<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
20 พฤศจิกายน 2551

@@@.....บันทึกก่อนลา.....@@@

บันทึก 29 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2551 ถึงตา

ด้วยความอาลัยและระลึกถึง
หลาน


1.โรงพยาบาล

อย่างที่เรารู้ๆ กันนะตา ว่าตลอดชีวิตของตาไม่เคยได้ข้องแวะกับโรงพยาบาลเลย
จะมีก็ป่วยเป็นไข้ เป็นหวัดธรรมดา ซึ่งก็นานๆ ครั้ง
ตาเข้าโรงพยาบาลครั้งแรกในชีวิตเมื่อหน้าร้อนปีที่แล้ว เพราะขาดออกซิเจน
( ช่วงนั้นภาคเหนือมีควันปกคลุมจากไฟไหม้ที่พม่า )
ตาถึงกับขอให้พิ้งกี้ถ่ายรูปตานอนครอบหน้ากากช่วยหายใจในโรงพยาบาลเอาไว้
บอกว่าจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก แถมยังติดใจการนอนห้องพิเศษในโรงพยาบาล จนอิดออดไม่ยอมกลับบ้าน

หลังจากนั้นอีกหนึ่งปี ก็เมื่อพฤษภาคมปีนี้เอง
ตาถึงได้ไปนอนโรงพยาบาลอีก ด้วยอาการเดิม คือปอดรับออกซิเจนได้ไม่เต็มที่
ครั้งนั้นตานอนโรงพยาบาลแค่ไม่กี่วันก็กลับบ้านได้

ครั้งสุดท้ายที่ตาเข้าโรงพยาบาลคือเมื่อเช้ามืดวันพุธ ( 29 ต.ค.) ที่ผ่านมา ด้วยอาการแบบคราวก่อน
หมอใส่ท่อในคอสำหรับช่วยหายใจ กับใส่ท่อทางจมูกสำหรับให้อาหาร

แต่ครั้งนี้ตาอาการหนักกว่าครั้งก่อนๆ ตามีเสมหะในคอมาก
และไม่มีแรงไอ ไอจนหอบตลอดเวลา
ก่อนหน้าที่จะเข้าโรงพยาบาลก็ไอมาก กินอาหารได้น้อย

เย็นวันพุธ ตายังรู้สึกตัว มีใครไปเยี่ยมตาก็จะมอง
ถ้าคนที่มาเยี่ยมพูดด้วย ตาก็จะเลิกคิ้วให้
คืนนั้นน้านายกับพิ้งกี้อยู่เฝ้าตาที่โรงพยาบาล ตาไม่นอนเลยทั้งคืน

เช้าวันพฤหัส หนูกับแม่ไปผลัดเวรเฝ้าตาตอน 7 โมงเช้า
น้านายบอกว่าตอนเช้ามืดตี 4 กว่าๆตาอาการดีขึ้น
เขียนหนังสือบอกได้ว่าขอกินน้ำเย็น แต่ตาไม่ได้กินหรอก
เพราะใส่ท่อช่วยหายใจอยู่
6.30 น. พยาบาลมาให้อาหารทางสายยางที่จมูก ตาสำลักอาหาร น้านายเป็นกังวลใจมาก
แต่แม่ก็บอกให้กลับไปพักก่อนเพราะน้านายไม่ได้นอนมา 2 คืนแล้ว
แปดโมงกว่าพอหมอมา ตอนนั้นตายังมีสติอยู่นิดหน่อย
เราบอกหมอว่าตาสำลักอาหาร หมอทำท่าตกใจ
เรียกพยาบาลมาตำหนิ ว่าทำไมถึงไม่บอก
แล้วก็ดึงท่อ เปลี่ยนท่อ อะไรไม่รู้ให้ตาวุ่นวาย แล้วก็ตรวจหัวใจกับปอดตลอดเวลา

หมอตรวจตาได้แป๊บหนึ่ง อยู่ดีๆ ชีพจรตาก็อ่อนลงไป
หมอสองคนต้องมาช่วยกันปั๊มหัวใจ ถึงขั้นต้องปีนขึ้นเตียง
หนูรีบโทรตามน้านาย น้าเภา ให้มาที่โรงพยาบาล
หมอปั๊มหัวใจอยู่ยี่สิบนาที ชีพจรตาก็กลับมา แต่ตาไม่รู้สึกตัวแล้ว

