ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
-Love is...- Vol.3 (15)

"...ข้าฆ่าเจ้าแน่ ถ้าเจ้าไม่เม้นต์..."



รถโฟล์คของชมพู่แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถโรงแรมระดับห้าดาว ก่อนที่ร่างสูงของคนขับจะลงจากรถและเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งออก

ขาเรียวสวยโผล่ออกมาจากรอยผ่าแยกด้านซ้ายของกระโปรงสีไวน์องุ่นลงมาเหยียบพื้น ก่อนจะตามมาด้วยขาอีกข้างและร่างระหงส์(?) ก็ยืนขึ้นเต็มความสูงที่บวกร้องเท้าส้นสูงขึ้นไปอีก ทำเอาดวงตาหวานที่ห้อมล้อมไปด้วยแพขนตายาวงอนปัดมาสคาร่าราคาแพงอยู่ในระดับเดียวกับสายตาคมดุของพริก

มือสวยถูกสวมด้วยถุงมือแพรสีขาวไข่มุกยกขึ้นปัดผมยาวสลวยที่ถูกรวบตึงทิ้งเป็นหางม้าไปด้านหลัง เครื่องประดับเพชรรูปผีเสื้อตัวน้อยที่เหน็บอยู่ที่ศีรษะเข้ากันได้ดีกับสร้อยเพชรรูปดอกไม้ที่สวมอยู่บนคอขาวเนียน ชุดราตรีเกาะอกสีไวน์องุ่นขับผิวขาวของเธอได้อย่างสมราคา

ริมฝีปากเรียวบางเคลือบด้วยลิปติคสีชมพูอ่อนคลี่ยิ้มหวานอ่อนช้อย กระพริบดวงตาหวานนั้นอย่างมีจริต ก่อนจะพึมพำขอบคุณพริกเสียงเบา

“ขอบใจ”

“อืม” พริกเพียงแค่รับคำก่อนจะปล่อยให้เจ้าของร่างระหงส์คล้องแขนเขาเดินเข้าไปในงานเลี้ยงของสำนักพิมพ์ที่ชมพู่ทำงานอยู่

ทันทีที่ทั้งสองย่างก้าวเข้ามาในงาน ไม่มีสายตาคู่ไหนที่จะไม่ชำเลืองมอง เพราะไม่ว่าจะเป็นร่างระหงในชุดราตรีสีงดงามนั้นก็ดี หรือร่างสูงในชุดสูทสากลที่ถูกคล้องแขนไว้ก็ดี ต่างดึงดูดสายตาทุกๆ คู่ไว้ราวสะกด โดยเฉพาะชุติ

“วันนี้พู่สวยมากนะคะ” ชุติเดินเข้ามาทัก ใบหน้างดงามหันมาสบตากับเธอก่อนจะยิ้มแย้มให้...รอยยิ้มนั้นมันสะกดเธอได้ทันที ทั้งที่ก็ยังเป็นชมพู่คนเดิม แต่ทำไม?... เธอกลับรู้สึกว่าถูกดึงเข้าไปในบ่วงเสน่ห์อีกหลุมหนึ่งอย่างนี้

“ขอบคุณค่ะ” ริมฝีปากบางเคลือบไปด้วยลิปติคสีหวานขยับพูดเปล่งเสียงที่ทำให้ชุติคิดว่าตัวเองกำลังหลุดไปยังอีกโลกหนึ่ง พระเจ้าช่วยเธอด้วยเถอะ...เธอกำลังจะตกลงไปในบ่วงเสน่ห์บ่วงนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น

แต่ภาพที่ทำให้เธอไม่หลงเคลิบเคลิ้มไปมากกว่านี้คือ ใบหน้าหล่อเหลาดุจชายที่เอนมากระซิบที่ข้างหูหญิงสาวตรงหน้า อารมณ์หวงแหนมันพุ่งเข้ามาในอก! ความใคร่อยากมี อยากครอบครอง!มันแทบทะลัก

“ยินดีด้วยนะคะสำหรับรางวัล”

“ขอบใจจ๊ะ...เดี๋ยวพู่ต้องขึ้นไปเชิญรางวัลนะ บ.ก.บอกน่ะ”

