บทเรียน
ช่วงนี้อาจเป็นช่วงที่ใครหลายๆ คนมีความรู้สึกสดชื่น ร่าเริง กับบรรยากาศ และความสุขกับเทศกาลส่งท้ายปีเก่า และเตรียมต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึง อีกหลายคน อาจไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เพราะต้องรีบเคลียร์งานในช่วงปลายปี อีกทีก็วิตกกังวลกับบรรยากาศและสถานการณ์หลังเลือกตั้งว่าจะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งจากที่มีการคาดหมายกันในแง่ดี ว่าเศรษฐกิจและการลงทุนน่าจะดีขึ้น แต่สำหรับเราแล้ว ไม่มีความรู้สึกอะไรอย่างนั้นเลย ..เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงบอกตัวเองว่า รอดู ตามดูเหตุการณ์ต่อไปดีกว่า และพยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนแล้วกัน (ขอเอาคำสอนเรื่องการมีสติรู้ของคุณ Aston มาใช้ ด้วยแล้วกันค่ะ)ช่วงปลายปีหลายๆ ปีที่ผ่านมา เราเคยรู้สึกว่ามีความสุขตื่นเต้น คิดวางแผนต่างๆ นานา ว่าจะไปเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศช่วงเทศกาล ไปนั่งลานเบียร์ รับลมหนาว ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว หรือชวนน้องชายกับสุดที่รักไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วแต่สถานการณ์วันหยุดของเราจะเอื้อ หากแต่เมื่อปีที่แล้ว เราก็เริ่มรับรู้ได้ว่าเหตุการณ์บรรยากาศเก่าๆ เหล่านั้น มันก็ผ่านแล้วผ่านเลย ความสุขปีก่อนๆ มันก็เป็นความสุขของปีก่อนๆ ความสุขของปีที่แล้ว มันก็เป็นความสุขของปีที่แล้ว ยิ่งปีนี้เราก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้นว่า ไม่มีความสุขใดคงอยู่จีรัง เจ้าความทุกข์ที่เคยคิดว่าชอบอยู่กับเรานานๆ จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้อยู่กับเรานานหรอก หากเราไม่ยอมให้มันอยู่ .....เมื่อได้มีโอกาสได้เข้าไปอ่าน blog ของคุณ aston แล้ว ทำให้เรามีสติรู้เพิ่มมากขึ้น หัดที่จะหันกลับมามองจิตตัวเองบ่อยมากขึ้น ...อาจไม่ได้ทำให้เราคิดมากน้อยลง อาจไม่ได้ทำให้เราฟูมฟาย หรือเริงร่าน้อยลง แต่ก็ทำให้เราเห็นในความเป็นไปที่เกิดขึ้นจริงๆ กับตัวเองมากขึ้น ยอมรับอะไรที่เกิดกับตัวเองได้เร็วขึ้น ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าเราจะทำได้ตลอดเวลานะ เราเพียงทำได้บ้างเท่านั้นเอง เพราะที่จริง...เราก็ยังบ้าบอฟุ้งซ่านกับอะไรบางอย่างที่ไม่ควรคิดควรทำอยู่อารมณ์โกรธ อารมณ์งอน ...ยังเกิดขึ้นสม่ำเสมอ เหมือนที่เคยเป็นตั้งแต่ตอนเด็กๆ จนป่านนี้ อารมณ์แบบนั้นก็ยังคงอยู่ เพียงแต่รับรู้ได้เร็วขึ้น โดยการฝึกมีสติรู้ ตามจิตให้ทัน อย่างที่คุณ aston คอยบอก คอยอธิบายให้เข้าใจอยู่เสมอสิ่งหนึ่งที่พยายามอย่างมากที่จะปฏิบัติให้ได้ คือ ลดอารมณ์ที่คิดคาดหวังให้คนอื่นเขาเป็นอย่างที่ใจเราอยากให้เป็น และปล่อยผ่านกับสิ่งที่เราไม่ได้รับอย่างที่คาดหวังจากคนรอบข้างไม่คิดเอาว่าเขาจะเป็นอย่างนั้น รู้สึกอย่างนั้น โดยเฉพาะกับคนที่เราผูกพันกับเขามากๆ รับให้ได้ว่าอะไรๆ ไม่คงอยู่จีรัง มีมาแล้วก็มีสลายไป แล้วก็อาจกลับเกิดขึ้นมาใหม่ได้อย่างที่เพลง บทเรียน ของ Boyd ท่อนหนึ่ง เขียนไว้ว่า บทเรียนที่ทำให้ใจของเรารับรู้ ว่าไม่มีอะไรคงอยู่เสมอไป เป็นบทเรียนชีวิตที่แสนจะยิ่งใหญ่ เมื่อใจของเรานั้นยอมรับมันความผิดหวังจึงจะเปลี่ยนเป็นพลังได้ เมื่อใจของเรานั้นยอมรับมันปีนี้เราอาจต้องไปเดินเก็บบรรยากาศเทศกาลปีใหม่คนเดียวก็ได้ ไม่มีน้องชายไม่มีสุดที่รัก ...ไม่มีเพื่อนรักอย่าง Melody of You กับพี่ชาย Baby(เพราะเธอและเขาหนีไปฮันนีมูน และฉลองเทศกาลปีใหม่กับน้องสาวที่อเมริกา)เพราะต่างคนต่างก็มีทางของตัวเองที่ต้องดูแลรับผิดชอบ สำหรับเราก็ต้องดูแลตัวเองได้เช่นเดียวกัน เมื่อไม่มีคนคอยประคับประคองตอนแรกเราก็แอบเศร้าอยู่เหมือนกัน แต่อย่างว่าแหละนะ หากเรารู้ทันจิตของเรา และยอมรับมัน เราก็สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุขพอควรทีเดียวขอให้มีความสุขกับช่วงปลายปีนะคะ
ช่ายจริงๆ ซึ้งอ่ะ@ ชอบมั๊กๆๆ