หมอสั่งย้ายตาไปอยู่ห้องไอซียู
ปอดตาติดเชื้อรุนแรงจากการสำลักอาหาร
และการสำลักอาหารนั้นเกิดจากท่อที่ให้ออกซิเจนรั่ว


2.ไอ ซี ยู

ตาถูกย้ายไปที่ห้องไอซียู ที่นั่นตาจะได้รับการดูแลอย่างดี
แม่กับน้าๆ คุยกันแล้วว่า ถ้าหัวใจตาเต้นอ่อนลงอีกครั้ง
จะไม่ให้ทำซีพีอาร์ จะปล่อยให้ตาจากไปอย่างสงบ

ตอนเที่ยง เราได้เข้าเยี่ยมตา
หนูจับมือตา แต่ตาไม่ตอบสนอง และมือเย็นมาก
หกโมงเย็นเราไปเยี่ยมตาอีกครั้ง ญาติๆ เรามากันครบ ทั้งน้าตู๋ น้าช้าง เด็กๆ บ้านโน้น
เราเข้าไปยืนเกะกะอยู่ในห้องไอซียู เตียงของตามีคนมาเยี่ยมเยอะที่สุด
แต่ที่ห้องไอ ซี ยู ให้ญาติเข้าเยี่ยมได้สองคนต่อเตียง
หนูกับพิ้งกี้เลยต้องไปยืนที่เตียงคนไข้ที่ไม่มีญาติมาเยี่ยม
จะได้ไม่ถูกไล่ออกจากห้อง

พอหมดเวลาเยี่ยม พวกเราก็กลับบ้าน
ประมาณทุ่มครึ่ง โรงพยาบาลก็โทรมาบอกให้รีบไปดูตา
เพราะหัวใจตาเต้นช้าลง พวกเราทุกคนรีบไป
แต่พอไปถึงหัวใจตาหยุดเต้นไปแล้ว

ในห้องนั้น ตาดูตัวเล็กมากเลย ถ้าเทียบกับคุณยายเตียงข้างๆ
แต่ตาก็ดูสงบกว่าทุกคน
ไม่มีสายอะไรระโยงระยางอยู่บนร่างกาย ไม่มีท่อช่วยหายใจอยู่ในคอ
ซึ่งภาพนั้นกลับทำให้หนูสบายใจ
หนูไม่ชอบท่อนี่เลย
ตาก็คงไม่ชอบเหมือนกัน ตอนนี้ตาพบกับความสบายแล้ว
ในขณะที่คนป่วยเตียงอื่นๆ ยังต้องทนทรมานต่อไป
เสียงเครื่องวัดชีพจรตาดังเป็นเสียง ตืดดดดดดด อยู่อย่างนั้น
หนูไม่รู้ว่าคนไข้คนอื่นจะคิดอย่างไร
พวกเขาอาจจะหวาดกลัวขึ้นมา หรือไม่ อาจกำลังอิจฉา
ที่ตาได้หลุดพ้นจากพันธนาการอันเจ็บปวดทั้งมวล


3. เดินทาง

ถ้าสวรรค์มีจริง และตากำลังจะไปอยู่ที่นั่น
ก็หมายความว่าตากำลังจะเดินทาง ไปยังดินแดนอันสวยงาม ที่มีแต่ความรื่นเริง

การเดินทางไปยังสถานที่อันพิเศษเช่นนี้
พวกเราก็ต้องช่วยตาเตรียมตัวหน่อย

พวกเราทุกคนกลับบ้านมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็เอาชุดกลับไปให้ตาใส่ที่โรงพยาบาล

เสื้อผ้าสำหรับเดินทางที่ตาใส่
คือชุดกางเกงลูกฟูกเขียวขี้ม้า เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียวอ่อน คาดเข็มขัดสีน้ำตาล
ในกระเป๋าเสื้อมีกระเป๋าสตางค์กับแว่นตา ตาเหมือนคนนอนหลับอยู่ในชุดสุดหล่อ
จึงดูแปลกๆ นิดหน่อย ตอนหนึ่ง หนูคิดว่ายังเห็นอกตากระเพื่อมๆ เหมือนยังหายใจอยู่
แต่นั่นคงเป็นการคิดไปเอง เพราะตาเหมือนคนที่นอนหลับพักผ่อนจริงๆ

