การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะตั๋วถูกกก

ใช่แล้วจ้าเพราะได้ตั๋วเครื่องบินของสายการบินหางแดงราคาถูกนั่นเอง 

เรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากเราชอบเล่นพันทิป หารีวิวอ่านมั่ง ถามข้อมูลการท่องเที่ยวบ้างแล้วเราก็ไปเจอกระทู้แจกตั๋วเครื่องบินของคุณ “เที่ยวแล้วรวย”เลยแอดไลน์ของคุณเที่ยวแล้วรวยเผื่อเอาไว้ วันดีคืนดีก็โดนดึงเข้าไปในไลน์กลุ่มแจ้งข่าวเรื่องโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไป-กลับญี่ปุ่นอยู่ที่ราคา6000 บาท ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋า 

แหมะ..ราคามันช่างยั่วยวนซะจริง 

เลยไลน์ต่อไปถามน้องว่าเอาไงดี ราคานี้น่าสนเนอะ ทั้งน้องทั้งแฟนน้องตกลงทั้งคู่แฟนเราไม่ไป เหลืออีกหนึ่งคือแม่ของเรา ปรากฏว่านางไม่ไปจ้า บอกว่าใช้ตังค์เยอะ (แหม่..ออกเองเนอะ ถ้าไปไม่ลูกก็พ่อก็ต้องออกให้อยู่ดี) พอนางไม่ไปเราเลยจองไปแค่ 3 ที่ จัดการจองตั๋วผ่านคุณเที่ยวแล้วรวย จ่ายตังค์กันไปเรียบร้อยปรากฏว่านางเปลี่ยนใจค่ะ 

โดนไซโคจากลูกๆเข้าหน่อยก็เริ่มใจอ่อน อะไปก็ไปแถมพ่อยังออกตังค์ให้อีก ทีนี้งานก็เข้าเราละเพราะช่วงที่ไปเป็นตั๋วโปรฯแล้วมันเหลือแค่ที่เดียว รีบให้เค้าจองให้ จองครั้งแรกเลือกวันขาไปผิด  ต้องรออีก 2 ชั่วโมงถึงจะจองใหม่ได้ โอ่ย..รอกันยันตี2เลยทีเดียวแต่ดวงแม่จะได้ไปอะเนอะ สุดท้ายก็ได้ตั๋วมา 4ใบกับเลขบุคกิ้ง 2 เลข ซื้อโหลดกระเป๋าขาไป 25 โล 850 บาท ขากลับ 25 โล 2โหลด 1700 บาทเฉลี่ยค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับพร้อมค่าโหลดกระเป๋าคนละ 6,637.5 บาท คุ้มโคตร 

หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการจองที่พักและการหาข้อมูลเพื่อทำทริปบอกตรงๆว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับญี่ปุ่น ไม่รู้แม้กระทั่งว่าสนามบินนาริตะอยู่ตรงไหนจะไปโตเกียวไปยังไง ญี่ปุ่นมีอะไรให้เที่ยวบ้าง 

โอ้ว..สมองโล่งกับญี่ปุ่นสุดๆ ก็ได้อากู๋และรีวิวจากห้องบลูฯ นี่แหละที่ช่วยตอบว่าคนเค้าไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างนอกจากจะหาข้อมูลผ่านเว็บเราก็ยังหาข้อมูลจากหนังสือ นิตยสารต่างๆถามจากพี่ที่ศูนย์ภาษาญี่ปุ่น เรียกได้ว่าหาข้อมูลประหนึ่งทำวิทยานิพนธ์กันเลยทีเดียว

งั้นมาเริ่มกันที่การจองที่พัก สำหรับที่พักเราเน้นถูกและเดินทางสะดวก 

โดยเลือกจากที่ที่อยากไปคือโตเกียว ฮาโกเน่และภูเขาไฟฟูจิ

เว็บที่ใช้หาที่พักเราใช้ TripAdvisor, Booking,Agoda, Expedia, jalan.net, Airbnb, Japanican.com เช็คทำเลและราคาเมื่อเลือกโรงแรมที่น่าสนใจก็ลองเข้าไปดูเว็บของโรงแรมโดยตรงเพื่อเปรียบเทียบอีกที

ทริปนี้เราเลือกพักใน 3 เมืองคือโตเกียว ฮาโกเน่ และทะเลสาบยามานากะ

ที่พักแรกในโตเกียว เราเลือกจองตรงกับโรงแรม Toyoko-Innสาขา Shinagawa-eki Konan-guchi Tennozu โรงแรมนี้อยู่ในเครือ Toyoko-Inn มีหน้าเว็บภาษาไทยด้วยคือ www.toyoko-inn.com/thai/ แต่ถ้าจะจองที่พักต้องเลือกลิงค์ที่เป็นภาษาอังกฤษ 