“ได้ค่ะ” เสียงหวานตอบรับ ก่อนจะผินหน้าไปทางคนตาดุที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “พริกไปหาที่นั่งนะคะ...หาอะไรทานก่อนเลย พู่คงจะยุ่ง ๆ”

“ค่ะ” คนตาดุตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะค่อยๆ ผละเดินออกจากร่างนั้น เพื่อไปหามุมสงบนั่ง

“วันนี้พู่สวยมาก จริงๆ นะ”

“ขอบคุณค่ะ...อย่าชมมากสิ เดี๋ยวพู่เขินนะ” ว่าแล้วก็ยิ้มเอียงอายสื่อนัยหวานในแววตาให้ชุติใจสั่นสะท้าน ยังไม่รวมฝ่ามือที่ยกขึ้นมาแตะแขนของเธออย่างสนิทสนมนั้นอีกมันทำเอาร่างกายของเธอแทบระอุ...ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอไม่อาจจะขยับกายไปไหนได้อีกแล้ว นอกจากข้างกายของสาวหวานที่ปล่อยเสน่ห์ออกมามัดหัวใจเธอจนดิ้นไม่หลุด

เนิ่นนานกว่าที่การมอบรางวัลจะเสร็จสิ้นลง และกว่าจะจบงานอีกกินเวลานานโข พริกที่นั่งรออยู่ในมุมสงบก็สุดจะทนเพราะความเบื่อหน่าย เขาจึงลุกเดินหนีออกไปสูดอากาศด้านนอก โดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจชุติที่ควงคนที่มากับเขาเดินโฉบไปรอบงาน

พริกสูบบุหรี่หมดไปหนึ่งมวนก่อนหมุนกายเดินกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง กวาดสายตาคมมองหาร่างระหงที่นั่งรถมากับเขาแต่ก็ไม่เห็น พริกไม่ได้โตกตากโวยวายอย่างที่ควรจะเป็น เขากลับไหวไหล่อย่างไม่แยแส และเดินออกมาจากงานซะอย่างนั้น

“ไปรอที่รถละกัน”


ส่วนคนที่ถูกมองหานั้น ตอนนี้เดินหายเข้าไปในห้องพักสุดหรูที่ชุติเปิดจองไว้ล้วงหน้าแล้ว หลังจากที่รับรางวัลก็มายืนคุยกัน สาวร่างเล็กแต่ยิ้มสวยก็ชวนให้ขึ้นมาข้างบนนี้ แล้วทำไมต้องปฏิเสธล่ะ..ในเมื่อเบื่อเต็มทีกับงานแบบนั้น

เหยื่อลอยมาเข้าปากอย่างนี้ มะเหมี่ยวชอบใจอยู่แล้ว!!



รุ่งอรุณที่แสนจะสดใสผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วร่างบอบบางของชมพู่ขยับบิดกายอย่างเกียจคร้าน อาจจะเป็นเพราะในรอบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอยังไม่มีโอกาสหลับให้เต็มตาสักครั้งกระมัง ค่ำคืนที่ผ่านมาเลยทำให้สาวหวานอิ่มเอมกับนอนหลับพักผ่อน กว่าจะรู้ตัวบิดกายไปมาก็ทำเอาเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลา เก้าโมงเศษๆ แล้ว

ชมพู่ใช้เวลาสำหรับธุระส่วนตัวอยู่ครึ่งชั่วโมงก่อนจะเดินลงมาชั้นล่างของบ้าน เธอเห็นพริกนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องรับแขก ภาพนั้นกระตุ้นให้เธอยิ้มหวานละมุนเดินทอดน่องลงมาหย่อนกายนั่งข้างๆ กับคนรัก

“ตื่นสายจังเลยนะวันนี้... เกเรนะคะ” เสียงทุ้มหวานของพริกทำเอาสาวหวานของเรายิ้มเอียงอาย อ้อมแอ้มตอบเบาๆ ว่า