น้าๆ ยังเก็บกระเป๋าให้ตาอีกสองใบ ในนั้นมีของใช้ส่วนตัวของตาครบทุกอย่าง
ให้แน่ใจว่า เมื่อไปถึงสวรรค์ ตาคงไม่ขาดเหลืออะไรแล้ว


4. บันทึกก่อนลา

คืนนั้น มีสมาชิกในบ้านค้นเจอสมุดบันทึกเล่มหนึ่งในห้องนอนตา
หน้าปกเขียนไว้ว่า “บันทึกก่อนลา”
เป็นบันทึกฉบับย่อม เกี่ยวกับสิ่งที่ตาอยากให้จัดการหลังจากที่ตาจากไปแล้ว

ท้ายบันทึกลงวันเดือนปีเมื่อห้าปีก่อน

ห้าปีที่แล้วเรายังซื้อเป็ดย่างไปเยี่ยมตาที่ลำพูนบ่อยๆ เลยใช่ไหมตา
ตาพูดคุยได้ร่าเริง เดินคล่อง ตายังเลี้ยงลูกแมวเล็กๆ หลายตัวด้วย
ตายังแข็งแรง นึกไม่ถึงเลยว่าตาจะคิดเตรียมการล่วงหน้าไว้นานถึงห้าปี

แต่แรก ตาเขียนความจำนงเกี่ยวกับการจัดการงาน “ครั้งสุดท้าย” ไว้อย่างละเอียด
ทั้งรายชื่อเจ้าภาพในแต่ละวัน รูปแบบของงาน การขอพระราชทานเพลิง
วิธีการลงประกาศในหนังสือพิมพ์
แต่แล้วข้อความเหล่านั้นก็ถูกขีดฆ่า
หนูเดาว่า ในเวลาห้าปีนั้น ความคิดของตาเปลี่ยนไปทุกวัน
แต่แรกที่อยากให้จัดงานแบบยิ่งใหญ่
สุดท้ายตากลับไม่ต้องการอะไรมากมายเลย
งานของตาจึงจะถูกจัดแบบเรียบ ง่าย สะดวก ประหยัด ตามความจำนงของตาทุกประการ


ท้ายเล่ม มีบันทึกเกี่ยวกับที่มาของนามสกุล เป็นบันทึกจากความทรงจำของตา ที่ได้ยินผู้ใหญ่เล่าต่อๆ กันมา

“บันทึกก่อนลา” มีอยู่เท่านี้
หนูนึกเสียดายอยู่นิดหนึ่ง ที่ตาไม่ได้บันทึกอะไรไว้มากกว่านี้
และเสียดายมากที่ยังไม่มีโอกาสได้ซักถามตา เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ในบ้านคุณทวดสมัยที่ตายังเด็กๆ
ซึ่งหนูแน่ใจว่าตาจะมีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฟังแน่

ใกล้ๆ กันกับบันทึก มีรูปถ่ายของพ่อแม่พี่น้องของตา ที่ตาเก็บไว้อย่างดี
เป็นภาพถ่ายขาวดำ ทุกคนในภาพจากไปหมดแล้ว
ทิ้งไว้แต่ความทรงจำบางอย่าง เหมือนกับที่ตาทิ้งเอาไว้ในบันทึกฉบับสุดท้าย



5. เจ้าภาพ

รายชื่อเจ้าภาพที่ตาระบุในแต่ละวันนั้น เป็นญาติพี่น้องใกล้ชิดของตาที่ตอนนั้น ยังคงมีชีวิตอยู่
เป็นชื่อพี่ชายและพี่สะใภ้ และหลานซึ่งทุกคนก็อยู่ไกล ต่อด้วยชื่อลูกๆของตาทุกคน