• ข้อดีของการจองที่พักโดยตรงกับโรงแรมคือเราไม่ต้องกังวลว่าโรงแรมจะได้รับการบุคกิ้งผ่านเอเจ่นรึยังหากจะแก้ไขหรือยกเลิกการจองก็ทำได้เองโดยตรง และโรงแรมนี้ไม่ต้องจ่ายค่าที่พักก่อนเราใส่เลขบัตรเครดิตเพื่อยืนยันการจองเท่านั้นเมื่อไปถึงค่อยจ่ายตอนเช็คอินในกรณีที่เราไม่ไปพักโรงแรมจะตัดบัตรเครดิตตามเงื่อนไขการจองเอง 
• ข้อเสียคือถ้าเราไม่มีบัตรเครดิตก็จะไม่สามารถจองได้ (เคยเห็นในห้องบลูฯ บางท่านบอกว่าใช้บัตรเครดิตของคนอื่นจองได้แต่กรณีนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำได้จริงหรือป่าว) 

ที่ Toyoko-Inn ราคาโรงแรมไม่สูงมาก ราคาต่อคืนอยู่ที่ 14,000 – 16,000 เยนต่อห้อง 4 คนต่อคืน ถ้าสมัครสมาชิกจะได้ส่วนลด 5% สำหรับวันจันทร์ – เสาร์ และลด 20% สำหรับวันอาทิตย์และวันหยุดเสียค่าสมัคร 1500 เยน สมัครปุ๊บก็ใช้ได้เลยแถมบัตรสมาชิกยังใช้เป็นคีย์การ์ดเข้าห้องได้ด้วย มีอาหารเช้าฟรีไม่หรูหราแต่ก็มีให้เลือกพอสมควร ซ้ำบ้างต่างบ้างเป็นบางอย่างนอกจากนี้ยังมีชุดนอนให้ใส่ฟรี มีสบู่ แชมพู ครีมนวดให้ใช้ครบ 

>>แอบชอบแชมพูกับครีมนวดของเค้า ใช้แล้วผมนิ่มดี<<

สาขานี้มีรถรับส่งไปสถานีชินากาว่าฟรีด้วยแต่รถออกเป็นเวลา 

• ช่วงเช้ามีตั้งแต่ 6.00 – 10.30 น.
• ช่วงเย็นเริ่ม 15.00 – 01.00 น.

ถ้าเข้าไปดูในเว็บของโรงแรมจะเจอ 15.00 – 25.00 อ่านครั้งแรกถึงกับงง   รถออกทุกๆ 15 นาที บางทีก็อาจช้าบ้างตามจำนวนคนบนรถ

ที่พักที่สองในฮาโกเน่ตอนแรกเลือกจองโรงแรม AshinokoIchinoyu โรงแรมนี้อยู่ใกล้สถานี Togendai ถ้าจองผ่านเว็บของโรงแรมจะต้องจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเลยค่าโรงแรมค่อนข้างแพง (สำหรับเรานะ) ราคาห้องพักแบบห้องละ 2คน 2 ห้องรวมอาหารเช้าเย็นอยู่ที่ 30,240 เยน ถ้ายกเลิกต้องเสียค่าธรรมเนียม 1000 เยน 

แต่เนื่องด้วยเหตุการณ์ของหุบเขาโอวาคุดานิที่มีการแจ้งเตือนการปะทุของภูเขาไฟในระดับ2 คือไม่ให้เข้าใกล้ในระยะ 300 เมตรซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ (พนักงานบอกว่าห่าง 4กิโล) เราและคนอื่นๆเลยตัดสินใจเปลี่ยนที่พัก ยอมเสียค่าธรรมเนียมดีกว่าอารมณ์แบบไปครั้งแรกเราไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน อันไหนเสี่ยงก็ไม่ควรเลือก 

สุดท้ายเลยมาได้โรงแรม Super Hotel Gotenba 2 โรงแรมนี้ก็เป็นโรงแรมเครือข่ายเหมือนกันมีสาขาค่อนข้างเยอะ สภาพโดยรวมจะดูใหม่กว่าของ Toyoko-Inn มีบริการเกือบทุกอย่างเหมือน Toyoko-Innที่เด่นกว่าคือมีออนเซ็นให้แช่ด้วย โรงแรมอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Gotemba(คำนี้ออกได้2เสียงคือ Gotenba และ Gotemba) ถ้ามาพักที่นี่แนะนำให้ลงรถบัสที่ป้าย Tomei-gotemba จะเดินใกล้กว่าลงที่สถานีรถไฟ  

