ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
>Love Or Passion< ตอนที่ 2

"......อ่านแล้วไม่เม้นต์ไม่ว่า ก็แค่ไม่อัพแค่นั้นเอง....."




ภายในรถที่ฉันนั่งมากับพีมีแต่ความเงียบเท่านั้น ความรู้สึกบางอย่างมันพุ่งเข้าปะทะกับฉัน จนรู้สึกจุกไปถึงคอหอย

-นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไปเนี๊ยะ- ฉันนั่งต่อว่าตัวเองในใจ เมื่อนึกถึงความไม่สมควรที่ตนเองได้ทำลงไป

-แล้วจะมองหน้ากันติดได้ยังไง- ฉันเกือบเผลอถอนหายใจออกมา ดูเหมือนพีก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นานนี้ เขาเอื้อมมือมาเปิดเพลงคลอไปเบา ๆ บรรยากาศมันดูดีกว่าเมื่อกี้นี้มาก

รถของพีแล่นไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ไม่มีรถติดให้รู้สึกอารมณ์เสียอีกแล้ว เวลาเพียงไม่นานเขาก็มาจอดที่คอนโดที่ฉันอยู่ ฉันยังนั่งเงียบอยู่ พีก็เช่นกัน เสียงเพลงถูกปิดลงพร้อม ๆ กับรถยนต์

"เดี๋ยวพีเดินขึ้นไปส่งนะ" เสียงเบา ๆ ของพีทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า

"อืม" เราเดินมาขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นที่ฉันอยู่ ภายในลิฟต์เงียบงันเหมือนตอนที่อยู่ในรถ ทำไมมันรู้สึกอึดอัดอย่างนี้นะ เมื่อไหร่จะถึงห้องสักที

เสียงลิฟต์ดังขึ้น ฉันเดินออกมา แล้วเดินนำพีมาจนถึงห้อง พียืนอยู่ที่หน้าห้อง เขาไม่ได้ก้าวตามฉันมาในห้อง ฉันยืนที่ประตู มือถือลูกบิดไว้

"ราตรีสวัสดิ์นะ" ฉันก็ยังทำได้แค่พยักหน้าเหมือนเดิน ไม่กล้าที่จะสบตาพีเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดประตูและกดล็อค

ฉันไม่ได้เดินเข้ามาในห้อง ยังยืนมองประตูที่ปิดด้วยมือตัวเองอยู่

-ทำไมนะ พีไปแล้วน่าจะสบายใจไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงรู้สึกว่างเปล่าอย่างนี้ล่ะ- ฉันสับสนกับความรู้สึกของตนเอง ระหว่างพีอยู่ด้วยและไม่มีพี ทั้งความรู้สึกทั้งสองอย่างไม่ได้ดีกับตัวฉันเองเลยแต่ทำไมฉันรู้สึกว่าต้องเลือกล่ะ

-พีอาจจะยังอยู่ข้างล่างก็ได้ ลองลงไปดูดีกว่า ฉันยังไม่ได้ราตรีสวัสดิ์เขาเลยนี่น่า- ฉันค่อย ๆ เปิดประตูอีกครั้ง ความรู้สึกเมื่อประตูเปิดออกเหมือนมีบางอย่างหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายจะแทบล้นทะลัก

พียังคงยืนอยู่ที่เดิมก่อนที่ฉันจะปิดประตู เขายังไม่ได้ก้าวออกไปไหนเลย สายตาของเขาก็ดูแปลกใจไม่น้อยเหมือนกันที่เห็นฉันเปิดประตูออกไป

"แค่คิดว่า....จี้...จี้อาจจะเปิดประตูออกมาราตรีสวัสดิ์พีเท่านั้นเอง ก็เลย.....ยืนรอ" เสียงที่ดูประหลาดใจของพีบอกฉันเบา ๆ ฉันยิ้มบาง ๆ

"เข้ามาสิพี" ฉันเปิดประตูให้พีเข้ามา และประตูก็ถูกปิดลง

ราวกับว่ามีแม่เหล็กดึงดูดเราสองคนให้เข้าหากัน เหมือนกับกำลังเดินอยู่กลางทะเลทรายที่แห้งแล้งแล้วเจอโอเอซิส เราจึงรีบผวาเข้าหา........

ร่างของเรากอดก่ายกันอยู่บนเตียงหนานุ่ม บทรักบทแล้วบทเล่าที่เราร่วมกันสรรสร้างขึ้นมาถูกบรรเลงอย่างไม่รู้จักคำว่าเบื่อหน่าย ยิ่งพีสัมผัสร่างกายฉันมากเท่าไหร่ ก็เหมือนกับว่าฉันต้องการเขามากเท่านั้น ฉันลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมว่าไม่ควรจะนอนดึกเพราะพรุ่งนี้ต้องทำงาน ลืมไปว่าเขาก็ต้องทำงานเหมือนกัน ลืมว่าตัวเองมีคนรักอยู่แล้ว และลืมไปว่าเราสองคนเป็นลูกน้องกับหัวหน้า ลืมว่าฉันกับพีเป็นเพื่อนกัน เพียงแค่พีสัมผัสฉันเท่านั้น เพียงแค่นี้เท่านั้นที่ฉันต้องการ.........