“ก็มันเหนื่อยนี่คะ... ดูสิหลับเป็นตายเลย” พริกไม่ว่าอะไรเพียงแค่ยิ้มอ่อน

“หิวหรือเปล่าคะ? มีน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋อยู่นะ รองท้องไปก่อน เหมี่ยวออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ปากซอยมั้งเห็นว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่”

“อยากกินทำไมไม่ปลุกพู่ล่ะคะ...จะทำให้ เช้าแบบนี้ใครเขาจะขายกัน” พริกหัวเราะ ก่อนจะหยอกกลับว่า

“เช้าที่ไหนกันคะ...สิบโมงกว่าแล้ว ไอ้เหมี่ยวไส้บิดเลยแจ้นไปหาอะไรทาน”

“พู่ตื่นสาย” สาวหวานบ่นใส่ตัวเอง พริกโอบร่างบางนั้นไว้ในอ้อมกอด

“ไม่เป็นไรค่ะ ก็พู่เหนื่อยนี่”

“ก็จริงนะคะ...เหนื่อยมากเลย นี่ดูสิเรื่องงานเลี้ยงเมื่อคืนขนาดไปมาแท้ๆ ยังจำไม่ได้เลยว่ามีอะไรบ้าง...สงสัยพู่คงต้องลาพักร้อนแล้วล่ะค่ะ” พริกอยากจะพยักหน้าด้วยความดีใจอยู่หรอกที่เธอจะพักร้อน แต่พอเธอเอ่ยถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ขึ้นมาก็ทำเอาเขาอยากให้น้ำลายติดคอตายขึ้นมาเฉยๆ

“ก็ลาพักสิคะ...ส่วนเมื่อคืนก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ พู่สวย...ที่สุดในงาน แล้วก็ขึ้นไปเชิญรางวัลบนเวทีค่ะ แล้วก็เหนื่อยจนหลับสนิทไงคะ” พริกตอบ...มันเป็นความจริงนะ
ชมพู่สวยที่สุดในงาน...อันนี้คอนเฟิร์ม แต่พลาดนิดหน่อยแค่คนที่เดินโฉบไปโฉบมาในงานน่ะแค่หน้าเหมือนชมพู่เท่านั้นเอง

ขึ้นไปเชิญรางวัลก็ใช่ แต่เรื่องหลับเป็นตายเพราะเหนื่อยนี่เขาไม่แน่ใจเพราะไม่รู้มะเหมี่ยวทำอีท่าไหนคนรักของเขาถึงได้หลับยาวยันเช้าขนาดนี้ บังคับถามเพื่อนรักก็ไม่ยอมบอก...แถมมันยังหายไปนานสองนานกับยัยชุติยิ้มสวยนั่นอีก ไม่อยากจะเดา

พริกไม่ทันได้คิดอะไรต่อเสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านเรียกความสนใจทั้งคู่ไปซะก่อน และไม่ทันที่พริกจะลุกไปดูว่าใครมาเยือนร่างเล็กของชุติก็โผล่เข้ามาในบ้านอย่างถือวิสาสะจนพริกอยากจับโยนออกไปนอนวัดพื้นซะ

“ตื่นนานหรือยังคะพู่ ชุติโทรมาก็ปิดเครื่อง เลยขับรถมาหา นี่แวะซื้ออาหารกลางวันมาด้วยนะคะ เจ้านี้อร่อย” ชุติเดินผ่านพริกที่ยืนอยู่กลางบ้านเพราะกำลังจะลุกไปดูว่าใครมาเยือนราวกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น เป็นหัวหลักหัวตออย่างนั้น

เสียงหวานของเจ้าของร่างเล็กทำเอาชมพู่รู้สึกขนลุกประหลาด เธอส่งยิ้มปุเลี่ยนให้กับเพื่อนร่วมงานที่จู่ๆ ก็โผล่มาที่บ้านของเธอ แถมยังเดินเข้ามานั่งเบียดกับเธออย่างถือสิทธิ์สนิทสนม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ชุติไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาก่อน

“...ขอบคุณนะคะ” เกินกว่าจะนึกอะไรได้ชมพู่เลยได้แต่เอ่ยขอบคุณเบาๆ สำหรับอาหารมื้อกลางวันที่เพื่อนร่วมงาน(?) ขนมาฝาก สายตาแอบชำเลืองไปทางร่างสูงของคนรักที่ยืนมองชนิดใช้สายตาเป็นดาบเตรียมจะเชือดคอแขกไม่ได้รับเชิญ