พี่ชาย พี่สะใภ้ตา สองคนแรกในรายชื่อ ถึงแก่กรรมไปแล้ว
ดังนั้นเจ้าภาพที่เป็นไปได้ จึงเหลือแต่ชั้นลูก หลาน
เนื่องจากจะตั้งสวดเพียงสามคืน เราจึงไม่ได้ติดต่อญาติๆ ทุกคนให้มางาน
แต่ได้โทรแจ้ง และเมื่อโทรศัพท์ถึงหลานของตาในคืนนั้น
เพียงเพื่อจะแจ้งข่าว ปรากฏว่า หลานของตาคนนี้ซึ่งเป็นคนที่ตาระบุชื่อไว้ให้เป็นเจ้าภาพ
เพิ่งจะลงจากเครื่องบินที่สนามบินเชียงราย มาประชุมพอดี จึงรับเป็นเจ้าภาพในงานสวดคืนที่หนึ่ง

เป็นความบังเอิญอย่างยิ่ง ที่หลานของตามาอยู่ที่นั่น เวลานั้น พอดี

งานคืนแรก จึงมีเจ้าภาพพิเศษหนึ่งคน กับหนึ่งรูป

ที่ว่าหนึ่งรูป เพราะเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย
ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ วัดเก่าแก่ในจังหวัด เป็นพระภิกษุที่สนิทสนมกับครอบครัวเรามายาวนาน
ท่านให้เราใช้ศาลาในวัดดำเนินพิธีการทางศาสนา
ท่านยังขอเป็นเจ้าภาพในงานคืนแรก และยังได้ให้ความกรุณาช่วยเหลือเราในเรื่องต่างๆ อีกมากมาย

นอกจากนั้น ยังมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายที่เดินทางมาพร้อมภริยา มาแสดงความเสียใจในงานคืนแรก และงานวันสุดท้ายด้วย

ถึงแม้ว่าชีวิตของตาหลังเกษียณจะผูกพันอยู่แต่บ้านที่ลำพูน
ส่วนพี่น้อง หรือผองเพื่อนของตาก็ถึงแก่กรรมไปหมดแล้ว
ในจังหวัดเชียงราย ที่ตาแทบจะไม่เหลือใครเลย งานครั้งสุดท้ายของตายังมีบุคคลผู้มีเกียรติหลายคนมาร่วมงาน

หนูรู้ว่าไกลออกไปจากศาลาใหญ่ของวัดพระสิงห์
เหนือความเคลื่อนไหวและเสียงพูดคุยเบาๆ
ในความซึมเศร้าและความคิดถึงของพวกเราทุกคน
ค่ำคืนนั้นตากำลังเฝ้าดู และพออกพอใจกับงานเล็กๆ ที่เราจัดนี้



6. หลานๆ ในงานของตา

ในงาน หลานตาทุกคนช่วยงานอย่างแข็งขันเลยทีเดียว
วันแรกหนู กับพิ้งกี้ และจาด้า ไปร้านดอกไม้ที่รับจัดดอกไม้ประดับในงาน
แล้วขอจัดดอกไม้หน้ารูปเอง
(รูปถ่ายของตา ตาใส่กรอบอย่างดี ข้างหลังภาพเขียนไว้ว่า ถ่ายเมื่อ 3 ตุลาคม 2546)
หนูเป็นคนจัด ส่วนพิ้งกี้กับจาด้าเป็นลูกมือ จาด้าช่วยงานอย่างเต็มใจและกระตือรือร้น
พอหนูจัดเสร็จ พนักงานร้านดอกไม้ก็เงียบกันหมด
เค้าคงคิดว่ามันไม่สวย มีแต่พิ้งกี้กับจาด้าที่ผลัดกันเอ่ยปากชมอยู่สองคน
ทำให้หนูเครียดไปหลายชั่วโมง
สุดท้ายก็คิดได้ว่า ระหว่างหลานตากับพนักงานร้านดอกไม้
ตาต้องชอบดอกไม้ที่หลานจัดให้มากกว่าอยู่แล้ว

ส่วนหลานรุ่นเล็กอย่างพีชกับจูน รับผิดชอบในหน้าที่สุดอันตราย
คือการระวังเทียนไม่ให้ดับ กับจุดธูปให้แขก ถึงจะดูไม่ค่อยน่าไว้ใจ
แต่เด็กๆ ก็ทำหน้าที่ได้ดี ลิต้า จูน จาด้า (น้อง)พิ้งกี้ พริตตี้ ยังช่วยเสิร์ฟน้ำ ช่วยเก็บแก้วมาล้าง
ช่วยยกเก้าอี้ และทำงานอื่นๆ อีกมากมาย