ฉันเดินจ้ำอ้าวเข้าบริษัท ตอนเที่ยงพอดิบพอดี โอ๊ย!!!!จะบ้าตาย สุดท้ายวันนี้ฉันเลยต้องลาไปแล้วครึ่งวัน เพราะอะไรนะเหรอก็เพราะว่าเมื่อคืนฉันแทบไม่ได้นอนเลยนะสิ อย่าถามนะว่าไปทำอะไร รู้ ๆ กันอยู่ แต่ไอ้ที่ทำให้ฉันหงุดหงิดมากมายขนาดนี้ นอกจากไอ้เรื่องที่มาทำงานสายแล้วก็คือ พอฉันตื่นมาก็ไม่เจอตาบ้าพีไงล่ะ ไม่รู้ว่าออกจากห้องไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นแต่โน้ตบอกว่า

-เข้าบริษัทก่อนนะ อนุญาตให้ลาได้ครึ่งวันนะครับ ตอนเที่ยงเจอกัน- แค่นี้แหละ โอ๊ย!!!ตอนเที่ยงเจอกันงั้นเหรอ เหอ ๆ เจอแล้วจะทำหน้ายังไงล่ะเนี๊ยะ โอ๊ย!!!ประสาทจะกิน

ฉันเดินเข้ามาที่โต๊ะทำงานก็จะทิ้งตัวลงอย่างหมดแรง ทันทีที่เอนกายกับเก้าอี้ฉันก็หลับตาทันที ไม่ได้ง่วงนะค่ะ แต่กำลังนึกว่าจะทำหน้ายังไงตอนเจอกับตาบ้าพีดี แง.......แต่พอหลับตาคิดไปคิดมาฉันดันเผลอหลับได้ซะนี่ ดูเถอะนับวันฉันจะติดเชื้อบ้าจากตาพีมากขึ้นทุกวัน และคงติดมาจากเมื่อคืนมากด้วยแน่ ๆ

ริมฝีปากของฉันถูกสัมผัสอย่างแผ่วเบา ความอบอุ่นที่ครั้งหนึ่งฉันเคยสัมผัสมันคือเอแคลที่หอมหวานของตาบ้าพีที่เอามาให้ฉัน ตานี้ชอบเอาเอแคลมาแตะตรงปากตอนฉันหลับทุกที คราวนี้ก็เหมือนกัน ฉันไม่ลืมตาหรอกนะยะ เอามาแตะอีกสิจะงับให้

แต่จะว่าไปแล้วมันก็แตะอยู่ที่ริมฝีปากของฉันอยู่แล้วนี่น่า แค่ฉันอ้าปากเท่านั้น มันก็จะเข้ามาอยู่ในปากฉันแล้ว แค่อ้าปากเอง.....

สิ่งที่เข้ามาในปากของฉันไม่ใช่เอแคลที่แสนอร่อย แต่เป็นลิ้นอุ่น ๆ ของใครสักคนหนึ่ง สัมผัสที่คุ้นเคยนี้ เหมือนกับที่ฉันสัมผัสเมื่อคืนนี้เลย ฉันลืมตาตื่นทันที ตาบ้ามาจูบฉันตอนหลับเหรอ ฉันดันตัวเองออกห่าง แต่ไม่สำเร็จ ตาพีรั้งศีรษะฉันไว้ฉันเลยต้องรับจูบของตาพีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อีกแล้ว......ความรู้สึกเหมือนกับจะถูกดูดกลืนเข้าไปนี้มันคืออะไรกันนะ ทำไม? ทำไม ฉันถึงปฏิเสธตาพีไม่ได้สักที แถมยังต้องการมากขึ้นอีก

ตาพียิ้มหวานให้ฉัน หลังจากที่ถอนริมฝีปากออก เขาใช้นิ้วโป้งเกลี่ยริมฝีปากของฉันเบา ๆ

"ยั่วดีนัก ลงโทษซะเลย" เสียงนุ่มของตาพีดังล้อฉัน

"ไม่ได้ยั่ว คนนอนอยู่ดี ๆ แท้ ๆ"

"ก็มันน่าจูบนี้" ตานี้อารมณ์ดีมากจากไหนนะ ยิ้มอยู่ได้ ฉันผลักตาพีออกเบา ๆ แต่หมอนั้นแทนที่จะไปนั่งเก้าอี้ตัวเองกลับนั่งที่โต๊ะทำงานของฉันเฉยเลย

"กลับตอนไหนนะ" อยู่ ๆ ฉันก็ถามขึ้น ตาพีมองฉันจนฉันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาเลยทีเดียว

"ออกมาตอนหกโมงเช้า รุจมันโทรมาปลุก เพราะมีเอกสารเซ็นด่วนนะ เมื่อวานตอนเข้ามาก็ไม่บอกพีนะ เลยไม่ได้อรุณสวัสดิ์เลย เนี๊ยะพีต้องรีบมาบริษัท มาเซ็นหนังสือก่อน แล้วก็กลับไปเปลี่ยนชุดใหม่ทีบ้านแล้วก็มานี่แหละ แต่อีกคนนี้สิหลับสบายเป็นองค์หญิงเลยนะ" พีพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งมาบีบจมูกฉันเบา ๆ

"ทำยังกับว่ามีเวลาได้บอกอย่างนั้นแหละ" ฉันพึมพำเบา ๆ พีเลิกคิ้ว

"ไม่มีอะไรหรอก แล้ววันนี้นัดกับคุณวราไม่ใช่เหรอ ยังไม่ออกไปอีก" พีส่ายหน้า

"เธอโทรมาเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้ตอนเช้านะ"