ตอนจองที่พักนี้ปวดหัวมากเพราะมันกระชั้นชิดเกินทั้งกังวลว่าจะมีห้องพักไม่พอ 4 คน ทั้งกังวลว่ามันจะราคาแพงหาจากเว็บอื่นไม่มีห้องว่างเลยหาจากเว็บของโรงแรมเองที่เป็นหน้าเว็บภาษาอังกฤษก็ไม่มีห้องว่างไม่รู้จิ้มอีท่าไหนเด้งไปเข้าหน้าภาษาญี่ปุ่นซะงั้น แต่ปรากฏว่ามีห้องว่างจ้างงเลยลองเช็คอีกรอบก็เป็นเหมือนกันคือในหน้าเว็บภาษาอังกฤษไม่ว่างแต่ในหน้าเว็บของญี่ปุ่นว่าง 

เลยอยากจะแนะนำให้เข้าหน้าเว็บของญี่ปุ่นค่ะ www.superhotel.co.jp/s_hotels/yaesu/เราใช้การแปลภาษาในกูเกิลให้แปลเว็บเป็นภาษาอังกฤษให้ มันโอเคเลยนะใช้การได้ดีเลยเสียอย่างเดียวคือตอนใส่ชื่อผู้จองต้องพิมพ์ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นตัวพิมพ์ใหญ่อะไรซักอย่างงานนี้ต้องขอบคุณพี่ที่ศูนย์ภาษาญี่ปุ่นมากค่ะที่ช่วยน้องให้ได้โรงแรมดีและราคารับได้ในเวลาอันกระชั้นชิดแบบจะบินในอีก3 วันอยู่แล้ว ที่นี่เราได้ห้องพักแบบ 2 คน 2 ห้อง เป็นแบบห้อง connection room ราคารวม 17,980 เยนต่อ2ห้องต่อคืน

ที่พักที่สามอยู่ใกล้ทะเลสาบยามานากะชื่อโรงแรม Hotorinite โรงแรมนี้หาเจอจากใน Booking.com เห็นคนให้คะแนนกันสูงมากและมีกระทู้นึงของคุณ Chayakorn ในห้องบลูฯ แนะนำที่พักนี้ไว้เหมือนกันต้องขอบคุณข้อมูลจากคุณ Chayakorn มากค่ะ

โรงแรมนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่มีห้องน้ำในห้องพักและห้องอาบน้ำก็เป็นห้องอาบน้ำรวม ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ถ้าอยากได้ต้องเช่าผืนละ 200 เยนจริงๆก็กังวลนะแต่มันก็น่าลอง ไปทั้งทีต้องลองให้ครบ 

ที่ Hotorinite เป็นโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น สืบทอดมา 3 รุ่นแล้วตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณพ่อ และรุ่นปัจจุบัน ทั้งโรงแรมมีสต๊าฟแค่ 3 คนคือคุณนาโอกิซัง ภรรยาคุณนาโอกิ และลูกชายอายุ 9 เดือน (555 นั่นเรียกว่าสต๊าฟหรอคะ) 

คุณนาโอกิดูแลดีมาก พาไปแนะนำจุดต่างๆของโรงแรมมีห้องห้องหนึ่งเรียกว่าห้องบอนไซ ในห้องนั้นใช้สำหรับให้แขกมานั่งพักผ่อนได้ มีบอนไซต้นใหญ่อายุกว่าร้อยปีแล้วสุดยอดจริงๆ ห้องพักที่จองได้ที่นี่เป็นห้องพักแบบ 4 คนปูฟูกนอนเอง ในห้องพักมีโต๊ะและเก้าอี้แบบญี่ปุ่นสามารถกินอาหารและชงชาเข้ามาทานในห้องได้รวมราคาแล้ว 15,960 เยนต่อคืน

สรุปค่าที่พัก 5 คืนเฉลี่ยต่อคนเท่ากับ18515 เยน หรือประมาณ 5200 บาท 

ถึงจะไม่ถูกแต่ก็ไม่แพงจนเกินไปเนอะ 

(รีวิวนี้จัดทำขึ้นตามสิ่งที่เจ้าของบล็อกได้พบมา หากมีข้อมูลใดที่ผิดไปก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)