“ไม่เป็นไรค่ะ...เมื่อคืนรีบกลับทำไมไม่รู้ทิ้งชุติไว้คนเดียวได้ไง” ตัดพ้อได้งดงามมาก ไม่ว่าจะน้ำเสียงหรือกิริยาออเซาะ แถมด้วยการยื่นหน้ามาแตะหอมเบาๆ ที่แก้มนวลของชมพู่นั่นอีก โอ้โห! ไอ้พริกไม่ระเบิดให้มันรู้ไปสิ

“วอน...” พริกคำราม ไม่ทันสิ้นเสียงด้วยซ้ำร่างของชุติก็ปลิวออกห่างจากชมพู่ ดีว่าพอจะตั้งหลักได้เลยไม่ล้มเทคะมำกับพื้น เธอมองพริกตาเขียวปัด ยิ่งพอเห็นชมพู่ถลาเข้าไปเกาะแขนไอ้คนตาดุนั่นเธอแทบอยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน

“ทำบ้าอะไรของนาย”

“หุบปากไปเลยนะ! ฉันไม่ซัดเธอให้ม้ามแตกก็บุญเท่าไหร่แล้ว ออกไปจากบ้านหลังนี้เดี๋ยวนี้!” พริกตวาดลั่น ชนิดที่ว่าคนฟังสะอึก เพราะไม่ใช่แค่เสียงดังอย่างเดียวเท่านั้น รังสีที่แผ่ออกมาจากร่างสูงของเขานั้นมันกดดันได้ชนิดที่เรียกว่าหลอน

“ใจเย็นนะคะพริก” ชมพู่พยายามเหนี่ยวรั้งร่างของคนรักไว้อย่างสุดความสามารถ เพราะไม่อย่างนั้นพริกอาจจะกลายเป็นฆาตกรโหด และมีบ้านของเธอเป็นจุดสังหารก็ได้

“นายไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉัน!”

“มีสิวะ! นี่บ้านแฟนฉัน เธอต่างหากไม่มีสิทธิ์!”

“แฟนนาย? แน่ใจ?” เกลียด! พริกขอใช้คำนี้กับผู้หญิงคนนี้ เขาเกลียดน้ำเสียงและท่าทางเหนือกว่าของยัยผู้หญิงคนนี้

ให้ตาย! เขาน่าจะจัดการกับยัยผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกไม่น่าปล่อยให้ยืดเยื้อมาจนป่านนี้เลย ไอ้เหมี่ยวก็กะไร ไม่รู้ไปทำอะไรไว้ ยัยนี้ถึงให้ผีมาสวมวิญญาณหลอนอย่างนี้

“แฟนนายก็ได้ แต่ชมพู่ก็เป็นของฉันเหมือนกัน” คำพูดของชุติทำเอาสาวหวานคนกลางสะดุ้งตกใจ เธอไปเป็นของชุติตั้งแต่เมื่อไหร่ คำว่ารักสักคำยังไม่เคยเอ่ย อย่าว่าแต่เอ่ยเลย คิดยังไม่เคยคิด แล้ว...

แต่คำพูดของชุติไม่น่าตกใจเท่าภาพที่โชว์หราอยู่ในคลิปบนมือถือที่เธอส่งมาให้ดู พริกรับมาดูก่อนจะหันไปมองร่างของคนรักที่ยืนมองเขาอยู่แล้ว

“อะไรคะ?” ชมพู่ไม่เข้าใจ เธอจึงเอามือถือนั้นมาดูเอง เธอเบิ่งตามองภาพในคลิปนั้นจนตาแทบถลน...

ภาพของชุติที่กำลังโรมรันพันตูกับร่างๆ หนึ่งนั้นมันบอกความสัมพันธ์ของคนทั้งสองได้ดี... คนที่กอดกับชุตินั้นคือเธอ!

