม้ในตับ ไชไปไชมา เป็นมะเร็งในตับตายซะนี่

เรื่องที่ผมเล่ามาทั้งหมดก็ถือเป็ฯเรื่องเบาๆไว้สักวันนึงแล้วกันครับ
เพราะถึงทุกคนจะอ่านสิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมด ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอกครับ รู้วงจรชีวิตหนอนพยาธิไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ป้องกันอะไรไม่ได้(อ่านสนุกๆแล้วกัน)
เอาเป็นว่าอ่านข้างล่างนี้ดีกว่าครับ
สิ่งที่อยากให้ได้ไป
1. กินอาหารให้สุกครับ พยาธิไม่ใช่alien เมื่อเจอความร้อนสูงๆนานๆก็ตายหมด
แต่ทั้งนี้ต้องเข้าใจนะครับว่าต้องความร้อนสูง และต้องนาน ขอแค่100องศาสัก3นาทีติดต่อกัน
ไม่ใช่ร้อนแบบไข่ยังไม่กลายเป็นไข่ลวก
และไม่ใช่ความร้อนแค่หมูกระทะพอสุก..... (ใครกินหมูกระทะแล้วทอดแค่เปลี่ยนสีล่ะก็เตรียมใจไว้เลย)
2. อาหารรสจัดไม่ได้ฆ่าพยาธิ ผมเคยไปกินอาหารกับชาวอีสาน(รูมเมทน่ะแหละ เรียนป.ตรีด้วยกัน)กินลาบก้อย... มันบอกว่าสุก แต่พอกินเข้าไปคำแรกก็รู้เลยว่าดิบๆ ถามไปถามมา สุกในนิยามของมันคือ "เปรี้ยวจัด เผ็ดจัด เค็มจัด" ...... นี่เป็นอีกสาเหตุกระมังที่คนไทยยังเป็นมะเร็งตับกันมาก(พยาธิใบไม้ในตับน่ะ)
3. คนที่เป็นโรคที่กดภูมิคุ้มกันชนิดต่างๆ ต้องระวังการติดพยาธิให้ดี... เพราะพยาธิหลายชนิดจะออกฤทธิ์แรงขึ้นเมื่อภูมิคุ้มกันต่ำ
พยาธิกลุ่มสตอรงจิลอยดิ์(แพทย์ไทยเรียกมันว่าสตองจิหลอย) ปกติก็เป็นพยาธิเชื่องๆในลำไส้
แต่พอถึงคราว.. ภูมิต่ำ มันจะขยายกำลังบุกชอนไชเดินทางจากลำไส้ไปยังปอด...ถึงตายได้
และยังมีอีกหลายชนิด
4. ยาถ่ายพยาธิไม่ใช่ขนม อย่าไปซื้อเองบ่อยๆ และไม่ต้องไปขอหมอบ่อยๆครับ... ถ้าจะกินก็ควรตรวจอุจจาระก่อน(ไม่ใช่แค่รู้สึกเพลียๆก็กินยาถ่ายพยาธิ)

วันนี้แค่นี้ล่ะครับ ไม่มีอะไรจะอวยพรนัก นอกจากขอให้ไม่โดนพยาธิขึ้นจนขึ้นหน้าหนึ่งแล้วกันครับ :)


โดย : หมอแมว
อีเมล์ : mor_kaew@hotmail.com
วันที่ : 2005-05-24 00:01:05






Create Date : 09 ธันวาคม 2548
Last Update : 9 ธันวาคม 2548 14:31:03 น. 0 comments
Counter : 447 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Michiyo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Lord, have mercy !


Group Blog
 
 
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Michiyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.