"ว่าไง? จีระไม่สบายเป็นอะไรเหรอ" เสียงพี่รุจดังเข้ามาในห้องพร้อม ๆ กับพวกพนักงานหลาย ๆ คนที่เดินตามมา หมดเวลาพักแล้วนี้เนอะ

"ปวดหัวนิดหน่อยค่ะ" พี่รุจทำหน้างง

"อ้าว....ไหนไอ้พีบอกปวดท้องไง ทำไมพูดไม่ตรงกันเนี๊ยะ" พี่รุจแซวยิ้ม ๆ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร

"จี้ เดี๋ยวตอนเย็นเราไปวางแผนครอบครัวกันที่ร้านอาหารเปิดใหม่กันเถอะนะ เห็นแล้วน่าเข้า" ตาพีนี่น้า ชวนกินข้าวพูดอะไรแปลก ๆ เล่นเอาเพื่อนคนอื่นมองแบบแปลก ๆ เลย

"ไอ้พี แกจะชวนจีระกินข้าวแบบชาวบ้านทั่วไปไม่ได้เหรอวะ" ตาพียักไหล่ให้กับพี่รุจ

"ว่าไง ไปนะ"

"ฉันมีนัดแล้วอ่ะ"

"เอ๊ะ" ตาพีทำหน้างง ก่อนจะเริ่มชักสีหน้า

"พอดีพรุ่งนี้แฟนจะไปต่างจังหวัดนะเลยนัดกินข้าวกัน คงไปกับพีไม่ได้" ฉันพูดแค่นี้เท่านั้นแหละ ตาพีก็สะบัดหน้าหนีเลยทีเดียว เขาเม้มปากจนเป็นเส้นตรง มือข้างหนึ่งที่ถือแฟ้มเอกสารอยู่กำแฟ้มจนแน่น ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรอีกเดินไปกระแทกตัวนั่งเก้าอี้ ไม่สนใจฉันอีกเลย ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่ไปทานข้าวด้วยไม่ได้ ทำไมต้องมีอารมณ์ขนาดนี้ด้วย ตานี่สงสัยบ้าจริง ๆ นั่นแหละ







ฉันนั่งทานอาหารฝรั่งเศสกับพี่วัฒ ในภัตคารหรูที่จองเอาไว้ ช่างโรแมนติกเหลือเกิน การรับประทานอาหารใต้แสงเทียนแบบนี้ มีดนตรีคลอเบา ๆ มีไวน์รสเลิศจิบสร้างบรรยากาศ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการจิบไวน์ของพี่วัฒดูจะกลายเป็นดื่มแทนน้ำซะมากกว่า

"เดี๋ยวพี่ไปส่งนะจีระ" ฉันเพียงแค่พยักหน้า ทำไมพักนี้ถึงเจอแต่คนเมานะ เมื่อวานก็ตาพี วันนี้ก็พี่วัฒ พรุ่งนี้คงไม่ใช่พี่รุจนะที่จะเมาน่ะ

พี่วัฒข้อเสียคือเวลาเมานี่แหละ รถราขี่ราวกับจะเหาะเลยล่ะ หลังจากที่จอดรถแล้วพี่วัฒก็ตามฉันขึ้นไปบนห้อง นึกว่าจะมาไม่ถึงห้องเสียอีก

"ไปเชียงใหม่คราวนี้ต้องคิดถึงจีระคนดีมาแน่ ๆ เลย" เมื่อมายืนกลางห้องแล้วพี่วัฒก็กลายร่างเป็นปลาหมึกทันที ฉันก็พอจะเดาได้ตั่งแต่พี่เขาบอกว่าจะมาส่งแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่มันก็เป็นปรกติของฉันอยู่แล้วที่จะมีอะไรกับพี่วัฒ

แต่ที่ไม่ปรกติก็คือไอ้เรื่องเมื่อคืนต่างหาก เรื่องระหว่างฉันกับพี ทำไมฉันถึงได้ปล่อยตัวไปกับแรงอารมณ์ของตัวเองขนาดนั้นนะ แล้วทำไมฉันไม่คิดถึงพี่วัฒนะ แต่พอตอนนี้อยู่กับพี่วัฒกลับคิดถึงตาบ้านั้น แถมยังสลัดพีออกจาความคิดไม่ได้ซะด้วย ทุกสัมผัสของพีเมื่อคืนยังติดตรึงอยู่บนตัวของฉันอยู่เลย

พีที่ลูบไล้จนฉันสั่นสะท้าน เขาซุกไซร้ซอกคอของฉัน เขาสัมผัสเรือนร่างของฉัน โดยไม่ปล่อยให้ส่วนไหนผ่านเลยไปได้ ปลายลิ้นที่คอยมาชิมความหวานในร่างกายของฉันมันทำให้ฉันละทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง จังหวะที่เขาสรรสร้างมาแสดงกับฉัน ทำให้ฉันสั่นสะท้านทุกจังหวะ ร่างกายมันเรียกหาแต่เขาทุกวินาที............ตอนนี้มีเพียงฉันเท่านั้นหรือที่คิดถึงเธอ พี ได้โปรดมาสัมผัสฉันสักทีเถอะ ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน

ฉันสะดุ้ง....ผุดลุกขึ้นนั่ง เหงื่อไหล่โทรมกายของฉัน อะไรกัน? นี่ฉันฝันบ้าบออะไรเนี๊ยะ? ทำไมต้องเก็บเรื่องนั้นมาฝันด้วยนะ แล้วนี้ฉันเป็นอะไรไป ? ทำไมทั้งที่ฉันอยู่กับพี่วัฒแท้ ๆ แต่กลับคิดถึงแต่ตาบ้านั้น ฉันหันไปมองพี่วัฒที่นอนหลับสนิท หลังจากที่ร่วมรักกับฉันแล้ว แต่....โธ่เอ๊ย....ยัยจีระ ทำไมนะ

ฉันคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วเดินออกมาที่ระเบียง ฉันแหงนหน้าขึ้นบนฟ้า ไม่มีดาวเลย ทั้งที่ ๆ ฟ้าโปร่งขนาดนี้ ทำไมมันเหงาอย่างนี้นะ ไม่ชอบกลางคืนเลย ฉันหันกลับไปมองพี่วัฒที่นอนหลับอยู่บนเตียง ฉันอยากให้พี่วัฒมากอดฉันเอาไว้ ฉันจะได้รู้สึกอบอุ่นมากกว่านี้ อ้อมกอดของพี่วัฒอาจจะลบรอยกอดของพีออกจากตัวของฉันได้

นี่ฉันเป็นอะไรนะ ทั้งที่ฉันได้รับอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นจากคนที่รักฉันมากขนาดนี้ แล้วทำไมถึงยังคิดถึงอีกคนที่เคยกอดฉันเมื่อคืนละ หรือฉันแค่อ่อนไหวไปเอง ใช่คงแค่อ่อนไหวเท่านั้นเอง ยัยจีระ เธอคิดมากไปเองแล้ว ฉันหมุนตัวกลับเข้าห้อง แต่บางอย่างสะดุดตาฉันจนทำให้ฉันต้องหันกลับไปเพ่งมอง

ตาฉันไม่ฝาดใช่ไหม? นั่นมันรถพีนี่ แล้วนั่นก็พีนี่น่าที่ยืนพิงรถอยู่ ฉันตาไม่ฝาดแน่ ๆ เขายกเครื่องดื่มอะไรสักอย่างดื่มอยู่ ฉันจำเขาได้ ฉันหันกลับมาที่ห้อง สายตามองไปที่ประตูห้อง

-พี่วัฒนอนที่เตียง แล้วฉันจะลังเลอะไรอยู่ละ ฉันก็แค่เดินไปนอนบนเตียงแค่นั้น ไม่เห็นเกี่ยวกับตาพีสักหน่อย ใช่....ฉันอยู่กับพี่วัฒนะ ฉันรักพี่วัฒ และพี่วัฒก็รักฉัน พีไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน เราเป็นแค่เจ้านาย - ลูกน้อง และเพื่อนเท่านั้น แค่เดินไปที่เตียงแล้วนอนลง หลับตาซะก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว ไปสิยัยจีระ-

ฉันเดินมาที่เตียง -ใช่แล้ว ที่ของฉันอยู่ตรงนี้ อยู่ข้าง ๆ พี่วัฒ ไม่ใช่ข้างล่างนั่น ขึ้นไปบนเตียงแล้วนอนซะ นอนซะ - สมองของฉันสั่งการถี่ยิบว่าให้ฉันอยู่ข้างพี่วัฒ

แต่ทำไม? ทำไม? ฉันถึงได้เดินออกจากห้องมา แล้วลงไปที่ลานจอดรถ ฉันไม่เข้าใจ แค่เห็นเขาเท่านั้น ทำไมกัน?

ฉันมาหยุดตรงหน้าของพี เขาปล่อยให้กระป๋องเบียร์หล่นออกจากมือ กระทบกับพื้นคอนกรีต ตาของพีมองฉันราวกับถูกสะกด เขาคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะเห็นเขา และลงมา อย่าว่าแต่พีเลย ฉันเองยังคิดไม่ถึงเหมือนกัน

ฉันเดินเข้าไปหาพีที่ยืนนิ่งอยู่ ฉันโอบรอบคอของเขาเหนี่ยวรั้งให้เขาก้มลงมาจูบฉัน เรายืนจูบกันตรงนั้นเนิ่นนาน เหมือนโลกมันหยุดหมุน พีโอบร่างของฉันจนร่างของเราแนบชิดกัน ลิ้นที่ตวัดเกี่ยวกันอยู่ทำอารมณ์ของเราเตลิดไปไกล

"ทำไม? หมายความว่ายังไงจี้" เสียงของพีสั่นพร่า

"ไม่รู้ ฉันแค่คิดถึง คิดถึงเธอเหลือเกิน พี ทุกครั้งที่เขากอดฉัน ฉันกลับคิดถึงเธอ ฉันไม่เข้าใจ ฉันต้องการเธอ" แล้วเราก็บดขยี้ริมฝีปากกับอีกครั้ง พีเปิดประตูรถ ก่อนจะดันร่างฉันเข้าไปด้านใน พีตามฉันเข้ามา แล้วก็จูบไซร้ไปทั่วราวกับว่าฉันจะหายไปหากช้ากว่านี้