“ที่นี้ก็พูดกันง่ายขึ้นแล้วมั้งคุณอาจารย์...ฉันกับพู่เรามีอะไรกัน และตกลงจะคบกัน” ชุติทิ้งมาดของเพื่อนร่วมงาน เดินมาคล้องแขนของชมพู่อย่างประกาศสิทธิ์ พริกพูดไม่ออก...มองหน้าชมพู่ที่ยืนหน้าซีดอยู่

คนรักของเขาส่ายหน้าช้าๆ เงยขึ้นมาสบตากับเขา

“ไม่นะพริก! พู่จำอะไรไม่ได้สักอย่าง”

“จำไม่ได้? ไม่เป็นไรงั้นชุติเล่าเอง เมื่อคืนในงานเลี้ยงไงคะ หลังจากรับรางวัลแล้ว ชุติก็สารภาพกับพู่ แล้วพู่ก็ตอบรับด้วย เราเลยมีภาพอย่างนี้มายืนยันไงคะ ที่ชุติถ่ายไว้ก็เผื่อว่าจะมีคนบางคนไม่ยอมรับความจริง” พริกขมวดคิ้ว ทำหน้าไม่เข้าใจ

ชมพู่กดมองภาพนั้นอีกครั้ง... หลังจากที่ฟังชุติเล่า เธอไปงานเลี้ยง? ทำไมเธอจำอะไรไม่ได้สักอย่างล่ะ? เธอจำได้แต่ว่ากลับมาจากสำนักพิมพ์ กำลังแต่งตัวแล้วมะเหมี่ยวก็เข้ามาหาพร้อมกับน้ำส้ม...เธอดื่มมันแล้วก็คุยกับพี่สาวฝาแฝด ก่อนจะ...ไม่รู้! ไม่รู้อะไรทั้งนั้น เธอจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง!

ภาพในคลิปนั้นมาหยุดตรงใบหน้าของคนทั้งสอง เจ้าของใบหน้าหวานจะหันมามองกล้องและยิ้มให้มัน ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะมืดมิดหายไป...ภาพสุดท้ายนั้น ใบหน้าของเธอ...นั่นคือใบของเธอ!

ไม่สิ!

ไม่ใช่!...นั่นไม่ใช่เธอ...คนในคลิปนั่นไม่ใช่เธอ

“ไม่ใช่! คนที่อยู่กับชุติไม่ใช่ชมพู่นะ! คนในคลิปไม่ใช่พู่นะพริก” สาวหวานละล้าละลังบอก...ใครอาจจะแยกไม่ออก แต่เธอที่รู้ดีกว่าใครตั้งแต่เกิดมานั้นแยกออก...เพียงแค่มองก็รู้แล้ว...

“ไม่ใช่ได้ยังไงคะพู่..เราอยู่ด้วยกันนะคะ”

“ไม่ใช่! นั่นไม่ใช่ฉัน!” ชมพู่หันมาตวาดใส่ชุติ...ท้วงท่าก้าวร้าวของสาวหวานทำเอาชุติตกใจ เพราะเธอไม่เคยได้พานพบตอนที่ชมพู่โมโหโกธา

“แต่นั่น...เมื่อคืน...” ชุติพยายามพูด แต่ยังไม่จบประโยคก็มีเสียงแทรกเข้ามา

“เมื่อคืน? เมื่อคืนอะไรเหรอ?” สายตาทั้งสามคู่หันมามองที่ต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง
ร่างของมะเหมี่ยวยืนพิงกรอบประตูแขนทั้งสองกอดอกอยู่ มีถุงพลาสติกห้อยอยู่ด้วย พริกมองเพื่อนรักด้วยสายตาไร้ความรู้สึก ชมพู่มองพี่สาวฝาแฝดด้วยความรู้สึกว่าเจอแล้วตัวช่วยของเธอ ส่วนชุตินั้น ไม่ต้องบรรยายหรอกว่าเธอรู้สึกอย่างไร

ยิ่งกว่าเอาเธอไปลอยคอกลางแม้น้ำเจ้าพระยาซะอีก!