วันสุดท้าย 3 พฤศจิกายน 2551 หนูยังเป็นคนอ่านประวัติตาที่งานด้วย

การที่มีเด็กๆ อยู่ด้วยในงานของตา ช่วยคลายความโศกเศร้าได้มากทีเดียว การได้นั่งเฝ้าดูเด็กๆ นั่งล้อมวงเล่นเกมส์กัน หรือนั่งฟังการพูดคุยกันแบบเด็กๆ ได้ยินเสียงหัวเราะแบบเด็กๆ ทำให้จิตใจสดชื่นขึ้น

ไม่มีวันไหนในงานที่บรรยากาศเหงาหงอยเลย


7. เณรน้อย

พีชบวชหน้าไฟให้ตา และกลายเป็นเณรน้อยอยู่สามชั่วโมง
ส่วนอีกสามชั่วโมงต่อมากลายเป็นเณรน้อยที่งอแงนิดหน่อย

ถ้าตาไม่ได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนาน หรือไปเที่ยวดูอะไรต่อมิอะไรสวยๆ งามๆ บนสวรรค์
ตาคงได้เห็นความโกลาหลย่อมๆ นี้ ในวันงานวันสุดท้าย

ก่อนเพล เราจะเห็นเณรพีชนั่งสงบเสงี่ยมอยู่ที่โซฟา มีผ้าเหลืองพันรอบตัว
เห็นได้ชัดว่ากำลังพยายามอย่างหนักที่จะนั่งนิ่งๆ ไม่ยุกยิก

ใครเดินผ่านไปผ่านมา เมื่อไปสบตาเข้ากับเณร เณรจะยิ้มเขินๆ หลบตาแล้วมองไปที่พื้น

เมื่อบวชได้ครบสามชั่วโมง ตอนนั้นพิธีต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว
แต่พระวัดพระสิงห์ยังไม่ว่างที่จะทำพิธีลาสิกขาบทได้ เณรจึงยังต้องเป็นเณรต่อไปอีกพักใหญ่ๆ

ตอนนี้เองที่เณรเริ่มงอแง เพราะเห็นพี่ๆ น้องๆ วิ่งเล่นรอบศาลากันสนุกสนาน
แต่เณรต้องสำรวม อยากไปวิ่งเล่นกับคนอื่นเค้าก็ทำไม่ได้
จะพูดกับใครก็ลำบาก ต้องเรียกโยมพี่จาด้า โยมน้องจูน โยมนั้น โยมนี้
แถมยังไม่ค่อยมีใครมาคุยมาเล่นด้วย เพราะเด็กๆ ผู้หญิงถูกสั่งห้ามไปอยู่ใกล้เณรพีช
เณรเลยร้องไห้ ถามว่าเมื่อไหร่จะได้ “เลิกบวช” เสียที

สงสารน้องก็สงสาร แต่ก็ขำด้วย
อย่างที่หนูบอก ว่าเด็กๆ ทำให้บรรยากาศสดชื่นขึ้น
พี่พิ้งกี้จึงต้องปลอบเณรพีชว่า “วิ่งเล่นไม่ได้ แต่กลับไปเล่นเกมส์ในคอมพิวเตอร์รอที่บ้านได้นะ” ได้ผล
เณรยอมกลับบ้านไปเล่นเกมส์รอโดยดี

หนูหวังว่าชายผ้าเหลืองของเณรน้อยพีชคงยาวพอ ที่จะไปถึงมือตาบนโน้นนะ


8. ตา (3 ตค 2468 –30 ตค. 2551) อายุ 83 ปี






ตาถ่ายกับพ่อแม่และพี่ๆของตา ตานั่งแถวหน้าที่3 จากซ้าย คนตัวเล็กสุด


************************************************

บันทึกข้างบนนี้ ก็เหมือนบล็อคก่อนหน้านี้ คือลูกสาวเขาเขียนลงสเปซ ของเขา ฉันก็เพียงแต่คัดลอก และตัดทอนเอามาบางส่วนเท่านั้น



Create Date : 20 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2551 17:45:43 น. 29 comments
Counter : 666 Pageviews.  

 
เข้ามาซึ้งกับความรักความผูกพันในครอบครัวค่ะ


โดย: pinkyrose วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:40:17 น.  