"ทั้งที่รู้ว่าจี้อยู่กับเขา ทั้งที่รู้ว่าจี้รักเขา ทั้งที่รู้ว่าผิดที่ทำแบบนี้ และก็ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางแทรกระหว่างจี้กับเขา แต่ก็ยังมา มายืนรอ เห็นตั่งแต่จี้กับเขาขึ้นไป เห็นไฟที่ห้องดับ รู้ทั้งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังคอย เผื่อ....เผื่อว่า....จี้อาจจะเห็น แค่คิดเท่านั้น..ว่า...จี้อาจจะลงมา" ร่างของพีสั่นสะท้าน ฉันจับใบหน้าของพี เราสบตากัน ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ ๆ แล้วจูบเขา

เรากอดรัดกันแน่น เสื้อคลุมหลุดออกจากร่างของฉัน ฉันปล่อยทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ใจปรารถนา ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดมีค่าเท่ากับการที่ฉันได้อยู่กับพีแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับอ้อมกอดของพีอีกแล้ว พีคือสิ่งที่ฉันต้องการ พีคือความปรารถนาของฉัน







"โอ๊ย!!!!.......ประชุมอีกแล้ว มันอะไรกันนักหนานะ" ตาบ้าพีบ่นอุบเมื่อเห็นหนังสือเวียนการประชุม พักนี้ตาพีเครียดจัด เพราะลูกค้าที่ตาบ้าพีกับพี่รุจติดต่ออยู่ ไม่ค่อยพอใจกับผลงานเท่าไหร่

"เครียดเกินไปหรือเปล่าพี" ฉันเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบตามแบบฉบับของตัวเอง ตาบ้าพีพยักหน้า

"ช็อคโกแลตไหม กินอะไรหวานๆ แก้เครียด" ตาบ้าพีหันใบหน้าที่ถูค้ำด้วยฝ่ามือสวย ๆ นั่นหันมอง

"เอาเป็นจูบแทนได้ปะ มันหวานกว่ากันเยอะ" พูดจบก็ยิ้มเจ้าเล่ห์

"งั้นก็ไม่ต้องเอา" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแบบเดิม ตาบ้าพีทำหน้ายุ่ง ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น ตานี้ก็แอบทะลึ่งกับฉันบ่อย ๆ ขอแค่ปลอดคนเถอะ แค่จูบแค่หอมก็จะทำ แถมสายตาที่วิบวับเวลามองฉันนั่นอีก ต้องคอยเตือนบ่อย ๆ ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องระหว่างฉันกับพี มันดูไม่เหมาะในที่ทำงานสักเท่าไหร่ อย่าว่าแต่ในที่ทำงานเลย นอกบริษัทฉันแทบจะไม่เคยไปไหนมาไหนกับพีเลย แค่ไม่กี่ครั้งเองมั้งที่ไปด้วยกัน

ฉันเห็นพวกทอม-ดี้ ที่เดินควงกันบ่อยๆ มีตั้งแต่วัยรุ่น คนทำงาน หรืออายุกลางคนเลยก็มี ฉันไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์แบบนี้ทำไมเขาถึงกล้าที่จะแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชนแบบนั้นนะ ไม่กลัวบ้างเหรอว่าใคร ๆ จะมองเป็นเรื่องที่แปลกแยก ถ้าเป็นฉัน ฉันคงไม่กล้าจับมือถือแขนกันแบบนั้นหรอก

ฉันเป็นคนที่ไม่แคร์ใครก็จริงแต่ยกเว้นเรื่องนี้ คงเพราะฉันโตมาในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเข้มงวดละมั้ง แม้จะไม่สนใจใคร แต่ก็มักจะแคร์สายตาคนอื่นที่มองมาเสมอ ฉันจึงไม่ชอบที่จะกลายเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร

เรื่องระหว่างฉันกับพี หากคนอื่นรู้จะเป็นยังไงนะ พ่อแม่จะรับได้ไหม พี่วัฒจะว่าอะไรหรือเปล่า แล้วเพื่อน ๆ ฉันล่ะเขาจะว่ายังไง ถ้าถามฉันว่า ฉันรักพีหรือเปล่า ฉันคงตอบว่า "ไม่" กับพี ฉันคงเพียงต้องการสิ่งที่พี่วัฒให้ฉันไม่ได้แต่พีมีให้ฉัน นั่นก็คือ ความใกล้ชิด ฉันแทบจะไม่ได้อยู่กับพี่วัฒ แต่ฉันอยู่กับพีเสมอ ที่ฉันรู้สึกว่าขาดพีไม่ได้ ก็คงเพราะเราอยู่ใกล้กันเท่านั้น

ส่วนพีฉันไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับฉัน บางครั้งเขาทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นเจ้านายที่เข้มงวด เจ้าระเบียบ บางที่เขาก็เป็นพี่ชาย(หรือพี่สาว) ที่คอยดูแลตลอด บางครั้งเขาก็เป็นเพื่อนที่ฉันแสนจะไว้ใจได้ และสิ่งที่ทำให้ฉันหวั่นไหวมากที่สุดก็คือ พีมักจะทำให้ฉันรู้สึกว่า พีรักฉันมากมายเหลือเกิน.........