“ดูอะไรอยู่หรอ? ดูบ้างสิ” ไม่ต้องรอให้ใครจัดหาให้ ร่างสูงของมะเหมี่ยวก็เดินลิ่วไปยืนแทรกกลางระหว่างชุติกับชมพู่คว้าเอามือถือในมือน้องสาวไปดู ก่อนจะกระตุกยิ้มหัวเราะในลำคออย่างพอใจ

“อุตส่าห์ถ่ายไว้เพื่อมาทำอย่างนี้หรอกเหรอ? เข้าใจคิดนะ...แต่ดูโง่ไปหน่อยมั้ง?” คำพูดของมะเหมี่ยวทำเอาสามชีวิตที่เหลือถึงบางอ้อ...

“มะ..หมาย...หมายความว่าไง?” ชุติถามแบบสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอจ้องหน้าที่เหมือนกับชมพู่ราวกับพิมพ์เดียวกันนั้น สลับกับคิดทบทวนเหตุการณ์คืนที่ผ่านมา... รอยยิ้มที่คุ้นเคยนั้น...มัน...

ไม่นะ!

“อธิบายมานะเหมี่ยว... นี่มันเรื่องอะไร ทำไมพู่ถึงจำอะไรไม่ได้เลย?” ชมพู่ถามด้วยเสียงคาดคั้น มะเหมี่ยวถอนหายใจฉีกยิ้มหวาน (นรก) ก่อนจะขยับปากพูดว่า

“ก็พู่เหนื่อยจัดเลยนี่คะ หลับไปปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น เห็นว่างานนี้สำคัญมากเหมี่ยวเลยไปแทน...แล้วก็เจอ...คุณคนนี้...” ไม่ต้องให้เขาอธิบายอีกทุกคนก็กระจ้าง ชมพู่หันไปมองพริกตาเขียวปัด แต่เขาส่ายหน้า

“ไอ้พริกไม่รู้เรื่องหรอก มันแยกเหมี่ยวกับพู่ไม่ค่อยจะออกหรอกน่า...เมื่อคืนเหมี่ยวก็สวยแล้วก็เหมือนพู่มากด้วย” โกหก! พริกนะเหรอจะแยกเธอกับพี่สาวฝาแฝดไม่ได้... แต่เธอไม่อยากปรักปรำ เพราะตอนนี้ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งที่กำลังจะช็อคไปซะแล้ว

“นี่มัน...บ้า! บ้าชัดๆ” ชุติกรีดร้องออกมะเหมี่ยวด้วยสายตาแทบจะลุกเป็นไฟ แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจแม้แต่นิดเดียว

“นายมันต้มตุ๋น...หลอกลวง!” มะเหมี่ยวส่ายหน้า ทำสีหน้าแกล้งตกใจอย่างน่าหมั่นไส้ ยิ้มอย่างเป็นต่อ

“ฉันถามเธอแล้วว่าคิดดีแล้วเหรอ... แต่เธอก็สมยอมนี่!”

“ชมพู่!” ชุติหันมาทางสาวหวาน เธอตั้งท่าจะเกาะแขนของชมพู่เป็นหลักยึด แต่พริกกลับดึงร่างของคนรักเข้าไปในอ้อมกอดเสียก่อน มันบาดตาชุติชนิดที่ว่าอยากจะตาบอดเลยล่ะ

“พู่เสียใจนะชุติกับเรื่องที่เหมี่ยวทำ... แล้วก็ขอโทษด้วยนะคะ...พู่มีคนรักอยู่แล้ว พู่คิดกับชุติแค่เพื่อนร่วมงานค่ะ” คำปฏิเสธของเธอดูหนักเน้น ผสมกับอาการตัดรอนที่หันหลังเดินขึ้นชั้นสองพร้อมคนรักนั้นด้วยอีก หัวใจมันสลายเลยทีเดียว

ชุติแทบจะหมดแรง เทถอยจนเกือบจะล้ม นี่เธอทำอะไรลงไป...เธอก้าวพลาดไปงั้นหรือ ร่างของเธอกำลังจะล้มลงดีว่าแขนแข็งแรงของมะเหมี่ยวคว้าไว้ได้แต่เธอก็สะบัดออก มองใบหน้าของมะเหมี่ยวด้วยสายตาแค้นเคือง ต่างกับสายตาที่มองชมพู่ลิบลับ...