 
อ่านแล้วรู้ได้ถึงความเป็นคนมีความรอบคอบ และเป็นระเบียบของคุณตานะคะ ดูเหมือนคุณตาจะวางแผนล่วงหน้าไว้ เลยได้เขียนบันทึกก่อนที่ท่านจะสิ้นล่วงหน้าถึง 5 ปี ที่คุณตาดูเหมือนจะสงบ และนิ่ง เพราะท่านคงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต อีกอย่างท่านก็คงทราบว่าอายุท่านมากแล้ว เหมือนปู่ของน้องกรานต์ค่ะ ท่านจากไปอย่างสงบด้วยอายุ 93 ปี ท่านรู้มาตลอดว่าจะเกิดอะไรขึ้น และท่านก็อายุมากแล้ว พอถึงเวลาท่านก็เลยจากไปอย่างสงบ ไม่มีความเจ็บปวดทรมาน คนที่อยู่ข้างหลังถึงแม้ว่าจะทำใจไว้บ้างแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็อดที่จะเสียใจ เศร้าใจไม่ได้นะคะ แต่ก็อาจจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะว่าได้ทำใจส่วนหนึ่งไว้บ้างแล้ว เพราะรู้ว่าปู่ท่านเองก็แก่มากแล้วไม่วันนี้ก็ต้องพรุ่งนี้ ไงก็ต้องจากไป....

รูปภาพของคุณตาของป้ามิชานี่ดูดีมากๆ ดูดีทุกคนเลย ถึงแม้ว่ารูปจะเป็นขาวดำน่ะค่ะ

ขอให้ทุกๆ คนในครอบครัวของป้ามิชามีความสุข สุขภาพแข็งแรงค่ะ


โดย: Malee30 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:41:49 น.  

 
เสียใจด้วยนะคะป้ามิช่า

ขอให้คุณตาไปสู่สุคติค่ะ


โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:37:19 น.  

 
เสียใจด้วยคะป้ามิช่า
เศร้าใจจังเลย


โดย: เรื่องของแม่บ้านญี่ปุ่น IP: 220.7.112.20 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:28:05 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ
แต่คุณตาก็ไปสบายแล้วครับ


โดย: น้องเหนือเมฆ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:24:04 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะป้ามิชา
คุณตาไปสบายแล้ว


โดย: ich habe kein Geld วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:17:55 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจกับป้ามิชาด้วยนะคะ

หนูป้าลิคิดถึงป้ามิชานะคะ รักษาสุขภาพขออย่าให้เจ็บไข้นะคะ


โดย: ป้ามะลิกับลุงมะระ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:44:25 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ...

คิดแล้วต้องมีเหตุการณ์อะไร คุณมิชาถึงหายไปโดยไม่บอกกล่าวเลย
ทำเอาผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับ คิดมาก ด้วยความเป็นห่วงมากๆๆๆ

รักษาสุขภาพนะครับ


โดย: MM (ongchai_maewmong ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:37:44 น.  

 
วันนี้เจอบลอคที่สองที่พูดเรื่องตาย

คุณตาโชคดีมากที่ไปอย่างสงบครับ แล้วเราก้จะเจอกันเอง ที่ๆทุกคนต้องไป

เสียใจด้วยครับ


โดย: Tangible วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:45:44 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:04:41 น.  

 
ขอให้คุณตาหลับให้สบายนะคะ
ขอแสดงความเสียใจกับป้ามิชาและครอบครัวด้วยค่ะ

คิดถึงป้ามิชามากๆค่ะ
รอให้เสร็จธุระยุ่งๆก่อนแล้วค่อยแวะไปทักทายหนูนะคะ
ตอนนี้ให้ป้ามิชาจัดการแลดูแลความเรียบร้อยที่บ้านก่อนนะคะ

รักป้าค่ะ


โดย: unsa วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:07:47 น.  

 


สวัสดีค่ะป้ามิชา หนูฝนเองนะคะ Malee30 แวะมาหาป้าด้วยความคิดถึงค่ะ
และก็แวะมาบอกป้าว่าหนูเปลี่ยนชื่อล็อคอินใหม่แล้วนะคะ
เผื่อว่าป้าว่างๆ จะได้แวะไปเยี่ยมหลานๆ ได้ถูกน่ะค่ะ


รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: Malee30 แต่เปลี่ยนล็อคอินใหม่แล้วจ้า (CeciLia_MaLee ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:31:26 น.  