"จี้ ได้ยินที่พีพูดหรือเปล่า"

"อา....หะ ว่าไงนะ" ฉันตื่นจากห้วงความคิดด้วยเสียงของพี

"ง่า.....ไม่ฟังพีเลยอะ" พีทำหน้าน้อยอกน้อยใจ บางทีเขาตานี้ก็มักจะกลายร่างเป็นเด็กขี้งอน ขี้อ้อนซะอย่างนั้น

"ไม่ใช่วัยที่จะมาทำหน้าอย่างนี้ย่ะ มีอะไร" ตาพีทำปากขมุบขมิบ

"บอกว่าเดี๋ยวช่วงบ่ายจะมีน้องฝึกงานมาฝึกงานที่แผนกเราอ่ะ มีมาสองคน นี่ใบส่งตัวน้องเขา" พีส่งใบส่งตัวของนักศึกษามาให้ฉันดู

"จินตนา เดชะไพบูลย์ อืม.....มาจากมหาลัยชื่อดังด้วยนะนี่ หน้าตาน่ารักทีเดียว" ฉันบอกพีเมื่อเห็นรูปที่แนบมาด้วย เด็กผู้หญิงผมยาวปะบ่า หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาเลยล่ะ

"แต่พีชอบแบบจี้มากกว่า" น้ำเสียงของพีทำให้ฉันชะงัก สายตาที่บังเอิญสบกันทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหวแปลก ๆ ฉันหลบตาหันมามองประวัติของอีกคน

"เอ๊ะ..." เสียงที่ลอดผ่านริมฝีปากของฉันออกมาทำให้พีสงสัย

"มีอะไรเหรอ" พีมองหน้าฉัน

"น้องชาย แฟนของฉันนะ" ไม่รู้ฉันคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า ที่ครู่หนึ่งเห็นแววตาที่เย็นชาและเจ็บปวดของพี

"เหรอ" พีจะกลายเป็นคนพูดน้อยไปทันทีเมื่อเอ่ยถึงแฟนฉัน

"เดี๋ยว.....ไปประชุมก่อนนะ คงสักพักแหละกว่าจะเสร็จ ฝากงานด้วยนะ" ฉันพยักหน้า สักพักหลังจากที่เก็บแอกสารบนโต๊ะ พีก็ลุกเดินไปเข้าห้องประชุม ฉันก็หันมาสนใจกับงานของตัวเองต่อไป

10.30 น.
"จีระ แป๊บหนึ่งนะ" ฉันหันไปมองทางต้นเสียง พี่รุจมายืนตรงหน้า

"ไม่ได้เข้าประชุมกับพีเหรอค่ะ" พี่รุจส่ายหน้า

"จีระ นี้น้องที่เค้าจะมาฝึกงานกับเรานะ คือพี่ฝากแนะนำน้องเขาหน่อยนะ พอดีว่าพี่ต้องออกไปหาคุณรุ้งลาโลกนะ" ฉันยิ้ม ก่อนจะพยักหน้า

"น้อง ๆ นี่พี่จีระ สุดยอดนักเบียนแบบของแผนกเราครับ" พี่รุจแนะนำให้น้อง ๆ รู้จักฉัน

"สวัสดีครับ/ค่ะ" ฉันรับไหว้

"ตามสบายจ้ะ เดี๋ยวฉันดูแลให้ค่ะ" พี่รุจยิ้มก่อนจะผละไป

"เดี๋ยวน้องเอาเก้าอี้มานั่งแถวนี้ก่อนก็ได้นะ เป็นไงบ้าง? วุฒิสบายดีไหม" ฉันทักน้องชายของแฟน

"ครับ พี่ล่ะ" ฉันพยักหน้า วุฒดึงเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ ๆ มานั่ง แถมลากเผื่อสาวสวยแก้มใสอีกคนด้วย เด็กคนนี้สวยกว่าในรูปเยอะเลย ตาพีเห็นต้องตาโตแน่

"รู้จักกันด้วยเหรอ" สาวน้อยหันไปถามวุฒิ

"พี่จีระครับนี่หมวยเพื่อนที่คณะครับ" ฉันยิ้มให้หมวย เธอยิ้มตอบกลับมา ฉันรู้สึกไปเองไหมนะที่ดูเหมือนหมวยจะแค่กระตุกมุมปากให้ฉันเท่านั้น

"ความจริงเราสองคนนะจะต้องได้คุยกับพี เอ้ย....คุณพี หัวหน้าฝ่ายที่นี่ก่อนนะ แต่พอดีแกติดประชุม ยังไงก็นั่งรอก่อนนะ" วุฒิพยักหน้ารับ

ฉันหันมาสนใจงานของฉันต่อ รู้สึกไม่ถูกชะตากับเด็กหมวยนี่ยังไงไม่รู้แฮะ จะพูดให้ถูกคือเด็กคนนี้ไม่ชอบฉันซะมากกว่า แต่ช่างเถอะ ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้ว

"อ้าว....มากันแล้วเหรอ" เสียงตาพีดังมาแต่ไกล เด็กทั้งสองหันไปมองตาพี

"วุฒิ หมวย นี่คุณพี โปรเจคดีไซน์ แล้วก็หัวหน้าฝ่ายของที่นี้" ทั้งสองยกมือไหว้ตาพี ฉันคิดไปเองหรือเปล่านะที่เห็นน้องหมวยมองตาพีซะแทบจะจับกินอย่างนั้นแหละ แต่ดูอีกทีฉันว่าฉันไม่ได้คิดไปเองหรอก ก็ดูสายตาน้องเขาสิ วิบวับเชียว ต่างจากมองฉันเมื่อกี้ลิบลับ

"หวัดดีครับ พี่ชื่อพี ยังไงก็ตั้งใจฝึกงานละกัน มีอะไรสงสัยก็ถามได้นะครับ"