“กลัวตายเลยล่ะ” มะเหมี่ยวพูดเสียงเรียบ กระตุกยิ้มเยาะจนชุติอยากจะตบหน้าสวยๆ นั้นซะ “ถ้าคิดว่าตบฉันแล้วออกจากบ้านหลังนี้แบบครบสามสิบสองประการก็เอาเลย...” ใครจะกล้า! หน้าตาที่ยิ้มแย้มของมะเหมี่ยวนั้น มันช่างขัดกับสายตาเย็นชาของเขาเสียเหลือเกินเพียงเท่านั้นชุติก็หดมือลง และหันหลังเดินออกจากบ้านไป โดยไม่คิดจะเหลียวกลับมามองอีกแล้ว

หมดกัน! ขายหน้า!

มะเหมี่ยวมองตามร่างของชุติจนเธอขับรถออกจากบ้าน ก่อนจะยักไหล่ไม่สนใจ แล้วกลับมานั่งที่โซฟา ตั้งใจว่าจะควานหารีโมทมาเปิดโทรทัศน์ แต่ก็สะกิดใจกับอะไรบางอย่างในมือ...

“โกรธจนลืมมือถือเลยแฮะ” มะเหมี่ยวกระตุกยิ้มโยนไอ้เครื่องจิ๋วนั้นไว้บนโต๊ะรับแขกก่อนจะเปิดโทรทัศน์ดูข่าวต่างประเทศ ไม่ได้สนใจไอ้เครื่องสื่อสารนั่นอีกเลย

โดยไม่รู้เลย! ว่ามันจะทำให้เขาลำบากใจในเวลาต่อมา!




“กลับมาแล้ว! มีของฝากเยอะเลย” เสียงของน้อยหน่าดังเข้ามาก่อนที่ตัวจะโผล่เสียอีก มะเหมี่ยวถึงกับหูตั้ง เยี่ยมหน้าออกมาจากห้องครัวพร้อมกับแก้วน้ำแครอทปั่นฉีกยิ้มแป้นต้อนรับคนสวยที่ทิ้งตัวนั่งแหม็บที่โซฟาตัวที่เขานั่งก่อนหน้านี้

“ถึงดึกนะ”

“เครื่องมันดีเลย์...เจอพายุ” น้อยหน่าตอบคำถามของมะเหมี่ยว เธอรับแก้วน้ำจากเขามาจิบก่อนจะระบายยิ้มขยับกายให้นั่งสบายตอนที่มะเหมี่ยวทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เธอ

“บินอีกเมื่อไหร่?”

“มะรืน”

“อืม...งั้นพรุ่งนี้ไปซื้อชุดกัน มีการ์ดแต่งงานของไอ้สวยกับเด็กเอ๋อแล้วก็ของไอ้พัฒด้วย”

“เมื่อไหร่เหรอ?...”

“ไอ้พัฒอาทิตย์หน้า...เธอไปมั้ย?” น้อยหน่าส่ายหน้าทันที

“ฉันไม่รู้จักเขา” มะเหมี่ยวพยักหน้า...

“งั้นเธอควรจะลางานสักวันนะ เพราะไอ้สวยแต่งหลังไอ้พัฒสองวัน” น้อยหน่าไม่ตอบคำถามมะเหมี่ยวแล้วเพราะเธอสะดุดตากับไอ้เครื่องสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น

ตอนแรกเธอก็นึกว่าของใคร เลยหยิบขึ้นมาดู คิดว่าเป็นของมะเหมี่ยว เธอคิดว่าเขามองเห็นแล้ว และอนุญาตให้เธอเปิดดูได้ก็น้อยหน่าจิ้มให้เขาเห็นเลยนี่ว่าเธอต้องการจะดู... และมันก็มีอะไรที่น่าดูเหลือเกิน

ไม่รู้นะ! เธอคิดว่าเธอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เลยมั่นใจว่าตัวเองแยกแยะฝาแฝดคู่นี้ออก...ดังนั้นเธอสามารถบอกได้ทันทีว่าใครเป็นใคร แม้จะมองเห็นแค่ในหน้าจอ

มือถือเครื่องนั้นมันค้างอยู่ตรงที่หน้าโปรแกรมคลิปวิดีโอและเธอก็เปิดมันดู...