 
ร่วมแสดงความเสียใจด้วยนะคะ.... ไม่ได้เข้ามานาน ว่าจะมาส่งยิ้ม เจอบล๊อคเศร้าไม่กล้าเลยค่ะ

คุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณแม่ นิ้งก็จากไปกันหมดแล้ว ตอนนี้เหลือย่ากะพ่อ(แล้วก็น้าๆ)

ไม่ค่อยชอบบรรยากาศเวลามีคนป่วยในครอบครัวเลย
ตอนแม่เข้าicuก็ตัดสินใจเซ็นว่าไม่ต้องปั๊มหัวใจ หรือช่วยชีวิต
คิดว่าให้ไปสบาย ดีกว่ายื้อไว้ทั้งๆที่ไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได่
นึกแล้วก็เศร้า คิดถึงแม่อ่ะ


โดย: n_nink วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:22:39:24 น.  

 
ป้ามิช่าสะบายดีไหมคะ

เเถวบ้านหนาวมากไหมคะ


โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:11:09:23 น.  

 
มาเยี่ยมป้ามิชาคะ สบายดีหรือเปล่าค่ะ
คิดถึงป้ามิชานะคะ


โดย: ich habe kein Geld วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:2:23:10 น.  

 
คิดฮอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆป้ามิชามากมาย และขอโทษที่ยายหิ่นเข้ามาแสดงความเสียใจช้าไปค่ะ คุณตาคงอยู่บนสรวงสวรรค์แล้วค่ะ ตอนนี้ที่เมกาหนาวสุดขึ้นบ้านป้ามิชาเป็นไงบ้างเอ่ย คิดถึงมากมายเหมือนเคยเด้อป้าเด้อ


โดย: ยายหิ่น (Laynee-floral ) วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:22:41:58 น.  

 
ป้ามิชาเป็นยังไงบ้างหนอ หายเงียบไปเลย
สบายดีไหมคะ คิดถึงและเป็นห่วงนะคะ


โดย: ป้ามะลิกับลุงมะระ วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:8:13:23 น.  

 

Christmas   graphics for hi5 comments
Christmas hi5 Comments


ขอให้มีแต่ความสุขกายสบายใจนะคะ


โดย: หวานหมี (SweetVanilje@Norway ) วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:15:01:58 น.  

 
รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มาเยี่ยมป้ามิชานานมากจนไม่ได้มาแสดงความเสียใจเลยค่ะ

แต่ตอนนี้ใกล้ปีใหม่แล้ว
ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองป้ามิชาและครอบครัวนะคะ





โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:13:13:51 น.  

 
ป้ามิชาหายไปไหนเนี่ย สบายดีป่าวค๊าาา

Photobucket


โดย: n_nink วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:21:21:00 น.  

 
ป้ามิชาหายไป สบายดีป่าวค๊าาา

Photobucket


โดย: n_nink วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:21:21:20 น.  

 
ขอบคุณมากๆที่ไปเยี่ยมเยียนที่บล็อคนะคะ

วันนี้รีบมารีบไป เลยมาแบบข้อความสำเร็จรูป

เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบออกจากบ้านไปเที่ยว ตจว. แต่เช้า

เดี๋ยวกลับมาจะมาทักทายพูดคุยเหมือนเดิมแน่นอนค่าาา

สวัสดีปีใหม่นะคะ

zwani.com myspace graphic comments
Myspace Happy New Year Comments


โดย: unsa วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:21:01:28 น.  

 


โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:9:09:09 น.  

 
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ พบแต่ความสุข ความเจริญตลอดไปนะครับ




โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:18:41:40 น.  

 


โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:9:05:54 น.  

 


โดย: Laynee-floral วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:10:50:24 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับ


โดย: Tangible วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:23:25:15 น.  

 


โดย: pumorg วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:12:04:43 น.  

 
สวัสดีปีใหม่คะป้ามิชาขอให้มีแต่ความสุขความเจริญนะค่ะ


โดย: ich habe kein Geld วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:3:47:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Micha 5up
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Micha 5up's blog to your web]