"ครับ/ค่ะ" ตาพีระบายยิ้มหวานเต็มใบหน้า

"จี้ เดี๋ยวเราไปจดทะเบียนสมรสกันเถอะ" เอาอีกแล้วไอ้มุขชวนทานข้าวแบบนี้เนี๊ยะ วุฒิหันมาจ้องฉัน ก็ต้องจ้องละมีคนมาพูดแบบนี้กับว่าที่พี่สะใภ้อย่างนี้ แต่ฉันรู้สึกเหมือนมีสายตาไม่ค่อยพอใจส่งมาให้ฉันยังไงก็ไม่รู้ ฉันลองหันไปทางน้องหมวย อ่า...ตรงนี้นี่เอง ถึงจะแค่แวบเดียวก็เถอะ

"มุขชวนทานข้าวแบบนี้มันทำให้ใคร ๆ เข้าใจผิดนะ" ตาพียิ้มร่า ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ฉัน

"เดี๋ยวน้องสองคนไปด้วยนะ เลี้ยงต้อนรับ แล้วไอ้รุจไปไหนอ่ะจี้"

"ออกไปพบกับคุณรุ้งราวรรณนะ" และพีก็ทำหน้าแหย พร้อมกับแลบลิ้นออกมา ตานี้ทำอะไรเหมือนหัวหน้าคนบ้างไหมเนี๊ยะ

"ไปกินข้าวกันเถอะ" ตาพีลุกเดินนำออกไป ตามด้วยน้องหมวยที่ทำท่าอยากเข้าใกล้ตาพีเต็มทีแล้วก็ฉันกับวุฒิ เฮ้ย......ชักรู้สึกว่าเห็นแววความยุ่งยากมาซะแล้วสิ







"มีอะไรยะ" ฉันกรอกเสียงลงมือถือ หลังจากที่มันดังอยู่นาน

(ดูหนังกันเถอะ) เสียงตาพีชวน

"ไม่เอาอ่ะ มันดึกแล้วขี้เกียจออกจากห้อง" ฉันตอบไป วันนี้กลับมาถึงบ้านตอนสองทุ่มกว่าแล้ว ตาพีดันโทรมาชวนไปดูหนังตอนนี้เนี๊ยะนะ กว่าจะถึงโรงหนัง คงไปช่วยเขาเก็บร้านขายป๊อบคอร์นละมั้ง

(หมายถึงดูหนังแผ่นอ่ะ)

"พรุ่งนี้เหรอ" ฉันถามไปงั้นแหละ ตานี้คงกวนประสาทฉันเฉย ๆ แหละ

(วันนี้สิ พรุ่งนี้วันหยุดนะ จะดูโต้รุ่งเลย เอามะ) หาเรื่องให้ฉันอีกแล้วตาคนนี้

"ดูที่ไหนละ"

(ถามได้ ก็บ้านจี้ไง)

"กว่าพีจะมาฉันก็นอนแล้ว"

(เหรอ)

"อืม.....เดี๋ยวนะพี.....ใครมานะ" ฉันเดินไปที่ประตูห้อง

"แล้วตอนนี้พีอยู่ไหนอ่ะ" ฉันถามพี

(อยู่หน้าห้องจี้อ่ะ) ฉันเปิดประตู หูก็ได้ยินคำตอบของพี และสายตาก็เจอเขาที่หน้าห้อง

"คนบ้า" ฉันเดินกลับมาที่โซฟากลางห้อง ตาพียิ้มแป้น เดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ ฉัน เขาเอาของวางบนโต๊ะรับแขก ฉันเห็นมีแผ่นหนังหลายแผ่นเลยที่เดียว พร้อมกับขนมขบเคี้ยว และถุงกระดาษอีกถุงหนึ่ง

"เอาอะไรมานะ" ฉันถามตาพี

"แผ่นหนัง ขนม เสื้อผ้า"

"เสื้อผ้า?" ฉันทวนคำงง ๆ กับคำตอบของตาพี

"ก็ชุดที่จะเอามาเปลี่ยนพรุ่งนี้ไง.....พรุ่งนี้จะให้พีเป็นชีเปลือยเหรอ" ตาพีทำสายตากรุ้มกริ่มใส่ฉันอีกแล้ว ตาคนนี้นี่เหลือเกิน

"แล้วเอาชุดนอนมาด้วยป่าว เอาของพี่วัฒใส่ก่อนได้นะ"

"ไม่มีทาง" ตาพีตอบรวดเร็ว แล้วก็งึมงำอะไรสองสามคำไม่รู้

"พีเอาชุดนอนมาด้วยอ่า" ตาพีทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันอยู่กับเด็กยังไงไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่เขาอายุก็มากกว่าแท้ ๆ แต่ชอบทำตัวออดอ้อนเหมือนเด็ก ฉันไม่ค่อยชินกับการที่จะออดอ้อนใคร อย่างที่บอกค่ะฉันเป็นพวกน้ำแข็งขั้วโลก

"อาบน้ำหรือยังจี้" ฉันพยักหน้า ตาพีหยิบขนมมาแกะแล้วส่งเข้าปากก่อนจะเคี้ยวอย่างอร่อย

"น่าเสียดาย อยากอาบด้วย"

"จะบ้าเหรอ" ฉันรู้สึกเขินยังไงไม่รู้เวลาที่ตาพีพูดแหย่อย่างนี้ ก็ตาคนนี้เวลาพูดเล่นอย่างนี้สายตาไม่ได้ล้อเล่นนี่นา