มะเหมี่ยวไม่ได้สนใจอะไรรอบข้างตอนนี้เขากำลังสนใจข่าวในโทรทัศน์จนไม่รู้ว่าสาวสวยข้างกายกำลังจะปะทุความโกรธ

ร่างเพรียวของน้อยหน่าลุกพรวดขึ้นยืนจนมะเหมี่ยวเกือบสะดุ้ง เขาเงยหน้าขึ้นมองและเลิกคิวเป็นเชิงถามว่าเป็นอะไร?...ทำไมถึงได้ทำหน้าได้ยักษ์(สวย)ขนาดนั้น แต่เขาไม่ได้คำตอบอะไรนอกจากสายตาโกรธเคือง ระคนน้อยใจ และท่าทางโมโหของเธอ... ในวินาทีต่อมาเธอก็กระแทกไอ้มือเครื่องนั้นลงวางที่เดิม และเดินหนีขึ้นชั้นบน...

“อะไรวะ?” มะเหมี่ยวบ่น...มองตามร่างของน้อยหน่า ไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไร ก่อนจะหันมามองไอ้มือถือเจ้าปัญหา...บางทีคนฉลาดก็สมองช้าได้เหมือนกัน กว่าจะเข้าใจอะไรและวิ่งตามคนสวยไป ก็พอดีกับที่เธอปิดประตูห้องดังโครม โดยมีพริกยืนงงอยู่อยู่หน้าห้องอีกคน

“ยัยแจ๋น เปิดประตู!” เงียบ! คือคำตอบ

“แกทำหอกอะไรอีกวะไอ้เหมี่ยว!” พริกถามด้วยเสียงฉุนเฉียว เขากำลังมีเวลาส่วนตัวกับชมพู่อยู่ดีๆ ก็มีอันต้องพับโครงการเก็บเพราะเสียงเคาะประตูโครมๆ พอเปิดก็เจอคนสวยปั้นหน้าอยากเป็นฆาตกรก่อนจะ(เฉดหัวเขาให้ออกมา) ขอเข้าไปในห้องและอยากได้ความเป็นส่วนตัว...

แล้วใครจะด้านหน้าอยู่ล่ะ!

“เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ! หน่าออกมาคุยกันก่อน อย่าทำตัวงี่เง่าแบบนี้!” พริกถอนหายใจพรืด...นี่แน่ใจนะว่ามาง้อสาว

ประตูห้องนอนของชมพู่ถูกเปิดออกอย่างแรง มะเหมี่ยวตั้งท่าจะพูดแต่ไม่ทันเพราะหมอนใบโตมันปลิวมาปิดหน้าอย่างแรง ก่อนจะตามด้วยเสียงจี๊ดจริตและเสียงปิดประตู

“นายต่างหากที่งี่เง่า! ไอ้หมอเฮงซวย”

ปัง!

พริกหมุนตัวเดินกลับห้องทันที ปล่อยให้เพื่อนรักยืนอึ้งอยู่หน้าห้องน้องสาว... ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คำบริภาษของคนสวยพริกเห็นด้วยเต็มที่

...ง้อสาวทั้งที่เสือกปากหมาได้โล่เอง! สม!









< ตอนที่ 14



ตอนที่ 16>



Create Date : 25 กันยายน 2552
Last Update : 25 กันยายน 2552 10:31:21 น. 2 comments
Counter : 746 Pageviews.

 
มาต่อ แร้ว ว

พี่ซาจัง น่ารักที่สุดในโลกเรย ยย

อิอิ

มะเหมี่ยว น่ารักดี


โดย: หมูน้อยกลอยใจ IP: 222.123.177.216 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:11:25:57 น.  

 
เย้ ๆๆ

ท่านซามาต่อแล้ว

ขอบคุนๆๆๆ


โดย: ปูเป้ IP: 192.168.1.214, 202.28.32.99, 202.28.35.3 วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:16:26:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.