"เดี๋ยวพีอาบน้ำก่อนนะครับ แล้วค่อยดูหนังด้วยกัน" ฉันเพียงแค่พยักหน้า มันเป็นกิริยาที่เคยชินเสียแล้ว ไม่ค่อยตอบว่าค่ะ เอาแต่พยักหน้า

ฉันนั่งฟังเพลงที่ดังจากเครื่องเสียงเบา ๆ

นี้เป็นเพลงโปรดของฉันเลยล่ะ ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ เมื่อเพลงจบฉันก็กดเล่นซ้ำอีก วนไปมาอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน พีคงออกจากห้องน้ำแล้ว กลิ่นสบู่อ่อน ๆ กระทบกับจมูกของฉัน ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามอง ใบหน้าของพี อยู่ห่างฉันไม่ถึงคืบ พียิ้ม ก่อนจะค่อย ๆ ลดใบหน้าลงใกล้เรื่อย ๆ

"ไหนว่าจะดูหนังไง" ฉันพูดขัดกับบรรยากาศ พีถอยออกพองลมจนเต็มแก้ม ทำหน้าเหมือนงอน น่ารักจริง ๆ ตาคนนี้ พีลุกไปเปิดทีวีและเครื่องเล่น DVD ก่อนจะใส่แผ่นหนังเข้าไป แล้วพีก็ลุกเปิดตู้เย็นเอาน้ำกับแก้วมาวางไว้ที่กองขนมบนโต๊ะ

"ชักจะไม่เข้าใจแล้วละว่านี้ห้องของพีหรือของฉันกันแน่" ฉันพูด พีแค่ยักไหล่ ตาพีมาที่ห้องนี้บ่อยมาก แทบจะบอกได้ว่าเกือบทุกวันเลยล่ะ มาจนห้องฉันมีสภาพเป็นห้องตาพีแล้วละ เพราะที่โต๊ะทำงานมีงานตาพีวางอยู่เกือบทั้งหมด ในตู้เย็นก็มีของโปรดตาพียัดอยู่เต็มไปหมด ดีนะที่ตานี้เอาเสื้อผ้าที่มาเปลี่ยนแขวนไว้ในรถไม่เอาแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าด้วย

"พีทำอะไรนะ" ฉันถามเมื่อเห็นตาพีเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า

"เก็บเสื้อผ้าไง" ^_______^ ตาพียิ้ม -_______- คงกลายเป็นห้องของนายจริง ๆ แล้วล่ะ ตาพีเอาเสื้อผ้า สองสามชุดเข้าไปแขวนกับเสื้อของฉัน แล้วเดินมานั่งข้างฉัน แทบจะนั่งตักฉันเลยมากกว่า ช่างเถอะฉันชินซะแล้วกับท่าทางแบบนี้

"แฟนจะกลับมาเมื่อไหร่" ตาพีถามเบา ๆ โดยปรกติตาคนนี้ไม่เคยถามถึงแฟนฉันเลยนะ ฟังยังไม่อยากจะฟังเลย

"อีกสองอาทิตย์ ทำไมเหรอ" ตาพีส่ายหน้า สายตาหมอนั่นมองหนังที่เริ่มเล่น ฉันเริ่มหันไปสนใจกับหนังแทน

หนังจบไปหนึ่งเรื่อง สองเรื่อง เรื่องที่สามกำลังจะมาต่อ ตาพีไม่คิดจะนอนจริง ๆ เหรอเนี๊ยะ ดูสิตาแป๋วเหมือนเดิมเลย สงสัยคืนนี้ฉันโต้รุ่งอีกแน่ ๆ

"ง่วงไหมจี้"

"นิดหน่อย"

"งั้นก็ง่วงต่อไปนะ ไม่ให้นอนหรอก ถ้าหลับล่ะก็จะลักหลับ อิอิ" ตาพีทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ นายนี่มันเอาแต่ใจจริง ๆ

"ไม่ต้องมาลักหลับเลยนะ ตาบ้า"

"ไม่ให้ลักหลับ แสดงว่าตอนไม่หลับได้ใช่ไหม" ว่าแล้วตาพีก็จูบปากฉันทันที ตานี้ไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันปฏิเสธเลย ฉันพยายามหันหน้าหนี แต่ไม่สำเร็จ ฉันก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่เคยปฏิเสธสัมผัสจากพีได้

ฉันสนองตอบพีอย่างเร้าร้อนไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่ พีกระตุกสายรัดเสื้อคลุมออก ก่อนจะถอดมันทิ้ง ฉันเหลือแค่ชุดนอนสายเดียว เนื้อผ้าบางเบาเท่านั้น


ปล. จริงๆแล้วตอนนี้จะต้องมีลิงค์เพลงประกอบให้ด้วยนะคะ แต่ว่าป้าใส่ลิงค์เพลงไม่ได้อ่ะ เหมือนมันจะไม่รับ URL ลิงค์เพลงยังไงก็ไม่รู้ นอกจากเน็ตเต่าแล้วบล็อคมันยังไม่ยอมให้ตรูใส่ลิงค์เพลงอีก แง เศร้า


"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."



< ตอนที่ 1ตอนที่ 3 >



Create Date : 15 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 9 มกราคม 2550 22:08:30 น. 0 comments
Counter : 779 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.